เสี่ยโจ้ ซัด ทอ.ทำประเทศเสียเกียรติ ข้องใจไม่ส่ง F-16 สกัดเครื่องบินรบเมียนมา
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7142143
 
 
“ยุทธพงศ์” กังขาไทยไม่ส่ง F-16 สกัดเครื่องบินรบเมียนมาร์ ซัด กองทัพอากาศล้มเหลว จ่อ ซักผบ.ทอ. 18 ก.ค.นี้ งบประมาณกองทัพเข้ากมธ.งบฯ
 
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ก.ค. 2565 ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีเครื่องบินรบ MIG 29 ประเทศเมียนมาร์ บินรุกล้ำน่านฟ้าไทย ในพื้นที่ อ.พบพระ จ.ตาก เมื่อวันมี่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที ทำให้ประชาชนชาวไทยต้องอพยพลี้ภัยเร่งด่วน ว่า เหตุใดกองทัพอากาศไทยไม่ส่งเครื่องบิน F-16 ซึ่งมีประสิทธิภาพเหนือกว่าขึ้นสกัดกั้น
 
โดยหลังเกิดเหตุการณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ระบุว่า เครื่องบินรบดังกล่าวแค่มาตีวงเลี้ยวไม่ใช่เรื่องใหญ่ ทั้งที่จริงแล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะการรุกล้ำน่านฟ้าไทยเป็นการรุกล้ำอธิปไตยประเทศ ขนาดพล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ยังบอกว่า เดือด ตนจึงเกิดข้อกังขาว่า เหตุใดไม่รีบนำ F-16 ขึ้นไปสกัดกั้น
 
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า เมื่อปี 2563 พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผบ.ทอ.ในขณะนั้น ได้ของบประมาณ 940 ล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการจัดซื้อระบบการป้องกันภัยทางอากาศระยะใกล้ หรือระบบ GBAD พร้อมอุปกรณ์ เพื่อประจำบริเวณชายแดนไทย-เมียนมาร์
 
ต่อมาสมัยพล.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ เป็นผบ.ทอ. ได้เข้ามารื้อโครงการดังกล่าว และแก้ไขทีโออาร์ โดยตัดแนวทางการจัดหา จัดซื้อ และพัฒนา ที่พล.อ.อ.มานัต ได้ทำโครงการและเสนอต่อสภา โดยสภาอนุมัติแล้ว แต่พล.อ.อ.แอร์บูลรื้อใหม่ให้เป็นการจัดซื้อจัดจ้างอย่างเดียว ไม่ได้มีการพัฒนาทำให้ผิดทีโออาร์ และผิดไปจากวัตถุประสงค์ที่มีการขอซื้อจากสภา
 
นอกจากนี้ ยังเปลี่ยนจากวิธีการคัดเลือก โดยให้บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญแข่งขันกันมาเป็นวิธีเฉพาะเจาะจง สุดท้ายดำเนินการไม่ได้ เพราะผิดทีโออาร์ และคำของบประมาณ ทำให้แทนที่ประเทศไทยจะมีระบบ GBAD แต่สุดท้ายโครงการนี้ต้องพับไป
 
“แสดงให้เห็นว่ากองทัพอากาศใช้เงินไม่เป็น ไม่มีประสิทธิภาพ ของบประมาณได้แล้วแต่จัดซื้อไม่ได้ ไม่เช่นนั้นเครื่องบินรบ MIG 29 ของเมียนมาร์จะร่วงได้ ถ้าเรามีระบบ GBAD ส่วนในปีงบประมาณ 2566 กองทัพอากาศของบ 3 หมื่นกว่าล้านบาท โดยจะขอซื้อเครื่องบินขับไล่ F-35 A ลำละ 78 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 2,700 ล้านบาท โดยปีนี้ขอซื้อ 2 ลำ จากทั้งหมดขอซื้อไว้ 8 ลำ
 
ทั้งนี้ วันที่ 18 ก.ค.นี้ งบกระทรวงกลาโหมทั้งหมดจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะกมธ.งบฯ ซึ่งจะต้องซักถามกับผบ.ทอ.ถึงกรณีเครื่องบินรบที่บินรุกล้ำเข้ามา เพราะทำให้ประเทศเราเสียหาย เสียเกียรติภูมิ” นายยุทธพงศ์ กล่าว
 
นายยุทธพงศ์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้รัฐบาลมีการหยิบยก Bio-Circular-Green Economy (BCG) หมายถึงเศรษฐกิจหมุนเวียนที่อิงการผลิตด้วยการอิงชีวพันธุ์ เพื่อให้เศรษฐกิจประเทศหมุนเวียนยั่งยืนด้วยความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่เหตุใดปีนี้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ตั้งงบประมาณเรื่อง BCG โดยการยกระดับเอสเอ็มอีเพียง 3.6 ล้านบาท ตนสงสัยว่าตั้งงบเท่านี้จะดำเนินการผลักดันโครงการดังกล่าวได้สำเร็จจริงหรือ ตัวเลขงบประมาณที่ขอยังแสดงให้เห็นว่าสวนทางกับคำพูดของนายกฯ และรัฐบาล ที่บอกจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ด้วย
 

