สหรัฐฯ ส่งเครื่องบินรบ F-22 2 ลำ บินขึ้นสกัดเครื่องบินรบรัสเซียถึง 6 ลำ บินป่วนเข้ามาใกล้น่านฟ้ารัฐอะแลสกา และแคนาดา จึงทำให้กองทัพอากาศแคนาดาต้องส่งเครื่องบินรบขึ้นขวางเครื่องบินทิ้งระเบิด 2 ลำของรัสเซียเช่นกัน
เมื่อวันที่ 20 ก.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุการณ์ระทึก กองบัญชาการป้องกันน่านฟ้าในอเมริกาเหนือ (NORAD) ของสหรัฐฯต้องส่งเครื่องบินรบไอพ่น 2 ลำ บินขึ้นสกัดเครื่องบินของรัสเซียถึง 6 ลำ ที่บินป่วน รุกล้ำน่านฟ้าเข้ามาในเขต ADIZ (เขตที่ต้องแจ้งต่อศูนย์ป้องกันภัยทางอากาศ) ทางตะวันตกของรัฐอะแลสกา ขณะเดียวกัน กองทัพอากาศแคนาดาได้ส่งเครื่องบินรบ CF-18 2 ลำ บินขัดขวางเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซีย 2 ลำที่บินตรงเข้ามาในเขต ADIZ ของแคนาดาเช่นกัน
NORAD รายงานถึงการตัดสินใจส่งเครื่องบินรบสหรัฐฯ บินขึ้นสกัดเครื่องบินรบของกองทัพอากาศรัสเซีย เนื่องจากเห็นว่า มีเครื่องบินรัสเซียได้บินเข้ามาในเขต ADIZ ของรัฐอะแลสกา ประมาณ 55 ไมล์ทะเล และในเขต ADIZ ของแคนาดา 40 ไมล์ทะเล ด้วยเหตุนี้จึงส่งเครื่องบิน F-22 ที่ประจำการอยู่ในรัฐอะแลสกา 2 ลำ บินขึ้นสกัด เครื่องบินรัสเซีย 6 ลำ ซึ่งมีทั้งเครื่องบินเติมเชื้อเพลิง 2 ลำ, เครื่องบิน Mig-31 2 ลำ และเครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกล 2 ลำ
ตามรายงานของ NORAD ระบุว่า ถึงแม้เครื่องบินของรัสเซียทั้ง 6 ลำไม่ได้เข้ามาล่วงละเมิดเขตน่านฟ้าของสหรัฐฯ และแคนาดา แต่ก็เข้ามาในเขต ADIZ ซึ่งเป็นบริเวณที่อยู่ห่างจากเขตน่านฟ้าของทั้งสองประเทศ ประมาณ 200 ไมล์ และเป็นเขตที่หากมีเครื่องบินลำใดผ่านเข้ามา จะต้องแจ้งต่อทางศูนย์ป้องกันน่านฟ้าของสหรัฐฯ และแคนาดาให้รับทราบ
อย่างไรก็ตาม ด้านเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยต่อบาร์บารา สตาร์ นักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า การที่มีเครื่องบินรบของรัสเซียถึง 6 ลำเข้ามาบินป่วนในเขต ADIZ นั้น ด้านเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ คิดว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก แห่งยูเครน เดินทางมาพบปะกับเจ้าหน้าที่ทางการแคนาดาเมื่อวันที่ 17 ก.ย. และยังมาหารือกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ในวันรุ่งขึ้น (18 ก.ย.) โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ได้สัญญาจะให้เงินช่วยเหลือแก่รัฐบาลยูเครนในการนำไปใช้ต่อสู้กับกบฏแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออกถึง 46 ล้านดอลลาร์
รัสเซียเราเล่นพิเรนอีกแล้ว
เมื่อวันที่ 20 ก.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุการณ์ระทึก กองบัญชาการป้องกันน่านฟ้าในอเมริกาเหนือ (NORAD) ของสหรัฐฯต้องส่งเครื่องบินรบไอพ่น 2 ลำ บินขึ้นสกัดเครื่องบินของรัสเซียถึง 6 ลำ ที่บินป่วน รุกล้ำน่านฟ้าเข้ามาในเขต ADIZ (เขตที่ต้องแจ้งต่อศูนย์ป้องกันภัยทางอากาศ) ทางตะวันตกของรัฐอะแลสกา ขณะเดียวกัน กองทัพอากาศแคนาดาได้ส่งเครื่องบินรบ CF-18 2 ลำ บินขัดขวางเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซีย 2 ลำที่บินตรงเข้ามาในเขต ADIZ ของแคนาดาเช่นกัน
NORAD รายงานถึงการตัดสินใจส่งเครื่องบินรบสหรัฐฯ บินขึ้นสกัดเครื่องบินรบของกองทัพอากาศรัสเซีย เนื่องจากเห็นว่า มีเครื่องบินรัสเซียได้บินเข้ามาในเขต ADIZ ของรัฐอะแลสกา ประมาณ 55 ไมล์ทะเล และในเขต ADIZ ของแคนาดา 40 ไมล์ทะเล ด้วยเหตุนี้จึงส่งเครื่องบิน F-22 ที่ประจำการอยู่ในรัฐอะแลสกา 2 ลำ บินขึ้นสกัด เครื่องบินรัสเซีย 6 ลำ ซึ่งมีทั้งเครื่องบินเติมเชื้อเพลิง 2 ลำ, เครื่องบิน Mig-31 2 ลำ และเครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกล 2 ลำ
ตามรายงานของ NORAD ระบุว่า ถึงแม้เครื่องบินของรัสเซียทั้ง 6 ลำไม่ได้เข้ามาล่วงละเมิดเขตน่านฟ้าของสหรัฐฯ และแคนาดา แต่ก็เข้ามาในเขต ADIZ ซึ่งเป็นบริเวณที่อยู่ห่างจากเขตน่านฟ้าของทั้งสองประเทศ ประมาณ 200 ไมล์ และเป็นเขตที่หากมีเครื่องบินลำใดผ่านเข้ามา จะต้องแจ้งต่อทางศูนย์ป้องกันน่านฟ้าของสหรัฐฯ และแคนาดาให้รับทราบ
อย่างไรก็ตาม ด้านเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยต่อบาร์บารา สตาร์ นักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า การที่มีเครื่องบินรบของรัสเซียถึง 6 ลำเข้ามาบินป่วนในเขต ADIZ นั้น ด้านเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ คิดว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก แห่งยูเครน เดินทางมาพบปะกับเจ้าหน้าที่ทางการแคนาดาเมื่อวันที่ 17 ก.ย. และยังมาหารือกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ในวันรุ่งขึ้น (18 ก.ย.) โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ได้สัญญาจะให้เงินช่วยเหลือแก่รัฐบาลยูเครนในการนำไปใช้ต่อสู้กับกบฏแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออกถึง 46 ล้านดอลลาร์