What's not down?!
ถึงเวลาเริ่มต้นฝึกภาษาประจำเดือนกรกฎาคม เดือนนี้กะว่าจะเน้นหัวข้อเกี่ยวกับแกรมมาร์ละกันนะครับ มี 10 เหมือนเดิม จะเน้นไปที่เรื่องพื้นฐานก่อนนะ กะว่าให้สิบตอนนี้ให้เรามีพื้นฐานแน่นพอประมาณเลย สงสัยตรงไหนสอบถามได้ตลอดนะครับ (เดือนนี้ขอคำถามเกี่ยวกับแกรมมาร์นะ อิอิ)
Let's go!
1) พื้นฐานสำคัญในการเรียนแกรรมาร์ให้แตกฉานคือ เข้าใจ part of speech โดยมันแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก ๆ คือ content words (ได้แก่ nouns, verbs, adjectives, adverbs, negatives, wh-words, demonstrative pronouns) และ function words (ได้แก่ auxiliary verbs, pronouns, prepositions, conjunctions, articles)
2) ใน part of speech แต่ละหัวข้อ ก็จะมีแกรมมาร์ของมันเอง เช่นในหัวข้อ nouns ก็จะมีเรื่อง types of nouns, regular and irregular nouns, countable and uncountable nouns อะไรประมาณนี้ ให้เราเริ่มศึกษาแกรมมาร์ของ content words ก่อน เพราะมันเป็นคำที่เราจะได้ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน แล้วค่อยไป function words
3) วิธีศึกษาเรื่องเหล่านี้ก็ไม่ยาก เข้า google แล้วพิมพ์ว่า noun grammar, verb grammar, adjective grammar อะไรก็ว่าไป มีบทเรียนเพียบ!
4) ทำไมถึงต้องศึกษา content wods ก่อน? Content = information and meaning ซึ่งเป็นใจความสำคัญของประโยค ในขณะที่ Function = grammar and sentence structure ซึ่งมันเป็นหลักการแต่งประโยคให้ถูกต้องเฉย ๆ เนื่องจากแกรมมาร์ให้หัวข้อ function words นี้ (เช่น preposition grammar) จะมีข้อท่องจำและข้อยกเว้นเยอะมาก เลยไม่แนะนำให้ศึกษาให้ช่วงแรก จะปวดหัวเอาเปล่า ๆ ให้เน้นไปที่แกรมมาร์ของ content words เพราะส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจเป็นหลัก
5) แต่ถึงกระนั้นมันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้หรอก สุดท้ายก็ต้องมีเรียนควบคู่กันไปบ้าง เช่นเรื่อง verb to be ที่เป็นหนึ่งในหัวข้อย่อยของ auxiliary verbs ในหมวด function words นี้ ก็เป็นเรื่องที่เราควรเรียนตั้งแต่เนิ่น ๆ เหมือนกัน หลัก ๆ ก็คือการใช้ verb to be กับ adjective, nouns และ v-ing (continuous tense)
ข้อ 6 - 10 มาดูความรู้แกรมมาร์คร่าว ๆ
6) หัวข้อแกรมมาร์ที่จะเจอในเรื่อง nouns (คำนาม) ก็คือี Types of nouns (ชนิดของคำนาม), Noun countablity (คำนามนับได้และนับไม่ได้), Proper nouns (คำนามเฉพาะ), Possessive (คำนามแสดงความเป็นเจ้าของ), Compound nouns (คำนามประสม), Noun as Adjective (คำนามที่ทำหน้าที่เหมือนคำคุณศัพท์)
7) หัวข้อแกรมมาร์ที่เราจะเจอในเรื่อง verbs (กริยา) ก็คือ Verb conjugation (การผันเวิร์บ), Regular and Irregular verbs (กริยาที่ผันรูปแบบปกติและไม่ปกติ), Phrasal verbs (กริยาวลี), Gerunds and Infinitives (กริยาที่ทำหน้าที่เป็นคำนามและส่วนขยาย), Types of Verbs (ชนิดของคำกริยา) เช่น action verbs, stative verbs, transitive verbs, intransitive verbs เป็นต้น
