RECAP Extraordinary Attorney Woo : อูยองอู ทนายอัจฉริยะ EP.5 By Nottchakun


ในชีวิตของคนเราจะมักจะมีอยู่หลายครั้ง ที่มีเรื่องให้เราต้องตัดสินใจ บางครั้งก็ถูก บางครั้งก็ผิด บางทีก็ต้องโกหกเพื่อให้รอดตาย แต่โลกของผู้ป่วยออทิสติก การโกหกเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เก่งเอาซะเลย พวกเขาทั้งเชื่อคนง่าย และโกหกใครไม่เป็น ถ้ามีกมารแข่งขันหาคนถูกหลอก พวกเขาคงได้ที่หนึ่ง อูยองอูรู้เรื่องนี้ดี เพราะในวัยเด็กของเธอ เธอมักตกเป็นของเล่นสำหรับเพื่อนเสมอ เธอเคยถูกแกล้งให้ลุกขึ้นถามคุณครูเรื่องทำตาสองชั้นในห้องเรียน จนถูกคุณครูเดินมาตบหน้า ทั้งหมดนี้เพราะคนออทิสติกใสซื่อเกินไปที่จะดูคนออกเหรอ เปล่าเลย พวกเขาแค่เคยชินกับการอยู่บนโลกนี้โดยมีแค่ตัวเอง จนลืมไปว่า คนอื่นอาจจะเข้าหาด้วยเจตนาไม่ดี หรือเข้ามาเพื่อหลอกลวงก็ได้

ใน Ep.5 ของซีรีส์ คดีความระหว่างอีฮวาเอทีเอ็ม และคึมกังเอทีเอ็ม ผู้เขียนบทเลยเลือกเคสทดสอบความสามารถด้านการจับเท็จมาให้กับ อูยองอู ได้พิสูจน์ตัวเอง แถมไม่ได้ให้ทำคนเดียว เพราะยังส่ง เพื่อนทนายความสุดแสบอย่าง ควอนมินอู มาให้เป็นคู่ปรับกับเธอด้วย ประเด็นคือ มินอู ไม่พอใจ ยองอู อยู่แล้ว จากเรื่องการขาดงานที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าตั้งแต่ Ep ที่แล้ว พอมาถึงคดีนี้ เขาเลยเลือกที่จะตั้งตัวเป็นคู่แข่งกับ ยองอู แบบเปิดเผย โดยเริ่มต้นจากไม่แจ้งให้ ยองอู ทราบล่วงหน้าว่าต้องทำคดีอะไรร่วมกัน ทำให้ยองอู พลาดการอ่านข้อมูลเกี่ยวกับคาสเซ็ตที่ใช้ในตู้เอทีเอ็มกลางที่ประชุม

งานนี้ ยองอู เลยต้องฝึกการจับเท็จ เพราะเธอเป็นคนที่ต้องไปหาข้อมูลจากพนักงานในบริษัทอีฮวา ในซีรีส์จะเห็นว่า สิ่งที่เธอใช้ฝึกฝน คือ เกมที่เรียกว่า ชัม ชั่ม ชั่ม เกมยอดนิยมที่เรามักจะเห็นในวาไรตี้ของเกาหลี ที่ปกติจะเล่นโดยมีผู้เล่น 2 คน โดยฝ่ายหนึ่งจะพับมือไปทางใดทางหนึ่ง และอีกฝ่ายต้องหันหน้าไปตามที่ตัวเองต้องการ แต่ถ้าหันไปทางเดียวกันจะเป็นผู้แพ้ ซึ่งว่าจะไปแล้ว ยองอูของเราเล่นเก่งใช้ได้ เมื่อต้องเล่นกับเพื่อนสนิท แต่พองัดค้อนอันเดิมมาเล่นกับ จุนโฮ เธอกลับเลือกคำถามที่จำมาจาก รามี ซะงั้น ต้องยอมรับเลยว่า ฉากนี้ทำเอาผมเขินมากจริงๆ โดยเฉพาะการใส่ดีเทลให้ ยองอู จ้องไปที่ระหว่างคิ้วของ จุนโฮ จนเขาเองก็ไปไม่เป็นเหมือนกันว่าจะตอบคำถามนี้ได้ยังไง

จุดที่น่ารักอีกอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เรารู้ว่า จุนโฮ แคร์ยองอูมากแค่ไหน คือ ตอนที่เขาเล่นบาสกับมินอู แล้วบังเอิญได้ยินมินอู คุยเรื่องความพิการของเธอให้คนอื่นฟัง ในฉากนั้นจะเห็นเลยว่า จุนโฮ ไม่พอใจเพื่อของตัวเองมาก เลยแกล้งเล่นแรงๆ จนมินอู ล้มกลิ้งไปหลายที ประเด็นนี้น่าสนใจ เพราะมันแสดงว่าจุนโฮ ยังคงฝังใจกับเหตุการณ์ที่เขาเดินไปกับยองอู แล้วถูกรุ่นน้องทักว่ามาทำงานจิตอาสา ต่อหน้ายองอู จนเธอเก็บไปคิด และด้อยค่าตัวเองว่า ไม่มีใครมองเห็นเธอเป็นเธอเลย ทุกคนยังมองเห็นเธอเป็นแค่คนออทิสติกอยู่เหมือนเดิม ต่อให้เธอจะเก่งแค่ไหนก็ตาม

