[CR] รีวิวโครงการทาวน์โฮม สิริ เพลส บางนา - เทพารักษ์ " Dream Destination? "

รีวิวนี้เป็นรีวิวที่เจ้าของกระทู้เข้าอยู่เองจริง จากประสบการณ์จริง



จะมารีวิวหลายทีแล้วยังไม่มีโอกาสซักที เห็นมีคนสนใจโครงการนี้อยู่บ้างเลยอยากจะมาร่วมแชร์ประสบการณ์เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ เพราะบ้านหนึ่งหลังเราจะอยู่กันไปยาว ๆ ฉนั้นเลือกซื้อบ้านทั้งทีก็ต้องมั่นใจว่ามันจะต้องดีจริงและตรงกับความต้องการของเราครับ

ต้องบอกก่อนว่าที่นี่เป็นบ้านหลังแรกของวัยรุ่นสร้างตัวเข้าสู่วัยกลางคนแล้ว ไม่มีประสบการณ์ใด ไม่ได้ปรึกษาใครมากนัก โจทย์มีอยู่ไม่กี่ข้อหนึ่งในนั้นจะต้องเป็นบ้านจากแบรนด์ "แสนสิริ" เท่านั้น ก็นะ..ต้องยอมรับว่าภาพลักษณ์แสนสิริที่ออกมานั้นโดนใจวัยรุ่นจริง ๆ ดูเป็นแบรนด์สมัยใหม่ การออกแบบโครงการต่าง ๆ แตกต่างและไม่เหมือนใครแทบจะทุกโครงการเลยที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และที่สำคัญคือน่าอยู่มาก ฉนั้นจึงพุ่งเป้าไปที่โครงการของแสนสิริเป็นหลักครับ แต่ถามว่าดูแบรนด์อื่นด้วยมั้ย? ดูเช่นกันครับ แต่ชอบแบบแปลนบ้านและบรรยากาศของแสนสิริที่สุด และโครงการที่แตะต้องได้ที่สุดก็คือ "สิริ เพลส หรือ SIRI PLACE" นั่นเอง ทาวน์โฮมที่ออกแบบมาตรงกับไลฟ์สไตล์ผมสุด ๆ เอาล่ะ เท้าความไปเยอะแล้ว มาเริ่มกันจริง ๆ ดีกว่า

1. ทำไมจึงเลือกซื้อที่ สิริ เพลส บางนา - เทพารักษ์ : ต้องบอกว่าโครงการนี้เป็นโครงการแรกสำหรับธีม Dream Destination ในบรรยากาศนิวยอร์ก เอาจริงตอนเห็นโฆษณาก็เฉย ๆ นะ ยังคิดเลยว่าทำไมไม่ออกแบบเป็นสไตล์ของตัวเอง จะมาออกแบบเป็นธีมต่างประเทศทำไมกัน แต่พอมาดูโครงการจริงต้องร้องว้าวเลย เออ..มันดูดีอยู่นะ ไม่ใช่งานก็อปเกรดเอ แต่โครงการทำออกมาได้น่าประทับใจ ตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้าที่จำลองสะพาน Brooklyn มาอลังการณ์มาก

