สวัสดีอีกครั้งค่ะ หลังจากหายไปนานเลย หนีไปทำวีซ่าเยอรมันและเที่ยวสิงคโปร์มาค่า เดี๋ยวจะมาแชร์ประสบการณ์วีซ่าเยอรมันให้นะคะ จขกท.ขอเยอรมันครั้งแรก ได้มา 1 ปีค่ะ สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านกระทู้ก่อนหน้า 
#review ขอวีซ่าท่องเที่ยวประเทศฟินแลนด์ ช่วงโควิดด้วยตัวเอง (ธันวาคม2564) >> https://ppantip.com/topic/41236537
#review เที่ยวฟินแลนด์ ep.1 Helsinki-Porvoo >> https://ppantip.com/topic/41312420
#review เที่ยวฟินแลนด์ ep.2 Rovaniemi @Kakslauttanen Arctic Resort ล่าแสงเหนือ,สุนัขลากเลื่อนHusky Safari,ขับSnowmobile >> https://ppantip.com/topic/41317360
#review เที่ยวฟินแลนด์ ep.3 Rovaniemi @Arctic Snow Hotel, Ice restaurant, Santa Claus Village และสรุปค่าใช้จ่าย >> https://ppantip.com/topic/41564855
 
มาต่อกันเลยนะคะ Part นี้สุดท้ายแล้วค่ะ หลังจากเดินทาง 3 ชั่วโมง จาก Kakslauttanen Arctic Resort ก็มาแวะกันที่ Lordi's Square เพื่อตรวจโควิด จขกท.จองตรวจ PCR ของ 9lives มาล่วงหน้าค่ะ (ตอนนั้นเดินทางกลับไทยยังต้องใช้ผลตรวจ 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง ค่าตรวจคนละ 6,000 บาท รอผลประมาณ 24 ชม. จะส่งมาทางเมลล์ค่ะ ) Lordi's Square จะเป็น Mall มีทั้งร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆ
มื้อเที่ยงวันนี้ จขกท.เลือกกินร้านอาหารไทยที่นี่ อร่อยมากค่า คิดถึงอหารไทยสุดๆ และแวะซื้อของฝากที่ Marimekko ก่อนจะออกเดินทางกันต่อ จาก Lordi's Square ขับรถประมาณ 30 นาทีจะถึงที่พักของวันนี้ค่ะ

คืนนี้เราจะนอนกันที่ Arctic Snow Hotel & Glass Igloos จุดเด่นของที่พักวันนี้คือจะมีโรงแรมน้ำแข็ง โดยโรงแรมน้ำแข็งจะมีเฉพาะช่วงเดือนกันยายน-มีนาคมของทุกปีเท่านั้นค่ะ  จขกท.เลือกนอน Igloo โดมแก้ว และจองโต๊ะทานอาหารที่ Ice restaurant แทนค่า เพราะคิดว่าโรงแรมน้ำแข็งต้องนอนไม่สบายแน่ๆเลย5555555 (ที่พักจขกท.จองผ่าน Agoda นะคะ ลองเทียบราคาดูแล้ว Agoda ราคาดีสุดค่า หลังจากจองห้องแล้วค่อยemailไปจองโต๊ะร้านอาหาร Ice restaurant หรือใครต้องการซาวน่าก็สามารถเมลล์ไปจองได้ค่ะ)

เมื่อเข้าไปด้านในโรงแรมน้ำแข็ง ตามผนังจะมีการแกะสลักตกแต่งลายต่างๆ มีหลายห้องมากๆค่ะ มีทั้งห้องพัก บาร์ ร้านอาหาร และโบสถ์สำหรับจัดงานแต่งงานค่ะ


ระหว่างทางไปห้องอาหารจะต้องเดินผ่าน Ice Bar ก็แวะจิบน้ำ สร้างความอบอุ่นกันหน่อย บาร์และเคาน์เตอร์ทั้งหมดจะสร้างจากน้ำแข็ง รวมถึงแก้วน้ำด้วยค่า ชอตนี้น่าจะเป็นวอดก้าผสมอะไรสักอย่าง ราคาประมาณ 400 บาทค่ะ

