เริ่มจากอาการไม่ไหวแล้ว อยากเดินทาง วันหยุดยาวเปิดโอกาสขนาดนี้ หันซ้ายหันขวา ไม่มีใครว่าง เลยนึกถึงเพื่อนร่วมทางที่แข็งแกร่งที่สุด หลวงพระบาง ไทเป ก็ไปผจญภัยด้วยกันมาแล้ว เลยแอบไปถามว่าว่างไหม ไปป่าว เพื่อนโอเค บอกว่าใช้โปร #ไปเที่ยวด้วยกัน ได้ จัดมาจ้า เราพร้อมโอน ก่อนอื่นหาที่ไปก่อนมีเวลาคิดก่อนไป 1 อาทิตย์ ทริปฉุกเฉินแบบนี้ ต้องรีบ เลยเสนอไปสังขละบุรีก่อน นอน 2 คืน รีบจองเลย ที่พักเหลือน้อยมาก จองแล้วจ่าย ไป 2 คืน นอน 2 ที่ เพราะที่เดิมเต็มแล้วจ้า วันที่เหลือเลยลงมานอนที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว 1 คืน แล้วก็เลยเถิดมาเที่ยวกรุงเทพฯ อีก 1 คืน
Day 1: ศรีราชา-สังขละบุรี
เริ่มเดินทางจากศรีราชาตั้งแต่เช้ามืด มาลงสายใต้ใหม่ ขึ้นรถตู้ไปกาญจนบุรี ถึงขนส่งกาญจนบุรี เดินไปตรงตึกแถวข้างๆ มีรถตู้ไปสังขละบุรี มีแวะพักรถที่ทองผาภูมิ ถึงสังขละบุรีประมาณบ่าย 3 ใช้เวลาเดินทางจากศรีราชา-สังขละบุรีทั้งหมด 9 ชั่วโมง
เรานั่งรอเจ้าหน้าที่ที่พักมารับ มีรถพ่วงข้างมารับเข้าที่พัก คืนแรกนอน
ชาโตเดอสังขละบุรี ถึงที่พักอาบน้ำสระผมก่อนเลย พี่โควิดยังอยู่อยากเที่ยวแบบสนุกโดยไม่มีของฝากติดไป
ประมาณ 16.30 เราเดินไปสะพานมอญ ว่าจะไปดูทริปนั่งเรือ สรุป ได้ไปเลย เพราะมีพี่อีก 2 คน คอยคนร่วมแชร์ทริป นั่งเรือไปดูวัดเก่า 3 วัด (2 คน 250 บาท)
วัดแรก วัดวังก์วิเวการาม (เก่า) วัดนี้เป็นวัดของชาวมอญ ในปี พ.ศ. 2496 หลวงพ่ออุตตมะ ร่วมกับ ชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ ร่วมกันสร้างขึ้นตามศิลปะพม่า ปัจจุบันอยู่ในเขื่อนเขาแหลม ถ้ามีน้ำมาก (ช่วงตุลาคม – มกราคม) วัดก็จะจมอยู่ใต้น้ำ เราไปช่วงปลาย ก.ค. เข้าชมตรงตัวโบสถ์ได้ ที่นั่นมีลอตตาลี่ 555 ดอกไม้ธูปเทียนจำหน่าย และไกด์ตัวน้อยคอยบรรยาย เสร็จแล้วเราก็สนับสนุนทุนการศึกษาต่อไป
ไปต่อวัดที่สอง
วัดสมเด็จเก่า เป็นวัดที่ไม่ถูกน้ำท่วม แต่มีความลำบากในการเดินทางวัดจึงย้ายไปสร้างที่บ้านไหล่น้ำ ตำบลหนองลู วักนี้เลยกลายเป็นวัดร้าง เราเดินขึ้นเนินไปวัดสมเด็จ มีเด็กวัยรุ่นมาเป็นไกด์คอยเดินอธิบาย น้องบอกให้เราทำอะไรเราก็ทำตาม 555 เช่น ก่อนเดินเข้าโบสถ์ ให้แตะอธิฐานก่อน ขอพร ตอนที่เดินขึ้นไปเราจะเจอด้านหลังโบสถ์ก่อน ก็ต้องเดินอ้อมไปทางหน้าโบสถ์และให้เข้าด้านหน้าโบสถ์ เข้าไปไหว้พระ เมื่อไหว้พระเสร็จให้ออกด้านหลัง โดยห้ามเหยียบธรณีประตู แล้วคำอธิฐานจะสมหวัง แต่ตอนนี้เราจำไม่ได้แล้วว่าขออะไรไป
