สวัสดีครับทุกท่าน ผมพฤตเอง เมื่อวันที่ 1 ที่ผ่านมาผมหาเรื่องไปเที่ยวศรีราชาและเกาะสีชังมาครับ จะเป็นยังไง ตามมาชมกันเลยครับ
ลมหนาวพัดมาแล้ว มันปลุกจิตวิญญาณของการเดินของใครหลาย ๆ คนให้ลุกโชนอีกครั้ง ผมก็เช่นกัน มันถึงเวลาแล้วที่ผมจะเก็บกระเป๋า แพ็กกล้อง และเตรียมรถสำหรับทริปใหญ่ของปีนี้ ปีนี้พิเศษหน่อย มี 2 ที่ ๆ ผมอยากไป ผมก็เลยแบ่งมันเป็น 2 พาร์ท เริ่มจากทริปนี้
Mustang เจ้ามาศึกคู่มือของผู้ผ่าวร้อนผ่านหนาวมาด้วยกัน ตอนนี้เขา 9 ขวบแล้ว ถือได้ว่าเป็นรถเก่าเต็มตัวแล้ว ซึ่งผมก็พยายามถนอมเขาอย่างเต็มที่ อีกไม่นานก็จะได้เวลาโอเวอร์ฮอลเครื่อง และเชื่อได้ว่าค่าใช้จ่ายต่าง ๆ นา ๆ ก็คงจะประเดประดังกันมา แต่ว่า ตราบใดที่เขายังซื่อสัตย์กับผม ยังคงสตาร์ททีเดียวติด (อาจจะยกเว้นเวลาตากแดด เพราะรถเขาก็ขี้ร้อนเหมือนเจ้าของนั่นแหละครับ 555 ) และสามารถพาผมไปได้ในทุก ๆ ที่ ผมก็จะยังไม่ทิ้งเขา
จากนั้นก็นับวันเวลาเตรียมออกลุย ช่วงนั้นงานค่อนข้างเยอะ ผมก็ใช้ทริปที่จะมาถึงนี้เป็นเครื่องปลอบประโลมใจให้ลุกขึ้นสู้ต่อไป ลุยงานให้เละกันไปข้างหนึ่ง จะหนักแค่ไหนก็เข้ามา เรายังมีทริปของเรารออยู่ อีกเดี๋ยวก็จะได้ไปเที่ยวแล้ว นั่นแหละคือที่มาของพลังใจของผมล่ะ และแล้ว วันเวลาที่รอคอยก็มาถึง เด้งจากเตียงตอนตี 2 ครึ่ง บิดรถไปตามเส้นทางที่เราคุ้นเคย เข้าสาทร ผ่านตลาดคลองเตย มาทะลุพระโขนง แล้วไปออกแยกบางนา จากนั้นก็บิดยาาาวววววววว บิดมากไม่ได้ เพราะเมื่อเข้าเขตฉะเชิงเทรา สภาพถนนก็เริ่มแย่ คือแบบรู้เลยว่าช่วงไหนยังเป็นก.ท.ม. ช่วงไหนฉะเชิงเทรา และช่วงไหนเข้าเขตชลบุรีแล้ว เพราะช่วงนั้นถนนเป็นหลุมเป็นบ่อเยอะมาก แต่ก็เข้าใจได้เพราะว่ารถบรรทุกเยอะ เผลอ ๆ งานที่ผมเติมอยู่ทุกวันนี้ก็ขนมาจากทางนัแหละครับ 555 แต่ก็ไม่ได้ติดขัดอะไร มันแค่ไปได้ไม่เร็วมากเฉย ๆ ฉนั้นไปเรื่อย ๆ ดีกว่า อีกอย่าง รถเราเก่าแล้ว ซัดหนักเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้
แล้วเราก็มาถึงสะพานเกาะลอยศรีราชา มาถึงตอนนั้นยังมืดอยู่ อีกราว ๆ 1 ชั่วโมงถึงจะเริ่มสว่าง งั้นเรามาลองถ่ายบรรยากาศตอนกลางคืนกันหน้อยดีกว่า