ไปทานอาหารที่ Ice restaurant กันเลยค่าา โต๊ะและเก้าอี้ทั้งหมดทำจากน้ำแข็งค่ะ ไม่ต้องถามเลยว่าหนาวมั้ย หนาวมากค่าา เป็นการทานอาหารที่ทรมานที่สุดก็เป็นได้55555555 มือสั่นไม่หยุดจริงๆ ขนาดใส่ถุงมือกินข้าวT_T สำหรับเมนูอาหาร เราสามารถเลือกเมนูจานหลักได้ค่ะ จะมีเนื้อสัตว์ให้เลือก 3 อย่าง ปลา ไก่ และกวาง จขกท.ไปกัน3คน สั่งคนละอย่างเลย ส่วนตัวชอบเมนูไก่ อร่อยค่ะ เป็นเมนู play safe ที่สุดแล้ว มื้อนี้ได้ลองเนื้อกวางด้วย อร่อยกว่าที่คิด ราคาจะจ่ายเป็นคนค่ะ คนละ 2,700 บาท มีขนมปัง จานหลักและของหวาน ราคานี้รวมน้ำเปล่าแล้วค่ะ หลักจากทนความหนาวอยู่สักพักเลยสั่งน้ำองุ่นร้อนมา บอกได้เลยว่าช่วยได้มากจริงๆ


 ของหวานจะเป็น ชีสเค้กบลูเบอร์รี่ เสิร์ฟมาบนจานน้ำแข็ง (กินแล้วเหมือนเค้กไอติมเลย55555)

ทานอาหารเสร็จก็เข้าห้องพักกันเลยค่ะ ห้องพักที่นี้จะมีห้องอาบน้ำในตัว แต่น้ำอุ่นมีจำกัดค่ะ จะมีสัญลักษณ์เป็นสีบอก ถ้าลดลงเหลือสีแดงน้ำจะหมด ฉะนั้น 3 คนต้องวางแผนดีๆเลย ก่อนนอนแอบออกมาส่องแสงเหนือซะหน่อย ตลอดทริปนี้น้องแสงเหนือมาให้เห็นแค่คืนเดียวเท่านั้น วันอื่นหิมะตก เมฆค่อนข้างเยอะค่ะ (คืนที่เห็นแสงเหนือยู่ใน EP.2 นะคะ)
เช้าวันต่อมาจะเป็นวันสุดท้ายที่จะอยู่ Lapland กันแล้ว วันนี้เราจะไป Santa Claus Village และตอนเย็นจะขึ้นรถไฟเพื่อกลับ Helsinki 
หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อยก็ Check-out และออกเดินทางกันต่อเลยค่ะ ใช้เวลาขับรถประมาณ 30 นาทีก็จะถึงหมู่บ้านซานตาคลอส

อีกจุดสำคัญของที่นี่คือจุดตัดผ่านของเส้น Arctic Circle ตรงนี้จะมี Live สดใน youtube สามารถดูได้ตลอด 24 ชม.เลย จขกท.ส่งลิ้ค์ในน้องสาวที่ไทยเปิดดูด้วยค่า555555 เราก็ไปยืนโบกมือให้กล้องกัน ลิ้งค์นี้เลยค่ะ https://youtu.be/Cp4RRAEgpeU จริงๆกล้องสดตรงนี้มีข้อดีอีกอย่างคือมุมกล้องจะมีบอกอุณหภูมิ ก่อนเริ่มเดินทางจขกท.เข้ามาเช็คอากาศอยู่เรื่อยๆ และแอบดูการแต่งตัวของคนที่ไปเที่ยวในกล้องด้วยค่ะ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเตรียมตัวสู้ความหนาว

เมื่อเข้ามาด้านในที่เป็น Office หลักของซานต้า จะมีให้เข้าไปพบลุงซานต้าและถ่ายรูปกับลุงซานต้า หากต้องการได้รูปภาพจะมีค่าใช้จ่าย ประมาณ 1,800 บาท ราคานี้จะรวมทั้งภาพและ VDO ตอนเราเข้าไปหาลุงซานต้าค่ะ

