แพงโหด! เนื้อไก่ ราคาพุ่ง 115บาท/กก. ต้นหอม-ผักชี พาเหรดขึ้นอีก
https://www.khaosod.co.th/economics/news_7145361

กระทรวงพาณิชย์ เผย เนื้อไก่ แพงโหด ราคาพุ่ง 115 บาท/กิโลกรัม เผย ต้นหอม พุ่งกิโลกรัมละ 150 บาท ส่วนผักชี ก็ขึ้นไม่หยุด รีบเช็กเลย
  
วันที่ 5 ก.ค.2565 รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งถึงราคาจำหน่ายปลีกอาหารสด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 4 ก.ค. เปรียบเทียบกับวันที่ 3 ก.ค.2565 พบว่าอาหารสดหลายรายการมีราคาปรับเพิ่มขึ้น ได้แก่ ไก่สดชำแหละ เนื้อสันใน ปรับขึ้น 5 บาท/กิโลกรัม เป็น 105-115 บาท/กิโลกรัม, ไก่สดชำแหละ เนื้ออก (ติดหนัง) ปรับขึ้น 5 บาท/กิโลกรัม เป็น 100-105 บาท/กิโลกรัม, ไก่สดชำแหละ เนื้ออก (เนื้อล้วน) ปรับขึ้น 5 บาท/กิโลกรัม เป็น 100-110 บาท/กิโลกรัม
 
นอกจากนี้ ผักสดบางรายการยังปรับขึ้นราคา ได้แก่ ต้นหอม คัด ปรับขึ้น 20 บาท/กิโลกรัม เป็น 145-150 บาท/กิโลกรัม, ต้นหอม คละ ปรับขึ้น 20 บาท/กิโลกรัม เป็น 135-140บาท/กิโลกรัม, แตงกวา คัด ปรับขึ้น 5 บาท/กิโลกรัม เป็น 40-45 บาท/กิโลกรัม, แตงกวา คละ ปรับขึ้น 5 บาท/กิโลกรัม เป็น 30-35 บาท/กิโลกรัม
 
ส่วน ผักชีจากการสำรวจราคาตั้งแต่ต้นเดือนก.ค.2565 พบว่าราคามีการปรับเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดราคาปรับขึ้นมาอยู่ที่ 160-170 บาท/กิโลกรัม แล้ว
 

---

อ๋อย จี้รัฐบาลพูดความจริง หลังหมอศิริราชเผยยอดโควิดจริงสูงวันละ 5 หมื่น
https://www.matichon.co.th/politics/news_3436246
 
อ๋อย จี้รัฐบาลพูดความจริงเพื่อทุกฝ่ายปฏิบัติตัวได้ถูก หลังหมอศิริราช เผยยอดโควิดจริงสูงวันละ 5 หมื่น
 
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย โพสต์เฟซบุ๊ก“Chaturon Chaisang”เรื่องผู้ป่วยโควิด โดยมีรายละเอียด ดังนี้
 
ตกลงความจริงเป็นยังไงครับ คุณหมอศิริราชบอกว่าตัวเลขอาจสูงถึงวันละ 5 หมื่น แต่เราอยู่กับตัวเลขที่เห็นตอนเช้าประมาณ 2,000 รายเท่านั้น ต่างกัน 25 เท่า
 
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
– https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_3435935 ‘หมอนิธิพัฒน์’ เตือน โควิดเขม็งเกลียวขึ้นมาใหม่ เผยยอดผู้ติดเชื้อจริง วันละ 5 หมื่น
 
กรมควบคุมโรคก็บอกว่าสถานการณ์โควิดกำลังอยู่ในขาขึ้น
 
รัฐบาลควรจะบอกความจริงกับประชาชน ทุกฝ่ายจะได้ปฏิบัติถูก
 
อย่าลืมว่า การฉีดวัคซีนในกลุ่ม 608 ก็ยังช้า ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเปราะบางนี้ ถ้าติดเชื้อขึ้นมาก็มีโอกาสจะป่วยหนักหรือเสียชีวิตได้ สถิติก็เป็นอย่างนั้น
ยาต้านไวรัสก็มีจำกัด บางยี่ห้อที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น Paxlovid บางประเทศแจกฟรี เมืองไทยไม่ยอมให้นำเข้า หาซื้อเองราคาเป็นหมื่นๆ ส่วน Molnupiravir ก็หายาก ที่หลายคนเจอคือกว่าจะได้ยาต้องรอขั้นตอน และยังมักได้รับคำชี้แจงว่าต้องเป็นหนักถึงจะได้ใช้ ทั้งที่ยาต้านไวรัส ยิ่งใช้เร็วยิ่งได้ผลดี และออกฤทธิ์ภายใน 5 วันนับแต่วันเป็นเท่านั้น รอจนเป็นหนักแล้ว ยาก็ไม่ได้ช่วยอะไร
 
