มาต่อ Ep.2 กันเลยนะคะ Part นี้จะเป็นการเที่ยวโซน Lapland ค่ะ ขอฝากกระทู้ก่อนหน้านี้สำหรับเพื่อนๆที่สนใจด้วยนะคะ
#review ขอวีซ่าท่องเที่ยวประเทศฟินแลนด์ ช่วงโควิดด้วยตัวเอง (ธันวาคม2564) >>
https://ppantip.com/topic/41236537
#review เที่ยวฟินแลนด์ ep.1 Helsinki-Porvoo >>
https://ppantip.com/topic/41312420
#review เที่ยวฟินแลนด์ ep.2 Rovaniemi @Kakslauttanen Arctic Resort ล่าแสงเหนือ,สุนัขลากเลื่อนHusky Safari,ขับSnowmobile >>
https://ppantip.com/topic/41317360

หลังจากที่เรานั่งรถไฟกลางคืนมาลงที่สถานีรถไฟ Rovaniemi กันแล้ว ก็ไปรับรถที่เช่าไว้กันเลยค่าา ทริปนี่เราเช่า Volkswagen Golf Estate จำนวน 4 วันค่ะ ราคาเช่ารถรวมประกันอยู่ที่ 12,650 บาทค่ะ (เช่าจากเว็บ www.rentalcars.com) วันนี้เราจะออกเดินทางไปที่โรงแรม Kakslauttanen Arctic Resort ใช้เวลาเดินทางจากสถานีรถไฟ Rovaniemi ประมาณ 3 ชม.ค่ะ ช่วงเดือนมกราคมที่จขกท.ไปพระอาทิตย์จะขึ้นเวลา 10.00 น. และตกเวลา 14.30 น. อุณภูมิช่วงกลางวันเฉลี่ยอยู่ที่ -12 ถึง -16 องศา เส้นทางที่ขับวันนี้ถนนขับง่ายค่ะ แต่ต้องรักษาเลนของเราดีๆ เพราะบางช่วงหิมะปกคลุมถนนทำให้ไม่เห็นเส้นแบ่ง ก่อนออกเดินทางขอแวะปั๊มเติมพลังกันก่อน (ปั๊มนี้สะดวกค่ะ อยู่ตรงข้าม Santa Village มีอาหารเช้าแบบนั่งทานด้วย สามารถแวะซื้อของ เข้าห้องน้ำก่อนออกเดินทางได้ค่ะ)

ขอบอกเลยว่าบรรยากาศระหว่างเส้นทางขับรถดีมากกกกกก (ก.ไก้ล้านตัวค่ะ555555 จขกท.พูดว่าสวยได้เปลืองสุดๆ ขับไปชมไปค่ะ)
วันนี้ฟ้าใส อากาศดีค่ะ เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ดีว่าคืนนี้จะมีลุ้นได้เห็นแสงเหนือเลยยยย


เมื่อเดินทางมาถึงรีสอร์ท Kakslauttanen Arctic Resort จะมี 2 ฝั่งค่ะ West Village และ East Village ไปให้ถูกฝั่งนะคะ ตอนจขกท.ไปเป็นช่วงโควิดทำให้รีสอร์ทเปิดบริการแค่ฝั่งเดียว ขับเข้าไปผิดฝั่งร้างเลยค่ะ เจอแต่น้องกวาง 2 ตัวนี้