---

 
เปิดภาพวงจรปิด 2 ชายหัวเกรียน ลงมือติดป้ายทับ สะพานพิบูลสงคราม
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7142213
 
เปิดภาพวงจรปิด เห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ ผมสั้น ขับกระบะสีเข้ม ลงมือติดป้ายทับ สะพานพิบูลสงคราม ในช่วงกลางดึก ก่อนขับรถหายไปในความมืด
 
วันที่ 3 ก.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าในการติดตามตัวมือมืดที่นำป้าย สะพานท่าราบ มาแปะทับชื่อ สะพานพิบูลสงคราม นั้น จากการตรวจสอบพยานหลักฐานล่าสุดโดยเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน พบภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ลงมือแล้ว โดยก่อเหตุหลังเที่ยงคืนของวันที่ 30 มิ.ย.ย่างเข้าวันที่ 1 ก.ค.ในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่ง
  
สำหรับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ใช้รถกระบะสีเข้มคล้ายสีดำ ขับวนไปวนมา 3 รอบก่อนลงมือ โดยเป็นกลุ่มชายฉกรรจ์ ท่าทางทะมัดทะแมง ผมสั้น ลงมืออย่างรวดเร็ว ทั้งจากการตรวจสอบเส้นทางของรถกระบะดังกล่าว พบว่า หลังปฏิบัติการเสร็จสิ้น ขับไปทางย่านเกียกกาย สะพานแดง แล้วหายไปในความมืด
  
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนที่รับผิดชอบได้ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณดังกล่าวจนทราบว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุอยู่ระหว่างคืนวันที่ 30 มิ.ย.ต่อเนื่องวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีชาย 2 คน ผมสั้นเตียน ใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า สวมเสื้อคลุมแขนยาว ขับรถกระบะสีเลือดหมู มุ่งหน้ามาจากถนนสามเสน ผ่านแยกเกียกกายมาบริเวณดังกล่าว ก่อนนำป้าย 4 แผ่นติดบริเวณดังกล่าว โดยใช้เวลาประมาณ 17 นาที เนื่องจากออกไปช่วงเวลาประมาณ 00.22 น.
 
อ่านข่าว : ก่อเหตุ17นาที! วงจรปิดพบ2หัวเกรียน ติดป้ายทับชื่อ สะพานพิบูลสงคราม
  

---

  
ห้างโมเดิร์นเทรดจำกัดโควตาซื้อน้ำปลา-น้ำมันหอย-น้ำมันพืช สกัดกักตุน
https://www.prachachat.net/economy/news-970813

พิษของแพงอ่วม แห่ตุนของกินของใช้ ห้างโมเดิร์นเทรดจำกัดโควตาซื้อน้ำปลา-น้ำมันหอย-น้ำมันพืช หวั่นสต๊อกขาด
 
วันที่ 3 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ”  สำรวจห้างค้าปลีกโมเดิร์นเทรด ในพื้นที่ กรุงเทพและปริมณฑล พบว่า แม้ว่าปริมาณสินค้าในห้างยังมีจำหน่ายไม่ขาดตลาดแต่ได้มีการจำกัดการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคบางรายการ เช่น น้ำปลา น้ำมันหอย ไม่ให้เกินรายละ 6 ขวด/ครอบครัว น้ำมันปาล์ม ไม่เกิน 3ขวด/ครอบครัว เพื่อกระจายการจำหน่ายป้องกันไมให้มีการซื้อเก็บสต๊อกจนเกิดปัญหาขาดแคลน

ซึ่งเป็นผลจากที่ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคได้ทยอยปรับราคา ด้วยต้นทุนขนส่งและขายปลีกหลายรายการ เช่น น้ำปลา 2 บาทต่อขวด จาก 30 บาท เป็น 32 บาทต่อขวด น้ำอัดลมยี่ห้อโค้กขึ้นราคา 1-2 บาทต่อขวด โดยขนาดตั้งแต่ 1 ลิตร ขึ้น 2 บาท จาก 27 บาท เป็น 29 บาทต่อขวด และขนาดไม่ถึง 1 ลิตร อีก 1 บาทต่อขวด จาก 14 บาท เป็น 15 บาทต่อขวด

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ ยังมีแนวโน้มว่าราคาสินค้าหลายรายการ เตรียมจะปรับขึ้นราคาอึก เช่น ซอสปรุงรส น้ำจิ้มไก่ น้ำจิ้มสุกี้ และผงชูรส น้ำยาซักผ้าขาว และน้ำผลไม้ ซึ่งเตรียมปรับราคาตามต้นทุนการผลิตและค่าขนส่งที่ปรับสูงขึ้น