ขอคำแนะนำหน่อยครับ
และขอบคุณทุกความเห็นๆทั้งเป็นที่เป็นบวกและลบแก่ผมทุกๆความเห็น เพื่อที่ผมจะได้นำไปปรับใช้ตามสมควรครับ
โดยปกติผมจะพาสุนัขของผม เดินออกกำลังกาย วันละประมาณ 1-2 ชั่วโมง
เดินเล่นเวลาปกติ เริ่มเดินไวสุด 17.00 จบก่อน 20.30
ถ้าติดธุระช่วงเย็น จะเริ่มเดินไวสุด 5.30 จบก่อน 7.00
ถ้าเป็นไม่ว่างจริงๆจะเดิน แค่30 นาที ในโซนรอบบ้าน ในส่วนที่ไม่มีน้องหมาบ้านอื่นส่งเสี่ยงรบกวนขณะน้องหมาผมเดินมาใกล้ๆบ้านพวกเค้าเพื่อขับถ่าย (เก็บอึทุกครั้ง เก็บเองเกลี้ยงครับ รับประกัน พกถุงไปเป็นสิบใบ)
ผมพกอุปกรณ์สำคัญไปตอนเดินเล่น
- สายจูง และ สายคาดอก
- ถุงเก็บ อึ สุนัข
- กระบอกฉีดน้ำเปล่า และ กระบอกฉีดน้ำสบู่
- กระดาษทิชชู่
- กระบอกน้ำดื่ม
- ขนมล่อซื้อ เพื่อตีสนิทกับน้องหมาบางซอย(บางซอยฝึกให้เงียบได้ บางซอยไม่ผมก็ต้องรีบ อุ้มหนีนะครับ)
โดยจะเดินผ่านราวๆ 10-20 ซอย ร่วมกับ ส่วนสาธารณะ 1-2แห่ง ในแต่ละวัน(เฉลี่ย 2-3กิโลเมตร) โดยพยายามเลี่ยงโซนที่มีสุนัขบ้านอื่นตามทางเห่าเสียงดังแต่บางทีผมก็เจอ กรณีห่าง ประมาณ50-100 เมตร แต่มีสุนัขเห่าสวนออกมาผมก็จะรีบอุ้มสุนัขหนีจากบริเวณนั้น แล้วพยายามอยู่ห่างจากบริเวณนั้นให้มากที่สุดอยู่เป็นประจำ
ระหว่างเดินผมก็ทักทายเด็กๆ และเป็นมิตรกับผู้ที่เข้ามาเล่นกับน้องหมาเสมอนะครับ บางทีก็กลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กไปเลยก็มี
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปัญหามีที่ผมเจอและค้างคาใจมาก ปัญหานี้เป็นปัญหาจากการเดินผ่าน ซอยๆหนึ่ง จากจำนวน 20 ซอย
ต้องบอกก่อนว่าซอยนี้มีน้องหมาน้องแมวเยอะมากๆ แต่เท่าที่ผมดู และพบคือ เค้าไม่ได้เลี้ยงปล่อย ด้วยความที่ซอยนี้มีน้องหมาน้องแมวเยอะมากๆ จึงทำให้น้องหมา-แมวจร จากที่อื่นๆ และ น้องหมา-แมว ที่ถูกเจ้าของปล่อยช่วงดึกๆ ปล่อยออกมาเลยมักจะมาผ่านซอยนี้อยู่บ่อยๆ
ช่วงแรกๆ #1 เมื่อผมนำสุนัขเดินผ่านซอยนึง ซึ่งซอยนี้มีน้องหมาน้องแมวในซอยเยอะมากๆ ซึ่งในซอยนั้นบ้านหลังหนึ่งเค้า มีคุณป้าท่านนึงมักจะทัก แล้วเล่าประสบปัญหา กลิ่นขี้ กลิ่นเยี่ยว หมา แมว ที่บางบ้านในซอยหรือซอยอื่นๆปล่อยออกมา ฉี่-อึ แถวนี้ให้ผมฟัง
ผมก็บอกเค้าว่าสบายใจได้เลยครับ ผมดูแลพฤติกรรมน้องหมาของผมเป็นอย่างดี ไม่ปล่อยให้เยี่ยว-อึบริเวณสุ่มเสี่ยงส่งกลิ่นเหม็น ถ้าผิดพลาดอะไร ผมจะเก็บให้เรียบร้อยเสมอครับ ซึ่งผมก็รับผิดชอบส่วนนี้มาด้วยดีตลอด โดย ผมจะไม่ให้สุนัขของผมขับถ่ายบริเวณใกล้ๆบ้านเค้าเลย
