คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 16
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม 2565
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0XPXEKCUkdGXLJ1a2qmkbXFr9QHNJjrRs729uftGHtGpLdCWW2DGVLRRp11pvMNnkl
จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 13 ก.ค. 2565)
รวม 140,620,319 โดส ใน 77 จังหวัด
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 13 กรกฎาคม 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 75,536 โดส
เข็มที่ 1 : 6,143 ราย
เข็มที่ 2 : 12,422 ราย
เข็มที่ 3 : 56,971 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 57,054,220 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 53,324,741 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 30,241,358 ราย
แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0ktT1e8B475Ab2PKtmGFjaJgCbX8JykgjPd23BfDMaAa5hugXWu5XCPhw4v9ZkcyQl
เดินทางทำบุญ ปลอดภัย ห่างไกลโควิด
-สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
-เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร
-ล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง
-หากเจ็บป่วย มีไข้ ไอ จาม ไม่ควรเข้าร่วมกิจกรรม
ที่มา : กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02DNAKCockzy4CX1yTWTDxjpgqCjZmYYAE2SCDxJ2ahLpFP2XYKhqPooaWLQPTKnQGl
2U หยุดโควิด 19 ลดความเสี่ยงติดเชื้อและแพร่เชื้อ เมื่อไปทำบุญ/ท่องเที่ยว
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0HVDw4uGgUNPtb7TUiFUi43oipsMGnpC8qMXnbsWUzXTf64JWzjrNERNvs2gGPCzXl
สธ. แนะ ช่วงวันหยุดยาว เดินทางไกล เตรียมตัวล่วงหน้า ป้องกันอุบัติเหตุ ใช้หลัก 2U ดูแลตนเองจากโควิด
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ช่วงระหว่างวันที่ 13-17 ก.ค. นี้ ซึ่งเป็นวันหยุดยาวต่อเนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา คาดมีประชาชนออกเดินทางท่องเที่ยว ทำบุญ และกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก จึงขอให้ผู้ที่จะเดินทางเตรียมการล่วงหน้า ศึกษาเส้นทางที่จะใช้ หากมีโรคประจำตัวขอให้เตรียมยาให้พร้อม สำหรับผู้ที่ทำหน้าที่ขับรถ ควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนเดินทาง งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ไม่ควรกินยาแก้ไข้หวัดบางชนิดซึ่งจะทำให้เกิดอาการง่วงซึม นอกจากนี้ ควรคาดเข็มขัดนิรภัย/สวมหมอกกันน็อคทุกครั้งที่ขับขี่ รวมถึงสังเกตอาการตนเองก่อนเดินทาง หากป่วย มีไข้ ไอ เจ็บคอ ให้ตรวจ ATK และหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ผู้สูงอายุ เพื่อป้องกันการนำเชื้อโควิด 19 ไปสู่คนในครอบครัว นอกจากนี้ การไปร่วมกิจกรรมทำบุญทางศาสนาซึ่งอาจมีการรวมคนจำนวนมาก ขอให้ใช้มาตรการ 2U คือ Universal Prevention มาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล เว้นระยะห่าง ล้างมือ หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด หากต้องพบผู้อื่นให้สวมหน้ากากตลอดเวลาเพื่อลดความเสี่ยง ตรวจ ATK ทันที เมื่อมีอาการป่วย และ Universal Vaccination ฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้ครบ 3 เข็ม และฉีดเข็มกระตุ้นทุก 4 เดือน เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ช่วยลดอาการป่วยรุนแรงและลดการเสียชีวิต