พยากรณ์อากาศบอกว่าช่วง 6 โมงจะมีฝนตก ตอนนี้ตี 5:45 ฝั่งนู้นมืดมาเลย
งัดกล้องฟิล์มขึ้นมาต่อสายลั่นชัตเตอร์ วัดแสงได้สปีดชัตเตอร์ 15 วินาที ด้วย f 2.8 และฟิล์ม 200 วางกล้องบนราวสะพาน โฟกัส คอมโพส แล้วค่อย ๆ กดปุ่มบนสายนิ่ง ๆ นับในใจ 15 วินาที นั่นคือที่มาของรูปนี้ ทริปนี้ผมเอากล้องมา 3 ตัวเหมือนเดิม 1300D เป็นกล้องหลักที่ผมจะพยายามงัดออกมาใช้บ่อยขึ้น L3 พร้อมฟิล์ม Colorplus 200 เป็นกล้องอาร์ท และ IXUS 135 อยู่ในกระเป๋าเสื้อเป็นกล้องสแน็ป
แสงเริ่มมาแล้ว ฝั่งบางแสนตรงนู้นมืดตึ้บเลย ฝนคงตกหนัก
บนสะพานมีคนมาวิ่งออกกำลังกายกันเยอะเลย แต่ยังไม่เห็นคนตกปลา สงสัยยังเช้าไปหน่อย แต่เช้า ๆ แบบนี้น่าลุ้นอยู่ เผื่อมีปลาสากหรือไม่ก็กระมงเล็กมาหากินใกล้ฝั่ง
แดดเริ่มมาแล้ว เดี๋ยวเราเอาสัมภาระไปฝากก่อนดีกว่า
นี่คือที่พักของเราในคืนนี้ ฝากถุงเสื้อผ้ากับขาตั้งกล้องและเซ็นเอกสารเข้าพัก เสร็จล้วเราก็ไปกันต่อ
ออกจากที่พัก เราก็มาที่สะพานปลาศรีราชากันก่อนเลย
ฝั่งแหลมฉบัง
ระหว่างเดินถ่ายรูป ผมก็ไปด้อม ๆ มอง ๆ แผงขายปลาบนสะพาน ส่วนใหญ่เป็นปลาเล็ก อย่างปลาดุกทะเลก็เป็นไซส์เล็ก ซึ่งพวกนั้นผมไม่ได้ถ่ายมา มาถ่ายมุมนี้แทนเพราะมุมนี้แสงสวยกว่า อิ_อิ
บรรยากาศบนสะพาน ผมเล็งเผื่อเยอะไปหน่อย รูปก็เลยค่อนข้างลอย L3 เขาไม่มีตัวชดเชยพาลาแร็กส์ครับ ผมก็เลยต้องเล็งเผื่อ ๆ ไว้หน่อย แต่หลังจากนี้ก็คงไม่จะเผื่อเยอะจนาดนี้ละ
มุมชายฝั่ง
แนวเรือตังเกมุมหน้าทางเข้าสะพาน
อีกสักช็อตแบบเข้ม ๆ
ฟิล์มหมดพอดีเลยด้วย ช็อตหัวม้วนที่ร้านกาแฟของเช้าวันนี้ ร้านกาแฟในสวนสาธารณะศรีราชา
กาแฟแก้ง่วงสักแก้ว และขนมหวานรองท้องสักชิ้น
พอกาแฟหมดแก้ว เราก็มาต่อกันที่เกาะลอย เตรียมตัวข้ามไปเกาะสีชัง
มาเกาะลอยก็ต้องขึ้นมาชมวิวบนวัดเกาะลอย
เรือออกทุก ๆ 1 ชั่วโมง เดี๋ยวอีกสักพักเราลงไปกันดีกว่า
ไหน ๆ ก็ขึ้นมาแล้ว เช็กอินสักเล็กน้อย วันนี้วัดมีงานกฐิน ผมก็ทำบุญไปนิด ๆ หน่อย ๆ
หันไปดูฝั่งที่พัก เห็นโดดเด่นมาแต่ไกล
ตอนเดินลงมา ผมก็เห็นพี่คนนี้จิ้กติดปลาแพ็กคู่ขึ้นมา ตัวบนคือลูกกระมงตัวจ้อย อีกตัวคือโฉมงามไซส์สองฝ่ามือต่อกัน เห็นแบบนี้แล้วคันครับ คันเลยแหละ ผมไม่ได้ตกปลาทะเลมานานมาาากกกก ตกแต่ปลาบ่อเพราะเวลาไปตกปลาไกล ๆ ไม่ค่อยมี สงสัยต้องมาตรงนี้บ้างแล้วแหละ เดี๋ยวต้องเอามาให้หมดเลยทั้งเหยื่อปลอมทั้งเหยื่อสด