นั่งเรือไปต่อ
วัดศรีสุวรรณเก่า วัดนี้เป็นวัดของชาวกระเหรี่ยง เป็ดวัดที่จมอยู่ใต้น้ำมากที่สุด เราเห็นแค่บางส่วนที่โผล่พ้น
เราล่องเรือในตอนเย็นบรรยากาศดีมาก เราแนะนำ ถ้าเดินทางมาถึงไม่เหนื่อยเกินไปเราว่ามาล่องเรือช่วงนี้ดีสุด
นั่งเรือกลับ ตอนเย็นบรรยากาศดีมาก
ขึ้นบกมาจองชุดใส่บาตรแถมชุดมอญสีแดงสดใส พี่เขาให้เอากลับไปเลย ตอนเช้าตื่นมาก็ให้ใส่มาเลย
เสร็จภารกิจตรงสะพานมอญ นั่งมอไซค์พ่วงไปตลาด ตอนแรกจะไปหาร้านในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน พอลองโทรไปถามก็ไม่รับกันแล้ว เราเลยไปกินหมูจุ่ม กับยำพม่าแทน แล้วก็ซื้อของกินเซเว่น ขากลับเดินกลับ อาหารจะได้ย่อย วันนี้เหนื่อยเดินทาง หัวถึงหมอนนอนหลับปุ๋ย ก่อนนอนตั้งนาฬิกาปลุกเตรียมตัวเป็นสาวมอญพรุ่งนี้เช้า
[CR] จากสังขละบุรีถึงเยาวราช
Day 1: ศรีราชา-สังขละบุรี
เริ่มเดินทางจากศรีราชาตั้งแต่เช้ามืด มาลงสายใต้ใหม่ ขึ้นรถตู้ไปกาญจนบุรี ถึงขนส่งกาญจนบุรี เดินไปตรงตึกแถวข้างๆ มีรถตู้ไปสังขละบุรี มีแวะพักรถที่ทองผาภูมิ ถึงสังขละบุรีประมาณบ่าย 3 ใช้เวลาเดินทางจากศรีราชา-สังขละบุรีทั้งหมด 9 ชั่วโมง
เรานั่งรอเจ้าหน้าที่ที่พักมารับ มีรถพ่วงข้างมารับเข้าที่พัก คืนแรกนอน ชาโตเดอสังขละบุรี ถึงที่พักอาบน้ำสระผมก่อนเลย พี่โควิดยังอยู่อยากเที่ยวแบบสนุกโดยไม่มีของฝากติดไป
ประมาณ 16.30 เราเดินไปสะพานมอญ ว่าจะไปดูทริปนั่งเรือ สรุป ได้ไปเลย เพราะมีพี่อีก 2 คน คอยคนร่วมแชร์ทริป นั่งเรือไปดูวัดเก่า 3 วัด (2 คน 250 บาท)
วัดแรก วัดวังก์วิเวการาม (เก่า) วัดนี้เป็นวัดของชาวมอญ ในปี พ.ศ. 2496 หลวงพ่ออุตตมะ ร่วมกับ ชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ ร่วมกันสร้างขึ้นตามศิลปะพม่า ปัจจุบันอยู่ในเขื่อนเขาแหลม ถ้ามีน้ำมาก (ช่วงตุลาคม – มกราคม) วัดก็จะจมอยู่ใต้น้ำ เราไปช่วงปลาย ก.ค. เข้าชมตรงตัวโบสถ์ได้ ที่นั่นมีลอตตาลี่ 555 ดอกไม้ธูปเทียนจำหน่าย และไกด์ตัวน้อยคอยบรรยาย เสร็จแล้วเราก็สนับสนุนทุนการศึกษาต่อไป
นั่งเรือไปต่อวัดศรีสุวรรณเก่า วัดนี้เป็นวัดของชาวกระเหรี่ยง เป็ดวัดที่จมอยู่ใต้น้ำมากที่สุด เราเห็นแค่บางส่วนที่โผล่พ้น
เราล่องเรือในตอนเย็นบรรยากาศดีมาก เราแนะนำ ถ้าเดินทางมาถึงไม่เหนื่อยเกินไปเราว่ามาล่องเรือช่วงนี้ดีสุด
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้