และมาถึงประเด็นดรามาของเคสนี้ ที่ทำให้ยองอู ถึงกับออกปากว่าเธออับอายมากกับการกระทำของตัวเอง นั่นคือ การที่เธอยอมปล่อยให้ลูกความของตัวเอง โกหกต่อหน้าศาล ว่าเป็นคนคิดค้นคาสเซ็ตแบบใหม่ขึ้นมาเอง โดยไม่เคยไปดูงานที่ชิคาโก เมื่อปี 2019 มาก่อนเลย ทั้งที่ความจริงแล้ว ทั้งอีฮวา และคึมกัง ต่างก็ใช้เทคโนโลยีเดียวกันจาก บริษัทลีดเดอร์ที่นำเสนอนวัตกรรมนี้ในงาน จนกลายเป็นข้อมูลสาธารณะ ที่ใครก็สามารถนำไปใช้งานได้ ยองอู มั่นใจเรื่องนี้มากตอนที่สัมภาษณ์หนึ่งในพนักงานของ อีฮวา แต่เพราะความอยากเอาชนะ มินอู ที่เคยพูดเรื่องคู่แข่งต่อสัญญา ทำให้เธอปปล่อยผ่านเรื่องการโกหกไป แถมบอกลูกความด้วยว่า การขึ้นศาลในฐานะผู้อ้างอิงไม่จำเป็นต้องกล่าวคำสาบาน ซึ่งมันเป็นการเปิดทางให้ฝั่งของ อีฮวา ใช้ประโยชน์จากตรงนี้จนชนะการพิจารณาคดี จนศาลออกคำสั่งให้ บริษัทคึมกัง ต้องงดผลิตและงดการจำหน่ายคาสเซ็ตที่มีปัญหาชุดนี้ไป

ในตอนนั้น จดหมายฉบับหนึ่งไปถึงโต๊ะของ ยองอู พร้อมกับข้อความที่เขียนด้วยลายมือของประธานบริษัทคึมกัง ในจดหมายนั้น ยองอู ถูกตั้งคำถามว่า "คุณทนายอยากเป็นทนายความที่มีความสามารถแค่ชนะการฟ้องร้องในศาล หรืออยากเป็นทนายความน่านับถือ ที่เปิดเผยความจริงล่ะครับ" นี่คือข้อความที่ทำให้ ยองอู ตระหนักว่าสิ่งที่เธอทำกำลังสร้างความเดือดร้อนให้ใครบางคนที่อาจจะเป็นผู้บริสุทธิ์ในคดีนี้ ฉากที่ประธานของอีฮวา เอาของขวัญมาให้ที่ห้องของ ยองอู แล้วปลดจรรยาบรรณทนายความที่ติดไว้ออกไป เพื่อใส่รูปดอกทานตะวันมาแทนที่ คือ สัญลักษณ์ของการยอมจำนนต่อคำโกหก เพื่อสนใจแค่เงิน หรือชัยชนะเพียงอย่างเดียว สุดท้ายแล้วเธอเป็นคนที่ใช้กฎหมายเพื่อช่วยคนผิดอยู่ดี ฉากที่เห็นได้ชัดถึงความผิดหวังนี้ คือ ฉากที่เธอรู้ว่าทุกอย่างเป็นแผนการที่ประธานของ อีฮวา วางแผนมาแล้ว ว่าจะใช้ประโยชน์จากคำสั่งของศาลที่ออกมา เพื่อผูกขาดสัญญากับธนาคารอื่นๆเพียงเจ้าเดียว




พูดถึงเรื่องดีเทลเล็กๆแล้ว ฉากที่ผมอยากพูดถึงเป็นฉากสุดท้าย คือ ฉากที่ยองอู นั่งทานข้าวกับ ชเวซูยอน แล้วเธอขอให้ช่วยตั้งฉายาให้ เราจะเห็นตลอดทั้งตอนว่า ยองอู เปิดขวดน้ำด้วยตัวเองลำบากมาก ต้องมีคนคอยช่วยเสมอ และซูยอน ก็จะเป็นคนๆนั้น ที่คอยยื่นมือมาเปิดขวดน้ำให้ ในฉากนี้ยองอู บอกกับซูยอนว่า สำหรับเธอ ซูยอน คือ แสงแดดในฤดูใบไม้ผลิ ที่เธอเห็นตั้งแต่เข้าเรียนคณะนิติศาสตร์

เธอเป็นคนที่คอยบอกยองอูว่าห้องบรรยายอยู่ไหน บอกเรื่องอาจารย์ยกคลาส บอกขอบข่ายข้อสอบให้เธอเสมอ และเป็นคนที่คอยห้ามคนอื่นไม่ให้มาล้อ หรือมารังแกยองอูในมหาลัย และมาจนถึงตอนนี้ เธอก็ยังเอาใจใส่แม้แต่เรื่องการกินคิมบับของ ยองอู สำหรับยองอู ซูยอน ในความคิดของเธอ คือ ซูยอนที่สดใส อบอุ่น ใจดี และอ่อนโยน เหมือนแสงแดดของฤดูใบไม้ผลิ เรียกว่าเป็นฉากเล็กๆที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจที่ ยอนอู มีต่อคนรอบตัวของเธอ ติดก็แค่เธอไม่ได้สื่อสารมันออกไป จนใครๆต่างก็เข้าใจผิดว่าเธอสนใจแค่ตัวเองคนเดียว

ปิดท้ายการ Recap EP นี้ ประเด็นที่ซีรีส์ตัดจบไป ถือว่าน่าสนใจมาก เพราะ "แทซูมี" ประธานของบริษัทกฏหมายคู่แข่งกับฮัมบาดา กำลังจะลงสมัครชิงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แต่เธอมีข่าวลือที่ว่า แท้จริงแล้วเธอมีลูกนอกสมรสอยู่หนึ่งคน ถึงแม้ว่าเธอจะปฏิเสธ แต่มันก็อาจจะเป็นประเด็นเชื่อมโยงไปถึงครอบครัวของ "ยองอู" ก็เป็นได้ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่