เฮ! ส่งออกไทยบวกติดต่อกัน 16 เดือน มิ.ย.65 โต 11.9%
ส่งออกมิ.ย.65 ยังขยายตัวต่อเนื่อง ทำได้มูลค่า 26,553.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 11.9% บวกติดต่อกัน 16 เดือน ส่วนยอดรวม 6 เดือน มีมูลค่า 149,184.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 12.7% เกินไปกว่าเป้าแล้วกว่า 3 เท่าตัว “จุรินทร์”ลั่นเดินหน้าหารายได้เข้าประเทศ เพื่อขับเคลื่อนจีดีพีปีนี้ต่อ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนมิ.ย.2565 ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง มีมูลค่า 26,553.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 11.9% เป็นการขยายตัวเป็นบวกติดต่อกันเป็นเดือนที่ 16 คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 907,286 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.7% ส่วนยอดรวม 6 เดือนของปี 2565 (ม.ค.-มิ.ย.) มีมูลค่า 149,184.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 12.7% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 4,945,248.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.1%
สำหรับปัจจัยที่ทำให้การส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้น มาจากกระทรวงพาณิชย์กับเอกชนร่วมมือในการผลักดันการส่งออกไปยังตลาดต่าง ๆ การใช้ประโยชน์
จาก FTA และ Mini FTA การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในประเทศต่าง ๆ ทำให้มีความต้องการสินค้าไทยเพิ่มขึ้น มีความต้องการสินค้าในกลุ่มอาหารจากทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้สินค้าในกลุ่มเกษตรและอาหารของไทยเพิ่มขึ้น ภาคการผลิตทั่วโลกขยายตัว ทำให้มีความต้องการสินค้าวัตถุดิบจากไทยเพิ่มขึ้น และเงินบาทที่อ่อนค่า ส่งผลให้สินค้าไทยแข่งขันได้ดีขึ้น
ทั้งนี้ การส่งออกในเดือนมิ.ย.2565 สินค้าเกษตร เพิ่มขึ้น 21.7% เช่น ข้าว เพิ่ม 68.2% ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง เพิ่ม 34.6% ลำไยแห้ง เพิ่ม 411.1% เงาะสด เพิ่ม 115.7% ทุเรียนสด เพิ่ม 55.1% ไก่สดแช่เย็นแช่แข็งและแปรรูป เพิ่ม 20.1% ยางพารา เพิ่ม 16.1% สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่ม 28.3% เช่น น้ำตาลทราย เพิ่ม 92.7% อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เพิ่ม 15.3% อาหารสัตว์เลี้ยง เพิ่ม 13.6% และสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่ม 6.7% เช่น อิเล็กทรอนิกส์ เพิ่ม 13.7% เครื่องใช้ไฟฟ้า เพิ่ม 1.3% อัญมณีและเครื่องประดับ เพิ่ม 18.6% เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติก เพิ่ม 7.6% สิ่งทอ เพิ่ม 10% เครื่องจักรและส่วนประกอบ เพิ่ม 10.4% เป็นต้น
ส่วนตลาดส่งออก ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น 10 อันดับ ได้แก่ เอเชียใต้ เพิ่ม 49.5% อาเซียน เพิ่ม 35.6% แคนาดา เพิ่ม 26.2% ตะวันออกกลาง เพิ่ม 24.0% CLMV เพิ่ม 19.5% ลาตินอเมริกา เพิ่ม 17.2% เกาหลีใต้ เพิ่ม 15.7% แอฟริกา เพิ่ม 12.1% สหรัฐฯ เพิ่ม 12.1% และสหราชอาณาจักร เพิ่ม 11.0% เป็นต้น
ทางด้านการค้าชายแดนและผ่านแดนเดือนมิ.ย.2565 มีมูลค่า 160,469 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.86% เป็นการส่งออกมูลค่า 102,242 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.42% และนำเข้า 58,228 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.88% และ 6 เดือน มีมูลค่า 849,292 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.18% เป็นการส่งออกมูลค่า 506,827 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.2% และนำเข้า 342,465 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.27% โดยการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งมาเลเซีย เมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่การค้าผ่านแดนไปยังสิงโปร์ เวียดนาม และจีน ลดลงบ้าง เนื่องจากก่อนหน้านี้ เคยใช้การส่งออกทางบก แต่ปัจจุบัน ผู้ส่งออกหันไปส่งออกทางเรือและทางอากาศเพิ่มขึ้น เพราะค่าระวางเรือถูกลง และตู้คอนเทนเนอร์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