Kakslauttanen Arctic Resort เป็นอีกหนึ่งที่พักสุดฮิตของที่นี่เลยค่ะ เท่าที่อ่านมาหากไม่มีโควิดจะต้องกันข้ามปีกันเลยที่เดียว รีสอร์ทมีครบเกือบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม ขี่สุนัขลากเลื่อนHusky Safari, ขับSnowmobile, Reindeer Safari หรือนั่งเรือตัดน้ำแข็ง โดยสามารถจองกิจกรรมผ่านทางเว็บไซต์ของโรงแรมได้เลยค่ะ
https://www.kakslauttanen.fi/ ส่วนห้องพักจขกท.จองผ่านเว็บAgodaค่ะ เพราะลองเปรียบเทียบราคากันแล้ว Agoda ราคาดีกว่าค่ะ เราพักที่นี่ 2 คืน ห้องพักแต่ละคืนคนละชนิดกันค่ะ
เมื่อมาถึงที่พักตอน 13.00 น. Check-in ไว้ก่อนแต่ยังไม่ได้ขนกระเป๋าเข้าห้องพักค่ะ เพราะมีเล่นกิจกรรม Husky Safari หรือการขี่สุนัขลากเลื่อนตอนเวลา 14.00 น. เลยตัดสินกินมื้อเที่ยงที่โรงแรม เป็นบุฟเฟต์ราคาคนละประมาณ 600 บาท จากนั้นก่อนถึงเวลากิจกรรม 10 นาทีให้มารวมตัวกันที่ Lobby จะมีไกด์มารอรับอยู่ค่ะ ที่พักแห่งนี้มีฟาร์มฮัสกี้เอง เราจึงแค่เดินไปบริเวณฟาร์มสุนัขไม่ต้องนั่งรถค่ะ มาดูเดอะแก๊งของเราวันนี้กันเลยค่าาา



น้องพร้อมออกตัวตลอดเวลาค่ะ เจ้าหน้าที่อธิบายว่าหากเชือกที่มัดหลุดคือน้องไปเลย5555555 ฉะนั้นต้องมัดแน่นๆ
ค่าเล่นกิจกรรม Husky Safari จะมี 2 แบบค่ะ
1. แบบนั่งคนเดียว ราคาคนละประมาณ 7,200 บาท(รวมvat) สารถเลือกได้ว่าจะเป็นคนขับหรือเป็นคนนั่งแล้วให้เจ้าหน้าที่ขับให้
2. แบบนั่งคู่ คนนึงนั่ง คนนึงขับ ราคา 11,000 บาท ตกคนละ 5,500 บาท
ราคานี้รวมชุด Thermal suit และอุปกรณ์กันหนาวต่างๆเรียบร้อยแล้วค่ะ ก่อนเริ่มเจ้าหน้าที่จะมีการสอนวิธีการขับและบังคับสุนัขเวลาเลี้ยวและเบรก รวมถึงสัญญาณมือต่างๆค่ะ
**ไอเท็มสำคัญมากๆของกิจกรรมนี้คือผ้าปิดหน้าหรือที่เรียกกันว่าผ้าบัฟค่ะ จขกท.ใช้ของ Columbia ด้านในจะมี Omni-heat ราคาชิ้นละ 1,590 บาทค่ะ ซื้อจาก Shop Columbia ที่เซนเวิล ถ้าไม่มีคือตุยเย่แน่นอนค่ะ

ยังไม่ทันเริ่มขี่เลย แค่เดินไปปลายผมและคิ้วได้กลายเป็นสีขาวหมดแล้วค่าา555555 มาค่ะ!!เริ่มออกตัวกันเลยเด็กๆ ลุย!!!


น้องออกตัวแรงมากค่ะ พุงแบบฉุดไม่อยู่จริงๆ555555 ระหว่างทางต้องคอยปาดน้ำแข็งที่ขนคิ้วและขนตาตลอดค่ะ ไม่งั้นน้องขนตาบน-ล่างจะติดกันได้
ใช้เวลาขี่ทั้งหมดประมาณ 30 นาที จะวนมาจบที่เดิมค่ะ บอกเลยว่าหนาวมากกกก ลมแรงค่ะ ขนาดจขกท.ใช้แผ่นอุ่นแปะรองเท้าก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ปลายเท้าคือชาไปเลยค่าาา T_T จากนั้นเจ้าหน้าที่จะพาเราไปอบอุ่นร่างกายในกระโจม จะมีกองไฟ ชาผลไม้และคุ้กกี้บริการค่ะ และก่อนจะจบกิจกรรมเจ้าหน้าที่จะพาเราไปดูฟาร์มลูกสุนัข น้องน่ารักมากกกกก (ช่วงเวลานี้พระอาทิตย์กำลังจะตก ท้องฟ้าสีสวยสุดๆ ภาพสดจากกล้องiphone13 ค่ะ)

