หนังสือสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นเมื่อฉันลองตื่นก่อนโลก
คิมยูจิน เขียน
ภัททิรา จิตต์เกษม แปล
สนพ. อัมรินทร์ฮาวทู
__
ผู้เขียนเริ่มจาก Pain point ที่เธอได้พบเจอกับชีวิตการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมทั้งธรรมเนียมเกาหลี และในทีทำงาน ด้วยความที่เธอใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองนอกมานาน การคิดแหละพูดออกมาอาจไม่ถูกใจรุ่นพี่ หรือหัวหน้างาน จนมีวันที่เธอรู้สึกอ่อนล้า เหน็ดเหนื่อย เจอปัญหาต่างๆประดังประเดเข้ามา ทำให้มีความตั้งใจลาออกจากงานภายใน 2 สัปดาห์
จากนั้น เธอก็ได้พบกับสิ่งมหัศจรรย์ในการตื่นตีสี่ครึ่งในทุกๆวัน ได้แก่
1. จัดระเบียบความคิดทีละอย่าง ถือเป็นช่วงเวลาปลอมประโลมตัวเองที่กำลังอ่อนล้า และเป็นโอกาสทบทวนชีวิตตัวเอง
ใช้เวลาอยู่กับตัวเองด้วยการเขียนความในใจลงกระดาษเปล่า โดยไตร่ตรองดูว่าอะไรทำให้ฉันโกรธ มาตรฐานที่ตัวเองควรรักษาคืออะไร สิ่งที่ละทิ้งได้กับไม่ได้มีอะไรบ้าง สิ่งที่ต้องการคืออะไร ก่อนเริ่มต้นวันใหม่ ถือเป็นการตรวจสอบตัวเอง แถมยังได้จัดระเบียบความกังวลไร้สาระ ส่งผลให้สบายใจมากขึ้น และรู้สึกได้ว่า ชีวิตมันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดนะ รวมถึงปรับ mindset ว่า งานบริษัทเป็นสิ่งที่ทำได้ ไม่ใช่สิ่งที่ต้องทำ
2. เป็นเวลาพักผ่อนเพื่อชาร์จพลังงานที่มีประสิทธิภาพ คือ การปล่อยให้สมองว่าง และปล่อยใจให้สงบ เป็นการเรียนรู้วิธีหาความสุขเล็กๆน้อยๆจากชีวิตประจำวัน
Key: เวลาเช้ามืดเป็น “เวลาที่ฉันเป็นผู้นำ” ส่วนนอกนั้นคือ “เวลาที่ปล่อยไปตามโชคชะตา”
3. เป็นช่วงเวลาแห่งการเยียวยาที่ช่วยลดความเครียดในแต่ละวัน
4. สามารถเรียนรู้วิธีปรนนิบัติตัวเอง และดูแลเวลาหนึ่งวันที่มีได้ ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นในตัวเองสูงขึ้น เช่น การเก็บที่นอน เช็ดฝุ่นบนโต๊ะทำงาน ทำทรีตเม้นต์ดูแลเส้นผม ผ่อนคลายกล้ามเนื้อระหว่างอาบน้ำร้อน กินอาหารเช้าให้อิ่มก่อนไปทำงาน ห่ออาหารกลางวันไปที่ทำงาน
5. เธอเชื่อว่า เวลาเช้ามืดเป็นเวลาเคลื่อนไหว ไม่ใช่เวลาหลับใหล (ซึ่งก็แตกต่างกันไปนะคะ สำหรับ Morning person ก็จะเชื่อแบบนี้ Evening person ก็จะคิดอีกแบบ ไม่มีถูกผิดค่ะ เอาที่เหมาะกับเรา)
Key: เวลาหนึ่งวันจะถูกใช้อย่างไร ขึ้นอยู่กับการเลือกของตัวเรา แล้วชีวิตจะเปลี่ยนไปตามการตัดสินใจนั้น
เราโชคดีมากที่ได้หนังสือเล่มนี้มาอ่านช่วงต้นปี 2022 ตอนที่ชีวิตเละเทะทั้งเรื่องงาน เรื่องสุขภาพ และการจัดการเรื่องเวลา พอเราอ่านหนังสือเรื่องนี้จบ เรานำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันคือ ฉันจะลองตื่นตี 5 ทุกวัน (ตั้งเป้า 30 วัน) และปรับ mindset คือ นิสัยสร้างโอกาส ค่ะ เลยอยากเอามาแชร์ให้เพื่อนๆนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตกันนะคะ : )
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://youtu.be/Loep5ROTEJM
