สังคมที่เราอยู่เป็นสังคมต่างจังหวัดค่ะเรากับแม่มักไม่ลงรอยกันเท่าไหร่ แม่เป็นคนจุกจิกจู้จี้ขี้บ่นน่ะค่ะ เลยชอบทะเลาะกันบางครั้งก็เลือกเวลาหรือระดับเสียงทะเลาะกันไม่ได้ แล้วทีนี้ก็มีคนๆหนึ่งอายุน้อยกว่าแม่เราประมาณ4ปีไปโพสเฟซบุ๊ตต่อว่าประมาณว่า เสียงดังนอนไม่หลับถ้าเป็นลูกกูกูจะทำให้มันไปฟื้นที่โรงบาล แล้วพอใครเม้นต์ถามแกก็จะตอบลูกอี***(ชื่อแม่เรา)สงสัยมากว่าทำไมแกไม่มาเตือนหรือมาพูดดีๆก่อน ทำไมต้องไปโพสด่าแบบนั้น ทั้งที่ลูกแกก็ใช่ว่าจะดีครอบครัวแกก็ใช่ว่าจะสมบูรณ์ แค่มาพูดเตือนดีๆเราก็พร้อมจะขอโทษอยู่แล้ว เพราะผิดจริงนั่นมันเวลานอน
ยัง..ยังไม่จบค่ะคนแถวนี้ไม่ใช่แค่เล่นๆชอบนินทาคือที่1 ลูกคนนั้นแย่แบบนั้นแบบนี้ ชอบเอาของคนอื่นไปโดยไม่ขอ มีครั้งหนึ่งเอาบันไดไม้แม่เราไปใช้ โดยที่ไม่มีใครอยู่บ้าน พอแม่เราถามก็บอกว่าจะให้ทำยังไงละมันพังไปแล้ว
มีวันหนึ่งสามีแกเมายามาตามลูกกลับบ้าน(ลูกอยู่บ้านย่าซึ่งติดกับบ้านเรา)เห็นไฟห้องน้ำเราเปิดอยู่ ก็เลยพาลมาด่าเราด้วย บอกว่าบันไดกูไม่ได้ทำพังมันอยู่นากูไม่เชื่อกูจะเอามาเผาให้ดู (แต่เมียแกบอกว่ามันพังนะถ้าไม่พังทำไมไม่เอามาคืน) แล้วก็พูดต่อว่ากูไม่ได้แอบดูอาบน้ำกูแค่ปีนเล้าเฉยๆ (พูดประมาณว่าเราไปใส่ร้ายซึ่งเราไม่เคยพูดแต่ได้ยินแม่เค้าเป็นคนพูดเอง)
ด้วยความกลัววันนั้นเราไม่กล้าอาบน้ำเลย ห้องน้ำเรามีช่องว่างคนปีนเข้ามาได้ พอจบเรื่องพวกนั้นไปปัญหาก็ยังไม่จบแค่นี้
เรื่องต่อไปก็มีอยู่ว่ามีเด็กคนหนึ่งอายุ6-7ขวบ อยากอุ้มลูกสุนัข1เดือนของเรา ทีแรกก็จะไม่ให้อุ้ม เพราะรู้นิสัยชอบทำลายของเด็กคนนี้ดี แต่ก็สงสารชอบมาเกาะรั้วบ้านไม่ไปไหนสักที เลยใจอ่อนให้อุ้มได้ เล่นไปได้สักพักกดหัวลูกสุนัขจุ่มนม เราหันไปเห็นเลยบอกว่าอย่าทำนะเดี๋ยวน้องตาย แต่พอเราเผลอหันไปอีกทีเห็นเด็กคนนั้นปล่อยมือจากลุกสุนัขจนตกลงมา ขาเจ็บร้องเสียงหลงพอน้องชายกลับมาบ้านก็บอกว่าเด็กคนนี้นี่แหละ ที่มาบ้านเมื่อไม่กี่ชม.ก่อนแถมยังจับลูกสุนัขไว้บนเกาอี้แล้วผลักให้มันตก แต่โชคดีไม่เป็นอะไรเพราะไม่สูงมากเราเลยทักไปบอกแม่น้องว่า ให้สอนลูกหน่อยมาทำแบบนี้หนูไม่โอเคนะ แม่น้องส่งแค่อิโมจิเยี่ยมมา ซึ่งทำให้เราสงสัยมากว่าส่งมาทำไม แทนที่จะบอกว่าโอเคๆเดี๋ยวพี่จะบอกจะสอนลูกให้เราเลยโมโหในเมื่อไม่สนใจก็เอาแบบนี้ละกัน เราไปโพสสตอรี่ประมาณว่าขอเรียกเด็กนรกได้ไหมหมาเรากำลังน่ารัก เราก็รักของเราบลาๆ