อีกอย่างที่ชอบคือแปลนบ้าน ผมซื้อบ้าน 2 จอด ซึ่งโครงการนี้มีบ้านแค่ 2 แบบเท่านั้นคือ บ้าน 1 จอดพื้นที่ 99 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.2 เมตร กับแบบ 2 จอดพื้นที่ 118 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.7 เมตร คือชั้นล่างจะมีห้องอเนกประสงค์อีก 1 ห้องตรงทางเข้าห้องกับห้องน้ำจะมีทางเข้าหลบเข้าไป มันดูเรียบร้อยไม่ประเจิดประเจ้อดี อันนี้ชอบซึ่งน่าจะเป็นโครการแรกเลยมั้งที่ใช้แปลนนี้ อีกอย่างคือห้องนอนใหญ่ชั้น 2 ความสูง 3.7 เมตรโปร่งดี จะทำชั้นลอยก็ได้แถมความกว้างเท่ากับความกว้างหน้าบ้านเลย 5.7 เมตร แต่ความลึกแคบ วางเตียง 5-6 ฟุตได้เดินผ่านปลายเตียงลำบากอยู่ ถ้าเทียบกับแบรนด์อื่น เช่น L&H กับ SC ในประเภทเดียวกันไม่ว่าจะเป็น Indy ของ L&H หรือ Verve ของ SC Asset ที่ไม่ชอบเพราะเจาะช่องแสงจากห้องนอนใหญ่ให้ส่องมาที่โถงบันได คืออันนี้รับไม่ได้เลยอย่าหาทำ งงคนออกแบบคิดได้ไง ถ้าห้องนอนใหญ่ปิดม่านก็ต้องเปิดไฟอยู่ดี แทนที่จะทำช่องแสงจากหลังคามา เลยไม่เอาสองเจ้านั้น

2. ความเป็นมืออาชีพของพนักงานขาย : ไม่มีเลย ไม่รู้ว่าตอนมาซื้อบ้านผมดูเป็นวัยรุ่นสร้างตัวหรือยังไง เหมือนอารมณ์แบบหนังสั้นเตือนสติในติกต๊อก จริง ๆ แล้วผมคือประธานบริษัท อะไรแบบนั้นมั้ง ฮ่า ๆ ไม่มีความเป็นมืออาชีพเลย ก่อนขายว่าทำผมเสียความรู้สึกไปนิดหน่อยแล้วนะ หลังขายหนักกว่าอีกแต่ก็มี Feedback ไปแล้วและหวังว่าจะปรับปรุงให้ดีขึ้น เพราะมันทำให้ภาพลักษณ์ที่ผมมองแสนสิริเสียไปจริง ๆ แต่เอาเหอะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว หึหึ ตอนเจ้าหน้าที่พาเดินชมโครงการผมยังจำได้เลยว่าเนี่ย อยากให้ที่เป็นที่อยู่สำหรับพักอาศัยจริง ๆ จึงไม่อนุญาตให้เปิดร้านขายของ พอมาอีกทีมีบ้านหน้าคลับเฮาส์เปิดร้านค้าเฉย หมดกันแล้วบรรยากาศนิวยอร์ก 555

3. หลังจากอยู่จริงแล้วโครงสร้างมีปัญหามั้ย? : ผมย้ายมาอยู่ที่นี่จริง ๆ จัง ๆ ก็ครึ่งปีได้แล้ว เรียกโฮมแคร์มาแล้ว 4 รอบ โอเคแหละมันอาจจะมีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง เช่น 3.1 น้ำซึมมาจากฝ้าโรงรถเกิดจากท้อน้ำแอร์ของห้องนอนใหญ่ในผนังแตก(ของบ้านข้าง ๆ แต่ซึมมาฝั่งบ้านผม) ต้องเจาะฝ้า ทีแรกก็หาสาเหตุว่าน้ำซึมมาจากที่ไหน เพราะผมไม่ได้ต่อท่อน้ำแอร์กับท่อนี้แต่ติดตั้งปั้มยิงน้ำออกไปหลังบ้านแทน ซึ่งผมแจ้งเจ้าหน้าที่โฮมแคร์ไปหลายรอบจนผมหงุดหงิดอ่ะเอาดี ๆ เพราะเค้าก็ยังหาว่ามันมาจากแอร์ห้องนอนผม นี่ก็อีกหนึ่งความไม่มืออาชีพของเจ้าหน้าที่โฮมแคร์ แถมช่างปิดฝ้าไม่เรียบเหมือนเดิม ไม่เหมือนที่รับปากเอาไว้ก่อนจะเปิดฝ้าบ้านผม เจ้าหน้าที่โฮมแคร์ก็หายตัวไปแล้ว 55555 หลังจากที่บอกว่าจะมาแก้ให้