ภายในหมู่บ้านซานตาคลอสจะมีทั้ง ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก บริการนั่งกวางลากเลื่อน และ Snowman World จะเป็นสวนสนุกเล็กๆ ค่าเข้าคนละ 28 ยูโร หรือประมาณ 1,000 บาท มีกิจกรรมให้ทำ เช่น นั่งสไลเดอร์ห่วงยาง ลาน Ice Skat ขนาดเล็ก(ขอย้ำว่าขนาดเล็ก เล็กมากกกก)  มื้อเที่ยงวันนี้ทานที่ร้านอาหาร Santa's Restaurant (Christmas House Restaurant & Coffee Bar) เป็นบุฟเฟ่ต์ คนละ 575 บาท
สุดท้ายก่อนจะไปขึ้นรถไฟยังพอมีเวลาเหลือ ขอทำตาม Mission อีกอย่างที่วางแผนมา คือการเล่นไอซ์สเก็ตลาน Outdoor ค่าาา

บอกก่อนเลยว่าจขกท.ไม่ได้เล่นเก่งอะไร แต่มันคือความฝันค่ะ555555 ประเทศไทยไม่มี บอกเลยว่าดีมากกกกกกก กว้างสุดๆ คุ้มค่ากับการแบกรองเท้าข้ามน้ำข้ามทะเลมา ถ้ามีทริปต่างประเทศฤดูหนาวอีกก็จะหาทำอีกแน่นอนค่ะ5555555
หลังจาก Mission complete แล้ว รีบตรงไปเติมน้ำมัน คืนรถ และขึ้นรถไฟกลับ Helsinki กันเลยค่าาา (การคืนรถที่นี่คือเอาไปจอดตำแหน่งเดิมตอนที่รับรถมา และเอากุญแจรถไปใส่ไว้ในตู้ คล้ายๆตู้จดหมายค่ะ อยู่ในสถานีรถไฟเลย)

วันสุดท้ายของทริปนี้ มีเวลาใน Helsinki อีกครึ่งวัน เมื่อเดินทางมาถึง Main station ก็ทำการฝากกระเป๋าที่ Locker แล้วออกไปเก็บตกรอบๆเมืองกันค่ะ

สรุปค่าใช้จ่ายทริป 7 คืน 8 วัน
Scandic Grand Central Helsinki 2 คืน = 12,260 บาท (นอนได้ 2 คน/ห้อง)
Kakslauttanen Arctic Resort ห้อง Igloo 1 คืน = 18,050 บาท (นอนได้ 2 คน/ห้อง)
Kakslauttanen Arctic Resort ห้อง Chalet 1 คืน = 27,700 บาท (นอนได้ 3 คน)
Arctic Snow Hotel & Glass Igloos 1 คืน = 22,450 บาท (นอนได้ 3 คน)
ตั๋วรถไฟไป-กลับ แบบ Over night มีห้องอาบน้ำ  2 คืน = 11,275 บาท (นอนได้ 2 คน/ห้อง)
Husky Safari คนละ 5,152 บาท
Snowmobile คนละ 3,897 บาท
ค่าเช่ารถ helsinki 1 วัน = 4,800 บาท
ค่าเช่ารถ Rovaniemi 4 วัน = 12,600 บาท 
ค่ากิน (ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านสะดวกซื้อ Supermarket) 3คน = 32,500 บาท 
ค่าเดินทางรถสาธารณะ (รถบัส รถราง รถไฟ) คนละ 700 บาท
ค่าน้ำมันรถเช่า 3,000 บาท 
ค่าเข้า Snowman world คนละ 1,080 บาท
ค่าตรวจโควิด 6,000 บาท

สำหรับใครที่ติดตามอ่านมาถึตรงนี้ต้องขอบคุณมากค่ะ จบทริปฟินแลนด์แล้ววว เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ชอบมากๆ ห่างหายจากการเที่ยวต่างประเทศไปนานช่วงโควิด บอกเลยว่าประทับใจมากๆถ้ามีโอกาสจะเป็นประเทศแรกๆที่กลับไปซ้ำแน่นอน จขกท.เพิ่งกลับมาจากเยอรมัน-ออสเตรีย ไว้ว่างๆจะมาแบ่งปันข้อมูลให้อีกนะคะ