ความมืด เป็นพื้นฐานของจักรวาล
ความทุกข์ เป็นพื้นฐานของ(สรรพ)ชีวิต
มีแต่เรื่องจริง ของจริงทั้งนั้น ที่ท่านนำมาสอน นำมาบอกแก่พวกเรา
อิทัปปัจจยตา, ปฏิจจสมุปบาท, พละ ๕, อิทธิบาท ๔, ขันธ์ ๕, กฎไตรลักษณ์
บางท่านอาจจะแย้ง ว่า....ผมเกิดไม่ทันพุทธกาล แล้วจะไปรู้ได้ยังไงว่าพุทธองค์คือผู้ที่ตรัสสอนเรื่องต่างๆเหล่านี้?
ถ้าใครถามมาแบบนี้ ผมขอตอบเลยครับว่า ผู้ที่เอาเรื่องพวกนี้มาสอน มาบอกแก่พวกเราชาวพุทธนั้น จริงๆผมไม่ทราบหรอกว่าท่านผู้นั้นคือใคร
แต่ไม่ว่าท่านผู้นั้นจะเป็นใครก็ตาม เอาที่แน่ๆคือ เขาผู้นั้นต้องมีปัญญาอย่างยวดยิ่ง ระดับที่ผมจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน ขนาดอัลเบิร์ต ไแน์สไตน์ ยังทึ่งได้ละกัน
และหากบุคคลผู้นั้นคือ....องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จริงๆละก็ ก็สมแล้วที่พระองค์ท่านจะได้รับการขนานนามว่าเป็น "พระปัญญาธิกะพุทธเจ้า"
++ เดิม ผมเคยคิดว่าตัวผมมันช่างโชคร้ายนัก อุตส่าห์ดิ้นรนแทบเป็นแทบตาย เพราะความหวังอยากเป็นหมอ แต่กลับต้องออกจากการเรียนตอนชั้นปีสุดท้าย เพราะโดนโรคร้ายเล่นงานจนกลับกลายเป็นคนพิการ กลายเป็นผู้ป่วยจิตเวช กลายเป็นคนบ้าใบ้ หาที่ซุกหัวนอนไปวันๆ จนอายุจะ 50 อยู่รอมร่แล้ว
แต่พอมาคิดอีกที นี่เราโชคดีขนาดไหนเนี่ย ที่....
1) ได้เกิดเป็นมนุษย์ เพราะมีแค่ภูมิมนุษย์เท่านั้น ที่สามารถสำเร็จธรรมได้
2) ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา ซึ่งถือว่าเป็นศาสนาที่มีศาสนิกไม่มาก เมื่อเทียบกับศาสนาอื่นบางศาสนา
3) ได้เกิดมาด้วยอาการครบ 32
4) เกิดมาพร้อมกับมีภูมิปัญญาพอที่จะสามารถเห็นพระพุทธเจ้าได้
// นี่ตกลง ผมโขคดีหรือโชคร้ายกันแน่ครับ?
ยิ่งรู้ ยิ่งเห็น จะ...ยิ่งอี้ง ยิ่งทึ่ง ใน...พระปัญญาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ความทุกข์ เป็นพื้นฐานของ(สรรพ)ชีวิต
มีแต่เรื่องจริง ของจริงทั้งนั้น ที่ท่านนำมาสอน นำมาบอกแก่พวกเรา
อิทัปปัจจยตา, ปฏิจจสมุปบาท, พละ ๕, อิทธิบาท ๔, ขันธ์ ๕, กฎไตรลักษณ์
บางท่านอาจจะแย้ง ว่า....ผมเกิดไม่ทันพุทธกาล แล้วจะไปรู้ได้ยังไงว่าพุทธองค์คือผู้ที่ตรัสสอนเรื่องต่างๆเหล่านี้?
ถ้าใครถามมาแบบนี้ ผมขอตอบเลยครับว่า ผู้ที่เอาเรื่องพวกนี้มาสอน มาบอกแก่พวกเราชาวพุทธนั้น จริงๆผมไม่ทราบหรอกว่าท่านผู้นั้นคือใคร
แต่ไม่ว่าท่านผู้นั้นจะเป็นใครก็ตาม เอาที่แน่ๆคือ เขาผู้นั้นต้องมีปัญญาอย่างยวดยิ่ง ระดับที่ผมจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน ขนาดอัลเบิร์ต ไแน์สไตน์ ยังทึ่งได้ละกัน
และหากบุคคลผู้นั้นคือ....องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จริงๆละก็ ก็สมแล้วที่พระองค์ท่านจะได้รับการขนานนามว่าเป็น "พระปัญญาธิกะพุทธเจ้า"
++ เดิม ผมเคยคิดว่าตัวผมมันช่างโชคร้ายนัก อุตส่าห์ดิ้นรนแทบเป็นแทบตาย เพราะความหวังอยากเป็นหมอ แต่กลับต้องออกจากการเรียนตอนชั้นปีสุดท้าย เพราะโดนโรคร้ายเล่นงานจนกลับกลายเป็นคนพิการ กลายเป็นผู้ป่วยจิตเวช กลายเป็นคนบ้าใบ้ หาที่ซุกหัวนอนไปวันๆ จนอายุจะ 50 อยู่รอมร่แล้ว
แต่พอมาคิดอีกที นี่เราโชคดีขนาดไหนเนี่ย ที่....
1) ได้เกิดเป็นมนุษย์ เพราะมีแค่ภูมิมนุษย์เท่านั้น ที่สามารถสำเร็จธรรมได้
2) ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา ซึ่งถือว่าเป็นศาสนาที่มีศาสนิกไม่มาก เมื่อเทียบกับศาสนาอื่นบางศาสนา
3) ได้เกิดมาด้วยอาการครบ 32
4) เกิดมาพร้อมกับมีภูมิปัญญาพอที่จะสามารถเห็นพระพุทธเจ้าได้
// นี่ตกลง ผมโขคดีหรือโชคร้ายกันแน่ครับ?