อีกเรื่องคือรอยแตกที่ผนังและบนวงกบประตู เจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นรอยแตกของสี ก็มาทาสีให้ใหม่แต่เค้าบอกว่ามันไม่ได้รวมอยู่ในประกันบ้าน เอ้าาา มาอยู่แค่ไม่กี่เดือนเจอสีร้าวไปแล้ว 2-3 จุด ก็โอเคแหละมั้ง ก็บ้านเป็นของเราแล้วนินะ อาจจะเกิดจากสภาพอากาศในบ้านก็เป็นได้หรือว่าคุณภาพไม่ดีกันน้าา น้ำในห้องน้ำชั้นล่างไหลช้ามาก ให้โฮมแคร์มาดู สรุปว่าท่อน้ำมีเศษปูนไปติดอยู่ เป็นอีกเรื่องที่บกพร่องเรื่องการตรวจสอบคุณภาพก่อนส่งมอบให้ลูกค้า

4. นิติบุคคล : ต้องถามก่อนว่ามีหรือไม่มีนิติบุคคลอันไหนดีกว่ากัน ตอบ.. ทั้งคู่ คือนิติบุคคลก็เหมือนผีอ่ะครับ รู้ว่ามีแต่ก็มองไม่เห็น การจัดการปัญหาง่อนแง่นมาก อ่อนด๋อย เช่น ปัญหาโลกแตกของทาวน์โฮมคือเรื่องที่จอดรถ นิติไม่สามารถจัดการกับบ้านที่จอดรถหน้าบ้านได้ สำหรับผมคือถ้าไม่ได้ทำให้ผมเข้า-ออกบ้านลำบากผมก็เฉย ๆ เพราะถ้าคนที่มีจิตสำนึกต่อส่วนรวมคงไม่ต้องรอให้ใครไปบอกหรอกจริงมั้ย อีกอย่างคือการจัดการเรื่องขยะในโครงการค่อนข้างแย่ อาทิตย์นึงมีรถขยะมาเก็บแค่ 2 วันแถมมาไม่ตรงวันอีก ขยะก็วางกองเต็มอยู่หน้าบ้านบางวันขยะก็กระจายเต็มถนนเพราะปล่อยให้หมาจรมาคุ้ยขยะ ปล่อยมาได้ไง

แสนสิริจะมีแอปพลิเคชันชื่อว่า "Sansiri Home" ห่วยแตกมาก แชตคุยกับนิติก็กว่าจะตอบ เวลามีคนมาส่งของต้องสแตมป์เข้าออกระบบก็เตือนช้า จนคนส่งของเข้าและออกไปแล้วถึงขึ้นเตือนมา ไม่สามารถตั้งปฏิเสธคนที่ไม่อยากเจอให้เข้ามาในโครงการได้ คือเวลคัมทุกคนไม่ว่าลูกบ้านจะอยากให้เข้าหรือไม่ ทางแอป AP เค้าพัฒนาไปไหนต่อไหนกันแล้ว อีกอย่างที่ไร้ประโยชน์ที่สุดคือฟังชั่นจองส่วนกลาง จองยากจองเย็นช่วงเวลาที่ไม่มีคนจองแต่ระบบขึ้นมาจองไม่ได้ งงนะ แล้วต้องจองล่วงหน้าวันนึงถ้าลืมก็ไม่ต้องเล่น ถ้าอยากเล่นก็ทักไปถามนิติเอาว่าฟิตเนสหรือสระน้ำว่างมั้ย ปรับปรุงเหอะ อย่าทำแอปแบบขอไปที ขอแค่ให้มี

แค่นี้ก่อน พอหอมปากหอมคอ เดี๋ยวมาต่อใหม่
ชื่อสินค้า:   SIRI PLACE
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่