ช่วงต่อมา #2 เมื่อผมผ่านเปลี่ยนเป็นคุณยายในบ้านหลังนั้นออกมาดุและต่อว่าผม โดยการดุเสียงแข็งใส่ห้ามเอาหมามาขี้เยี่ยวบ้านยายนะ ทั้งที่ผมแค่เดินผ่าน ผมก็กล่าวขอโทษด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อมตามปกติ แล้วก็อธิบายไปว่าที่น้องหมาน้องแมวมาอึมาเยี่ยว น่าจะเป็นของบ้านอื่นในซอย หรือ จากซอยอื่น จริงๆเท่าที่ผมทราบมามีจากที่ไกลๆมากๆ เขาชอบปล่อยมาเดินขี้เยี่ยว มั่วไปหมด ซึ่งผมรับรองได้ว่าไม่ใช่ผมแน่ๆครับ แล้วคุณยายเขาก็ทำหน้าโกรธแล้วพยายามจะดุผม แล้วก็มีป้าคนที่บ่นให้ผมฟังบ่อยๆช่วงแรกๆ ออกมารับหน้าให้แล้วช่วยยืนยันว่าผมไม่ได้ปล่อยน้องหมามาฉี่-อึ
ช่วงล่าสุดที่ถูกข่มขู่ #3 เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา ผมถูกคุณป้าบ้านหลังนั้น บอกว่าอย่าพาน้องหมามาเดินเล่นผ่านซอยนี้ได้ไหม ผมตอบว่าคงจะไม่ได้เพราะผมเดินผ่านแทบทุกซอยโดยสุ่มตามความสนใจน้องหมา ผมเลยถามต่อว่าว่าน้องหมาของผมสร้างเสียงรบกวน หรือทำอะไรรบกวนหรือเปล่าครับ คุณป้าก็บอกว่าเนี่ยรู้ไหม ว่าแถวนี้ต่อหน้าเค้าไม่มีใครสงสัยผมก็จริง แต่ลับเค้าคุยกันลับหลังว่าน้องหมาของผมแอบมาขี้มาเยี่ยว() ฉันต้องเสียเวลามานั่งเก็บขี้เก็บเยี่ยวน้องหมาน้องแมว ต้องมาเสียเงินค่าน้ำยาดับกลิ่นตั่งเท่าไหร่ ผมก็เลยบอกเค้าว่า เอิ่มถ้าแบบนั้นผมว่าคุณป้าควรจะติดกล้องเมื่อเก็บภาพน้องหมาน้องแมวที่เป็นต้นเหตุนะครับ จะได้แก้ปัญหาตรงจุด เพราะผมไม่ได้เป็นผู้ก่อปัญหานี้เลย แล้วเค้าก็โมโหต่อว่าผมว่าชอบเถียง เถียงเก่ง แล้วก็บ่นต่างๆนาๆ ว่าจะวางยาเบื่อ จะเตะหมา เตะแมว ตีหมา ตีแมว ผมก็เลยเตือนคุณป้าว่าถ้าจะทำขนาดนั้นผมว่าแจ้งเทศบาลหรือหน่วยงานท้องที่มาแก้ปัญหานี้เลยดีกว่าครับ อย่าเสี่ยงแก้ผิดด้วยตัวเองเพราะมันมีกฏหมายเอาผิดอยู่นะครับ คุณป้าก็เถียงเสียงแข็งกลับมาว่าใช่สิหมาแมวมันใหญ่กว่าคนไปแล้ว ผมก็เลยบอกว่าที่คุณป้าบอกมามันไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่ากับการทำร้ายหรือการเอาชีวิตสัตว์เลยนะครับ แล้วผมก็รีบเดินผ่านไป
-----------------------------------------------------------------------------
หลังจากเหตุการณ์นั้นผมก็เดินต่อไป