ปรากฎว่าแม่เด็กซึ่งเป็นตำรวจตม.โทรไปฟ้องยายของเด็กและน้าของเรา ซึ่งน้าของเราก็โทรมาต่อว่าอย่างหนัก ส่วนยายของเด็กก็บุกมาถึงบ้าน ต่อว่าด้วยคำหยาบต่างๆนาๆพอเราเถียงคืนกลับทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาจะทำร้ายร่างกาย จากนั้นเราก็ได้โทรเคลียร์กับแม่ของเด็ก ทีแรกด่ากันกระจาย ทางนั้นก็ไม่เบาไม่มีความเป็นผู้ใหญ่เลยสักนิด แถมยังบอก"กูยอมเสีย500รอกูอยู่บ้านกูจะไปตบ" เป็นตำรวจได้ไงก่อนตบอยู่บ้านอะไรเสีย500 แล้วตำรวจรังแกประชาชนแบบนี้อ๋อ
จบลงด้วยที่เราเป็นฝ่ายใจเย็นคุยดีๆก่อนด่วยซ้ำ เราขอโทษอาจจะใช้คำไม่เหมาะสม ในการบอกว่าให้สอนลูกหน่อย(ไม่รู้เหมือนกันว่าแค่บอกให้สอนลูกมันไม่เหมาะสมอาจจะใช้คำพูดไม่ถูก) และก็ขอโทษในส่วนที่โพสสตอรี่
แต่ฝ่ายนั้นไม่ขอโทษอะไรเลยทั้งเรื่องลูกตัวเอง เรื่องแม่ตัวเองที่บุกมาด่ามาตีถึงบ้าน คิดว่าจบกันด้วยดีแล้ว แต่ก็ไม่ยายของเด็กไปพูดให้เราเสียๆหายๆ ว่าเราเป็นเด็กก้าวร้าวทำร้ายร่างกายแกก่อน ทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่พยานก็มี (น้าข้างบ้านอยู่ด้วย) ข้างๆจัดงานศพทุกคนได้ยินแต่คิดว่าเราทะเลาะกับแม่ ไม่มีใครสนใจ พอป้าคนนั่นไปพูดที่ไหนนะ90%เชื่อแบบนั้น เพราะคนในหมู่บ้านนี้คนแก่ๆ มักเชื่อคนแก่ๆด้วยกัน สมาคมนินทาลูกชาวบ้าน พอเราบอกเราไม่สนใจใครจะพูดอะไร คุณตำรวจตม.ก็บอกว่า ถ้าเธอไม่แคร์ใครเธอจะอยู่ในสังคมยังไง คือเราแคร์นะแต่เลือกแคร์คน ถ้าสังคมที่เราอยู่มันแย่เราจะไปแคร์ทำไมเราก็แค่เปลี่ยนสังคม
ปัญหา1+ปัญหา2+ปัญหา3ที่เล่ามาป้าๆพวกนั้นรวมหัวเป็นพวกเดียวกันแล้วค่ะ เอาเรื่องเราเล่าใส่สีตีไข่ไปทั่ว ทำให้มีป้าคนหนึ่งมาบอกกับแม่เราอีกว่าลูกเธอน่ะนิสัยแย่
ถ้าเป็นลูกฉันนะมันตาย (ป้ารู้เรื่องไรบ้างปะขี้เผือกจริงๆ) เราจะมีวิธีการรับมือกับคนพวกนี้ยังไงบ้างคะ เราอยู่บ้านเฉยๆนะไม่ได้ออกไประรานใครก่อนเลย คนพวกนี้เป็นอะไรกันแต่อีก7-8เดือนเราก็ไปเรียนมหาลัยแล้วละคะ คิดผิดจริงๆที่เลือกซิ่วอยู่บ้านเพราะนอกจากจะปวดหัวกับแม่กับป้าข้างบ้านแล้ว ยังอันตรายสุดๆแถวบ้านมีแต่คนเสพยาขายยา รอบๆบ้านเลย รวมถึงสามีป้าๆพวกนั้นสมาธิอ่านหนังสือยังหายแวบไปเลยตั้งแต่เกิดเรื่องพวกนี้ แต่เราก็ตั้งใจสุดๆเพราะป้าพวกนั้นดูถูกเราไว้ว่า
