ยางรถ หน้าแคบ หน้ากว้าง มีผลกับระยะเบรคมั้ย

สมมติว่ายางทั้ง 2 แบบมีน้ำหนักที่เท่ากัน
จากสมการที่เกี่ยวข้องกับแรงเสียดทาน
    f = µN
คือผมก็เห็นอยู่นะ ปัจจัยที่ส่งผลกับแรงเสียดทาน มีเฉพาะสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานและน้ำหนัก เท่านั้น
ดังนั้นก็เหมือนกับว่า ยางหน้ากว้าง หน้าแคบ ไม่มีผลกับระยะเบรคเลย (ถ้าไม่คิดเรื่องน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นสัดส่วนเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับน้ำหนักรถ)

มันมีวิธีพิสูจน์/ทดสอบง่าย ๆ มั้ยครับ ว่าพื้นที่ผิวสัมผัสไม่เกี่ยวกับแรงเสียดทนที่เกิดขึ้น อาจจะทดสอบกับสิ่งอื่นก็ได้ ที่ไม่ใช่รถ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 17
น่าจะได้คำตอบแล้วนะครับ คือ หน้ายางกว้างขึ้น ทำให้ระยะเบรคสั้นลงได้จริง ๆ

ปัจจัยที่ไม่ได้พูดถึงในสมการ (ซึ่งทำให้ผมงงและมาตั้งคำถาม) นั่นคือ ค่าความร้อนที่เกิดขึ้นจากผิวสัมผัสของยางกับถนน เพราะการเสียดสีของยางกับถนน ยิ่งมีพื้นผิวสัมผัสเยอะ ทำให้เกิดความร้อนขึ้นเยอะ ความร้อนสูง ทำให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเปลี่ยนไป (ยางนิ่มขึ้น) เลยทำให้ระยะเบรคลดลงได้

ในเรื่องนี้ เราสามารถยกตัวอย่างจากของจริงได้ เช่น การแข่งขันรถ F1 ที่จะต้องมีผ้าห่อยางเพื่อให้ยางอุ่น และมีรอบวอร์มก่อนเริ่มแข่งจริง ก็จะเห็นบางคันที่ขับซิกแซกไปมา นั่นเป็นเพราะต้องการเพิ่มความร้อนให้กับยางและทำให้ยางเกาะถนนได้มากกว่าเดิม และเพื่อนผมที่บ้ารถมาก ๆ เขาได้บอกไว้ว่า ยางรถ F1 นั้น เอามาใส่กับรถธรรมดาไม่ได้ เพราะรถธรรมดาความเร็วไม่ถึง ความร้อนไม่ถึง และยางจะแข็งกว่าปกติ จึงต้องใช้กับ F1 ที่ความร้อนสูง

คลิปที่แสดงให้เห็นว่า พื้นที่ผิวสัมผัสไม่เกี่ยวข้องกับแรงเสียดทาน
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

คลิปกดสอบการเบรค ที่ได้ผลการทดสอบว่า ยางกว้างกว่า เบรคได้สั้นกว่าจริง ๆ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

คำอธิบายในเชิงวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องนี้
http://www.datsuns.com/tech/tech_tires-2.htm?fbclid=IwAR335X0Ku0vv220OtVHSZDVInlESJmhzElAt515aeyJGojBTvvNwCuHpqzc
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่