https://www.sanook.com/news/8592190/
https://www.bangkokbiznews.com/social/1015490
https://www.bangkokbiznews.com/social/1015549
https://www.bangkokbiznews.com/social/1015579
วันนี้ (15 กรกฎาคม 2565) นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นพ.ทรงคุณวุฒิ 11) และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้แนวโน้มสถานการณ์โรคโควิด 19 กำลังเพิ่มขึ้น สิ่งสำคัญคือทุกคนต้องช่วยกันเข้มมาตรการป้องกันโรค เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อและรับเชื้อ จะช่วยให้การติดเชื้อลดลงและไม่เกิดเป็นระลอกใหญ่ขึ้นมาอีก โดยเฉพาะขอความร่วมมือผู้ที่ติดเชื้อโควิดแล้ว ทั้งที่เข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยนอกและแยกกักตนเองที่บ้าน หรือ เจอ แจก จบ ซึ่งจะได้รับยากลับมารับประทานที่บ้าน หรือโทรศัพท์เข้าระบบเพื่อให้จัดส่งยามาที่บ้าน หรือผู้ที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลแล้วให้กลับมาบ้านก่อนครบ 10 วัน ขอย้ำว่า ให้กักตัวเองอย่างน้อย 10 วัน หากมีความจำเป็นจริงๆ ต้องออกจากบ้าน เช่น การเดินทางไปโรงพยาบาลให้สวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัดจนครบ 10 วันนับจากวันที่เริ่มมีอาการ
เนื่องจากขณะนี้พบว่า ผู้ติดเชื้อจำนวนหนึ่งไม่ได้กักตัวจนครบตามกำหนด แต่ออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านตามปกติ ทำให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อได้ ส่งผลให้เกิดการระบาดโควิด 19 อย่างต่อเนื่องเป็นวงกว้าง และแพร่เชื้อไปยังกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว
นพ.รุ่งเรืองกล่าวว่า สำหรับคำแนะนำในการปฏิบัติตนสำหรับผู้ป่วยโควิด 19 ที่แพทย์พิจารณาให้กลับไปกักตัวที่บ้าน คือ....👇👇👇👇👇
1.งดออกจากบ้านไปยังชุมชนทุกกรณี ยกเว้นการเดินทางไปโรงพยาบาลโดยการนัดหมายและการจัดการโดยโรงพยาบาล
2.ให้แยกห้องนอนจากผู้อื่น ถ้าไม่มีห้องนอนแยก ให้นอนห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2-3 เมตร และต้องเป็นห้องที่เปิดให้อากาศระบายได้ดี ผู้ติดเชื้อนอนอยู่ด้านใต้ลม จนพ้นระยะการแยกกักตัว
3.ควรแยกใช้ห้องน้ำ หากแยกไม่ได้ให้เช็ดพื้นผิวที่มีการสัมผัสด้วยน้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำยาฆ่าเชื้อหลังการใช้ทุกครั้ง
4.หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงเกิดอาการรุนแรง
5.สวมหน้ากากเมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น
6.ล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ 70% บ่อยๆ ตามความเหมาะสม และทุกครั้งหลังขับถ่าย
7.ไม่รับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น
8.หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้อื่นในระยะไม่เกิน 2 เมตร การพบปะกันให้สวมหน้ากากตลอดเวลา
9. ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่สุก สะอาด และมีประโยชน์ตามหลักโภชนาการ
10.หากมีอาการป่วยเกิดขึ้นใหม่หรืออาการเดิมมากขึ้น เช่น ไข้สูง ไอมาก เหนื่อย แน่นหน้าอก หอบ หายใจไม่สะดวก เบื่ออาหาร ให้ติดต่อสถานพยาบาล หากต้องเดินทางให้สวมหน้ากากระหว่างเดินทางตลอดเวลา
และ 11.หลังจากครบกำหนดกักตัวสามารถประกอบกิจกรรมทางสังคม และทำงานได้ตามปกติ โดยยังคงมาตรการป้องกันตนเอง
****************************15 กรกฎาคม 2565
https://pr.moph.go.th/?url=pr/detail/2/04/176343/
ติดตามข่าวโควิดวันนี้ค่ะ
มั่นใจในการทำงานของสธ.ในการดูแลประชาชน
ประชาชนก็ต้องช่วยกันดูแลตัวเองด้วยนะคะ