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0hXwrJQdYX3UbJM9d3psfTsfLmG2FM9qa6jRkhxffyHNpZ88i7vdRniUCzVqsPha1l
กรมอนามัย ห่วง กลุ่ม 608 เข้าวัดทำบุญ ย้ำ ปฏิบัติตามหลัก UP–DMHTA
สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง และล้างมือ การ์ดไม่ตก ป้องกันโควิดทุกเทศกาล
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า เนื่องในวันสำคัญทางศาสนา วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา พุทธศาสนิกชนมักเดินทางไปทำบุญเป็นจำนวนมาก กรมอนามัยมีความห่วงใย ความปลอดภัยด้านสุขภาพของประชาชน จึงขอให้ป้องกันตนเองขั้นสูงสุดด้วยหลัก UP–DMHTA ซึ่งหากเป็นประชาชนทั่วไป ขอให้ปฏิบัติดังนี้ 1) สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่ออยู่ในสถานที่ปิด อากาศถ่ายเท ไม่สะดวก หรือต้องทำกิจกรรมที่มีคนร่วมกันจำนวนมาก 2) ล้างมือด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง เมื่อสัมผัสวัตถุ หรือสิ่งของที่ใช้ร่วมกัน และให้หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสบริเวณใบหน้า 3) คัดกรองตนเองเมื่อมีอาการ หรือเมื่อมีความเสี่ยงด้วย ATK และ 4) รับวัคซีนตามเกณฑ์ที่กำหนด ส่วนกลุ่มที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ คือ กลุ่ม 608 ที่ไม่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ ควรสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่น หรือในศาสนสถาน ที่มีความแออัด
ที่มา : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02jNXw1kiKLYMnHMff6opcYoPhqcu6SAdnBJLTxmdjQfbryssBoczXaXkvz7DtLxtQl
เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ยังคงมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกันก็มีการจัดกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก เช่น การชมฟุตบอลที่ผ่านมา การจัดดนตรีหรือคอนเสิร์ต และอีกหลายกิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น ขอความร่วมมือประชาชนให้ใช้ชีวิตและปฏิบัติตนด้วยความระมัดระวัง สวมใส่หน้ากากในที่สาธารณะตลอดเวลา ในสถานที่มีคนจำนวนมาก และสถานที่ปิด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยไม่แพร่กระจายเชื้อไปยังกลุ่ม 608 กลุ่มเปราะบาง และกลุ่มเด็ก เพื่อให้ประเทศสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปได้โดยไม่เกิดการสะดุดอีก
ที่มา : ศบค.
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02nEXvK3YrJJqEqpk6hr2M7ZkRp3X5y81JT8oDVdEg2YR6SRdiRxrDMVPRndKtd6Col
รู้หรือไม่ เข้าวัดอย่างไรให้ปลอดภัยจากโควิด
- ทำบุญ ตักบาตร เวียนเทียน สวมหน้ากากตลอดเวลา เว้นระยะห่าง และล้างมือบ่อย ๆ
- โรงทาน คุมเข้มด้านความสะอาด ปลอดภัย ตั้งแต่ การจัดหาวัตถุดิบ สถานที่ปรุงอาหาร จุดรับอาหาร และควรอยู่ในพื้นที่โล่งอากาศถ่ายเทได้ดี
ที่มา : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0MuKbkA8BVm47yJPLhBvcj2wMqivrZHegtJnK7DfTRft3ECD4v77SrcNdDeuEwaJyl
พร้อมสู้ พร้อมป้องกันโควิด
หมั่นล้างมือ บนมือมีเชื้อโรคหลายพันชนิด
การล้างมือช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ เช่น โควิด ท้องร่วง วัณโรค
ที่มา : หมอพร้อม
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid096UTucRAjG3EB1DZToFwQaXJVBybPDVWkDK1Fz3bbGpFnAi71KgLEjwbAUTLP8sMl
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หยุดยาวนี้…อย่าหยุดป้องกันตัวเอง!!
