เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงทุกอย่างค่ะ เป็นปัญหาที่สร้างความหนักใจกับชีวิตบ่อยๆ
คือจขกท.เป็นหมอค่ะ แฟนเก่าก็เป็นหมอเหมือนกันค่ะ ครอบครัวแฟนเก่าก็เป็นหมอค่ะ ปกติหมอจะมีเฉพาะทางด้านต่างๆค่ะ
***เหตุการณ์เกิดจากแม่เราสงสัยว่าตัวเองจะแพ้ยา เราเองก็แนะนำว่าให้เปลี่ยนยาค่ะ โดยปกติเวลาเราดูแลคนไข้ เราก็ทำแบบนั้นค่ะ แพ้ยาตัวไหนก็หลีกเลี่ยง ใช้ยาตัวอื่นทดแทน แต่แม่เราเนี่ยไม่เคยเชื่อเรานะคะ เชื่อกูเกิ้ลมากกว่าเราอีก แม้ว่าเราจะอธิบายไปเป็นสิบล้านรอบ ยกเอกสารทางการแพทย์ต่างๆมาอ้างอิง แต่ก็ไม่เชื่อเราอยู่ดีค่ะ
***แม่เราค้นพบว่ามันมีการตรวจชนิดนึงที่ใช้ตรวจการแพ้ได้ แต่ใช้ตรวจแพ้อาหารอะไรแบบนั้นนะคะ แต่แม่เราบอกว่าใช้กับยาได้เหมือนกัน เราก็พยายามอธิบายว่ามันใช้ตรวจแพ้อาหารนะ ก็ไม่เชื่อเราค่ะ อยากจะตรวจให้ได้ พยายามหาsecond opinionที่ไม่ตรงกับคำตอบเรา หมอและเภสัชส่วนใหญ่ก็จะตอบไปด้วยความเกรงใจปนรำคาญกับแม่เราว่า ตรวจก็ได้ ถ้าคนไข้ต้องการตรวจ แต่แม่เราคือ ตีความ "ต้อง"ไปตรวจ แล้วมาด่าเราหยาบคายนั่นนี่ ซึ่งแม่เราเป็นคนแบบนี้อยู่แล้วค่ะ เอาเราไปด่ากับเพื่อนข้างบ้าน ว่าเราแย่มาก ให้คำตอบแบบไม่ใส่ใจ เป็นลูกที่แย่ที่ชั่วอะไรทำนองนี้ ซึ่งสาเหตุจริงๆก็คือแค่คำตอบเรามันไม่ถูกใจแม่เรา แต่ถูกต้องตามหลักทางการแพทย์
***นอกจากจะสร้างความทุกข์ใจให้เราแล้ว ยังคุกคามคนรอบข้างเราด้วยค่ะ ทั้งแฟนคนปัจจุบันและแฟนเก่าคนที่เป็นหมอ
-กับแฟนคนปัจจุบันเนี่ย เราก็รู้สึกเกรงใจเค้าระดับนึงนะคะ ที่แม่เราไปคุกคามและรบกวนเวลาทำงานเขา แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้
-แต่กับแฟนเก่าเนี่ย เรารู้สึกแม่เราทำเกินไปมากๆค่ะ คือแฟนเก่าเราเป็นเฉพาะทางเกี่ยวกับเรื่องการแพ้ รวมถึงครอบครัวแฟนเก่าด้วย แม่เราอยากได้รับการตรวจการแพ้นั้นแบบคิวเร็วและไม่ต้องเสียเงิน รวมถึงต้องมาตอบความกังวลของแม่เราด้วยคำถามเดิมประมาณมากกว่า10ครั้ง ด้วยเหตุผลว่าเขาเป็นแม่ของแฟนเก่า เลยต้องได้สิทธิ์vip เหล่านี้ เรากับแฟนเก่าคุยไลน์กันในฐานะเพื่อนปกตินะคะ แม่เราก็จะพยายามให้ต้องทักไปบอกความต้องการเหล่านี้ทุกวันค่ะ แฟนเก่าเราเขาบล็อคไลน์แม่เรานะคะ ก็เลยต้องคุยผ่านเราเป็นเวลามากกว่าสองสัปดาห์ รบกวนการทำงานของเราและแฟนเก่าเราพอสมควร เราทั้งสองคนก็มีคนไข้ต้องดูแลค่ะ
เลยอยากจะสอบถามความคิดเห็นค่ะ ว่าควรจะแก้ปัญหาเหล่านี้ยังไงดีค่ะ
มีวิธีพอที่จะเปลี่ยนแปลงตรรกะความคิดของแม่เราได้บ้างมั้ยคะ
