.
.
กุหลาบพันปี 1883 Ⓒ Wikimedia
.
.
ที่ส่วนของอาคารที่เป็นมุขยื่นออกมา
ของมหาวิหาร
Hildesheim Cathedral
มีพุ่มกุหลาบที่ตำนานกล่าวกันว่ามีอายุหนึ่งพันปี
และตราบใดที่กุหลาบผลิดอกบาน
Hildesheim Cathedral จะไม่มีวันเสื่อมถอย
ทั้งนี้ Hildesheim Cathedral เคยถูกทำลาย
โดยการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตร
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1945
พุ่มกุหลาบถูกไฟไหม้อย่างรุนแรง
แต่รากและลำต้นบางส่วนรอดมาได้
8 สัปดาห์ต่อมา ยอดใหม่ก็ปรากฏขึ้นมา
จากใต้ซากปรักหักพังที่พังทับถมอยู่
และแล้วกอกุหลาบที่แข็งแรงก็งอกขึ้นมาใหม่
มหาวิหารก็มีการบูรณะขึ้นมาใหม่เช่นกัน
Hildesheim Cathedral ในเมือง Hildesheim ประเทศเยอรมนี
เดิมคือ ศูนย์กลางอำนาจเขตการปกครอง
ของบิชอป Diocese of Hildesheim ก่อตั้ง
โดย
King Louis the Pious ในปี 815
.
.
.
Louis the Pious ช่วงครองอำนาจในปี 826
ในฐานะนักรบของพระผู้เป็นเจ้า Christi
มีบทกวีสรรเสริญโดย Rabanus Maurus
Vatican Biblioteca Apostolica
Codex Reg. lat 124, f.4v
.
.
.
Charlemagne สวมมุงกุฏให้ Louis the Pious
.
.
.
King Louis the Pious
.
.
.
ในขั้นต้น สังฆมณฑลมีมหาวิหารขนาดเล็ก
ที่มีหอคอย 2 อันใกล้กับโบสถ์ที่อุทิศให้กับ
Saint Cecilia
และทำหน้าที่เป็นวิหารแบบดั้งเดิม
จนกระทั่งโครงสร้างปัจจุบันสร้างขึ้นในปี 872
.
.
.
Saint Cecilia กำลังบรรเลงออร์แกนลม/ท่อ
.
.
.
Stefano Maderno, St. Cecilia, 1599
.
.
.
Saint Cecilia Wymondley
.
.
.
ตามตำนานเล่าว่า
King Louis the Pious ผู้เคร่งศาสนา
กำลังออกล่าสัตว์อยู่ในป่า
Hercynian Forest
แล้วเกิดพลัดหลงแยกทางออกจากข้าราชบริวาร
ทำให้การล่าสัตว์ต้องจบลง/ม้าทรงก็หนีหายไป
พระองค์พยายามขอความช่วยเหลือ
จากบรรดาข้าราชบริวาร แต่ไม่มีใครได้ยิน
จึงสับสบและต้องอยู่คนเดียวโด่เด่ตามลำพัง
ทั้งยังต้องว่ายน้ำข้ามลำธาร/เดินทั้งวันในวันนั้น
จนกระทั่งเดินทางมาถึงเนินดินแห่งหนึ่ง
ที่ปกคลุมไปด้วยดอกกุหลาบป่า
สัญลักษณ์ของเทพธิดา Hulda ของชาว Saxon
กษัตริย์จึงดึงตลับที่ใส่
Reliquary
(เศษผ้าห่อศพ/เศษไม้กางเขนที่ตรึงพระเยซู)
ของที่ระลึกถึงพระผู้เป็นเจ้าออกจากหน้าอก
แล้วสวดอ้อนวอนต่อหน้าตลับอันนั้น
เพื่อขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า/เทพธิดา
หลังจากนั้นไม่นาน พระราชาก็นอนสลบไป
.
.
.
Hercynian Forest
.
.
