สวัสดีครับ ตามหัวห้อเลยครับ คือเรื่องของเรื่องคือ คุณย่าผมท่านดันติดเชื้อโควิด19ขึ้นมา สาเหตุเพราะมาจากความดื้อของท่านล้วนๆ ก็คือคุณย่าของผมเนี่ยมีอายุได้80กว่าแล้วครับ แต่ท่านยังเป็นห่วงเรื่องของธุรกิจของทางบ้าน บ้านผมมีธุรกิจเป็นสวนปาล์มครับ แล้วด้วยความที่คุณย่าอายุเยอะมากแล้ว คุณพ่อแล้วก็ตัวผมพยายามที่จะบอกและเตือนท่านอยู่เสมอว่าคุณย่าท่านควรจะพักได้แล้วเรื่องธุรกิจทางบ้านควรจะให้คุณพ่อและตัวผมจัดการเองดีกว่า แต่ท่านก็ไม่ยอมฟังครับ ถ้ามีโอกาสคุณย่าจะให้คุณปู่ขับรถไปพาไปดูสวนด้วยตัวท่านเองอยู่เสมอ
จนในที่สุดคุณย่าก็ติดโควิด19ในที่สุด แล้วประเด็นคือท่านไม่ยอมไปกักตัวที่อื่นหรือไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลด้วยนี่สิครับ ท่านอ้างว่าท่านเป็นหลายโรค ขืนไปอยู่ที่อื่น ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาใครจะช่วยท่านทัน และในเมื่อคุณย่ายืนยันที่จะอยู่บ้านต่อไป คนที่เดือดร้อนก็คือคนอื่นๆในบ้านแล้วก็ตัวผมนี่สิครับ ยกตัวอย่างเช่น คุณพ่อที่เดิมทีอาชีพตํารวจก็ทําให้พ่อยุ่งมากแล้วยิ่งพอคุณย่าเป็นโควิดคุณพ่อผมก็ยิ่งต้องเหนื่อยมากขึ้นไปอีก นี่ยังไม่นับคนในบ้านและในซอยที่ต้องเสี่ยงติดเชื้อจากคุณย่าอีก ่ส่วนคนที่เดือดร้อนที่สุดเห็นทีคงจะเป็นผมนี่ล่ะครับ เพราะต้องเสียเงินเก็บตัวเอง2000กว่าบาทไปกับค่าโรงแรมที่ผมต้องแยกตัวออกจากบ้านมาอยู่ข้างนอกชั่วคราวเพราะกลัวจะติดโควิดจากย่า แถมโรงแรมที่ผมอยู่ยังเป็นโรงแรมที่โคตรเกรดตํ่าเลยครับ ห้องพักแคบมาก ไม่มีอาหารเช้าให้กิน คืนละ370กว่าๆ คือเดิมทีผมจองไว้6วันครับกะว่าจะอยู่ให้คุณย่าหายเลยแล้วค่อยกลับไปอยู่บ้านทีเดียว แต่อยู่ได้3วันก็ต้องออกครับเพราะทนอยู่ไม่ได้จริงๆห้องแคบมาก แถมอยู่นานๆผมเริ่มมีอาการเมาแอร์คลื่นไส้เหมือนจะอ้วกอยู่ตลอดเวลาแบบหมอปลาอีกต่างหาก ยิ่งไปกว่านั้นพนักงานเค้าไม่ยอมคืนเงินให้อีกต่างหากครับ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ครับนี่เป็นครั้งที่2แล้วที่คุณย่าเป็นโควิดแล้วไม่ยอมไปกักตัวหรือรักษาที่อื่นทําให้ผมต้องออกจากบ้านไปอยู่ข้างนอกชั่วคราวแต่ครั้งแรกนั้นโชคดีหน่อยที่ช่วงนั้นคุณพ่อมีเงินพอไปจองโรงแรมเกรดเออยู่ให้ได้ ครับนี่ล่ะครับ เป็นไงครับ คิดว่าคุณย่าของผมท่านเห็นแก่ตัวไปมั้ยครับ?? ป.ล. ทุกคนในบ้านรวมถึงตัวผมเองก็เคยเป็นโควิดกันหมดแล้วครับ เพียงแต่พอสมาชิกคนอื่นในบ้านเป็นเค้าก็แยกไปกักตัวที่บ้านอีกหลังนึงครับรวมถึงตัวผมด้วย เพราะในความคิดของผมและคนอื่นๆคือเราต้องทําเพื่อส่วนรวมก่อนครับ ยกเว้นคุณย่า
คุณย่าของผมเห็นแก่ตัวไปมั้ยครับ????