สถานการณ์โควิด-19 ยังคงมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกันในช่วงวันหยุดยาวก็มีการจัดกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก
ขอความร่วมมือทุกคนใช้ชีวิตและปฏิบัติตนด้วยความระมัดระวัง สวมใส่หน้ากากในที่สาธารณะตลอดเวลา ในสถานที่มีคนจำนวนมาก และสถานที่ปิด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยไม่แพร่กระจายเชื้อไปยังกลุ่ม 608 กลุ่มเปราะบาง และกลุ่มเด็ก
เพื่อให้ประเทศสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปได้โดยไม่เกิดการสะดุดอีก
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/pfbid02Vj64PnWVboAvWkPbNAW75K15uGNGxX1NHmWX2FyHRUEvpeMP9JYiUMagqRqXc1aAl
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม 2565
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0XPXEKCUkdGXLJ1a2qmkbXFr9QHNJjrRs729uftGHtGpLdCWW2DGVLRRp11pvMNnkl
จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 13 ก.ค. 2565)
รวม 140,620,319 โดส ใน 77 จังหวัด
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 13 กรกฎาคม 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 75,536 โดส
เข็มที่ 1 : 6,143 ราย
เข็มที่ 2 : 12,422 ราย
เข็มที่ 3 : 56,971 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 57,054,220 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 53,324,741 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 30,241,358 ราย
แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0ktT1e8B475Ab2PKtmGFjaJgCbX8JykgjPd23BfDMaAa5hugXWu5XCPhw4v9ZkcyQl
เดินทางทำบุญ ปลอดภัย ห่างไกลโควิด
-สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
-เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร
-ล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง
-หากเจ็บป่วย มีไข้ ไอ จาม ไม่ควรเข้าร่วมกิจกรรม
ที่มา : กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02DNAKCockzy4CX1yTWTDxjpgqCjZmYYAE2SCDxJ2ahLpFP2XYKhqPooaWLQPTKnQGl
2U หยุดโควิด 19 ลดความเสี่ยงติดเชื้อและแพร่เชื้อ เมื่อไปทำบุญ/ท่องเที่ยว
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0HVDw4uGgUNPtb7TUiFUi43oipsMGnpC8qMXnbsWUzXTf64JWzjrNERNvs2gGPCzXl
สธ. แนะ ช่วงวันหยุดยาว เดินทางไกล เตรียมตัวล่วงหน้า ป้องกันอุบัติเหตุ ใช้หลัก 2U ดูแลตนเองจากโควิด
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ช่วงระหว่างวันที่ 13-17 ก.ค. นี้ ซึ่งเป็นวันหยุดยาวต่อเนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา คาดมีประชาชนออกเดินทางท่องเที่ยว ทำบุญ และกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก จึงขอให้ผู้ที่จะเดินทางเตรียมการล่วงหน้า ศึกษาเส้นทางที่จะใช้ หากมีโรคประจำตัวขอให้เตรียมยาให้พร้อม สำหรับผู้ที่ทำหน้าที่ขับรถ ควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนเดินทาง งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ไม่ควรกินยาแก้ไข้หวัดบางชนิดซึ่งจะทำให้เกิดอาการง่วงซึม นอกจากนี้ ควรคาดเข็มขัดนิรภัย/สวมหมอกกันน็อคทุกครั้งที่ขับขี่ รวมถึงสังเกตอาการตนเองก่อนเดินทาง หากป่วย มีไข้ ไอ เจ็บคอ ให้ตรวจ ATK และหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ผู้สูงอายุ เพื่อป้องกันการนำเชื้อโควิด 19 ไปสู่คนในครอบครัว นอกจากนี้ การไปร่วมกิจกรรมทำบุญทางศาสนาซึ่งอาจมีการรวมคนจำนวนมาก ขอให้ใช้มาตรการ 2U คือ Universal Prevention มาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล เว้นระยะห่าง ล้างมือ หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด หากต้องพบผู้อื่นให้สวมหน้ากากตลอดเวลาเพื่อลดความเสี่ยง ตรวจ ATK ทันที เมื่อมีอาการป่วย และ Universal Vaccination ฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้ครบ 3 เข็ม และฉีดเข็มกระตุ้นทุก 4 เดือน เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ช่วยลดอาการป่วยรุนแรงและลดการเสียชีวิต
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0hXwrJQdYX3UbJM9d3psfTsfLmG2FM9qa6jRkhxffyHNpZ88i7vdRniUCzVqsPha1l
กรมอนามัย ห่วง กลุ่ม 608 เข้าวัดทำบุญ ย้ำ ปฏิบัติตามหลัก UP–DMHTA
สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง และล้างมือ การ์ดไม่ตก ป้องกันโควิดทุกเทศกาล
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า เนื่องในวันสำคัญทางศาสนา วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา พุทธศาสนิกชนมักเดินทางไปทำบุญเป็นจำนวนมาก กรมอนามัยมีความห่วงใย ความปลอดภัยด้านสุขภาพของประชาชน จึงขอให้ป้องกันตนเองขั้นสูงสุดด้วยหลัก UP–DMHTA ซึ่งหากเป็นประชาชนทั่วไป ขอให้ปฏิบัติดังนี้ 1) สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่ออยู่ในสถานที่ปิด อากาศถ่ายเท ไม่สะดวก หรือต้องทำกิจกรรมที่มีคนร่วมกันจำนวนมาก 2) ล้างมือด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง เมื่อสัมผัสวัตถุ หรือสิ่งของที่ใช้ร่วมกัน และให้หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสบริเวณใบหน้า 3) คัดกรองตนเองเมื่อมีอาการ หรือเมื่อมีความเสี่ยงด้วย ATK และ 4) รับวัคซีนตามเกณฑ์ที่กำหนด ส่วนกลุ่มที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ คือ กลุ่ม 608 ที่ไม่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ ควรสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่น หรือในศาสนสถาน ที่มีความแออัด
ที่มา : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02jNXw1kiKLYMnHMff6opcYoPhqcu6SAdnBJLTxmdjQfbryssBoczXaXkvz7DtLxtQl
เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ยังคงมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกันก็มีการจัดกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก เช่น การชมฟุตบอลที่ผ่านมา การจัดดนตรีหรือคอนเสิร์ต และอีกหลายกิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น ขอความร่วมมือประชาชนให้ใช้ชีวิตและปฏิบัติตนด้วยความระมัดระวัง สวมใส่หน้ากากในที่สาธารณะตลอดเวลา ในสถานที่มีคนจำนวนมาก และสถานที่ปิด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยไม่แพร่กระจายเชื้อไปยังกลุ่ม 608 กลุ่มเปราะบาง และกลุ่มเด็ก เพื่อให้ประเทศสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปได้โดยไม่เกิดการสะดุดอีก
ที่มา : ศบค.