รอเวลาเรือออก ผมก็เดินถ่ายรูปเล่นไปเรื่อย
แพเลี้ยงหอย ไม่หอยแมลงภู่ก็คงจะหอยนางรม
เ รื อ ข้ า ม ฟ า ก
ลองเอาเลนส์ 50 f1.8 มาใส่ดูบ้าง ไม่ค่อยได้ใช้คอมโบชุดนี้สักเท่าไหร่ แล้วลองใช้วิธีเดียวกับที่ผมใช้กับ EOS 650 film ก็คือใช้โหมด AV คุมค่า f แล้วใช้ชดเชยแสงควมคุมความมืดความสว่างของภาพ คมกริ้บเลย
มันช่าง MAJESTIC
มานั่งรอบนเรือดีกว่า เหลืออีกราว ๆ 20 นาที
คนโล่ง ๆ ผมละชอบจริง ๆ
ลองประยุกต์วิธีที่ใช้กับ 50 f1.8 มาใช้กับเลนส์ตัวอื่นบ้าง และแล้วผมก็ถึงบางอ้อ ได้วิธีที่จะใช้เลนส์ซูม 75-300 ให้คมได้แล้ว เย่ ~
เรือออกแล้ว
เปลี่ยนมาใส่เลนส์คิทคู่กล้องดีกว่า แล้วลองใช้วิธีนี้ดู เริศเลย
แนวเรือบรรทุกน้ำมันและก๊าศ
แท่นซ่อมเรือเล็ก
แหลมฉบังเช้านี้
คอนเทนเนอร์เต็มเรือเลย
เข้าใกล้เกาะแล้ว
แนวเรือบรรทุกแม่น้ำ
แวะเกาะขามใหญ่ก่อน
และเราก็มาถึงแล้ว
วันนี้เกาะสีชังใช้ท่าเรือกลางเป็นท่าหลัก ส่วนที่ผมมากับแม่เมื่อต้นปีนั้นเป็นท่าเหนือ
อีกด้านหนึ่งจากท่าเรือ
มุมจอดเรือหาปลา
อีกสักรูป
ออกมาจากท่าเรือ จัดการเช้ารถแล้วไปกันต่อ
ที่แรกบนเกาะ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่
บรรยากาศบนศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ หนึ่งในจุดชมวิวที่ดีที่สุดของที่นี่
อีกสักรูป
มาดูรูปฟิล์มกันบ้าง
สวยงาม
เช็กอินสักรูป
บรรยากาศบนเกาะ
ไหน ๆ ก็ขึ้นมาศาลเจ้า ผมก็หันไปยกมือไหว้ แล้วก็หยอดตู้บริจากซะหน่อย
จะเที่ยงแล้ว หิว แวะจัดมื้อเที่ยงที่ร้านป้าหน่อย อร่อยเหมือนเดิม
ผมมาคนเดียว ก็เลยสั่งแต่ของที่อยากกินจริง ๆ และนี่คือหนึ่งในนั้น ปลาอินทรีชิ้นเบ้ง ๆ หั่นแว่นอันขนาดนี้ แล้วตัวเต็ม ๆ ของมันจะขนาดไหน ผมว่ามี 5-6 โล
อยากลองชิมหอยกระโจงโดง แต่วันนี้หมด เลยเปลี่ยนมาเป็นอันนี้แทน หอยนมสาวลวกจิ้ม ผมขอแบบสุก ๆ หน่อยเพราะท้องไม่ค่อยดี อร่อย กรอบ เหนียวนุ่ม
อิ่มจากร้านป้าหน่อย ระหว่างที่กำลังบิดไปที่ต่อไป ผมก็เหลือบไปเห็นป้ายของสถานที่นี้ แวะสิครับ
เข้าไปปุ้บ สิ่งแรกที่เจอคือ น้องเต่า