หลังจากจบกิจกรรม Husky ก็กลับมาขนกระเป๋าเข้าห้องพักกันเลยค่าาา
คืนแรกห้องพักเป็นแบบIglooแก้ว สามารถนอนดูแสงเหนือจากห้องพักได้เลย จะมีระบบสัญญาณเตือนดังหากมีแสงเหนือ ราคาคืนละประมาณ 16,500 บาท โดยราคานี้จะรวมอาหารบุฟเฟ่เช้าและมื้อเย็นเรียบร้อยแล้ว ห้องพักแบบนี้จะไม่มีห้องอาบน้ำส่วนตัวค่ะ (จะมีแค่อ่างล้างมือและโถส้วม) โดยเราสามารถใช้ห้องอาบน้ำและห้องซาวน่าของส่วนกลางได้ จะแบ่งแยกชาย-หญิง เดินไปไม่ไกลมากจากห้องพักค่ะ

มื้อเย็นจะเสิร์ฟเป็นคอร์สค่ะ มี appetizer, main course และ dessert แต่ละวันเมนูอาหารจะไม่เหมือนเดิมค่ะ (ค่าอาหารรวมอยู่ในราคาห้องพักแล้วค่ะ)


ระหว่างทานอาหารจขกท.แอบส่องในแอป My Aurora Forecast & Alerts ตลอดเลยค่า ในแอปจะบอกโอกาสในการเห็นแสงเหนือจากจุดที่เราอยู่ค่ะ อุ๊ย!!แอบมีเขียวๆก้อนใหญ่มาแต่ไกลเลย ดูมีความหวังอยู่นะคะ555555

หลังจากทานข้าวเสร็จประมาณ 19.00 น. ระหว่างทางเดินกลับห้องพักสังเกตเห็นกลุ่มก้อนขาวๆขุ่นๆบนท้องฟ้า เลยลองเอากล้อง iphone ออกมาถ่าย แสงเหนือมาแล้วค่าา ทริปนี้ mission complete แล้ววววว


อุณภูมิตอนนั้นคือ -22 องศา เราถ่ายรูปกันแบบสู้สุดใจ หนาวมากกกกกค่าาา น้องแสงเหนือมาให้เห็นแบบถ่ายรูปชัดๆอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ
ขอเข้ามาหลบหนาวถ่ายจากใน Igloo กันบ้าง


เช้าวันต่อมา วันนี้ยังอยู่ที่โรงแรมเดิมแต่เปลี่ยนจากนอน Igloo มาเป็นบ้านกระท่อมไม้ Chalet ค่ะ มาเริ่มต้นวันด้วยบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าของโรงแรมกันค่า

หลังจากเติมพลังกันแล้ว ช่วงเช้ายังพอมีเวลาว่างอยู่เลยจะขับรถเข้าเมือง Saariselkä กันค่ะ และภารกิจทุกครั้งก่อนล้อหมุนต้องลงมาขูดกระจกกันก่อน

ในเมืองจะมีร้านคาเฟ่ ร้านของฝากค่ะ มื้อเที่ยงเราขับขึ้นเขาไปร้านอาหาร Kaunispään Huippu Oy ซึ่งเป็นจุดเล่นสกี ร้านของฝากและร้านอาหารค่ะ
เราสั่งสเต็กเนื้อและสเต็กปลาแซลม่อน อาหารรสชาติโอเคค่ะ มื้อนี้ค่าเสียหาย 2,212 บาท


วันนี้กิจกรรมหลักของเราคือ ขับSnowmobile ตอนเวลา 13.00 น. วิธีการจองเหมือนเดิมเลยค่ะ กิจกรรมทั้งหมดสามารถจองล่วงหน้าบนเว็บโรงแรมได้เลย
https://www.kakslauttanen.fi/ ก่อนถึงเวลา 10 นาทีจะมีไกด์มารอรับที่ Lobby และนั่งรถไปทำกิจกรรมค่ะ
ค่าใช้จ่ายของกิจกรรมนี้จะมีให้เลือก 2 แบบ
1. 1คนต่อคัน คนละ 5,500 บาท
2. 2คนต่อคัน ราคา 7,800 บาท (คนละ 3,900 บาท) โดยสามารถสลับกันขับได้ค่ะ
เมื่อขับได้ครึ่งทางเจ้าหน้าที่จะแวะให้ถ่ายรูปค่ะ ช่วงนี้สามารถสลับคนขับได้นะคะ