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02nEXvK3YrJJqEqpk6hr2M7ZkRp3X5y81JT8oDVdEg2YR6SRdiRxrDMVPRndKtd6Col
รู้หรือไม่ เข้าวัดอย่างไรให้ปลอดภัยจากโควิด
- ทำบุญ ตักบาตร เวียนเทียน สวมหน้ากากตลอดเวลา เว้นระยะห่าง และล้างมือบ่อย ๆ
- โรงทาน คุมเข้มด้านความสะอาด ปลอดภัย ตั้งแต่ การจัดหาวัตถุดิบ สถานที่ปรุงอาหาร จุดรับอาหาร และควรอยู่ในพื้นที่โล่งอากาศถ่ายเทได้ดี
ที่มา : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0MuKbkA8BVm47yJPLhBvcj2wMqivrZHegtJnK7DfTRft3ECD4v77SrcNdDeuEwaJyl
พร้อมสู้ พร้อมป้องกันโควิด
หมั่นล้างมือ บนมือมีเชื้อโรคหลายพันชนิด
การล้างมือช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ เช่น โควิด ท้องร่วง วัณโรค
ที่มา : หมอพร้อม
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid096UTucRAjG3EB1DZToFwQaXJVBybPDVWkDK1Fz3bbGpFnAi71KgLEjwbAUTLP8sMl
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หยุดยาวนี้…อย่าหยุดป้องกันตัวเอง!!
สถานการณ์โควิด-19 ยังคงมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกันในช่วงวันหยุดยาวก็มีการจัดกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก
ขอความร่วมมือทุกคนใช้ชีวิตและปฏิบัติตนด้วยความระมัดระวัง สวมใส่หน้ากากในที่สาธารณะตลอดเวลา ในสถานที่มีคนจำนวนมาก และสถานที่ปิด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยไม่แพร่กระจายเชื้อไปยังกลุ่ม 608 กลุ่มเปราะบาง และกลุ่มเด็ก
เพื่อให้ประเทศสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปได้โดยไม่เกิดการสะดุดอีก
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/pfbid02Vj64PnWVboAvWkPbNAW75K15uGNGxX1NHmWX2FyHRUEvpeMP9JYiUMagqRqXc1aAl
แสดงความคิดเห็น
🇹🇭มาลาริน🧡14ก.ค.โควิดไทยอันดับ27โลก/ป่วย2,257คน หายป่วย2,120คน เสียชีวิต28คน/หมอชี้โควิดจุดสูงสุดปลายก.ค.ถึงส.ค.
https://www.bangkokbiznews.com/social/1015280
https://www.bangkokbiznews.com/social/1015315
หมอ ยง’ชี้โควิดระลอกที่6 ยังไม่ถึงจุดสูงสุด คาดพุ่งปลายเดือนนี้-ตลอดเดือนส.ค.