[CR] บิดไปเรื่อย เหนื่อยก็พัก : ทริปใหญ่สุดหรรษาปลายปี PART 1 : ศรีราชา-เกาะสีชัง
ลมหนาวพัดมาแล้ว มันปลุกจิตวิญญาณของการเดินของใครหลาย ๆ คนให้ลุกโชนอีกครั้ง ผมก็เช่นกัน มันถึงเวลาแล้วที่ผมจะเก็บกระเป๋า แพ็กกล้อง และเตรียมรถสำหรับทริปใหญ่ของปีนี้ ปีนี้พิเศษหน่อย มี 2 ที่ ๆ ผมอยากไป ผมก็เลยแบ่งมันเป็น 2 พาร์ท เริ่มจากทริปนี้
Mustang เจ้ามาศึกคู่มือของผู้ผ่าวร้อนผ่านหนาวมาด้วยกัน ตอนนี้เขา 9 ขวบแล้ว ถือได้ว่าเป็นรถเก่าเต็มตัวแล้ว ซึ่งผมก็พยายามถนอมเขาอย่างเต็มที่ อีกไม่นานก็จะได้เวลาโอเวอร์ฮอลเครื่อง และเชื่อได้ว่าค่าใช้จ่ายต่าง ๆ นา ๆ ก็คงจะประเดประดังกันมา แต่ว่า ตราบใดที่เขายังซื่อสัตย์กับผม ยังคงสตาร์ททีเดียวติด (อาจจะยกเว้นเวลาตากแดด เพราะรถเขาก็ขี้ร้อนเหมือนเจ้าของนั่นแหละครับ 555 ) และสามารถพาผมไปได้ในทุก ๆ ที่ ผมก็จะยังไม่ทิ้งเขา
จากนั้นก็นับวันเวลาเตรียมออกลุย ช่วงนั้นงานค่อนข้างเยอะ ผมก็ใช้ทริปที่จะมาถึงนี้เป็นเครื่องปลอบประโลมใจให้ลุกขึ้นสู้ต่อไป ลุยงานให้เละกันไปข้างหนึ่ง จะหนักแค่ไหนก็เข้ามา เรายังมีทริปของเรารออยู่ อีกเดี๋ยวก็จะได้ไปเที่ยวแล้ว นั่นแหละคือที่มาของพลังใจของผมล่ะ และแล้ว วันเวลาที่รอคอยก็มาถึง เด้งจากเตียงตอนตี 2 ครึ่ง บิดรถไปตามเส้นทางที่เราคุ้นเคย เข้าสาทร ผ่านตลาดคลองเตย มาทะลุพระโขนง แล้วไปออกแยกบางนา จากนั้นก็บิดยาาาวววววววว บิดมากไม่ได้ เพราะเมื่อเข้าเขตฉะเชิงเทรา สภาพถนนก็เริ่มแย่ คือแบบรู้เลยว่าช่วงไหนยังเป็นก.ท.ม. ช่วงไหนฉะเชิงเทรา และช่วงไหนเข้าเขตชลบุรีแล้ว เพราะช่วงนั้นถนนเป็นหลุมเป็นบ่อเยอะมาก แต่ก็เข้าใจได้เพราะว่ารถบรรทุกเยอะ เผลอ ๆ งานที่ผมเติมอยู่ทุกวันนี้ก็ขนมาจากทางนัแหละครับ 555 แต่ก็ไม่ได้ติดขัดอะไร มันแค่ไปได้ไม่เร็วมากเฉย ๆ ฉนั้นไปเรื่อย ๆ ดีกว่า อีกอย่าง รถเราเก่าแล้ว ซัดหนักเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้
แล้วเราก็มาถึงสะพานเกาะลอยศรีราชา มาถึงตอนนั้นยังมืดอยู่ อีกราว ๆ 1 ชั่วโมงถึงจะเริ่มสว่าง งั้นเรามาลองถ่ายบรรยากาศตอนกลางคืนกันหน้อยดีกว่า
พยากรณ์อากาศบอกว่าช่วง 6 โมงจะมีฝนตก ตอนนี้ตี 5:45 ฝั่งนู้นมืดมาเลย