หลังจากจบกิจกรมมแล้วมาย้ายห้องพักไปกระท่อมไม้กันค่ะ ห้องพักในวันนี้คือ Chalet หมายเลข 3 โดยห้องพักแบบนี้สามารถพักได้สูงสุด 5 คน (จขกท.พัก3คน) มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องครัว และซาวน่าส่วนตัวค่ะ ราคาคืนละ 27,500 บาท (ราคานี้รวมบุฟเฟ่มื้อเช้าและมื้อเย็นสำหรับ 3 คนแบบเดิมเลยค่ะ) ในบ้านพักจะมีเตาผิง หากใครต้องการจุดไฟจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 1,350 บาท เจ้าหน้าที่จะเข้ามาจุดไฟให้ พร้อมมีเชื้อเพลงและฟืนสำหรับเติมเองให้ค่ะ

คืนนี้หิมะตก อากกาศขมุกขมัวมาก แทบจะไม่เห็นแสงเหนือเลยค่ะ ถ่ายติดเขียวๆบ้าง แต่ไม่เห็นเป็นเส้นชัดเจนแบบคืนก่อน
เช้าวันรุ่งขึ้นทานอาหารเช้าที่โรงแรมแบบเดิมเลย วันนี้เรา Check-out และออกเดินทางกลับไปที่ Rovaniemi ใช้เวลาขับ 3 ชม.ค่ะ
ขอจบ Ep.นี้ไว้เท่านี้ก่อนนะคะ กระทู้ต่อไปเป็นการเที่ยวโรงแรมน้ำแข็ง Arctic Snow Hotel and Glass Igloo และ Santa Claus Village ค่าา ฝากติดตามกันด้วยนะคะ
#review ขอวีซ่าท่องเที่ยวประเทศฟินแลนด์ ช่วงโควิดด้วยตัวเอง (ธันวาคม2564) >>
https://ppantip.com/topic/41236537
#review เที่ยวฟินแลนด์ ep.1 Helsinki-Porvoo >>
https://ppantip.com/topic/41312420
[CR] #review เที่ยวฟินแลนด์ ep.2 Rovaniemi @Kakslauttanen Arctic Resort ล่าแสงเหนือ,สุนัขลากเลื่อนHusky Safari,ขับSnowmobile
#review ขอวีซ่าท่องเที่ยวประเทศฟินแลนด์ ช่วงโควิดด้วยตัวเอง (ธันวาคม2564) >> https://ppantip.com/topic/41236537
#review เที่ยวฟินแลนด์ ep.1 Helsinki-Porvoo >> https://ppantip.com/topic/41312420
#review เที่ยวฟินแลนด์ ep.2 Rovaniemi @Kakslauttanen Arctic Resort ล่าแสงเหนือ,สุนัขลากเลื่อนHusky Safari,ขับSnowmobile >> https://ppantip.com/topic/41317360
หลังจากที่เรานั่งรถไฟกลางคืนมาลงที่สถานีรถไฟ Rovaniemi กันแล้ว ก็ไปรับรถที่เช่าไว้กันเลยค่าา ทริปนี่เราเช่า Volkswagen Golf Estate จำนวน 4 วันค่ะ ราคาเช่ารถรวมประกันอยู่ที่ 12,650 บาทค่ะ (เช่าจากเว็บ www.rentalcars.com) วันนี้เราจะออกเดินทางไปที่โรงแรม Kakslauttanen Arctic Resort ใช้เวลาเดินทางจากสถานีรถไฟ Rovaniemi ประมาณ 3 ชม.ค่ะ ช่วงเดือนมกราคมที่จขกท.ไปพระอาทิตย์จะขึ้นเวลา 10.00 น. และตกเวลา 14.30 น. อุณภูมิช่วงกลางวันเฉลี่ยอยู่ที่ -12 ถึง -16 องศา เส้นทางที่ขับวันนี้ถนนขับง่ายค่ะ แต่ต้องรักษาเลนของเราดีๆ เพราะบางช่วงหิมะปกคลุมถนนทำให้ไม่เห็นเส้นแบ่ง ก่อนออกเดินทางขอแวะปั๊มเติมพลังกันก่อน (ปั๊มนี้สะดวกค่ะ อยู่ตรงข้าม Santa Village มีอาหารเช้าแบบนั่งทานด้วย สามารถแวะซื้อของ เข้าห้องน้ำก่อนออกเดินทางได้ค่ะ)