แม่เราอยากได้ความvipจากครอบครัวแฟนเก่า ทั้งๆตอนคบกัน แม่เราก็ปฏิบัติกับแฟนเราไม่ดี
คือจขกท.เป็นหมอค่ะ แฟนเก่าก็เป็นหมอเหมือนกันค่ะ ครอบครัวแฟนเก่าก็เป็นหมอค่ะ ปกติหมอจะมีเฉพาะทางด้านต่างๆค่ะ
***เหตุการณ์เกิดจากแม่เราสงสัยว่าตัวเองจะแพ้ยา เราเองก็แนะนำว่าให้เปลี่ยนยาค่ะ โดยปกติเวลาเราดูแลคนไข้ เราก็ทำแบบนั้นค่ะ แพ้ยาตัวไหนก็หลีกเลี่ยง ใช้ยาตัวอื่นทดแทน แต่แม่เราเนี่ยไม่เคยเชื่อเรานะคะ เชื่อกูเกิ้ลมากกว่าเราอีก แม้ว่าเราจะอธิบายไปเป็นสิบล้านรอบ ยกเอกสารทางการแพทย์ต่างๆมาอ้างอิง แต่ก็ไม่เชื่อเราอยู่ดีค่ะ
***แม่เราค้นพบว่ามันมีการตรวจชนิดนึงที่ใช้ตรวจการแพ้ได้ แต่ใช้ตรวจแพ้อาหารอะไรแบบนั้นนะคะ แต่แม่เราบอกว่าใช้กับยาได้เหมือนกัน เราก็พยายามอธิบายว่ามันใช้ตรวจแพ้อาหารนะ ก็ไม่เชื่อเราค่ะ อยากจะตรวจให้ได้ พยายามหาsecond opinionที่ไม่ตรงกับคำตอบเรา หมอและเภสัชส่วนใหญ่ก็จะตอบไปด้วยความเกรงใจปนรำคาญกับแม่เราว่า ตรวจก็ได้ ถ้าคนไข้ต้องการตรวจ แต่แม่เราคือ ตีความ "ต้อง"ไปตรวจ แล้วมาด่าเราหยาบคายนั่นนี่ ซึ่งแม่เราเป็นคนแบบนี้อยู่แล้วค่ะ เอาเราไปด่ากับเพื่อนข้างบ้าน ว่าเราแย่มาก ให้คำตอบแบบไม่ใส่ใจ เป็นลูกที่แย่ที่ชั่วอะไรทำนองนี้ ซึ่งสาเหตุจริงๆก็คือแค่คำตอบเรามันไม่ถูกใจแม่เรา แต่ถูกต้องตามหลักทางการแพทย์
***นอกจากจะสร้างความทุกข์ใจให้เราแล้ว ยังคุกคามคนรอบข้างเราด้วยค่ะ ทั้งแฟนคนปัจจุบันและแฟนเก่าคนที่เป็นหมอ
-กับแฟนคนปัจจุบันเนี่ย เราก็รู้สึกเกรงใจเค้าระดับนึงนะคะ ที่แม่เราไปคุกคามและรบกวนเวลาทำงานเขา แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้
-แต่กับแฟนเก่าเนี่ย เรารู้สึกแม่เราทำเกินไปมากๆค่ะ คือแฟนเก่าเราเป็นเฉพาะทางเกี่ยวกับเรื่องการแพ้ รวมถึงครอบครัวแฟนเก่าด้วย แม่เราอยากได้รับการตรวจการแพ้นั้นแบบคิวเร็วและไม่ต้องเสียเงิน รวมถึงต้องมาตอบความกังวลของแม่เราด้วยคำถามเดิมประมาณมากกว่า10ครั้ง ด้วยเหตุผลว่าเขาเป็นแม่ของแฟนเก่า เลยต้องได้สิทธิ์vip เหล่านี้ เรากับแฟนเก่าคุยไลน์กันในฐานะเพื่อนปกตินะคะ แม่เราก็จะพยายามให้ต้องทักไปบอกความต้องการเหล่านี้ทุกวันค่ะ แฟนเก่าเราเขาบล็อคไลน์แม่เรานะคะ ก็เลยต้องคุยผ่านเราเป็นเวลามากกว่าสองสัปดาห์ รบกวนการทำงานของเราและแฟนเก่าเราพอสมควร เราทั้งสองคนก็มีคนไข้ต้องดูแลค่ะ
เลยอยากจะสอบถามความคิดเห็นค่ะ ว่าควรจะแก้ปัญหาเหล่านี้ยังไงดีค่ะ
มีวิธีพอที่จะเปลี่ยนแปลงตรรกะความคิดของแม่เราได้บ้างมั้ยคะ