เทพธิดา Holda ผู้พิทักษ์ (1882)
โดย Friedrich Wilhelm Heine
.
.
Ⓒ bph/Wikimedia
.
.
เมื่อพระราชาตื่นขึ้นมา
ก็พบว่าเนินดินปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว
ระยิบระยับแม้ว่าจะเป็นช่วงกลางฤดูร้อนก็ตาม
กุหลาบบนเนินศักดิ์สิทธิ์กำลังเบ่งบานเต็มที่
พร้อมด้วยสีสรรค์สดใสกว่าที่เคย
พระราชามองหาตลับใส่ Reliquary ที่บูชา
ก็พบว่ามันกลายเป็นหิน/ผสานอย่างรวดเร็ว
อยู่ในท่ามกลางหนามแหลมของพุ่มกุหลาบ
การตีความของพระราชา
คือ ปาฏิหาริย์ของเทพธิดา Holda
นั่นคือ เทพธิดากำลังส่งสัญญาณให้พระราชา
ด้วยการสั่นคลอนที่ประทับของเทพธิดา
นัยว่า Saint Cecilia ควรได้รับการเคารพ
สักการะในอนาคตต่อไปนี้แทนเทพธิดา Hulda
(เทพธิดาปรากฏร่างชุดสีขาวเหมือนหิมะ
เธอคือ เทพผู้พิทักษ์งานฝีมือของสตรี
และคุ้มครองป่าไม้และฤดูหนาว
ในยามที่หิมะตกลงสู่บนพื้นโลก เป็นเพราะ
เทพธิดา Hulda กำลังเขย่าหมอนขนนกของเธอ)
.
.
.
Frau Holle วาดโดย Hermann Vogel
.
.
.
Mother Holle โดย Otto Kubel
.
.
.
วาดโดย Walter Crane, 1882
.
.
.
เมื่อข้าราชบริวารได้พบกับพระราชาแล้ว
พระองค์ได้สร้างวิหารตามคำสาบาน
เพื่อเป็นเกียรติแก่ Saint Cecilia
ที่ตั้งของกอกุหลาบ จนถึงทุกวันนี้
บริเวณส่วนอาคารที่เป็นมุขยื่นออกมา
พุ่มกุหลาบยังคงเบ่งบานจนถึงทุกวันนี้
บางตำนานก็เล่าว่า
พระราชาสูญเสีย Reliquary อันเป็นที่รัก
ในขณะที่ออกไปล่าสัตว์ในป่า
พระองค์สัญญาว่าถ้าเจอ Reliquary ที่หายไป
จะสร้างโบสถ์ ณ จุดที่ค้นพบ Reliquary ทันที
Reliquary ถูกพบว่าอยู่บนก้านดอกกุหลาบป่า
พระราชาจึงสร้างโบสถ์ข้างกอกุหลาบนั้น
โดยมีแท่นบูชาใกล้กับบริเวณกอกุหลาบ
ดอกกุหลาบชนิดนี้ เป็นดอกกุหลาบป่า
หลากหลายชนิด (
Rosa canina)
ปัจจุบันมีความสูงประมาณ 10 เมตร
มีเอกสารยืนยันว่า มีอายุอย่างน้อย 700 ปี
ทำให้เป็นดอกกุหลาบที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
.
.
.
Rosa canina
.
.
.
Phramidium mucrinatum บน Rosa canina
เชิ้อราสนิมบนดอกกุหลาบ
.
.
.
Rose bedeguar gall on a dog rose.
ช่อดอกคล้ายตัวต่อในกุหลาบชนิดนี้
ความเชื่อยุคโรมันรากกุหลาบพันธุ์นี้
เป็นยารักษาโรคพิษสุนัขบ้าได้
.
.
.
ภาพชีววิทยาแสดงขั้นตอนการเจริญเติบโต
วาดโดย Otto Wilhelm Thomé
.
.
.
Photo: Stefan Schäfer/Wikimedia
.
.
.