นายจุรินทร์กล่าวว่า ตัวเลขการส่งออกทั้งปี เห็นว่า ยังไม่จำเป็นต้องปรับเป้า แต่จะพยายามผลักดันให้การส่งออกเกินไปกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เหมือนเดิม ซึ่งขณะนี้ผ่านมา 6 เดือน การส่งออกขยาวตัว 12.7% เกินไปกว่าเป้าที่ตั้งไว้ถึง 3 เท่า และจะเดินหน้าเพิ่มรายได้เข้าประเทศต่อไป เพราะการส่งออกเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนอัตราการขยานตัวของเศรษฐกิจไทย แม้ว่าจะมีภาคการท่องเที่ยวเข้ามาเสริม แต่ก็ยังจำเป็นต้องพึ่งพาการส่งออก ซึ่งจะเพิ่มความเข้มข้นในการจัดกิจกรรมส่งเสริมและผลักดันการส่งออกร่วมกับภาคเอกชน และร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาการส่งออกต่อไป
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า การนำเข้าเดือนมิ.ย.2565 มีมูลค่า 28,082.3 เพิ่มขึ้น 24.5% คิดเป็นเงินบาท มีมูลค่า 971,480.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.3% ขาดดุลการค้า 1,529.2 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 64,194.4 ล้านบาท และยอดนำเข้ารวม 6 เดือน มีมูลค่า 155,440.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 21% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 5,223,276.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% ขาดดุลการค้า 6,255.9 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาท 278,028.5 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุที่ทำให้การนำเข้าเพิ่มขึ้น เป็นเพราะไทยมีการนำเข้าน้ำมันเพิ่มขึ้น เฉพาะเดือนมิ.ย.2565 นำเข้าน้ำมันมูลค่ากว่า 4,700 ล้านเหรียญสหรัฐ และยังมีการนำเข้าวัตถุดิบ และเครื่องจักรเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกในอนาคต
https://www.thaipost.net/economy-news/189108/
รัฐบาลมีรายได้เข้าประเทศทางส่งออกเป็นกอบเป็นกำ
ผลการทำงานรัฐบาลสุดยอดเลยค่ะ......
คงจีดีพี 3.5 ได้ฉลุย...
💚มาลาริน💚เรื่องดีมีเฮ ! ส่งออกไทยบวกติดต่อกัน 16 เดือน มิ.ย.65 โต 11.9%
ส่งออกมิ.ย.65 ยังขยายตัวต่อเนื่อง ทำได้มูลค่า 26,553.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 11.9% บวกติดต่อกัน 16 เดือน ส่วนยอดรวม 6 เดือน มีมูลค่า 149,184.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 12.7% เกินไปกว่าเป้าแล้วกว่า 3 เท่าตัว “จุรินทร์”ลั่นเดินหน้าหารายได้เข้าประเทศ เพื่อขับเคลื่อนจีดีพีปีนี้ต่อ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนมิ.ย.2565 ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง มีมูลค่า 26,553.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 11.9% เป็นการขยายตัวเป็นบวกติดต่อกันเป็นเดือนที่ 16 คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 907,286 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.7% ส่วนยอดรวม 6 เดือนของปี 2565 (ม.ค.-มิ.ย.) มีมูลค่า 149,184.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 12.7% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 4,945,248.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.1%
สำหรับปัจจัยที่ทำให้การส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้น มาจากกระทรวงพาณิชย์กับเอกชนร่วมมือในการผลักดันการส่งออกไปยังตลาดต่าง ๆ การใช้ประโยชน์
จาก FTA และ Mini FTA การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในประเทศต่าง ๆ ทำให้มีความต้องการสินค้าไทยเพิ่มขึ้น มีความต้องการสินค้าในกลุ่มอาหารจากทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้สินค้าในกลุ่มเกษตรและอาหารของไทยเพิ่มขึ้น ภาคการผลิตทั่วโลกขยายตัว ทำให้มีความต้องการสินค้าวัตถุดิบจากไทยเพิ่มขึ้น และเงินบาทที่อ่อนค่า ส่งผลให้สินค้าไทยแข่งขันได้ดีขึ้น