จนในที่สุดคุณย่าก็ติดโควิด19ในที่สุด แล้วประเด็นคือท่านไม่ยอมไปกักตัวที่อื่นหรือไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลด้วยนี่สิครับ ท่านอ้างว่าท่านเป็นหลายโรค ขืนไปอยู่ที่อื่น ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาใครจะช่วยท่านทัน และในเมื่อคุณย่ายืนยันที่จะอยู่บ้านต่อไป คนที่เดือดร้อนก็คือคนอื่นๆในบ้านแล้วก็ตัวผมนี่สิครับ ยกตัวอย่างเช่น คุณพ่อที่เดิมทีอาชีพตํารวจก็ทําให้พ่อยุ่งมากแล้วยิ่งพอคุณย่าเป็นโควิดคุณพ่อผมก็ยิ่งต้องเหนื่อยมากขึ้นไปอีก นี่ยังไม่นับคนในบ้านและในซอยที่ต้องเสี่ยงติดเชื้อจากคุณย่าอีก ่ส่วนคนที่เดือดร้อนที่สุดเห็นทีคงจะเป็นผมนี่ล่ะครับ เพราะต้องเสียเงินเก็บตัวเอง2000กว่าบาทไปกับค่าโรงแรมที่ผมต้องแยกตัวออกจากบ้านมาอยู่ข้างนอกชั่วคราวเพราะกลัวจะติดโควิดจากย่า แถมโรงแรมที่ผมอยู่ยังเป็นโรงแรมที่โคตรเกรดตํ่าเลยครับ ห้องพักแคบมาก ไม่มีอาหารเช้าให้กิน คืนละ370กว่าๆ คือเดิมทีผมจองไว้6วันครับกะว่าจะอยู่ให้คุณย่าหายเลยแล้วค่อยกลับไปอยู่บ้านทีเดียว แต่อยู่ได้3วันก็ต้องออกครับเพราะทนอยู่ไม่ได้จริงๆห้องแคบมาก แถมอยู่นานๆผมเริ่มมีอาการเมาแอร์คลื่นไส้เหมือนจะอ้วกอยู่ตลอดเวลาแบบหมอปลาอีกต่างหาก ยิ่งไปกว่านั้นพนักงานเค้าไม่ยอมคืนเงินให้อีกต่างหากครับ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ครับนี่เป็นครั้งที่2แล้วที่คุณย่าเป็นโควิดแล้วไม่ยอมไปกักตัวหรือรักษาที่อื่นทําให้ผมต้องออกจากบ้านไปอยู่ข้างนอกชั่วคราวแต่ครั้งแรกนั้นโชคดีหน่อยที่ช่วงนั้นคุณพ่อมีเงินพอไปจองโรงแรมเกรดเออยู่ให้ได้ ครับนี่ล่ะครับ เป็นไงครับ คิดว่าคุณย่าของผมท่านเห็นแก่ตัวไปมั้ยครับ?? ป.ล. ทุกคนในบ้านรวมถึงตัวผมเองก็เคยเป็นโควิดกันหมดแล้วครับ เพียงแต่พอสมาชิกคนอื่นในบ้านเป็นเค้าก็แยกไปกักตัวที่บ้านอีกหลังนึงครับรวมถึงตัวผมด้วย เพราะในความคิดของผมและคนอื่นๆคือเราต้องทําเพื่อส่วนรวมก่อนครับ ยกเว้นคุณย่า