อันนี้เหมือนเรื่องเล่าสำหรับร้านกระจิ๊บกระจ้อยนะครับ
กับการขายของผ่านShopee โดยไม่ใช่รายใหญ่แบรนด์ (ที่สินค้า + เสร็จสรรพ และคนยอมรับมาตรฐานราคาอยู่แล้ว)
แต่เป็นสินค้าที่มีเล็กๆน้อยๆ กับการที่ลูกค้าหลายท่านบ่นว่าแพงจัง กอรปกับร้านไม่ได้(ลืม)บวกพวกค่าโน่นนั่นนี่เพิ่ม
ก็อยากให้ลูกค้าเข้าใจ และร้านอื่นๆที่จะตั้งร้านใหม่ "คิด"ให้ดีก่อน ครับ
1.สินค้าราคา 14 บาท 1 ชิ้น = 14บาท
ค่าส่ง 24 บาท(มันคิดคำนวนโดยระบบเอง)
ค่าบริการ -1บาท
ค่าธุรกรรมการชำระเงิน -2 บาท
การชำระของผู้ซื้อ 51 บาท
คนซื้อจ่าย 51 บาท
ผลต่าง 40 บาท คือค่าส่ง
- shopeeหัก 3 บาท
- ค่าส่งคิดจากคนซื้อ 37 บาท
ร้านค้าได้เงิน 11 บาท
สรุป มุมร้าน ค่าส่ง"สำคัญมาก"
จะเห็นว่า "ระบบ"ให้คิดแค่ 24บาท
- ถ้าคุณส่งเอง ต่ำๆก็25บาทแล้ว ยังไม่รวมแพ็คกิ้งกล่องและกันกระแทกอีก 15-20บาท ถ้าลูกค้าจ่าย37บาท ยังอาจพอครอบคลุมจุดนี้
- ถ้าคุณส่งส่งผ่านshopee 37บาท คือหมด = ขาดทุนค่าแพ็คกิ้ง
ถ้าจะขาย14 บาท กำไร ต้องคิด+อีก3บาท และ+ค่าแพ็คอีก20บาท เป็นชิ้นละ 42บาท ซึ่ง"""เป็นไปไม่ได้ที่ลูกค้าจะซื้อในราคานี้""""
มุมลูกค้า การซื้อของ14บาท +ค่าส่ง รวม51บาท ก็ถือว่าแพง ต้องมีพวกโปรลดค่าส่ง (-30บาท)ถึงจะน่าซื้อ
2.สินค้าราคา 14 บาท 5 ชิ้น รวม 70 บาท
ค่าส่ง 24 บาท(มันคิดคำนวนโดยระบบเอง จะไปใส่เว่อรเป็น 10-20กิโล ให้ค่าส่งเยอะๆ เหมือนบางร้านก็เกินไป)
ค่าคอมมิตชั่น -1บาท (????? ค่าคอมฯใครฟะ??)
ค่าบริการ -5บาท
ค่าธุรกรรมการชำระเงิน -3 บาท
การชำระของผู้ซื้อ 107 บาท
คนซื้อจ่าย 107 บาท
ผลต่าง 46 บาท คือค่าส่ง
- shopeeหัก 9 บาท
- ค่าส่งคิดจากคนซื้อ 37 บาท (70+37 =107)
ร้านค้าได้เงิน 61 บาท
เช่นเดียวกับเคสที่1 แต่ จำนวนที่มากขึ้น มีคิด"ค่าคอมมิตชั่น" เพิ่มด้วย
ค่าคอมมิตชั่น คือ ค่าใช้จ่ายที่ขอเพิ่มจากค่าบริการ เมื่อยอดขายของคุณมากขึ้น (จากเคสนี้ คือเกิน 50 บาท) แบ่งเป็น
1.สินค้าในหมวดหมู่อิเล็กทรอนิกส์ (Electronics items)*
คิดเป็น 3% ของราคาตั้งต้นของ
หักด้วยส่วนลดสินค้าที่ผู้ขายรับผิดชอบ (ไม่รวมค่าขนส่งสินค้าและส่วนลดอื่นๆ)
2.สินค้าที่ไม่อยู่ในหมวดหมู่อิเล็กทรอนิกส์ (Non-Electronics items)**
คิดเป็น 5% ของราคาตั้งต้น
หักด้วยส่วนลดสินค้าที่ผู้ขายรับผิดชอบ (ไม่รวมค่าขนส่งสินค้าและส่วนลดอื่นๆ)
+ถ้าคำนวนจาก เคสที่1 สินค้าราคา14บาท 5 ชิ้น 70บาทนี้