ทั้งนี้ การส่งออกในเดือนมิ.ย.2565 สินค้าเกษตร เพิ่มขึ้น 21.7% เช่น ข้าว เพิ่ม 68.2% ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง เพิ่ม 34.6% ลำไยแห้ง เพิ่ม 411.1% เงาะสด เพิ่ม 115.7% ทุเรียนสด เพิ่ม 55.1% ไก่สดแช่เย็นแช่แข็งและแปรรูป เพิ่ม 20.1% ยางพารา เพิ่ม 16.1% สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่ม 28.3% เช่น น้ำตาลทราย เพิ่ม 92.7% อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เพิ่ม 15.3% อาหารสัตว์เลี้ยง เพิ่ม 13.6% และสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่ม 6.7% เช่น อิเล็กทรอนิกส์ เพิ่ม 13.7% เครื่องใช้ไฟฟ้า เพิ่ม 1.3% อัญมณีและเครื่องประดับ เพิ่ม 18.6% เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติก เพิ่ม 7.6% สิ่งทอ เพิ่ม 10% เครื่องจักรและส่วนประกอบ เพิ่ม 10.4% เป็นต้น
ส่วนตลาดส่งออก ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น 10 อันดับ ได้แก่ เอเชียใต้ เพิ่ม 49.5% อาเซียน เพิ่ม 35.6% แคนาดา เพิ่ม 26.2% ตะวันออกกลาง เพิ่ม 24.0% CLMV เพิ่ม 19.5% ลาตินอเมริกา เพิ่ม 17.2% เกาหลีใต้ เพิ่ม 15.7% แอฟริกา เพิ่ม 12.1% สหรัฐฯ เพิ่ม 12.1% และสหราชอาณาจักร เพิ่ม 11.0% เป็นต้น
ทางด้านการค้าชายแดนและผ่านแดนเดือนมิ.ย.2565 มีมูลค่า 160,469 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.86% เป็นการส่งออกมูลค่า 102,242 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.42% และนำเข้า 58,228 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.88% และ 6 เดือน มีมูลค่า 849,292 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.18% เป็นการส่งออกมูลค่า 506,827 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.2% และนำเข้า 342,465 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.27% โดยการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งมาเลเซีย เมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่การค้าผ่านแดนไปยังสิงโปร์ เวียดนาม และจีน ลดลงบ้าง เนื่องจากก่อนหน้านี้ เคยใช้การส่งออกทางบก แต่ปัจจุบัน ผู้ส่งออกหันไปส่งออกทางเรือและทางอากาศเพิ่มขึ้น เพราะค่าระวางเรือถูกลง และตู้คอนเทนเนอร์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
นายจุรินทร์กล่าวว่า ตัวเลขการส่งออกทั้งปี เห็นว่า ยังไม่จำเป็นต้องปรับเป้า แต่จะพยายามผลักดันให้การส่งออกเกินไปกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เหมือนเดิม ซึ่งขณะนี้ผ่านมา 6 เดือน การส่งออกขยาวตัว 12.7% เกินไปกว่าเป้าที่ตั้งไว้ถึง 3 เท่า และจะเดินหน้าเพิ่มรายได้เข้าประเทศต่อไป เพราะการส่งออกเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนอัตราการขยานตัวของเศรษฐกิจไทย แม้ว่าจะมีภาคการท่องเที่ยวเข้ามาเสริม แต่ก็ยังจำเป็นต้องพึ่งพาการส่งออก ซึ่งจะเพิ่มความเข้มข้นในการจัดกิจกรรมส่งเสริมและผลักดันการส่งออกร่วมกับภาคเอกชน และร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาการส่งออกต่อไป
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า การนำเข้าเดือนมิ.ย.2565 มีมูลค่า 28,082.3 เพิ่มขึ้น 24.5% คิดเป็นเงินบาท มีมูลค่า 971,480.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.3% ขาดดุลการค้า 1,529.2 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 64,194.4 ล้านบาท และยอดนำเข้ารวม 6 เดือน มีมูลค่า 155,440.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 21% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 5,223,276.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% ขาดดุลการค้า 6,255.9 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาท 278,028.5 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุที่ทำให้การนำเข้าเพิ่มขึ้น เป็นเพราะไทยมีการนำเข้าน้ำมันเพิ่มขึ้น เฉพาะเดือนมิ.ย.2565 นำเข้าน้ำมันมูลค่ากว่า 4,700 ล้านเหรียญสหรัฐ และยังมีการนำเข้าวัตถุดิบ และเครื่องจักรเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกในอนาคต
https://www.thaipost.net/economy-news/189108/
รัฐบาลมีรายได้เข้าประเทศทางส่งออกเป็นกอบเป็นกำ
ผลการทำงานรัฐบาลสุดยอดเลยค่ะ......
คงจีดีพี 3.5 ได้ฉลุย...