ถ้าไม่เปิดเผยความจริง ไม่เร่งฉีดวัคซีนให้กลุ่มเสี่ยงและไม่ให้คนไทยเข้าถึงยาต้านไวรัสที่มีคุณภาพได้สะดวกรวดเร็ว หากแต่ละวันติดเชื้อมากจริงๆ อย่างที่คุณหมอเป็นห่วง จำนวนผู้ป่วยหนักอาจจะสูงและการเสียชีวิตก็จะตามมา

https://www.facebook.com/Chaturon.FanPage/posts/pfbid0fHDWRku1M8Z1ZFzA4FXVqmjLvmnvxuJoPXXguybiaDMAjmHLXUb9nyribRiRmw8Bl
 

---

 
‘ส.ส.เพื่อไทย’ ชี้ ‘บิ๊กตู่’ มาเชียงใหม่ไร้ประโยชน์ เชื่อหวังหาเสียง ชาวบ้านหวั่นขโมยผลงาน ‘ยิ่งลักษณ์’
https://www.matichon.co.th/politics/news_3436255

‘ส.ส.เพื่อไทย’ ชี้ ‘บิ๊กตู่’ มาเชียงใหม่ไร้ประโยชน์ เมินแก้ปัญหา ปชช. เชื่อหวังหาเสียง ชาวบ้านหวั่นขโมยผลงาน ‘ยิ่งลักษณ์’ ซัดคิดไม่เป็นก็ไม่ควรอยู่ต่อ

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม นายวิทยา ทรงคำ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยว่า การเดินทางไปตรวจราชการที่จังหวัดเชียงใหม่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นเพียงการไปตรวจราชการ แต่กลับมีการจัดเตรียมทีมอารักขามากกว่า 2,000 นาย ทั้งตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เต็มพิกัด เต็มพื้นที่เชียงใหม่ จะไปเพื่ออะไร เพราะเป็นสร้างความลำบากให้เจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ การไปตรวจงานครั้งนี้เป็นการไปตรวจงานที่แฝงด้วยการหาเสียงไปในตัว พล.อ.ประยุทธ์หวังสร้างภาพมากกว่าตั้งใจไปตรวจงานอย่างแท้จริง หลายจุดที่ไปเดินเป็นผลงานที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ริเริ่มไว้ เพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนจนถึงเวลานี้ใกล้แล้วเสร็จ ทั้งนี้ ประชาชนในพื้นที่หวั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์จะอ้างเป็นผลงานตัวเองในที่สุด  
 
“น่าเสียดายที่การเดินทางมาเชียงใหม่ในครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์กลับไม่ใช้เวลาไปพูดคุยกับพี่น้องประชาชนเพื่อสอบถามสารทุกข์สุกดิบและพูดคุยกับผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาในปัจจุบัน แล้วจะช่วยเหลือเขาอย่างไร ผลพวงจากการระบาดของโควิด-19 และมาตรการของรัฐบาลที่ไม่มีความชัดเจนส่งผลกระทบรุนแรงต่อภาคธุรกิจจนถึงปัจจุบัน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ แต่กลับไม่สามารถแก้ปัญหาการท่องเที่ยวได้ จำนวนนักท่องเที่ยวในเชียงใหม่ตกต่ำมาก จากหลักล้านเหลือหลักพัน นักท่องเที่ยวจีนหดหาย แล้วหากมีผู้นำเช่นนี้ผู้ประกอบการคงนับถอยหลังรอวันตายเพียงอย่างเดียว แผนงานไม่มี แต่ออกมาตรการช่วยเหลือ คิดไม่เป็นก็ไม่ควรอยู่ต่อไป ลาออกไปได้แล้ว” นายวิทยากล่าว