ผมสังเกตุว่าหลายๆบ้าน ในซอยนั้นวันนี้ เก็บหมาเก็บแมวเป็นพิเศษ แล้วก็ได้เดินมาแถวๆโซนร้านค้าหน้าปากซอยนั้น และมีกลุ่มคนที่ชอบสังสรรค์และชอบเล่นกับน้องหมาของผมเป็นประจำ เค้าเห็นเค้าก็เลยเล่าให้ผมฟังว่าบ้านหลังนั้นชอบมีปัญหาทะเลาะกับบ้านอื่น บ้างก็เสี้ยมให้บ้านอื่นๆเกลียดทะเลาะกัน ต่อมาเดินไปเจอคุณป้าท่านที่เลี้ยงหมาใกล้ๆบ้านนั้นเค้าเก็บหมาไปไว้อีกบ้านนึงในซอยอื่นแต่ผมก็ไม่ได้ถามซอกแซกอะไร โดยรวมผมคิดว่าน่าจะมีปัญหากันกับบ้านหลังนี้
นอกจากนั้นบ้านหลังนั้นยังมีปัญหาที่ผมพบเห็นด้วยตัวเอง ทุกวันที่ผมเดินผ่าน เช่น เค้าเอาที่สาธารณะส่วนร่วมมาเป็นของตัวเอง เช่น เอาที่จอดรถและฟุตบาตรหน้าบ้านต่อเติมเป็นที่อยู่อาศัยเต็มตัวแล้วใช้พื้นที่ว่างหนีไฟเป็นที่จอดรถของตัวเอง
-----------------------------------------------------------------------------
วันต่อๆไป
ตอนนี้ผมก็ควรฝืนใจน้องหมาหน่อย โดยการเลี่ยงไปเดินใกล้ๆบ้านของเค้า อาจจะผ่านซอยนั้นแค่ส่วนที่เป็นมิตร แล้วเดินอ้อมซอยข้างๆเพื่อเลี่ยงบ้านหลังนั้นไปก่อน จนกว่าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นมิตรกับผมมาพูดให้ความสบายใจแก่ผมครับ
ผมพาสุนัขเดินเล่นทุกวัน แล้วพบเจอคนพูดจาว่าร้ายและข่มขู่วางยาเบื่อหรือเตะสุนัขให้ผมฟัง ทำอย่างไรดี
และขอบคุณทุกความเห็นๆทั้งเป็นที่เป็นบวกและลบแก่ผมทุกๆความเห็น เพื่อที่ผมจะได้นำไปปรับใช้ตามสมควรครับ
โดยปกติผมจะพาสุนัขของผม เดินออกกำลังกาย วันละประมาณ 1-2 ชั่วโมง
เดินเล่นเวลาปกติ เริ่มเดินไวสุด 17.00 จบก่อน 20.30
ถ้าติดธุระช่วงเย็น จะเริ่มเดินไวสุด 5.30 จบก่อน 7.00
ถ้าเป็นไม่ว่างจริงๆจะเดิน แค่30 นาที ในโซนรอบบ้าน ในส่วนที่ไม่มีน้องหมาบ้านอื่นส่งเสี่ยงรบกวนขณะน้องหมาผมเดินมาใกล้ๆบ้านพวกเค้าเพื่อขับถ่าย (เก็บอึทุกครั้ง เก็บเองเกลี้ยงครับ รับประกัน พกถุงไปเป็นสิบใบ)
ผมพกอุปกรณ์สำคัญไปตอนเดินเล่น
- สายจูง และ สายคาดอก
- ถุงเก็บ อึ สุนัข
- กระบอกฉีดน้ำเปล่า และ กระบอกฉีดน้ำสบู่
- กระดาษทิชชู่
- กระบอกน้ำดื่ม
- ขนมล่อซื้อ เพื่อตีสนิทกับน้องหมาบางซอย(บางซอยฝึกให้เงียบได้ บางซอยไม่ผมก็ต้องรีบ อุ้มหนีนะครับ)
โดยจะเดินผ่านราวๆ 10-20 ซอย ร่วมกับ ส่วนสาธารณะ 1-2แห่ง ในแต่ละวัน(เฉลี่ย 2-3กิโลเมตร) โดยพยายามเลี่ยงโซนที่มีสุนัขบ้านอื่นตามทางเห่าเสียงดังแต่บางทีผมก็เจอ กรณีห่าง ประมาณ50-100 เมตร แต่มีสุนัขเห่าสวนออกมาผมก็จะรีบอุ้มสุนัขหนีจากบริเวณนั้น แล้วพยายามอยู่ห่างจากบริเวณนั้นให้มากที่สุดอยู่เป็นประจำ