My morning routine inspiration - แรงบันดาลใจจากหนังสือสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นเมื่อฉันลองตื่นก่อนโลก
คิมยูจิน เขียน
ภัททิรา จิตต์เกษม แปล
สนพ. อัมรินทร์ฮาวทู
__
ผู้เขียนเริ่มจาก Pain point ที่เธอได้พบเจอกับชีวิตการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมทั้งธรรมเนียมเกาหลี และในทีทำงาน ด้วยความที่เธอใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองนอกมานาน การคิดแหละพูดออกมาอาจไม่ถูกใจรุ่นพี่ หรือหัวหน้างาน จนมีวันที่เธอรู้สึกอ่อนล้า เหน็ดเหนื่อย เจอปัญหาต่างๆประดังประเดเข้ามา ทำให้มีความตั้งใจลาออกจากงานภายใน 2 สัปดาห์
จากนั้น เธอก็ได้พบกับสิ่งมหัศจรรย์ในการตื่นตีสี่ครึ่งในทุกๆวัน ได้แก่
1. จัดระเบียบความคิดทีละอย่าง ถือเป็นช่วงเวลาปลอมประโลมตัวเองที่กำลังอ่อนล้า และเป็นโอกาสทบทวนชีวิตตัวเอง
ใช้เวลาอยู่กับตัวเองด้วยการเขียนความในใจลงกระดาษเปล่า โดยไตร่ตรองดูว่าอะไรทำให้ฉันโกรธ มาตรฐานที่ตัวเองควรรักษาคืออะไร สิ่งที่ละทิ้งได้กับไม่ได้มีอะไรบ้าง สิ่งที่ต้องการคืออะไร ก่อนเริ่มต้นวันใหม่ ถือเป็นการตรวจสอบตัวเอง แถมยังได้จัดระเบียบความกังวลไร้สาระ ส่งผลให้สบายใจมากขึ้น และรู้สึกได้ว่า ชีวิตมันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดนะ รวมถึงปรับ mindset ว่า งานบริษัทเป็นสิ่งที่ทำได้ ไม่ใช่สิ่งที่ต้องทำ
2. เป็นเวลาพักผ่อนเพื่อชาร์จพลังงานที่มีประสิทธิภาพ คือ การปล่อยให้สมองว่าง และปล่อยใจให้สงบ เป็นการเรียนรู้วิธีหาความสุขเล็กๆน้อยๆจากชีวิตประจำวัน
Key: เวลาเช้ามืดเป็น “เวลาที่ฉันเป็นผู้นำ” ส่วนนอกนั้นคือ “เวลาที่ปล่อยไปตามโชคชะตา”
3. เป็นช่วงเวลาแห่งการเยียวยาที่ช่วยลดความเครียดในแต่ละวัน
4. สามารถเรียนรู้วิธีปรนนิบัติตัวเอง และดูแลเวลาหนึ่งวันที่มีได้ ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นในตัวเองสูงขึ้น เช่น การเก็บที่นอน เช็ดฝุ่นบนโต๊ะทำงาน ทำทรีตเม้นต์ดูแลเส้นผม ผ่อนคลายกล้ามเนื้อระหว่างอาบน้ำร้อน กินอาหารเช้าให้อิ่มก่อนไปทำงาน ห่ออาหารกลางวันไปที่ทำงาน
5. เธอเชื่อว่า เวลาเช้ามืดเป็นเวลาเคลื่อนไหว ไม่ใช่เวลาหลับใหล (ซึ่งก็แตกต่างกันไปนะคะ สำหรับ Morning person ก็จะเชื่อแบบนี้ Evening person ก็จะคิดอีกแบบ ไม่มีถูกผิดค่ะ เอาที่เหมาะกับเรา)
Key: เวลาหนึ่งวันจะถูกใช้อย่างไร ขึ้นอยู่กับการเลือกของตัวเรา แล้วชีวิตจะเปลี่ยนไปตามการตัดสินใจนั้น
เราโชคดีมากที่ได้หนังสือเล่มนี้มาอ่านช่วงต้นปี 2022 ตอนที่ชีวิตเละเทะทั้งเรื่องงาน เรื่องสุขภาพ และการจัดการเรื่องเวลา พอเราอ่านหนังสือเรื่องนี้จบ เรานำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันคือ ฉันจะลองตื่นตี 5 ทุกวัน (ตั้งเป้า 30 วัน) และปรับ mindset คือ นิสัยสร้างโอกาส ค่ะ เลยอยากเอามาแชร์ให้เพื่อนๆนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตกันนะคะ : )
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้