“โควิด 19 ระลอกที่ 6 ยังไม่ถึงจุดสูงสุด” มีเนื้อหาดังนี้...👇
“โควิด 19 ระลอกที่ 6 ยังไม่ถึงจุดสูงสุด
ยง ภู่วรวรรณ 14 กรกฎาคม 2565
การระบาดของ covid 19 รอบใหม่นี้นับเป็นระลอก ที่ 6
เป็นการระบาดด้วยสายพันธุ์ โอมิครอน BA.5 ตามรูป จะมีจุดสูงสุดปลายเดือนนี้และตลอดเดือนหน้า สิงหาคม เดือนหน้านักเรียนมหาวิทยาลัยก็จะเปิดเทอมหมด และจะเริ่มลดลงในช่วงนักเรียนสอบและปิดเทอม
ทุกอย่างต้องเดินหน้า ด้วยมาตรการให้ความสำคัญในการลดการติดเชื้อ และจะไม่มีการ ปิดเมือง ปิดประเทศ ปิดโรงเรียน แล้ว ทุกอย่างมีความสำคัญกับอนาคตของประเทศ
จำนวนผู้ป่วยถ้าคิดเป็นสัดส่วนจะพบว่ามีผู้ป่วยต้องเข้าโรงพยาบาลน่าจะอยู่ที่ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ หรือน้อยกว่า และมีอัตราการเสียชีวิตจะอยู่ที่ไม่เกิน 1% ของผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หรือน่าจะ เป็น 0.1% หรือน้อยกว่าของผู้ที่ติดเชื้อ ซึ่งตัวเลขนี้กำลังลดลงไปใกล้เคียงกับไข้หวัดใหญ่
เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากตามฤดูกาลของโรคทางเดินหายใจ เราจึงเห็นสัดส่วนของการนอนโรงพยาบาล และการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ดังนั้นถึงแม้จะมีผู้ป่วยเป็นหลักหมื่น หรือหลายหมื่น จะมีผู้เข้ารับการรักษาและแจ้งยอดให้กระทรวงสาธารณสุข จะอยู่ที่ 2,000 คน และมีการเสียชีวิต 20 คน ดังนั้นอัตราการเสียชีวิต ในจำนวนนี้ จะอยู่ที่ยอดผู้ป่วยติดเชื้อทั้งสิ้นหลายหมื่นคน ซึ่งสูงกว่าระลอกที่ 5 แน่นอน เพราะส่วนใหญ่จะไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย
อย่างไรก็ตาม กลุ่มเสี่ยงสูงควรได้รับวัคซีนให้เต็มที่เพื่อลดอาการ และถ้าติดเชื้อถึงแม้จะมีอาการน้อย ทันทีที่รู้ว่าติดเชื้อ ก็ควรจะได้รับยาต้านไวรัสเพื่อการรักษาในทันที ให้เร็วที่สุดเพื่อลดการนอนโรงพยาบาล และเสียชีวิต”
https://www.naewna.com/local/666665
สธ.คาดโควิด19 ระบาดสูงสุดหลังวันแม่ 12 ส.ค. หวังว่าหยุดยาว ปชช.จะป้องกันตัวเองดี!
กรมควบคุมโรคคาดฉีดวัคซีนโควิดตอนนี้อีก 2 สัปดาห์จะพอดี จากการคาดการณ์ระบาดรอบนี้พีคสุด! หลังวันแม่ 12 ส.ค.นี้ ตัวเลขต่างๆจะมากขึ้นกว่าปัจจุบัน 1 เท่าตัว คาดเริ่มสูงสุดกทม. และกระจายไปยังจังหวัดอื่นๆ ส่วนหยุดยาวแม้ฉีดกระตุ้นไม่มาก หวังว่าปชช.จะป้องกันตัวเองดี ขณะที่จะปรับมาตรการเข้มหรือไม่ต้องรอ 3 ปัจจัย
นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค(คร.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์โควิด19ในประเทศไทยรอบนี้ว่า ขณะนี้สถานการณ์โควิด19 ระดับความรุนแรงยังอยู่ที่ระดับ 2 ยังเป็นสีเขียว หากเทียบกับสถานการณ์ตอนที่สายพันธุ์เดลตาระบาดเมื่อปีทีผ่านมา ซึ่งเป็นสีแดง ยังต่างกันอยู่มาก ข้อมูลที่ติดตามเป็นหลัก คือ ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในรพ.ที่มีปอดอักเสบและผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ โดยขณะนี้ผู้ป่วยที่ใส่ท่อช่วยหายใจใกล้จะถึง 400 รายแล้ว สถานการณ์ที่เพิ่มขึ้นในตอนนี้เป็นในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล
นพ.จักรรัฐ กล่าวอีกว่า ช่วงนี้ที่ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มขึ้นเป็นผลพวงจากการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเมื่อ 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะ 2 สัปดาห์ที่แล้วที่ตัวเลขเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม 608 ช่วงนี้จึงต้องปรับรูปแบบการรักษาให้เร็วขึ้น เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยหนักให้น้อยลง รวมถึงต้องเร่งฉีดวัคซีนให้มากขึ้น หากถึงกำหนดฉีดเข็มกระตุ้นต้องไปฉีด เพราะหลังฉีดแล้วต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ภูมิคุ้มกันถึงจะขึ้นและป้องกันเชื้อได้
“ฉีดวัคซีนตอนนี้อีก 2 สัปดาห์น่าจะพอดี เนื่องจากคาดการณ์ว่าสถานการณ์ระบาดรอบนี้จะสูงสุดช่วงหลังวันแม่ 12 ส.ค. 2565 ตัวเลขข้อมูลในส่วนต่างๆจะมากขึ้นกว่าปัจจุบันราว 1 เท่าตัว โดยผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นก่อนจำนวนมาก จากนั้นจะมีผู้ป่วยอาการหนักเพิ่มขึ้นตามมา โดยสถานการณ์ขึ้นสูงสุด จะเริ่มที่กรุงเทพฯก่อน แต่ไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพฯอย่างเดียว จะกระจายไปจังหวัดอื่นด้วย สถานการณ์สูงสุดจะค่อยๆขึ้น และอาจจะเร็วกว่านี้ได้”นพ.จักรรัฐกล่าว
นพ.จักรรัฐ กล่าวด้วยว่า สำหรับในช่วงหยุดยาว แม้การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นไม่ยังไม่มากเพียงพอที่ต้องการ 60% แต่ฉีดไปกว่า 40 % แล้ว และประชาชนเข้าใจวิธีการป้องกันตนเองหลังจากมีประสบการณ์มา 2 ปีครึ่ง หวังว่าการเดินทางในรอบหยุดยาว คงจะมีมาตรการป้องกันส่วนบุคคลค่อนข้างดี หวังว่าการติดเชื้อไม่กระจายไปในจังหวัดที่ไปท่องเที่ยวมากนัก อีกทั้งมาตรการต่างๆของขนส่งสาธารณะยังคงความเข้มขึ้นอยู่ แม้ว่าบางสายการบินจะผ่อนคลายเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังอยากจะให้ทุกคนช่วยกัน ยังอยากให้สวมหน้ากากอนามัยต่อไปก่อน รวมถึง เว้นระยะห่าง
ทั้งนี้ ในกลุ่ม 608 ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว และหญิงตั้งครรภ์ หลายท่านอาจจะคิดว่าอาการไม่มาก ฉีดวัคซีน 2 เข็มแล้ว รอก่อนได้ ค่อยไปหาแพทย์ หรือค่อยตรวจATK จะต้องขอให้ตรวจเร็วขึ้น ทันทีเมื่อเริ่มมีอาการ เช่น ไข้ ไอ เจ็บคอ แน่นหน้าอกมากขึ้น หายใจไม่ค่อยสะดวก หายใจลำบาก และถ้าเจอ 2 ขีดติดเชื้อ กลุ่มวัยทำงานอาจจะรักษาตัวที่บ้านได้ แต่กลุ่ม 608 ขอให้ทุกรายไปรพ.เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยอาการก่อนว่าจะมีแนวทางการรักษาอย่างไร เช่น หากเชื้อลงปอดแล้วอาจจะต้องนอนรักษาในรพ.