"คนอย่างนี้น่ะหรอจะสอบติดหมอคนแบบนี้หรออยากสอบติดหมอ
ถ้ามันเป็นหมอนะคงฆ่าคนไข้ตาย"
(ความจริงเราอยากเป็นเภสัชนะแกไปฟังใครมา)
มีวิธีรับมือกับมนุษย์ป้าข้างบ้านยังไงบ้างคะ
ยัง..ยังไม่จบค่ะคนแถวนี้ไม่ใช่แค่เล่นๆชอบนินทาคือที่1 ลูกคนนั้นแย่แบบนั้นแบบนี้ ชอบเอาของคนอื่นไปโดยไม่ขอ มีครั้งหนึ่งเอาบันไดไม้แม่เราไปใช้ โดยที่ไม่มีใครอยู่บ้าน พอแม่เราถามก็บอกว่าจะให้ทำยังไงละมันพังไปแล้ว
มีวันหนึ่งสามีแกเมายามาตามลูกกลับบ้าน(ลูกอยู่บ้านย่าซึ่งติดกับบ้านเรา)เห็นไฟห้องน้ำเราเปิดอยู่ ก็เลยพาลมาด่าเราด้วย บอกว่าบันไดกูไม่ได้ทำพังมันอยู่นากูไม่เชื่อกูจะเอามาเผาให้ดู (แต่เมียแกบอกว่ามันพังนะถ้าไม่พังทำไมไม่เอามาคืน) แล้วก็พูดต่อว่ากูไม่ได้แอบดูอาบน้ำกูแค่ปีนเล้าเฉยๆ (พูดประมาณว่าเราไปใส่ร้ายซึ่งเราไม่เคยพูดแต่ได้ยินแม่เค้าเป็นคนพูดเอง)
ด้วยความกลัววันนั้นเราไม่กล้าอาบน้ำเลย ห้องน้ำเรามีช่องว่างคนปีนเข้ามาได้ พอจบเรื่องพวกนั้นไปปัญหาก็ยังไม่จบแค่นี้
เรื่องต่อไปก็มีอยู่ว่ามีเด็กคนหนึ่งอายุ6-7ขวบ อยากอุ้มลูกสุนัข1เดือนของเรา ทีแรกก็จะไม่ให้อุ้ม เพราะรู้นิสัยชอบทำลายของเด็กคนนี้ดี แต่ก็สงสารชอบมาเกาะรั้วบ้านไม่ไปไหนสักที เลยใจอ่อนให้อุ้มได้ เล่นไปได้สักพักกดหัวลูกสุนัขจุ่มนม เราหันไปเห็นเลยบอกว่าอย่าทำนะเดี๋ยวน้องตาย แต่พอเราเผลอหันไปอีกทีเห็นเด็กคนนั้นปล่อยมือจากลุกสุนัขจนตกลงมา ขาเจ็บร้องเสียงหลงพอน้องชายกลับมาบ้านก็บอกว่าเด็กคนนี้นี่แหละ ที่มาบ้านเมื่อไม่กี่ชม.ก่อนแถมยังจับลูกสุนัขไว้บนเกาอี้แล้วผลักให้มันตก แต่โชคดีไม่เป็นอะไรเพราะไม่สูงมากเราเลยทักไปบอกแม่น้องว่า ให้สอนลูกหน่อยมาทำแบบนี้หนูไม่โอเคนะ แม่น้องส่งแค่อิโมจิเยี่ยมมา ซึ่งทำให้เราสงสัยมากว่าส่งมาทำไม แทนที่จะบอกว่าโอเคๆเดี๋ยวพี่จะบอกจะสอนลูกให้เราเลยโมโหในเมื่อไม่สนใจก็เอาแบบนี้ละกัน เราไปโพสสตอรี่ประมาณว่าขอเรียกเด็กนรกได้ไหมหมาเรากำลังน่ารัก เราก็รักของเราบลาๆ