เรียบเรียง/ที่มา
https://bit.ly/3QEuDJg
https://bit.ly/3AnGXIB
.
.
.
.
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ Hildesheim Cathedral
.
.
.
ผังแผนที่
.
.
.
มุมมองจากหอคอย St. Andreas
.
.
.
Interior/ภายใน
.
.
.
พบฐานรากการสร้างโบสถ์ครั้งของปี 815
.
.
.
ทางข้ามและโบสถ์ทางด้านเหนือ
.
.
.
ที่พักบาทหลวง เริ่มสร้าง 1060 - 1070
.
.
.
ด้านหน้าตะวันตก ก่อน 1840
.
.
.
Neo-Romanesque ด้านหน้าตะวันตก 1890
.
.
.
โบสถ์ chapel
.
.
.
Hezilo โคมระย้าทางเดิน 2009
.
.
.
ด้านหน้า
.
.
.
ที่ตั้งแม่พระ Madonna
.
.
.
พุ่มกุหลาบในตำนานย้อนหลังไปปี 815
.
.
.
การขุดค้นโบราณคดีทางด้านหน้า
.
.
.
สุสานราวปี 800
.
.
.
รายละเอียดประตู Bernward Doors
.
.
.
Romanesque Hezilo โคมระย้า
.
.
.
รายละเอียดพิธีศีลล้างบาปของพระเยซูในจอร์แดน
.
.
.
โคมระย้า
.
.
.
เสาประตู
.
.
.
ด้านหน้าที่ทำพิธีศีลล้างบาปทำจากสำริด
.
.
.
แท่นบูชา St.Epiphanius
.
.
.
รูปปั้นบิชอป Godehard
.
.
.
บานประตูปิดเปิด
.
.
.
ออร์แกนหลักของโบสถ์
.
.
.
ระฆัง Nikolaus 1766
.
.
.
Hilfrdheim Cathedral ซ้าย
โบสถ์ St.Andrew ขวา
มองจาก Steinberg
กุหลาบเก่าแก่ที่สุดในโลกที่มหาวิหาร Hildesheim
.
กุหลาบพันปี 1883 Ⓒ Wikimedia
.
ที่ส่วนของอาคารที่เป็นมุขยื่นออกมา
ของมหาวิหาร Hildesheim Cathedral
มีพุ่มกุหลาบที่ตำนานกล่าวกันว่ามีอายุหนึ่งพันปี
และตราบใดที่กุหลาบผลิดอกบาน
Hildesheim Cathedral จะไม่มีวันเสื่อมถอย
ทั้งนี้ Hildesheim Cathedral เคยถูกทำลาย
โดยการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตร
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1945
พุ่มกุหลาบถูกไฟไหม้อย่างรุนแรง
แต่รากและลำต้นบางส่วนรอดมาได้
8 สัปดาห์ต่อมา ยอดใหม่ก็ปรากฏขึ้นมา
จากใต้ซากปรักหักพังที่พังทับถมอยู่
และแล้วกอกุหลาบที่แข็งแรงก็งอกขึ้นมาใหม่
มหาวิหารก็มีการบูรณะขึ้นมาใหม่เช่นกัน
Hildesheim Cathedral ในเมือง Hildesheim ประเทศเยอรมนี
เดิมคือ ศูนย์กลางอำนาจเขตการปกครอง
ของบิชอป Diocese of Hildesheim ก่อตั้ง
โดย King Louis the Pious ในปี 815
.
.
Louis the Pious ช่วงครองอำนาจในปี 826
ในฐานะนักรบของพระผู้เป็นเจ้า Christi
มีบทกวีสรรเสริญโดย Rabanus Maurus
Vatican Biblioteca Apostolica
Codex Reg. lat 124, f.4v
.
.
.
Charlemagne สวมมุงกุฏให้ Louis the Pious
.
.
.
King Louis the Pious
.
.
