ไม่ต้องเถียงกันครับ!! ผลงานฟุตบอลทีมชาติ เป็นความรับผิดชอบของท่านนายกสมาคมฟุตบอลโดยตรงครับ ท่านเป็นคนพูดไว้เอง

เห็นกระทู้ด้านล่าง ต่างถกเถียงกันว่า ผลงานฟุตบอลทีมชาติไทยแย่ เกี่ยวกับใครกันแน่ ระหว่าง นายกสมาคมฟุตบอล โค้ช หรือ นักเตะ 
ถามว่าท่านไปยอมรับตอนไหน ก็จากคำพูดที่เป็น วลีอมตะ "ใครไม่อาย ผมอาย" ของท่านเองครับ ลองค่อยๆ อ่าน และ วิเคราะห์ดูกันนะครับ ท่านพูดว่า 

  "ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าหัวใจคนไทยคิดยังไง คิดเหมือนผมไหม  ถ้าบอกว่าอยู่กันไปแบบนี้ ไม่เป็นไร แชมป์ซีเกมส์ แชมป์ซูซกิคัพ ไประดับเอเชีย แพ้ 3-0 แพ้ 4-0 ไม่เป็นไร แต่สำหรับผม ผมอายครับ ผมรับไม่ได้ ถ้าให้ผมงอมืองอเท้าอยู่กับสถานการณ์เช่นนี้ แล้วปล่อยให้ทีมเป็นแบบนี้ต่อไปในช่วงที่ผมอยู่อีก 3 ปี ผมลาออกดีกว่า ถ้าเป็นแล้วทำดีไม่ได้อย่าเป็น ให้คนอื่นเขาเป็นดีกว่า"

 สิ่งที่ท่านพูดด้านบน คืออะไรครับ? สิ่งที่ท่านพูดก็คือ ผลงานของทีมชาติไทยในตอนนั้น ที่ชนะแต่ทีมอาเซียน แต่แพ้ทีมระดับเอเชีย อย่าง ญี่ปุ่น ทำให้ท่านไม่พอใจอย่างมาก ถ้าทำได้ไม่ดี ท่านจะรู้สึกอาย และท่าน  "ขอลาออกดีกว่า" --》จากประโยคนี้แสดงว่าท่าน.ในฐานะที่เป็นนายกสมาคม ท่านรู้อยู่แล้วว่า ผลงานของฟุตบอลทีมชาติไทยเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการทำงานของนายกสมาคมฟุตบอล และตัวสมาคมฟุตบอลเอง ท่านจึงพูดแบบนี้ถูกไหมครับ??? ไม่อย่างนั้นคงไม่มีใครจะยอมเอาสิ่งที่ไม่ใช่ตัวชี้วัดที่สำคัญมาผูกกับ ตำแหน่งหน้าที่การทำงานของตัวเองหรอกครับ?? ยกตัวอย่างเช่น ท่านไม่ได้พูดว่า ถ้าไม่สามารถสร้างสนามครบ10สนาม ถ้าทำไม่ได้ท่าน จะลาออก ท่านไม่ได้พูดอย่างนั้นแต่ท่านกลับพูดชัดเจนว่า ผลงานทีมชาติหากไม่ดี ท่านจะรู้สึกอาย และท่านขอลาออกเองดีกว่า 

ทุกอย่างเป็นเพราะ หน้าที่ดูแลทีมชาติ เป็นความรับผิดชอบโดยตรงของสมาคมฟุตบอลครับ

  ลองมองในมุมกลับกันครับ ถ้าทีมชาติไทยทำ ผลงานได้ดี คว้าแชมป์ได้ต่อเนื่อง ใครจะได้รับคำชมเชยครับ แน่นอน นอกจากนักเตะ ,โค้ช แล้ว นายกสมาคมฟุตบอลรวมถึงทีมงาน ย่อมได้รับความชมเชย อันนี้คือ "การรับชอบ"

 แต่บังเอิญตอนนี้ผลงานไม่ดีท่านจึงต้อง ";รับผิด" ครับ และเป็นการรับผิด จากคำพูดที่ท่านพูดออกมาจากตัวของท่านเอง

