ถ้าอนาคตถูกกำหนดไว้แล้วเหมือนที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ แล้วทำไมเรายังตกนรกเพียงเพราะเราคือหมากตัวหนึ่ง

สวัสดีครับ ผมสงสัยว่า ถ้าการตรัสรู้มีอยู่จริง นั่นก็แปลว่าทุกๆอย่างบนโลกนั้นได้มีการกำหนดไว้อยู่แล้วโดยไม่ผิดไปแม้แต่ก้าวเดียวหรือเสี้ยววิ เหมือนหนังม้วนนึง เพราะถ้าคน1คนเดินช้ากว่าเสี้ยววิ มันอาจจะส่งผลกระทบต่อหลายๆอย่างบนโลกได้ เช่นกิจกรรมที่เปลี่ยนไปของคนข้างๆ และคนข้างๆก็ส่งผลกระทบต่อๆกันเป็นทอดๆต่อไปเป็นวงกว้าง
.
คำถาม
- ถ้าหากทุกๆกิจกรรมได้มีการกำหนดไว้อยู่แล้ว นั้นก็แปลว่า มันได้กำหนดให้เราทำสิ่งแย่ๆหรือดีๆลงไปในช่วงเวลาอยู่แล้ว ซึ่งจริงๆเรานั้นไม่ได้เป็นคนทำจริงๆ หากแต่ถูกบังคับ นั่นก็แปลว่ามันได้กำหนดให้เราทำกรรมต่างๆไว้เพื่อที่เรานั้นจะได้ตกนรกหรือขึ้นสวรรค์ ไว้อยู่แล้วใช่ไหมครับ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เรานั้นไม่ได้เป็นคนทำ แต่อาจถูกกำหนดให้มีอารมณ์ร่วมในกิจกรรมที่กำหนดไว้แล้วว่าอะไรต้องเกิดบ้าง แปลว่าเรานั้นก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่งและแพะรับบาปของผู้สร้างสิ มันดูค่อนข้างโรคจิตนิดๆที่ถูกกำหนดโดยการสร้างวิญญาณขึ้นมาเพื่อให้ถูกทรมานหรือมีความสุขในนรกหรือสวรรค์
.
หรือผมคิดทฤษฏีผิดทั้งหมดครับ มีใครสามารถสร้างทฤษฏีที่โยงวิทยาศาสตร์, ตัวเลข และหลักของเหตุผลเข้ากับช่วงเวลาได้อย่างลงตัวให้มากกว่านี้ได้ไหมครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ถ้าการตรัสรู้มีอยู่จริง นั่นก็แปลว่าทุกๆอย่างบนโลกนั้นได้มีการกำหนดไว้อยู่แล้วโดยไม่ผิดไปแม้แต่ก้าวเดียวหรือเสี้ยววิ
ข้อความนี้ ไม่ใช่หลักคำสอนในศาสนาพุทธ คำสอนของพระพุทธเจ้าเรื่องหนึ่งคือ ทุกอย่างย่อมเกิตแต่เหตุ จะเห็นว่าขัดแย่งกับความเห็นของ จขกท. ที่ยกมา 100% ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์อันใดที่จะกล่าวต่อไปถึงเรื่องอื่นๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่