งัดกล้องฟิล์มขึ้นมาต่อสายลั่นชัตเตอร์ วัดแสงได้สปีดชัตเตอร์ 15 วินาที ด้วย f 2.8 และฟิล์ม 200 วางกล้องบนราวสะพาน โฟกัส คอมโพส แล้วค่อย ๆ กดปุ่มบนสายนิ่ง ๆ นับในใจ 15 วินาที นั่นคือที่มาของรูปนี้ ทริปนี้ผมเอากล้องมา 3 ตัวเหมือนเดิม 1300D เป็นกล้องหลักที่ผมจะพยายามงัดออกมาใช้บ่อยขึ้น L3 พร้อมฟิล์ม Colorplus 200 เป็นกล้องอาร์ท และ IXUS 135 อยู่ในกระเป๋าเสื้อเป็นกล้องสแน็ป
แสงเริ่มมาแล้ว ฝั่งบางแสนตรงนู้นมืดตึ้บเลย ฝนคงตกหนัก
บนสะพานมีคนมาวิ่งออกกำลังกายกันเยอะเลย แต่ยังไม่เห็นคนตกปลา สงสัยยังเช้าไปหน่อย แต่เช้า ๆ แบบนี้น่าลุ้นอยู่ เผื่อมีปลาสากหรือไม่ก็กระมงเล็กมาหากินใกล้ฝั่ง
แดดเริ่มมาแล้ว เดี๋ยวเราเอาสัมภาระไปฝากก่อนดีกว่า
นี่คือที่พักของเราในคืนนี้ ฝากถุงเสื้อผ้ากับขาตั้งกล้องและเซ็นเอกสารเข้าพัก เสร็จล้วเราก็ไปกันต่อ
ออกจากที่พัก เราก็มาที่สะพานปลาศรีราชากันก่อนเลย
ฝั่งแหลมฉบัง
ระหว่างเดินถ่ายรูป ผมก็ไปด้อม ๆ มอง ๆ แผงขายปลาบนสะพาน ส่วนใหญ่เป็นปลาเล็ก อย่างปลาดุกทะเลก็เป็นไซส์เล็ก ซึ่งพวกนั้นผมไม่ได้ถ่ายมา มาถ่ายมุมนี้แทนเพราะมุมนี้แสงสวยกว่า อิ_อิ
บรรยากาศบนสะพาน ผมเล็งเผื่อเยอะไปหน่อย รูปก็เลยค่อนข้างลอย L3 เขาไม่มีตัวชดเชยพาลาแร็กส์ครับ ผมก็เลยต้องเล็งเผื่อ ๆ ไว้หน่อย แต่หลังจากนี้ก็คงไม่จะเผื่อเยอะจนาดนี้ละ
มุมชายฝั่ง
แนวเรือตังเกมุมหน้าทางเข้าสะพาน
อีกสักช็อตแบบเข้ม ๆ
ฟิล์มหมดพอดีเลยด้วย ช็อตหัวม้วนที่ร้านกาแฟของเช้าวันนี้ ร้านกาแฟในสวนสาธารณะศรีราชา
กาแฟแก้ง่วงสักแก้ว และขนมหวานรองท้องสักชิ้น
พอกาแฟหมดแก้ว เราก็มาต่อกันที่เกาะลอย เตรียมตัวข้ามไปเกาะสีชัง
มาเกาะลอยก็ต้องขึ้นมาชมวิวบนวัดเกาะลอย
เรือออกทุก ๆ 1 ชั่วโมง เดี๋ยวอีกสักพักเราลงไปกันดีกว่า
ไหน ๆ ก็ขึ้นมาแล้ว เช็กอินสักเล็กน้อย วันนี้วัดมีงานกฐิน ผมก็ทำบุญไปนิด ๆ หน่อย ๆ
หันไปดูฝั่งที่พัก เห็นโดดเด่นมาแต่ไกล
ตอนเดินลงมา ผมก็เห็นพี่คนนี้จิ้กติดปลาแพ็กคู่ขึ้นมา ตัวบนคือลูกกระมงตัวจ้อย อีกตัวคือโฉมงามไซส์สองฝ่ามือต่อกัน เห็นแบบนี้แล้วคันครับ คันเลยแหละ ผมไม่ได้ตกปลาทะเลมานานมาาากกกก ตกแต่ปลาบ่อเพราะเวลาไปตกปลาไกล ๆ ไม่ค่อยมี สงสัยต้องมาตรงนี้บ้างแล้วแหละ เดี๋ยวต้องเอามาให้หมดเลยทั้งเหยื่อปลอมทั้งเหยื่อสด
