ล่วงเข้าช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 วงการบันเทิงไทยต้องขาดบุคคลสำคัญไปอย่างน้อย 3 ราย คิดเป็นสัปดาห์ละราย
เริ่มจากคนดีศรีกระบี่ "อิ๋งอิ๋ง-สิทธิณี กิตติสิทโธ" พิธีกรและเจ้าของรายการมากมายที่มีการแต่งตัวเป็นเอกลักษณ์
สัปดาห์ถัดมา วงการตลกต้องขาด "โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม" ชายหัวโล้นที่รับใช้เสียงหัวเราะมายาวนานกว่า 3 ทศวรรษ
และล่าสุด...เหล่าชาวสีม่วงต้องขาด "ซันนี่ ยู-โฟร์" อดีตนักร้องบอยแบนด์จากค่ายคีตาที่พักหลังทำหน้าที่เป็นหมอดู
ข่าวการจบชีวิตของซันนี่กำลังเป็นที่สนใจของบรรดาแฟนคลับที่ติดตามการทำงานของเธอมาตั้งแต่เริ่มเข้าวงการ
จากภาพหนุ่มหล่อร่างใหญ่กลายมาเป็นหนุ่มสวยนิสัยจริตจะก้าน ทว่าความศรัทธาของคนทั่วไปก็มิได้ลดเลือนหายเลย
เรียกว่าในบรรดาสมาชิกวงคงมีเพียงซันนี่ที่ยังมั่นคงในวงการบันเทิง ขณะที่เพื่อนร่วมวงต่างแยกย้ายไปทำธุรกิจส่วนตัว
ยังจำได้ว่า ภายหลังโปรโมทเทปชุดแรกของวงได้ไม่นาน หนึ่งสมาชิกดั้งเดิมคือ "เบียร์" ต้องประสบอุบัติเหตุจนถึงแก่ความตาย
ทำให้ยู-โฟร์ เร่งหาสมาชิกใหม่ทดแทน ในที่สุดก็คว้า "จิมมี่" มาร่วมวงได้สำเร็จ ผลงานชุดที่ 2 จึงเป็นที่นิยมชมชอบไม่แพ้ชุดแรก
ชุดที่ 3 จึงตามมา แต่เป็นการหยิบเพลงจากนักร้องคนอื่นมาทำดนตรีใหม่ในแบบฟังสบาย ผลก็พลอยขายได้สบาย ๆ ตาม ๆ กัน
จากนั้น "ยู-โฟร์" ก็เป็นอันยุติบทบาทผู้สร้างเสียงสวรรค์เพียงระยะสั้น ๆ แม้จะมีการกลับมารวมตัวบนเวทีคอนเสิร์ตไว้แก้คิดถึงเป็นบางครั้ง
เราเชื่อว่าสักวันหนึ่งคงไม่มีโอกาสได้เห็นการรวมตัวของคนที่เหลืออยู่ ก็เพราะในเมื่อไม่มี "ซันนี่" ก็ไม่มี "ยู-โฟร์" ให้ได้ชมได้ฟังกันเคลิ้ม ๆ
เพราะ "ซันนี่" ถือเป็นพระเอก(...หรือว่านางเอก)ของวง เป็นเสาหลัก และเป็นที่รักของคนอื่น ๆ ที่เคยใกล้ชิด
คิดถึงเสมอนะ...จากคนรักเพลง สวัสดี.
อวสาน "ซันนี่" อวสาน "ยู-โฟร์" !!!