ขอบอกเลยว่าบรรยากาศระหว่างเส้นทางขับรถดีมากกกกกก (ก.ไก้ล้านตัวค่ะ555555 จขกท.พูดว่าสวยได้เปลืองสุดๆ ขับไปชมไปค่ะ)
วันนี้ฟ้าใส อากาศดีค่ะ เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ดีว่าคืนนี้จะมีลุ้นได้เห็นแสงเหนือเลยยยย
เมื่อเดินทางมาถึงรีสอร์ท Kakslauttanen Arctic Resort จะมี 2 ฝั่งค่ะ West Village และ East Village ไปให้ถูกฝั่งนะคะ ตอนจขกท.ไปเป็นช่วงโควิดทำให้รีสอร์ทเปิดบริการแค่ฝั่งเดียว ขับเข้าไปผิดฝั่งร้างเลยค่ะ เจอแต่น้องกวาง 2 ตัวนี้
Kakslauttanen Arctic Resort เป็นอีกหนึ่งที่พักสุดฮิตของที่นี่เลยค่ะ เท่าที่อ่านมาหากไม่มีโควิดจะต้องกันข้ามปีกันเลยที่เดียว รีสอร์ทมีครบเกือบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม ขี่สุนัขลากเลื่อนHusky Safari, ขับSnowmobile, Reindeer Safari หรือนั่งเรือตัดน้ำแข็ง โดยสามารถจองกิจกรรมผ่านทางเว็บไซต์ของโรงแรมได้เลยค่ะ https://www.kakslauttanen.fi/ ส่วนห้องพักจขกท.จองผ่านเว็บAgodaค่ะ เพราะลองเปรียบเทียบราคากันแล้ว Agoda ราคาดีกว่าค่ะ เราพักที่นี่ 2 คืน ห้องพักแต่ละคืนคนละชนิดกันค่ะ
เมื่อมาถึงที่พักตอน 13.00 น. Check-in ไว้ก่อนแต่ยังไม่ได้ขนกระเป๋าเข้าห้องพักค่ะ เพราะมีเล่นกิจกรรม Husky Safari หรือการขี่สุนัขลากเลื่อนตอนเวลา 14.00 น. เลยตัดสินกินมื้อเที่ยงที่โรงแรม เป็นบุฟเฟต์ราคาคนละประมาณ 600 บาท จากนั้นก่อนถึงเวลากิจกรรม 10 นาทีให้มารวมตัวกันที่ Lobby จะมีไกด์มารอรับอยู่ค่ะ ที่พักแห่งนี้มีฟาร์มฮัสกี้เอง เราจึงแค่เดินไปบริเวณฟาร์มสุนัขไม่ต้องนั่งรถค่ะ มาดูเดอะแก๊งของเราวันนี้กันเลยค่าาา
น้องพร้อมออกตัวตลอดเวลาค่ะ เจ้าหน้าที่อธิบายว่าหากเชือกที่มัดหลุดคือน้องไปเลย5555555 ฉะนั้นต้องมัดแน่นๆ
ค่าเล่นกิจกรรม Husky Safari จะมี 2 แบบค่ะ
1. แบบนั่งคนเดียว ราคาคนละประมาณ 7,200 บาท(รวมvat) สารถเลือกได้ว่าจะเป็นคนขับหรือเป็นคนนั่งแล้วให้เจ้าหน้าที่ขับให้
2. แบบนั่งคู่ คนนึงนั่ง คนนึงขับ ราคา 11,000 บาท ตกคนละ 5,500 บาท
ราคานี้รวมชุด Thermal suit และอุปกรณ์กันหนาวต่างๆเรียบร้อยแล้วค่ะ ก่อนเริ่มเจ้าหน้าที่จะมีการสอนวิธีการขับและบังคับสุนัขเวลาเลี้ยวและเบรก รวมถึงสัญญาณมือต่างๆค่ะ