8) ในเรื่อง adjectives เราก็จะต้องเรียน Adjective position (ตำแหน่งการวางคำคุณศัพท์), Adjective types (รูปแบบของคำคุณศัพท์), Comparative and Superlative (การเปรียบเทียบขั้นกว่าและขั้นสุด), Adjective as Noun (การใช้คุณศัพท์แทนคำนาม) เป็นต้น
9) และเรื่องที่เราต้องศึกษาเกี่ยวกับ adverbs ก็จะคล้าย ๆ adjective นะ (เพราะ adverb หลายตัวก็มาจากการเอา adjective มาเติม -ly เช่น Happy (adj.) กลายเป็น Happily (adv.) เป็นต้น) คือ Placement of Adverb (ตำแหน่งการวางกริยาวิเศษณ์), Adverb form/suffixes (รูปแบบของกริยาวิเศษณ์), Kinds of Adverb (กริยาวิเศษณ์ชนิดต่าง ๆ) เป็นต้น
10) สุดท้าย Content words ยังสำคัญต่อการออกเสียงด้วยนะ เพราะเวลาเราพูดคุยกันในชีวิตจริง เราจะเน้นคำที่ content words มากกว่า function words เช่นประโยค The dog is barking at the stranger. ที่เวลาเราอ่านออกเสียงก็จะเน้นประมาณ "the DOG is BARKing at the STRANGer" สังเกตไหมว่าทุกคำที่โดนเน้นจะเป็น content words หมดเลย ส่วน function words เราจะไม่เน้นเวลาพูด
จบไปกับแกรมมาร์ตอนที่หนึ่ง ผมจะพยายามบาลานซ์ระหว่างแนวทางการฝึกและหัวข้อแกรมมาร์ละกันนะ เราจะได้มีทั้งวิธีการและเนื้อหาในการพัฒนาสกิลแกรมมาร์ด้วย อยากบอกว่าอันนี้เป็นแค่ guideline คร่าว ๆ นะครับ พอเราไปอ่านจริง ๆ อาจจะมีอีกหลายเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน แต่ยังไงก็เก็บเรื่องพวกนี้ให้ครบ เรื่องอื่นก็จะง่ายขึ้นในระดับนึงครับ
ชอบไม่ชอบยังไงแนะนำได้นะคร้าบ แล้วเจอกันตอนหน้า!
"ไม่ต้องรู้ทุกอย่างในวันนี้ แค่รู้ให้มากกว่าเมื่อวาน"
Stay tuned
JGC.
พื้นฐานหลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ (Part 1) - Part of Speech, Content Words, Function Words
ถึงเวลาเริ่มต้นฝึกภาษาประจำเดือนกรกฎาคม เดือนนี้กะว่าจะเน้นหัวข้อเกี่ยวกับแกรมมาร์ละกันนะครับ มี 10 เหมือนเดิม จะเน้นไปที่เรื่องพื้นฐานก่อนนะ กะว่าให้สิบตอนนี้ให้เรามีพื้นฐานแน่นพอประมาณเลย สงสัยตรงไหนสอบถามได้ตลอดนะครับ (เดือนนี้ขอคำถามเกี่ยวกับแกรมมาร์นะ อิอิ)
Let's go!
1) พื้นฐานสำคัญในการเรียนแกรรมาร์ให้แตกฉานคือ เข้าใจ part of speech โดยมันแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก ๆ คือ content words (ได้แก่ nouns, verbs, adjectives, adverbs, negatives, wh-words, demonstrative pronouns) และ function words (ได้แก่ auxiliary verbs, pronouns, prepositions, conjunctions, articles)
2) ใน part of speech แต่ละหัวข้อ ก็จะมีแกรมมาร์ของมันเอง เช่นในหัวข้อ nouns ก็จะมีเรื่อง types of nouns, regular and irregular nouns, countable and uncountable nouns อะไรประมาณนี้ ให้เราเริ่มศึกษาแกรมมาร์ของ content words ก่อน เพราะมันเป็นคำที่เราจะได้ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน แล้วค่อยไป function words
3) วิธีศึกษาเรื่องเหล่านี้ก็ไม่ยาก เข้า google แล้วพิมพ์ว่า noun grammar, verb grammar, adjective grammar อะไรก็ว่าไป มีบทเรียนเพียบ!