รอเวลาเรือออก ผมก็เดินถ่ายรูปเล่นไปเรื่อย
แพเลี้ยงหอย ไม่หอยแมลงภู่ก็คงจะหอยนางรม
เ รื อ ข้ า ม ฟ า ก
ลองเอาเลนส์ 50 f1.8 มาใส่ดูบ้าง ไม่ค่อยได้ใช้คอมโบชุดนี้สักเท่าไหร่ แล้วลองใช้วิธีเดียวกับที่ผมใช้กับ EOS 650 film ก็คือใช้โหมด AV คุมค่า f แล้วใช้ชดเชยแสงควมคุมความมืดความสว่างของภาพ คมกริ้บเลย
มันช่าง MAJESTIC
มานั่งรอบนเรือดีกว่า เหลืออีกราว ๆ 20 นาที
คนโล่ง ๆ ผมละชอบจริง ๆ
ลองประยุกต์วิธีที่ใช้กับ 50 f1.8 มาใช้กับเลนส์ตัวอื่นบ้าง และแล้วผมก็ถึงบางอ้อ ได้วิธีที่จะใช้เลนส์ซูม 75-300 ให้คมได้แล้ว เย่ ~
เรือออกแล้ว
เปลี่ยนมาใส่เลนส์คิทคู่กล้องดีกว่า แล้วลองใช้วิธีนี้ดู เริศเลย
แนวเรือบรรทุกน้ำมันและก๊าศ
แท่นซ่อมเรือเล็ก
แหลมฉบังเช้านี้
คอนเทนเนอร์เต็มเรือเลย
เข้าใกล้เกาะแล้ว
แนวเรือบรรทุกแม่น้ำ
แวะเกาะขามใหญ่ก่อน
และเราก็มาถึงแล้ว
วันนี้เกาะสีชังใช้ท่าเรือกลางเป็นท่าหลัก ส่วนที่ผมมากับแม่เมื่อต้นปีนั้นเป็นท่าเหนือ
อีกด้านหนึ่งจากท่าเรือ
มุมจอดเรือหาปลา
อีกสักรูป
ออกมาจากท่าเรือ จัดการเช้ารถแล้วไปกันต่อ
ที่แรกบนเกาะ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่
บรรยากาศบนศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ หนึ่งในจุดชมวิวที่ดีที่สุดของที่นี่
อีกสักรูป
มาดูรูปฟิล์มกันบ้าง
สวยงาม
เช็กอินสักรูป
บรรยากาศบนเกาะ
ไหน ๆ ก็ขึ้นมาศาลเจ้า ผมก็หันไปยกมือไหว้ แล้วก็หยอดตู้บริจากซะหน่อย
จะเที่ยงแล้ว หิว แวะจัดมื้อเที่ยงที่ร้านป้าหน่อย อร่อยเหมือนเดิม
ผมมาคนเดียว ก็เลยสั่งแต่ของที่อยากกินจริง ๆ และนี่คือหนึ่งในนั้น ปลาอินทรีชิ้นเบ้ง ๆ หั่นแว่นอันขนาดนี้ แล้วตัวเต็ม ๆ ของมันจะขนาดไหน ผมว่ามี 5-6 โล
อยากลองชิมหอยกระโจงโดง แต่วันนี้หมด เลยเปลี่ยนมาเป็นอันนี้แทน หอยนมสาวลวกจิ้ม ผมขอแบบสุก ๆ หน่อยเพราะท้องไม่ค่อยดี อร่อย กรอบ เหนียวนุ่ม
อิ่มจากร้านป้าหน่อย ระหว่างที่กำลังบิดไปที่ต่อไป ผมก็เหลือบไปเห็นป้ายของสถานที่นี้ แวะสิครับ
เข้าไปปุ้บ สิ่งแรกที่เจอคือ น้องเต่า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น