**ไอเท็มสำคัญมากๆของกิจกรรมนี้คือผ้าปิดหน้าหรือที่เรียกกันว่าผ้าบัฟค่ะ จขกท.ใช้ของ Columbia ด้านในจะมี Omni-heat ราคาชิ้นละ 1,590 บาทค่ะ ซื้อจาก Shop Columbia ที่เซนเวิล ถ้าไม่มีคือตุยเย่แน่นอนค่ะ
ยังไม่ทันเริ่มขี่เลย แค่เดินไปปลายผมและคิ้วได้กลายเป็นสีขาวหมดแล้วค่าา555555 มาค่ะ!!เริ่มออกตัวกันเลยเด็กๆ ลุย!!!
น้องออกตัวแรงมากค่ะ พุงแบบฉุดไม่อยู่จริงๆ555555 ระหว่างทางต้องคอยปาดน้ำแข็งที่ขนคิ้วและขนตาตลอดค่ะ ไม่งั้นน้องขนตาบน-ล่างจะติดกันได้
ใช้เวลาขี่ทั้งหมดประมาณ 30 นาที จะวนมาจบที่เดิมค่ะ บอกเลยว่าหนาวมากกกก ลมแรงค่ะ ขนาดจขกท.ใช้แผ่นอุ่นแปะรองเท้าก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ปลายเท้าคือชาไปเลยค่าาา T_T จากนั้นเจ้าหน้าที่จะพาเราไปอบอุ่นร่างกายในกระโจม จะมีกองไฟ ชาผลไม้และคุ้กกี้บริการค่ะ และก่อนจะจบกิจกรรมเจ้าหน้าที่จะพาเราไปดูฟาร์มลูกสุนัข น้องน่ารักมากกกกก (ช่วงเวลานี้พระอาทิตย์กำลังจะตก ท้องฟ้าสีสวยสุดๆ ภาพสดจากกล้องiphone13 ค่ะ)
หลังจากจบกิจกรรม Husky ก็กลับมาขนกระเป๋าเข้าห้องพักกันเลยค่าาา
คืนแรกห้องพักเป็นแบบIglooแก้ว สามารถนอนดูแสงเหนือจากห้องพักได้เลย จะมีระบบสัญญาณเตือนดังหากมีแสงเหนือ ราคาคืนละประมาณ 16,500 บาท โดยราคานี้จะรวมอาหารบุฟเฟ่เช้าและมื้อเย็นเรียบร้อยแล้ว ห้องพักแบบนี้จะไม่มีห้องอาบน้ำส่วนตัวค่ะ (จะมีแค่อ่างล้างมือและโถส้วม) โดยเราสามารถใช้ห้องอาบน้ำและห้องซาวน่าของส่วนกลางได้ จะแบ่งแยกชาย-หญิง เดินไปไม่ไกลมากจากห้องพักค่ะ
มื้อเย็นจะเสิร์ฟเป็นคอร์สค่ะ มี appetizer, main course และ dessert แต่ละวันเมนูอาหารจะไม่เหมือนเดิมค่ะ (ค่าอาหารรวมอยู่ในราคาห้องพักแล้วค่ะ)
ระหว่างทานอาหารจขกท.แอบส่องในแอป My Aurora Forecast & Alerts ตลอดเลยค่า ในแอปจะบอกโอกาสในการเห็นแสงเหนือจากจุดที่เราอยู่ค่ะ อุ๊ย!!แอบมีเขียวๆก้อนใหญ่มาแต่ไกลเลย ดูมีความหวังอยู่นะคะ555555
หลังจากทานข้าวเสร็จประมาณ 19.00 น. ระหว่างทางเดินกลับห้องพักสังเกตเห็นกลุ่มก้อนขาวๆขุ่นๆบนท้องฟ้า เลยลองเอากล้อง iphone ออกมาถ่าย แสงเหนือมาแล้วค่าา ทริปนี้ mission complete แล้ววววว
อุณภูมิตอนนั้นคือ -22 องศา เราถ่ายรูปกันแบบสู้สุดใจ หนาวมากกกกกค่าาา น้องแสงเหนือมาให้เห็นแบบถ่ายรูปชัดๆอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ
ขอเข้ามาหลบหนาวถ่ายจากใน Igloo กันบ้าง