ปรากฎว่าแม่เด็กซึ่งเป็นตำรวจตม.โทรไปฟ้องยายของเด็กและน้าของเรา ซึ่งน้าของเราก็โทรมาต่อว่าอย่างหนัก ส่วนยายของเด็กก็บุกมาถึงบ้าน ต่อว่าด้วยคำหยาบต่างๆนาๆพอเราเถียงคืนกลับทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาจะทำร้ายร่างกาย จากนั้นเราก็ได้โทรเคลียร์กับแม่ของเด็ก ทีแรกด่ากันกระจาย ทางนั้นก็ไม่เบาไม่มีความเป็นผู้ใหญ่เลยสักนิด แถมยังบอก"กูยอมเสีย500รอกูอยู่บ้านกูจะไปตบ" เป็นตำรวจได้ไงก่อนตบอยู่บ้านอะไรเสีย500 แล้วตำรวจรังแกประชาชนแบบนี้อ๋อ
จบลงด้วยที่เราเป็นฝ่ายใจเย็นคุยดีๆก่อนด่วยซ้ำ เราขอโทษอาจจะใช้คำไม่เหมาะสม ในการบอกว่าให้สอนลูกหน่อย(ไม่รู้เหมือนกันว่าแค่บอกให้สอนลูกมันไม่เหมาะสมอาจจะใช้คำพูดไม่ถูก) และก็ขอโทษในส่วนที่โพสสตอรี่
แต่ฝ่ายนั้นไม่ขอโทษอะไรเลยทั้งเรื่องลูกตัวเอง เรื่องแม่ตัวเองที่บุกมาด่ามาตีถึงบ้าน คิดว่าจบกันด้วยดีแล้ว แต่ก็ไม่ยายของเด็กไปพูดให้เราเสียๆหายๆ ว่าเราเป็นเด็กก้าวร้าวทำร้ายร่างกายแกก่อน ทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่พยานก็มี (น้าข้างบ้านอยู่ด้วย) ข้างๆจัดงานศพทุกคนได้ยินแต่คิดว่าเราทะเลาะกับแม่ ไม่มีใครสนใจ พอป้าคนนั่นไปพูดที่ไหนนะ90%เชื่อแบบนั้น เพราะคนในหมู่บ้านนี้คนแก่ๆ มักเชื่อคนแก่ๆด้วยกัน สมาคมนินทาลูกชาวบ้าน พอเราบอกเราไม่สนใจใครจะพูดอะไร คุณตำรวจตม.ก็บอกว่า ถ้าเธอไม่แคร์ใครเธอจะอยู่ในสังคมยังไง คือเราแคร์นะแต่เลือกแคร์คน ถ้าสังคมที่เราอยู่มันแย่เราจะไปแคร์ทำไมเราก็แค่เปลี่ยนสังคม
ปัญหา1+ปัญหา2+ปัญหา3ที่เล่ามาป้าๆพวกนั้นรวมหัวเป็นพวกเดียวกันแล้วค่ะ เอาเรื่องเราเล่าใส่สีตีไข่ไปทั่ว ทำให้มีป้าคนหนึ่งมาบอกกับแม่เราอีกว่าลูกเธอน่ะนิสัยแย่
ถ้าเป็นลูกฉันนะมันตาย (ป้ารู้เรื่องไรบ้างปะขี้เผือกจริงๆ) เราจะมีวิธีการรับมือกับคนพวกนี้ยังไงบ้างคะ เราอยู่บ้านเฉยๆนะไม่ได้ออกไประรานใครก่อนเลย คนพวกนี้เป็นอะไรกันแต่อีก7-8เดือนเราก็ไปเรียนมหาลัยแล้วละคะ คิดผิดจริงๆที่เลือกซิ่วอยู่บ้านเพราะนอกจากจะปวดหัวกับแม่กับป้าข้างบ้านแล้ว ยังอันตรายสุดๆแถวบ้านมีแต่คนเสพยาขายยา รอบๆบ้านเลย รวมถึงสามีป้าๆพวกนั้นสมาธิอ่านหนังสือยังหายแวบไปเลยตั้งแต่เกิดเรื่องพวกนี้ แต่เราก็ตั้งใจสุดๆเพราะป้าพวกนั้นดูถูกเราไว้ว่า
"คนอย่างนี้น่ะหรอจะสอบติดหมอคนแบบนี้หรออยากสอบติดหมอ
ถ้ามันเป็นหมอนะคงฆ่าคนไข้ตาย"
(ความจริงเราอยากเป็นเภสัชนะแกไปฟังใครมา)