นพ.จักรรัฐ กล่าวด้วยว่า การปรับระดับความรุนแรงและการเตือนภัยสูงขึ้นนั้น ขณะนี้ตัวแปรต่างๆยังไม่ครบ โดยในส่วนของจังหวัดอื่นๆยังไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ที่เพิ่มขึ้นในส่วนของกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งทุกระลอกพื้นที่เหล่านี้จะเพิ่มขึ้นก่อนเสมอ หากสามารถควบคุมโรคได้ดี กลุ่มเสี่ยง 608 มีอาการไม่รุนแรงมากนักและจำนวนไม่มาก ก็อาจจะควบคุมโรคได้เร็ว ไม่กระจายต่อทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม จะมีการปรับปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรค โดยพิจารณาจาก...👇
1.เมื่อผู้ป่วยรายใหม่เข้ารักษาในรพ. เกิน 4,000 รายต่อวัน อาจต้องให้ใส่หน้ากากอนามัย 100% หรือเว้นระยะห่างมากขึ้น
2.ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ เกิน400-500 รายต่อวัน อาจต้องปรับมาตรการรักษา ให้ยาเร็วขึ้น ป้องกันโรคอื่นด้วย และ3.ผู้เสียชีวิต เกิน 40 รายต่อวัน ถ้าเกินต้องมีมาตรการเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเกณฑ์การพิจารณาระดัยความรุนแรงของการระบาดโควิด19 มี 5 ระดับ ประกอบด้วย 👇
1.สีขาว โรคประจำถิ่นที่ควบคุมได้ดี จำนวนผู้ป่วยรับการรักษาในรพ.เฉลี่ยต่อวัน น้อยกว่า 2,000 ราย อัตราป่วย-ตาย น้อยกว่า 0.1 % อัตราการครองเตียงสำหรับผู้ป่วยอาการหนัก/จำนวนผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ น้อยกว่า 5 % และการกระจายของโรคตามลักษณะทางระบาดวิทยา ระบาดเป็นกลุ่มก้อนขนาดเล็กที่ไม่มีการแพร่เชื้อต่อ
2.สีเขียว ที่เป็นระดับปัจจุบัน จำนวนผู้ป่วยรับการรักษาในรพ.เฉลี่ยต่อวัน 2,000 ราย อัตราป่วย-ตาย 0.07 % จำนวนเสียชีวิตเฉลี่ยต่อวัน 20 ราย อัตราการครองเตียงสำหรับผู้ป่วยอาการหนัก 10 % จำนวนผู้ที่ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 200-400 ราย และการกระจายของโรคตามลักษณะทางระบาดวิทยา ระบาดในวงจำกัด (คลัสเตอร์ขนาดเล็ก )
3. สีเหลือง รุนแรงน้อย จำนวนผู้ป่วยรับการรักษาในรพ.เฉลี่ยต่อวัน 4,000-6,000 ราย อัตราป่วย-ตาย มากกว่า 0.10 % จำนวนเสียชีวิตเฉลี่ยต่อวัน 40-60 ราย อัตราการครองเตียงสำหรับผู้ป่วยอาการหนัก 20-40 % จำนวนผู้ที่ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 400-500 ราย และการกระจายของโรคตามลักษณะทางระบาดวิทยา ระบาดในวงจำกัด (คลัสเตอร์ขนาดใหญ่)
4.สีส้ม รุนแรงปานกลาง จำนวนผู้ป่วยรับการรักษาในรพ.เฉลี่ยต่อวัน 6,001-8,000 ราย อัตราป่วย-ตาย มากกว่า 0.5 % จำนวนเสียชีวิตเฉลี่ยต่อวัน 61-80 ราย อัตราการครองเตียงสำหรับผู้ป่วยอาการหนัก 41-75 % จำนวนผู้ที่ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 501-600 ราย และการกระจายของโรคตามลักษณะทางระบาดวิทยา ระบาดในวงกว้าง ขนาดใหญ่ และมีความเชื่อมโยงกัน
5.สีแดง รุนแรงมาก จำนวนผู้ป่วยรับการรักษาในรพ.เฉลี่ยต่อวัน 8,001-10,000 ราย อัตราป่วย-ตาย มากกว่า 1 % จำนวนเสียชีวิตเฉลี่ยต่อวัน มากกว่า 80 ราย อัตราการครองเตียงสำหรับผู้ป่วยอาการหนักมากกว่า 75 % จำนวนผู้ที่ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ มากกว่า 600 ราย และการกระจายของโรคตามลักษณะทางระบาดวิทยา มีการระบาดกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ ในวงกว้าง กลไกระดับจังหวัดไม่สามารถควบคุมโรคได้
https://www.hfocus.org/content/2022/07/25511
ติดตามข่าวโควิดวันนี้ค่ะ
ระลอก6 จุดสูงสุดคือปลายเดือนนี้ถึงสิงหาคมเป็นต้นไป
...ไทยลงมาเป็นอันดับ27โลก เพราะทั่วโลกก็ติดเชื้อเพิ่มขึ้นค่ะ อย่างไรตอนนี้ก็สวมหน้ากากอนามัยไว้ก่อนนะคะ