ต้องขาย 120บาทหรือชิ้นละ 24บาทเลย (ซึ่งใครจะมาซื้อ?) โดย (ทุน70บาท + ค่าแพ็ค25 + ค่าธรรมเนียม20% + ค่าคอมฯ5%)
สรุป
ในมุมร้านค้า ต้องคำนวน "ค่าส่ง" "ค่าแพ็คเก็ต" "ค่าธรรมเนียม" ให้ดี
(+ถ้าคิดแล้วเทียบกับร้านอื่น,ร้านจีน ราคาคุณสูงกว่าเขามาก แนะว่า"อย่าลงทุน"ครับ ไม่งั้นทุนจะจม เพราะคนไทยเน้น"ของถูก")
ในมุมคนซื้อ ต้องคำนวน "ค่าส่ง"
บางร้านค่าส่งเว่อร์มาก) และการใช้พวกโปรฯส่งฟรี รวมถึงเข้าใจทางร้านด้วย
การซื้อของที่"ราคาถูก" นอกจากราคาตลาดเสียแล้ว ถ้าไม่ใช่ร้านลืมคิด ราคาพวกนี้(ขาดทุน)
ก็แสดงว่าสินค้านั้นถูกเกินไป(ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะซื้อมาทิ้ง)
ซื้อมาแล้ว ส่งเคลมไม่คุ้มค่าส่ง ซื้อมาแล้วเจ็บใจ ครับ
และการเชื่อรีวิว ดาว ก็ไม่ใช่ทั้งหมดเพราะ ค่ารีวิว5ดาวอยู่ที่หลักร้อยบาท(มีเหมา/รายการ)
แจงค่าธรรมเนียม คนขายได้กำไร? คนซื้อจ่าย? เปิดมุมเพื่อความเข้าใจ2ฝ่ายกัน
กับการขายของผ่านShopee โดยไม่ใช่รายใหญ่แบรนด์ (ที่สินค้า + เสร็จสรรพ และคนยอมรับมาตรฐานราคาอยู่แล้ว)
แต่เป็นสินค้าที่มีเล็กๆน้อยๆ กับการที่ลูกค้าหลายท่านบ่นว่าแพงจัง กอรปกับร้านไม่ได้(ลืม)บวกพวกค่าโน่นนั่นนี่เพิ่ม
ก็อยากให้ลูกค้าเข้าใจ และร้านอื่นๆที่จะตั้งร้านใหม่ "คิด"ให้ดีก่อน ครับ
1.สินค้าราคา 14 บาท 1 ชิ้น = 14บาท
ค่าส่ง 24 บาท(มันคิดคำนวนโดยระบบเอง)
ค่าบริการ -1บาท
ค่าธุรกรรมการชำระเงิน -2 บาท
การชำระของผู้ซื้อ 51 บาท
คนซื้อจ่าย 51 บาท
ผลต่าง 40 บาท คือค่าส่ง
- shopeeหัก 3 บาท
- ค่าส่งคิดจากคนซื้อ 37 บาท
ร้านค้าได้เงิน 11 บาท
สรุป มุมร้าน ค่าส่ง"สำคัญมาก"
จะเห็นว่า "ระบบ"ให้คิดแค่ 24บาท
- ถ้าคุณส่งเอง ต่ำๆก็25บาทแล้ว ยังไม่รวมแพ็คกิ้งกล่องและกันกระแทกอีก 15-20บาท ถ้าลูกค้าจ่าย37บาท ยังอาจพอครอบคลุมจุดนี้
- ถ้าคุณส่งส่งผ่านshopee 37บาท คือหมด = ขาดทุนค่าแพ็คกิ้ง
ถ้าจะขาย14 บาท กำไร ต้องคิด+อีก3บาท และ+ค่าแพ็คอีก20บาท เป็นชิ้นละ 42บาท ซึ่ง"""เป็นไปไม่ได้ที่ลูกค้าจะซื้อในราคานี้""""
มุมลูกค้า การซื้อของ14บาท +ค่าส่ง รวม51บาท ก็ถือว่าแพง ต้องมีพวกโปรลดค่าส่ง (-30บาท)ถึงจะน่าซื้อ
2.สินค้าราคา 14 บาท 5 ชิ้น รวม 70 บาท
ค่าส่ง 24 บาท(มันคิดคำนวนโดยระบบเอง จะไปใส่เว่อรเป็น 10-20กิโล ให้ค่าส่งเยอะๆ เหมือนบางร้านก็เกินไป)
ค่าคอมมิตชั่น -1บาท (????? ค่าคอมฯใครฟะ??)