ในขั้นต้น สังฆมณฑลมีมหาวิหารขนาดเล็ก
ที่มีหอคอย 2 อันใกล้กับโบสถ์ที่อุทิศให้กับ Saint Cecilia
และทำหน้าที่เป็นวิหารแบบดั้งเดิม
จนกระทั่งโครงสร้างปัจจุบันสร้างขึ้นในปี 872
.
.
Saint Cecilia กำลังบรรเลงออร์แกนลม/ท่อ
.
.
.
Stefano Maderno, St. Cecilia, 1599
.
.
.
Saint Cecilia Wymondley
.
.
ตามตำนานเล่าว่า
King Louis the Pious ผู้เคร่งศาสนา
กำลังออกล่าสัตว์อยู่ในป่า Hercynian Forest
แล้วเกิดพลัดหลงแยกทางออกจากข้าราชบริวาร
ทำให้การล่าสัตว์ต้องจบลง/ม้าทรงก็หนีหายไป
พระองค์พยายามขอความช่วยเหลือ
จากบรรดาข้าราชบริวาร แต่ไม่มีใครได้ยิน
จึงสับสบและต้องอยู่คนเดียวโด่เด่ตามลำพัง
ทั้งยังต้องว่ายน้ำข้ามลำธาร/เดินทั้งวันในวันนั้น
จนกระทั่งเดินทางมาถึงเนินดินแห่งหนึ่ง
ที่ปกคลุมไปด้วยดอกกุหลาบป่า
สัญลักษณ์ของเทพธิดา Hulda ของชาว Saxon
กษัตริย์จึงดึงตลับที่ใส่ Reliquary
(เศษผ้าห่อศพ/เศษไม้กางเขนที่ตรึงพระเยซู)
ของที่ระลึกถึงพระผู้เป็นเจ้าออกจากหน้าอก
แล้วสวดอ้อนวอนต่อหน้าตลับอันนั้น
เพื่อขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า/เทพธิดา
หลังจากนั้นไม่นาน พระราชาก็นอนสลบไป
.
.
Hercynian Forest
.
.
เทพธิดา Holda ผู้พิทักษ์ (1882)
โดย Friedrich Wilhelm Heine
.
.
Ⓒ bph/Wikimedia
.
เมื่อพระราชาตื่นขึ้นมา
ก็พบว่าเนินดินปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว
ระยิบระยับแม้ว่าจะเป็นช่วงกลางฤดูร้อนก็ตาม
กุหลาบบนเนินศักดิ์สิทธิ์กำลังเบ่งบานเต็มที่
พร้อมด้วยสีสรรค์สดใสกว่าที่เคย
พระราชามองหาตลับใส่ Reliquary ที่บูชา
ก็พบว่ามันกลายเป็นหิน/ผสานอย่างรวดเร็ว
อยู่ในท่ามกลางหนามแหลมของพุ่มกุหลาบ
การตีความของพระราชา
คือ ปาฏิหาริย์ของเทพธิดา Holda
นั่นคือ เทพธิดากำลังส่งสัญญาณให้พระราชา
ด้วยการสั่นคลอนที่ประทับของเทพธิดา
นัยว่า Saint Cecilia ควรได้รับการเคารพ
สักการะในอนาคตต่อไปนี้แทนเทพธิดา Hulda
(เทพธิดาปรากฏร่างชุดสีขาวเหมือนหิมะ
เธอคือ เทพผู้พิทักษ์งานฝีมือของสตรี
และคุ้มครองป่าไม้และฤดูหนาว
ในยามที่หิมะตกลงสู่บนพื้นโลก เป็นเพราะ
เทพธิดา Hulda กำลังเขย่าหมอนขนนกของเธอ)
.
.
Frau Holle วาดโดย Hermann Vogel
.
.
.
Mother Holle โดย Otto Kubel
.
.
.
วาดโดย Walter Crane, 1882
.
.