เช้าวันต่อมา วันนี้ยังอยู่ที่โรงแรมเดิมแต่เปลี่ยนจากนอน Igloo มาเป็นบ้านกระท่อมไม้ Chalet ค่ะ มาเริ่มต้นวันด้วยบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าของโรงแรมกันค่า
หลังจากเติมพลังกันแล้ว ช่วงเช้ายังพอมีเวลาว่างอยู่เลยจะขับรถเข้าเมือง Saariselkä กันค่ะ และภารกิจทุกครั้งก่อนล้อหมุนต้องลงมาขูดกระจกกันก่อน
ในเมืองจะมีร้านคาเฟ่ ร้านของฝากค่ะ มื้อเที่ยงเราขับขึ้นเขาไปร้านอาหาร Kaunispään Huippu Oy ซึ่งเป็นจุดเล่นสกี ร้านของฝากและร้านอาหารค่ะ
เราสั่งสเต็กเนื้อและสเต็กปลาแซลม่อน อาหารรสชาติโอเคค่ะ มื้อนี้ค่าเสียหาย 2,212 บาท
วันนี้กิจกรรมหลักของเราคือ ขับSnowmobile ตอนเวลา 13.00 น. วิธีการจองเหมือนเดิมเลยค่ะ กิจกรรมทั้งหมดสามารถจองล่วงหน้าบนเว็บโรงแรมได้เลย https://www.kakslauttanen.fi/ ก่อนถึงเวลา 10 นาทีจะมีไกด์มารอรับที่ Lobby และนั่งรถไปทำกิจกรรมค่ะ
ค่าใช้จ่ายของกิจกรรมนี้จะมีให้เลือก 2 แบบ
1. 1คนต่อคัน คนละ 5,500 บาท
2. 2คนต่อคัน ราคา 7,800 บาท (คนละ 3,900 บาท) โดยสามารถสลับกันขับได้ค่ะ
เมื่อขับได้ครึ่งทางเจ้าหน้าที่จะแวะให้ถ่ายรูปค่ะ ช่วงนี้สามารถสลับคนขับได้นะคะ
หลังจากจบกิจกรมมแล้วมาย้ายห้องพักไปกระท่อมไม้กันค่ะ ห้องพักในวันนี้คือ Chalet หมายเลข 3 โดยห้องพักแบบนี้สามารถพักได้สูงสุด 5 คน (จขกท.พัก3คน) มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องครัว และซาวน่าส่วนตัวค่ะ ราคาคืนละ 27,500 บาท (ราคานี้รวมบุฟเฟ่มื้อเช้าและมื้อเย็นสำหรับ 3 คนแบบเดิมเลยค่ะ) ในบ้านพักจะมีเตาผิง หากใครต้องการจุดไฟจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 1,350 บาท เจ้าหน้าที่จะเข้ามาจุดไฟให้ พร้อมมีเชื้อเพลงและฟืนสำหรับเติมเองให้ค่ะ
คืนนี้หิมะตก อากกาศขมุกขมัวมาก แทบจะไม่เห็นแสงเหนือเลยค่ะ ถ่ายติดเขียวๆบ้าง แต่ไม่เห็นเป็นเส้นชัดเจนแบบคืนก่อน
เช้าวันรุ่งขึ้นทานอาหารเช้าที่โรงแรมแบบเดิมเลย วันนี้เรา Check-out และออกเดินทางกลับไปที่ Rovaniemi ใช้เวลาขับ 3 ชม.ค่ะ
ขอจบ Ep.นี้ไว้เท่านี้ก่อนนะคะ กระทู้ต่อไปเป็นการเที่ยวโรงแรมน้ำแข็ง Arctic Snow Hotel and Glass Igloo และ Santa Claus Village ค่าา ฝากติดตามกันด้วยนะคะ
#review ขอวีซ่าท่องเที่ยวประเทศฟินแลนด์ ช่วงโควิดด้วยตัวเอง (ธันวาคม2564) >> https://ppantip.com/topic/41236537
#review เที่ยวฟินแลนด์ ep.1 Helsinki-Porvoo >> https://ppantip.com/topic/41312420
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้