ค่าบริการ -5บาท
ค่าธุรกรรมการชำระเงิน -3 บาท
การชำระของผู้ซื้อ 107 บาท
คนซื้อจ่าย 107 บาท
ผลต่าง 46 บาท คือค่าส่ง
- shopeeหัก 9 บาท
- ค่าส่งคิดจากคนซื้อ 37 บาท (70+37 =107)
ร้านค้าได้เงิน 61 บาท
เช่นเดียวกับเคสที่1 แต่ จำนวนที่มากขึ้น มีคิด"ค่าคอมมิตชั่น" เพิ่มด้วย
ค่าคอมมิตชั่น คือ ค่าใช้จ่ายที่ขอเพิ่มจากค่าบริการ เมื่อยอดขายของคุณมากขึ้น (จากเคสนี้ คือเกิน 50 บาท) แบ่งเป็น
1.สินค้าในหมวดหมู่อิเล็กทรอนิกส์ (Electronics items)*คิดเป็น 3% ของราคาตั้งต้นของ
หักด้วยส่วนลดสินค้าที่ผู้ขายรับผิดชอบ (ไม่รวมค่าขนส่งสินค้าและส่วนลดอื่นๆ)
2.สินค้าที่ไม่อยู่ในหมวดหมู่อิเล็กทรอนิกส์ (Non-Electronics items)**คิดเป็น 5% ของราคาตั้งต้น
หักด้วยส่วนลดสินค้าที่ผู้ขายรับผิดชอบ (ไม่รวมค่าขนส่งสินค้าและส่วนลดอื่นๆ)
+ถ้าคำนวนจาก เคสที่1 สินค้าราคา14บาท 5 ชิ้น 70บาทนี้
ต้องขาย 120บาทหรือชิ้นละ 24บาทเลย (ซึ่งใครจะมาซื้อ?) โดย (ทุน70บาท + ค่าแพ็ค25 + ค่าธรรมเนียม20% + ค่าคอมฯ5%)
สรุป
ในมุมร้านค้า ต้องคำนวน "ค่าส่ง" "ค่าแพ็คเก็ต" "ค่าธรรมเนียม" ให้ดี
(+ถ้าคิดแล้วเทียบกับร้านอื่น,ร้านจีน ราคาคุณสูงกว่าเขามาก แนะว่า"อย่าลงทุน"ครับ ไม่งั้นทุนจะจม เพราะคนไทยเน้น"ของถูก")
ในมุมคนซื้อ ต้องคำนวน "ค่าส่ง"บางร้านค่าส่งเว่อร์มาก) และการใช้พวกโปรฯส่งฟรี รวมถึงเข้าใจทางร้านด้วย
การซื้อของที่"ราคาถูก" นอกจากราคาตลาดเสียแล้ว ถ้าไม่ใช่ร้านลืมคิด ราคาพวกนี้(ขาดทุน)
ก็แสดงว่าสินค้านั้นถูกเกินไป(ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะซื้อมาทิ้ง)
ซื้อมาแล้ว ส่งเคลมไม่คุ้มค่าส่ง ซื้อมาแล้วเจ็บใจ ครับ
และการเชื่อรีวิว ดาว ก็ไม่ใช่ทั้งหมดเพราะ ค่ารีวิว5ดาวอยู่ที่หลักร้อยบาท(มีเหมา/รายการ)