4) ทำไมถึงต้องศึกษา content wods ก่อน? Content = information and meaning ซึ่งเป็นใจความสำคัญของประโยค ในขณะที่ Function = grammar and sentence structure ซึ่งมันเป็นหลักการแต่งประโยคให้ถูกต้องเฉย ๆ เนื่องจากแกรมมาร์ให้หัวข้อ function words นี้ (เช่น preposition grammar) จะมีข้อท่องจำและข้อยกเว้นเยอะมาก เลยไม่แนะนำให้ศึกษาให้ช่วงแรก จะปวดหัวเอาเปล่า ๆ ให้เน้นไปที่แกรมมาร์ของ content words เพราะส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจเป็นหลัก
5) แต่ถึงกระนั้นมันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้หรอก สุดท้ายก็ต้องมีเรียนควบคู่กันไปบ้าง เช่นเรื่อง verb to be ที่เป็นหนึ่งในหัวข้อย่อยของ auxiliary verbs ในหมวด function words นี้ ก็เป็นเรื่องที่เราควรเรียนตั้งแต่เนิ่น ๆ เหมือนกัน หลัก ๆ ก็คือการใช้ verb to be กับ adjective, nouns และ v-ing (continuous tense)
ข้อ 6 - 10 มาดูความรู้แกรมมาร์คร่าว ๆ
6) หัวข้อแกรมมาร์ที่จะเจอในเรื่อง nouns (คำนาม) ก็คือี Types of nouns (ชนิดของคำนาม), Noun countablity (คำนามนับได้และนับไม่ได้), Proper nouns (คำนามเฉพาะ), Possessive (คำนามแสดงความเป็นเจ้าของ), Compound nouns (คำนามประสม), Noun as Adjective (คำนามที่ทำหน้าที่เหมือนคำคุณศัพท์)
7) หัวข้อแกรมมาร์ที่เราจะเจอในเรื่อง verbs (กริยา) ก็คือ Verb conjugation (การผันเวิร์บ), Regular and Irregular verbs (กริยาที่ผันรูปแบบปกติและไม่ปกติ), Phrasal verbs (กริยาวลี), Gerunds and Infinitives (กริยาที่ทำหน้าที่เป็นคำนามและส่วนขยาย), Types of Verbs (ชนิดของคำกริยา) เช่น action verbs, stative verbs, transitive verbs, intransitive verbs เป็นต้น
8) ในเรื่อง adjectives เราก็จะต้องเรียน Adjective position (ตำแหน่งการวางคำคุณศัพท์), Adjective types (รูปแบบของคำคุณศัพท์), Comparative and Superlative (การเปรียบเทียบขั้นกว่าและขั้นสุด), Adjective as Noun (การใช้คุณศัพท์แทนคำนาม) เป็นต้น
9) และเรื่องที่เราต้องศึกษาเกี่ยวกับ adverbs ก็จะคล้าย ๆ adjective นะ (เพราะ adverb หลายตัวก็มาจากการเอา adjective มาเติม -ly เช่น Happy (adj.) กลายเป็น Happily (adv.) เป็นต้น) คือ Placement of Adverb (ตำแหน่งการวางกริยาวิเศษณ์), Adverb form/suffixes (รูปแบบของกริยาวิเศษณ์), Kinds of Adverb (กริยาวิเศษณ์ชนิดต่าง ๆ) เป็นต้น
10) สุดท้าย Content words ยังสำคัญต่อการออกเสียงด้วยนะ เพราะเวลาเราพูดคุยกันในชีวิตจริง เราจะเน้นคำที่ content words มากกว่า function words เช่นประโยค The dog is barking at the stranger. ที่เวลาเราอ่านออกเสียงก็จะเน้นประมาณ "the DOG is BARKing at the STRANGer" สังเกตไหมว่าทุกคำที่โดนเน้นจะเป็น content words หมดเลย ส่วน function words เราจะไม่เน้นเวลาพูด
จบไปกับแกรมมาร์ตอนที่หนึ่ง ผมจะพยายามบาลานซ์ระหว่างแนวทางการฝึกและหัวข้อแกรมมาร์ละกันนะ เราจะได้มีทั้งวิธีการและเนื้อหาในการพัฒนาสกิลแกรมมาร์ด้วย อยากบอกว่าอันนี้เป็นแค่ guideline คร่าว ๆ นะครับ พอเราไปอ่านจริง ๆ อาจจะมีอีกหลายเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน แต่ยังไงก็เก็บเรื่องพวกนี้ให้ครบ เรื่องอื่นก็จะง่ายขึ้นในระดับนึงครับ
ชอบไม่ชอบยังไงแนะนำได้นะคร้าบ แล้วเจอกันตอนหน้า!
"ไม่ต้องรู้ทุกอย่างในวันนี้ แค่รู้ให้มากกว่าเมื่อวาน"
Stay tuned
JGC.