๑๐. อุปักกิเลสสูตร ว่าด้วยสิ่งมัวหมอง

กระทู้สนทนา
ที่มา https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=21&siri=50
-------
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๓ [ฉบับมหาจุฬาฯ]
อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต 
๑๐. อุปักกิเลสสูตร
ว่าด้วยสิ่งมัวหมอง
             [๕๐] ภิกษุทั้งหลาย สิ่งมัวหมองที่เป็นเหตุให้ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์มัวหมองไม่ส่องแสง ไม่สว่าง ไม่รุ่งเรือง ๔ ประการนี้
             สิ่งมัวหมอง ๔ ประการ อะไรบ้าง คือ
             ๑. เมฆเป็นสิ่งมัวหมอง ที่เป็นเหตุให้ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์มัวหมองไม่ส่องแสง ไม่สว่าง ไม่รุ่งเรือง
             ๒. หมอกเป็นสิ่งมัวหมอง ที่เป็นเหตุให้ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์มัวหมองไม่ส่องแสง ไม่สว่าง ไม่รุ่งเรือง
             ๓. ควันและฝุ่นละอองเป็นสิ่งมัวหมอง ที่เป็นเหตุให้ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์มัวหมอง ไม่ส่องแสง ไม่สว่าง ไม่รุ่งเรือง
             ๔. ราหูผู้เป็นจอมอสูรเป็นสิ่งมัวหมอง ที่เป็นเหตุให้ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์มัวหมอง ไม่ส่องแสง ไม่สว่าง ไม่รุ่งเรือง
             ภิกษุทั้งหลาย สิ่งมัวหมองที่เป็นเหตุให้ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์มัวหมองไม่ส่องแสง ไม่สว่าง ไม่รุ่งเรือง ๔ ประการนี้แล
             เช่นเดียวกันแล อุปกิเลสที่เป็นเหตุให้สมณพราหมณ์พวกหนึ่งมัวหมองไม่สง่า ไม่ผ่องใส ไม่รุ่งเรือง ๔ ประการนี้
             อุปกิเลส ๔ ประการ อะไรบ้าง คือ
            ๑. สมณพราหมณ์พวกหนึ่งดื่มสุราและเมรัย ไม่เว้นขาดจากการดื่มสุราและเมรัย นี้เป็นอุปกิเลสที่เป็นเหตุให้สมณพราหมณ์พวกหนึ่ง
มัวหมอง ไม่สง่า ไม่ผ่องใส ไม่รุ่งเรือง ประการที่ ๑
             ๒. สมณพราหมณ์พวกหนึ่งเสพเมถุนธรรม ไม่เว้นขาดจากการเสพเมถุนธรรม นี้เป็นอุปกิเลสที่เป็นเหตุให้สมณพราหมณ์มัวหมอง ไม่สง่า
ไม่ผ่องใส ไม่รุ่งเรือง ประการที่ ๒
             ๓. สมณพราหมณ์พวกหนึ่งยินดีทองและเงิน ไม่เว้นขาดจากการรับทองและเงิน นี้เป็นอุปกิเลสที่เป็นเหตุให้สมณพราหมณ์มัวหมอง ไม่สง่า
ไม่ผ่องใส ไม่รุ่งเรือง ประการที่ ๓
             ๔. สมณพราหมณ์พวกหนึ่งดำเนินชีวิตด้วยมิจฉาชีพ ไม่เว้นขาดจากมิจฉาชีพ นี้เป็นอุปกิเลสที่เป็นเหตุให้สมณพราหมณ์มัวหมอง ไม่สง่า
ไม่ผ่องใส ไม่รุ่งเรือง ประการที่ ๔
             ภิกษุทั้งหลาย อุปกิเลสที่เป็นเหตุให้สมณพราหมณ์พวกหนึ่งมัวหมองไม่สง่า ไม่ผ่องใส ไม่รุ่งเรือง ๔ ประการนี้แล
                          สมณพราหมณ์พวกหนึ่ง
                          ถูกราคะและโทสะปกคลุม
                          ถูกอวิชชาหุ้มห่อ ยินดีรูปที่น่ารัก
                          ดื่มสุราและเมรัย เสพเมถุน
                          เป็นคนมืดบอด ยินดีทองและเงิน
                          สมณพราหมณ์พวกหนึ่ง
                          ดำเนินชีวิตด้วยมิจฉาชีพ
                          พระพุทธเจ้าผู้เป็นเผ่าพันธุ์พระอาทิตย์
                          ตรัสอุปกิเลสที่เป็นเหตุให้สมณพราหมณ์พวกหนึ่ง
                          มัวหมอง ไม่สง่า ไม่ผ่องใส
                          เป็นที่รู้กันว่าไม่บริสุทธิ์
                          มีธุลี ถูกความมืดปกคลุม
                          เป็นทาสแห่งตัณหา ถูกตัณหาชักนำ
                          ให้อัตภาพหยาบเจริญเติบโต
                          ย่อมยินดีการเกิดใหม่
                                                                              อุปักกิเลสสูตรที่ ๑๐ จบ
โรหิตัสสวรรคที่ ๕ จบ
รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ
                          ๑. สมาธิภาวนาสูตร    ๒. ปัญหพยากรณสูตร
                          ๓. ปฐมโกธครุสูตร      ๔. ทุติยโกธครุสูตร
                          ๕. โรหิตัสสสูตร          ๖. ทุติยโรหิตัสสสูตร
                          ๗. สุวิทูรสูตร              ๘. วิสาขสูตร
                          ๙. วิปัลลาสสูตร           ๑๐. อุปักกิเลสสูตร
ปฐมปัณณาสก์ จบ
{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๑ หน้า : ๘๓}
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่