เมื่อข้าราชบริวารได้พบกับพระราชาแล้ว
พระองค์ได้สร้างวิหารตามคำสาบาน
เพื่อเป็นเกียรติแก่ Saint Cecilia
ที่ตั้งของกอกุหลาบ จนถึงทุกวันนี้
บริเวณส่วนอาคารที่เป็นมุขยื่นออกมา
พุ่มกุหลาบยังคงเบ่งบานจนถึงทุกวันนี้
บางตำนานก็เล่าว่า
พระราชาสูญเสีย Reliquary อันเป็นที่รัก
ในขณะที่ออกไปล่าสัตว์ในป่า
พระองค์สัญญาว่าถ้าเจอ Reliquary ที่หายไป
จะสร้างโบสถ์ ณ จุดที่ค้นพบ Reliquary ทันที
Reliquary ถูกพบว่าอยู่บนก้านดอกกุหลาบป่า
พระราชาจึงสร้างโบสถ์ข้างกอกุหลาบนั้น
โดยมีแท่นบูชาใกล้กับบริเวณกอกุหลาบ
ดอกกุหลาบชนิดนี้ เป็นดอกกุหลาบป่า
หลากหลายชนิด (Rosa canina)
ปัจจุบันมีความสูงประมาณ 10 เมตร
มีเอกสารยืนยันว่า มีอายุอย่างน้อย 700 ปี
ทำให้เป็นดอกกุหลาบที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
.
.
Rosa canina
.
.
.
Phramidium mucrinatum บน Rosa canina
เชิ้อราสนิมบนดอกกุหลาบ
.
.
.
Rose bedeguar gall on a dog rose.
ช่อดอกคล้ายตัวต่อในกุหลาบชนิดนี้
ความเชื่อยุคโรมันรากกุหลาบพันธุ์นี้
เป็นยารักษาโรคพิษสุนัขบ้าได้
.
.
.
ภาพชีววิทยาแสดงขั้นตอนการเจริญเติบโต
วาดโดย Otto Wilhelm Thomé
.
.
.
Photo: Stefan Schäfer/Wikimedia
.
.
เรียบเรียง/ที่มา
https://bit.ly/3QEuDJg
https://bit.ly/3AnGXIB
.
.
.
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ Hildesheim Cathedral
.
.
.
ผังแผนที่
.
.
.
มุมมองจากหอคอย St. Andreas
.
.
.
Interior/ภายใน
.
.
.
พบฐานรากการสร้างโบสถ์ครั้งของปี 815
.
.
.
ทางข้ามและโบสถ์ทางด้านเหนือ
.
.
.
ที่พักบาทหลวง เริ่มสร้าง 1060 - 1070
.
.
.
ด้านหน้าตะวันตก ก่อน 1840
.
.
.
Neo-Romanesque ด้านหน้าตะวันตก 1890
.
.
.
โบสถ์ chapel
.
.
.
Hezilo โคมระย้าทางเดิน 2009
.
.
.
ด้านหน้า
.
.
.
ที่ตั้งแม่พระ Madonna
.
.
.
พุ่มกุหลาบในตำนานย้อนหลังไปปี 815
.
.
.
การขุดค้นโบราณคดีทางด้านหน้า
.
.
.
สุสานราวปี 800
.
.
.
รายละเอียดประตู Bernward Doors
.
.
.
Romanesque Hezilo โคมระย้า
.
.
.
รายละเอียดพิธีศีลล้างบาปของพระเยซูในจอร์แดน
.
.
.
โคมระย้า
.
.
.
เสาประตู
.
.
.
ด้านหน้าที่ทำพิธีศีลล้างบาปทำจากสำริด
.
.
.
แท่นบูชา St.Epiphanius
.
.
.
รูปปั้นบิชอป Godehard
.
.
.
บานประตูปิดเปิด
.
.
.
ออร์แกนหลักของโบสถ์
.
.
.
ระฆัง Nikolaus 1766
.
.
.
Hilfrdheim Cathedral ซ้าย
โบสถ์ St.Andrew ขวา
มองจาก Steinberg