    อีกอย่างคือ เมื่อเกิดปัญหากับผลงานของทีมชาติไทยแล้วท่านไม่ได้ทำตามที่พูด คือ การ ลาออกครับ เนื่องจากท่านถือเป็นบุคคลสาธารณะ มีชื่อเสียง มีตำแหน่ง เป็นที่รู้จัก ซึ่งก่อนหน้านี้หากท่านทำตามที่พูดคือลาออก ทุกคนก็จะมองท่านอีกมุมว่า ท่านเป็นลูกผู้ชายที่ทำตามคำพูด แม้ผลงานไม่ดี แต่ท่านแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการ "ลาออก" ตามที่พูด

   แต่บังเอิญ ท่านไม่ได้ตัดสินใจ ลาออกตามที่พูด ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ก็มีทัศนคติที่ไม่ดีกับนักการเมืองและข้าราชการที่ไม่ทำตามคำพูด พูดแล้วไม่ทำตามที่พูดจากการเมืองไทยกันอยู่แล้ว ความโกรธ ความเกลียดชัง จึงเพิ่มขึ้นมาเป็นทวีคูณ

 การที่ผลงานทีมชาติออกมาไม่ดี แล้วท่านเงียบหายไป ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่เป็นตัวบ่งบอกแล้วว่าผลงานทีมชาติเกี่ยวกับท่านโดยตรง ไม่อย่างนั้นท่านคงออกมา โต้ออกสื่อแล้วว่า ผลงานนี้ไม่เกี่ยวกับท่าน

   สำหรับตอนนี้ผมมองว่า หากท่านไม่ลาออกจริงๆ สิ่งที่ท่านจะต้องทำคืออะไร ที่จำทำให้ความเกลียดชังนี้เบาบางลง คือท่านต้องออกมาครับ ออกมาให้ความมั่นใจและยอมรับความผิดพลาดพร้อมทำการแก้ไข โดยใช้สรรพกำลังทั้งหมด สุดชีวิตที่มี เปลี่ยนผลงานทีมชาติให้ดีขึ้นให้ได้ และต้องทำอย่างต่อเนื่องด้วยโดยทีมชาติไทยต้องมีผลงานทีดีอย่างน้อย 2-3ปี หรือจนท่านหมดวาระ เพื่อให้ความเกลียดชังนี้เบาบางลง
 
 เพราะไม่อย่างนั้น  วลีที่ว่า "ใครไม่อาย ผมอา" ;จึงจะยังเป็นวลีที่ ทุกคนจะพูดถึงท่านไปอีก ยาวนาน แม้ว่าท่านจะหมดวาระลงจากตำแหน่งแล้ว อย่างน้อยก็ในช่วง10-20 ปีนับจากนี้ แน่นอนครับ 

  "เมื่อเรายังไม่พูด..เราเป็นนายคำพูด...แต่เมื่อพูดไปแล้ว..คำพูดเป็นนายเรา..."ขอฝากประโยคนี้ไว้ครับ

  หมายเหตุ จริงๆ การที่ผมตั้งกระทู้นี้ ไม่ใช่เพราะผมเกลียดชังท่านนายก ผมออกจะเป็นห่วงท่านด้วยซ้ำ เพราะอย่างไรท่านก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ซึ่ง เคยทำผิดพลาด จากความไม่รู้ ของตัวเอง และผลกระทบจากแรงกระเพื่อมนี้ หากท่านไม่แก้ไข มันจะคอยหลอกหลอนท่านไปอีกแสนนาน ผมเป็นเพียงแฟนบอลคนหนึ่งที่อยากให้ผลงานทีมชาติดีขึ้นเท่านั้นเอง ผมไม่ได้หวังให้เล่นได้สวยงาม มีทีมperfect แต่อยากเห็นทีมชาติพัฒนา และ ชนะ!! ครับ เพราะฟุตบอลสิ่งสำคัญที่เป็นตัวชีวัดการพัฒนาที่สำคัญที่สุดคือ "ชัยชนะ" ครับ ท่านเล่นดี เล่นสวยงาม มีทรง แต่ แพ้ และ แพ้ แล้วจะมีทรงไปทำไมครับ? แฟนบอลก็ไม่ยินดีหรอกครับ เค้าก็จะยังคงโกรธเคืองท่านไปแบบนี้ต่อไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่