ระหว่างเดินผมก็ทักทายเด็กๆ และเป็นมิตรกับผู้ที่เข้ามาเล่นกับน้องหมาเสมอนะครับ บางทีก็กลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กไปเลยก็มี
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปัญหามีที่ผมเจอและค้างคาใจมาก ปัญหานี้เป็นปัญหาจากการเดินผ่าน ซอยๆหนึ่ง จากจำนวน 20 ซอย
ต้องบอกก่อนว่าซอยนี้มีน้องหมาน้องแมวเยอะมากๆ แต่เท่าที่ผมดู และพบคือ เค้าไม่ได้เลี้ยงปล่อย ด้วยความที่ซอยนี้มีน้องหมาน้องแมวเยอะมากๆ จึงทำให้น้องหมา-แมวจร จากที่อื่นๆ และ น้องหมา-แมว ที่ถูกเจ้าของปล่อยช่วงดึกๆ ปล่อยออกมาเลยมักจะมาผ่านซอยนี้อยู่บ่อยๆ
ช่วงแรกๆ #1 เมื่อผมนำสุนัขเดินผ่านซอยนึง ซึ่งซอยนี้มีน้องหมาน้องแมวในซอยเยอะมากๆ ซึ่งในซอยนั้นบ้านหลังหนึ่งเค้า มีคุณป้าท่านนึงมักจะทัก แล้วเล่าประสบปัญหา กลิ่นขี้ กลิ่นเยี่ยว หมา แมว ที่บางบ้านในซอยหรือซอยอื่นๆปล่อยออกมา ฉี่-อึ แถวนี้ให้ผมฟัง
ผมก็บอกเค้าว่าสบายใจได้เลยครับ ผมดูแลพฤติกรรมน้องหมาของผมเป็นอย่างดี ไม่ปล่อยให้เยี่ยว-อึบริเวณสุ่มเสี่ยงส่งกลิ่นเหม็น ถ้าผิดพลาดอะไร ผมจะเก็บให้เรียบร้อยเสมอครับ ซึ่งผมก็รับผิดชอบส่วนนี้มาด้วยดีตลอด โดย ผมจะไม่ให้สุนัขของผมขับถ่ายบริเวณใกล้ๆบ้านเค้าเลย
ช่วงต่อมา #2 เมื่อผมผ่านเปลี่ยนเป็นคุณยายในบ้านหลังนั้นออกมาดุและต่อว่าผม โดยการดุเสียงแข็งใส่ห้ามเอาหมามาขี้เยี่ยวบ้านยายนะ ทั้งที่ผมแค่เดินผ่าน ผมก็กล่าวขอโทษด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อมตามปกติ แล้วก็อธิบายไปว่าที่น้องหมาน้องแมวมาอึมาเยี่ยว น่าจะเป็นของบ้านอื่นในซอย หรือ จากซอยอื่น จริงๆเท่าที่ผมทราบมามีจากที่ไกลๆมากๆ เขาชอบปล่อยมาเดินขี้เยี่ยว มั่วไปหมด ซึ่งผมรับรองได้ว่าไม่ใช่ผมแน่ๆครับ แล้วคุณยายเขาก็ทำหน้าโกรธแล้วพยายามจะดุผม แล้วก็มีป้าคนที่บ่นให้ผมฟังบ่อยๆช่วงแรกๆ ออกมารับหน้าให้แล้วช่วยยืนยันว่าผมไม่ได้ปล่อยน้องหมามาฉี่-อึ