🇹🇭มาลาริน💙15ก.ค.โควิดไทยอันดับ27โลก/ป่วย1,725คน หายป่วย1,920คน เสียชีวิต23คน/ส่งยาฟาวิพิราเวียร์ 25 ล้านเม็ด/สธ.เตือน
https://www.sanook.com/news/8592190/
https://www.bangkokbiznews.com/social/1015490
https://www.bangkokbiznews.com/social/1015549
https://www.bangkokbiznews.com/social/1015579
วันนี้ (15 กรกฎาคม 2565) นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นพ.ทรงคุณวุฒิ 11) และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้แนวโน้มสถานการณ์โรคโควิด 19 กำลังเพิ่มขึ้น สิ่งสำคัญคือทุกคนต้องช่วยกันเข้มมาตรการป้องกันโรค เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อและรับเชื้อ จะช่วยให้การติดเชื้อลดลงและไม่เกิดเป็นระลอกใหญ่ขึ้นมาอีก โดยเฉพาะขอความร่วมมือผู้ที่ติดเชื้อโควิดแล้ว ทั้งที่เข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยนอกและแยกกักตนเองที่บ้าน หรือ เจอ แจก จบ ซึ่งจะได้รับยากลับมารับประทานที่บ้าน หรือโทรศัพท์เข้าระบบเพื่อให้จัดส่งยามาที่บ้าน หรือผู้ที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลแล้วให้กลับมาบ้านก่อนครบ 10 วัน ขอย้ำว่า ให้กักตัวเองอย่างน้อย 10 วัน หากมีความจำเป็นจริงๆ ต้องออกจากบ้าน เช่น การเดินทางไปโรงพยาบาลให้สวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัดจนครบ 10 วันนับจากวันที่เริ่มมีอาการ
เนื่องจากขณะนี้พบว่า ผู้ติดเชื้อจำนวนหนึ่งไม่ได้กักตัวจนครบตามกำหนด แต่ออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านตามปกติ ทำให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อได้ ส่งผลให้เกิดการระบาดโควิด 19 อย่างต่อเนื่องเป็นวงกว้าง และแพร่เชื้อไปยังกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว
นพ.รุ่งเรืองกล่าวว่า สำหรับคำแนะนำในการปฏิบัติตนสำหรับผู้ป่วยโควิด 19 ที่แพทย์พิจารณาให้กลับไปกักตัวที่บ้าน คือ....👇👇👇👇👇
1.งดออกจากบ้านไปยังชุมชนทุกกรณี ยกเว้นการเดินทางไปโรงพยาบาลโดยการนัดหมายและการจัดการโดยโรงพยาบาล
2.ให้แยกห้องนอนจากผู้อื่น ถ้าไม่มีห้องนอนแยก ให้นอนห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2-3 เมตร และต้องเป็นห้องที่เปิดให้อากาศระบายได้ดี ผู้ติดเชื้อนอนอยู่ด้านใต้ลม จนพ้นระยะการแยกกักตัว
3.ควรแยกใช้ห้องน้ำ หากแยกไม่ได้ให้เช็ดพื้นผิวที่มีการสัมผัสด้วยน้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำยาฆ่าเชื้อหลังการใช้ทุกครั้ง
4.หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงเกิดอาการรุนแรง
5.สวมหน้ากากเมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น
6.ล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ 70% บ่อยๆ ตามความเหมาะสม และทุกครั้งหลังขับถ่าย
7.ไม่รับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น
8.หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้อื่นในระยะไม่เกิน 2 เมตร การพบปะกันให้สวมหน้ากากตลอดเวลา
9. ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่สุก สะอาด และมีประโยชน์ตามหลักโภชนาการ
10.หากมีอาการป่วยเกิดขึ้นใหม่หรืออาการเดิมมากขึ้น เช่น ไข้สูง ไอมาก เหนื่อย แน่นหน้าอก หอบ หายใจไม่สะดวก เบื่ออาหาร ให้ติดต่อสถานพยาบาล หากต้องเดินทางให้สวมหน้ากากระหว่างเดินทางตลอดเวลา
และ 11.หลังจากครบกำหนดกักตัวสามารถประกอบกิจกรรมทางสังคม และทำงานได้ตามปกติ โดยยังคงมาตรการป้องกันตนเอง
****************************15 กรกฎาคม 2565
https://pr.moph.go.th/?url=pr/detail/2/04/176343/
ติดตามข่าวโควิดวันนี้ค่ะ
มั่นใจในการทำงานของสธ.ในการดูแลประชาชน
ประชาชนก็ต้องช่วยกันดูแลตัวเองด้วยนะคะ