ช่วงล่าสุดที่ถูกข่มขู่ #3 เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา ผมถูกคุณป้าบ้านหลังนั้น บอกว่าอย่าพาน้องหมามาเดินเล่นผ่านซอยนี้ได้ไหม ผมตอบว่าคงจะไม่ได้เพราะผมเดินผ่านแทบทุกซอยโดยสุ่มตามความสนใจน้องหมา ผมเลยถามต่อว่าว่าน้องหมาของผมสร้างเสียงรบกวน หรือทำอะไรรบกวนหรือเปล่าครับ คุณป้าก็บอกว่าเนี่ยรู้ไหม ว่าแถวนี้ต่อหน้าเค้าไม่มีใครสงสัยผมก็จริง แต่ลับเค้าคุยกันลับหลังว่าน้องหมาของผมแอบมาขี้มาเยี่ยว() ฉันต้องเสียเวลามานั่งเก็บขี้เก็บเยี่ยวน้องหมาน้องแมว ต้องมาเสียเงินค่าน้ำยาดับกลิ่นตั่งเท่าไหร่ ผมก็เลยบอกเค้าว่า เอิ่มถ้าแบบนั้นผมว่าคุณป้าควรจะติดกล้องเมื่อเก็บภาพน้องหมาน้องแมวที่เป็นต้นเหตุนะครับ จะได้แก้ปัญหาตรงจุด เพราะผมไม่ได้เป็นผู้ก่อปัญหานี้เลย แล้วเค้าก็โมโหต่อว่าผมว่าชอบเถียง เถียงเก่ง แล้วก็บ่นต่างๆนาๆ ว่าจะวางยาเบื่อ จะเตะหมา เตะแมว ตีหมา ตีแมว ผมก็เลยเตือนคุณป้าว่าถ้าจะทำขนาดนั้นผมว่าแจ้งเทศบาลหรือหน่วยงานท้องที่มาแก้ปัญหานี้เลยดีกว่าครับ อย่าเสี่ยงแก้ผิดด้วยตัวเองเพราะมันมีกฏหมายเอาผิดอยู่นะครับ คุณป้าก็เถียงเสียงแข็งกลับมาว่าใช่สิหมาแมวมันใหญ่กว่าคนไปแล้ว ผมก็เลยบอกว่าที่คุณป้าบอกมามันไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่ากับการทำร้ายหรือการเอาชีวิตสัตว์เลยนะครับ แล้วผมก็รีบเดินผ่านไป
-----------------------------------------------------------------------------
หลังจากเหตุการณ์นั้นผมก็เดินต่อไป
ผมสังเกตุว่าหลายๆบ้าน ในซอยนั้นวันนี้ เก็บหมาเก็บแมวเป็นพิเศษ แล้วก็ได้เดินมาแถวๆโซนร้านค้าหน้าปากซอยนั้น และมีกลุ่มคนที่ชอบสังสรรค์และชอบเล่นกับน้องหมาของผมเป็นประจำ เค้าเห็นเค้าก็เลยเล่าให้ผมฟังว่าบ้านหลังนั้นชอบมีปัญหาทะเลาะกับบ้านอื่น บ้างก็เสี้ยมให้บ้านอื่นๆเกลียดทะเลาะกัน ต่อมาเดินไปเจอคุณป้าท่านที่เลี้ยงหมาใกล้ๆบ้านนั้นเค้าเก็บหมาไปไว้อีกบ้านนึงในซอยอื่นแต่ผมก็ไม่ได้ถามซอกแซกอะไร โดยรวมผมคิดว่าน่าจะมีปัญหากันกับบ้านหลังนี้
นอกจากนั้นบ้านหลังนั้นยังมีปัญหาที่ผมพบเห็นด้วยตัวเอง ทุกวันที่ผมเดินผ่าน เช่น เค้าเอาที่สาธารณะส่วนร่วมมาเป็นของตัวเอง เช่น เอาที่จอดรถและฟุตบาตรหน้าบ้านต่อเติมเป็นที่อยู่อาศัยเต็มตัวแล้วใช้พื้นที่ว่างหนีไฟเป็นที่จอดรถของตัวเอง
-----------------------------------------------------------------------------
วันต่อๆไป
ตอนนี้ผมก็ควรฝืนใจน้องหมาหน่อย โดยการเลี่ยงไปเดินใกล้ๆบ้านของเค้า อาจจะผ่านซอยนั้นแค่ส่วนที่เป็นมิตร แล้วเดินอ้อมซอยข้างๆเพื่อเลี่ยงบ้านหลังนั้นไปก่อน จนกว่าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นมิตรกับผมมาพูดให้ความสบายใจแก่ผมครับ