ยังคงวนเวียนอยู่กับอาหารทะเล ร้านนี้เราไปทานกันตอนเย็นของวันที่ 9 เมษายน 2565 เป็นอีกหนึ่งร้านที่เราบังเอิญไปเจอเขารีวิวในยูทูป พอได้จังหวะไปเที่ยวพัทยาเลยลองตามไปทานดู ร้านซ้อต่าย อยู่นาเกลือ ซอย 6 เปิด 15:30-22:00 น. หยุดทุกวันพุธ (ควรโทรไปสอบถามก่อนว่าร้านเปิดหรือไม่เพราะบางทีเจ้าของร้านมีธุระเขาก็จะไม่เปิดร้าน)ร้านไม่มีที่จอดรถ หาจอดตามริมถนน หรือที่รับฝากรถ ร้านเป็นร้านเล็กๆ คือเป็นบ้านแล้วมาเปิดเป็นร้านอาหาร มีโต๊ะ เก้าอี้แบบพับได้ให้นั่งหน้าบ้านไม่ถึง 10 โต๊ะ (ทางร้านมีหน้าเพจเฟสบุ๊คเข้าไปดูการอัพเดทข่าวสารของร้านได้ จริงๆ เกือบทุกร้านที่เราทำรีวิวก็มีหน้าเพจเฟสบุ๊คนะค่ะ)

วันที่เราไปทานร้านซ้อต่าย เราไปถึงก่อนเวลาร้านเปิดครึ่งชั่วโมง พอเดินใกล้ถึงหน้าบ้านซ้อต่าย โอ้ว....แม่เจ้าคนมุงเต็มหน้าบ้าน เราต้องรีบเดินเข้าไปถามทางร้านก็ให้เมนูมา เราก็จดรายการอาหารที่ต้องการสั่งแล้วยืนให้ทางร้าน รอสักพักญาติซ้อต่ายก็จะมาจัดคิวให้ โดยเราก็ควรจำด้วยนะว่าใครมาก่อนหรือหลังเรา ให้รีบไปบอกว่าเราจองต่อจากใคร เดี๋ยวจะโดนแทรกคิว เราได้คิวที่ 5 ก็นั่งรอแถวหน้าบ้านซ้อต่ายวนไป (ดีนะที่ยังไม่หิวมาก) 


ระหว่างรอโต๊ะ เราก็เดินถ่ายรูป เดินสำรวจโน้น นี่ นั่น ซอยนาเกลือ 6 เดินเข้ามาบรรยากาศจะเป็นแบบนี้

สุดทางของซอยเหมือนเป็นร้านอาหารเลย ไม่กล้าเดินเข้าไปมอง แถบนี้ก็เป็นบ้านชาวประมง


เห็นบ้านฝั่งตรงข้ามร้านซ้อต่ายกำลังตากปลาหมึกที่หามาได้ 

นี่คือคิวคนที่ทานรอบแรก คิวที่ 1 - 3  เราคิวที่ 5 ก็รอไปก่อน

คนทานก็ทานไป คนรอคิวก็นั่งรอไป คนจะมาทานไม่ขาดสายมาขอบัตรคิวตลอด
.
พอประมาณ 6 โมง เย็นญาติซ้อต่ายจะเริ่มนำโต๊ะ เก้าอี้ ออกมาตั้งเพิ่มแถวบริเวณหน้าร้าน ช่วงเปิดร้านใหม่ๆ ยังตั้งแค่ 2 โต๊ะ คงจะเกรงใจคนในซอย เพราะเราเห็นยังมีคนเดินเข้าออกซอย และมีขี่มอไซต์เข้าซอย

17.00 น. กว่าเราจะได้โต๊ะนั่ง มาจองคิวตั้งแต่ 15.00 น. ดีนะที่เรายังไม่หิวมาก แต่ช้าก่อน....ไม่ใช้ว่าได้โต๊ะแล้วอาหารจะมาเลยนะ อีก 15-20 นาที กว่าอาหารจะทยอยมา (เราต้องเอาปลาหมึกย่างที่ซื้อมาตอนกลางวันมานั่งทานรองท้องไปก่อน รอคิวจากที่ไม่หิว จนเริ่มหิวแล้ว)รอจนต้องขอเข้าไปเดินสำรวจภายในครัวซ้อต่าย (ความจริงไปหาห้องน้ำ 555 ห้องน้ำสามารถเข้าได้ที่บ้านซ้อต่ายเลยค่ะ) 

ซ้อต่ายกำลังปรุงหมึกผัดน้ำดำอย่างขะมักเขม้น หันมาทักทายลูกค้าด้วยหน้าตายิ้มแย้ม แจ่มใส 


เห็นกั้งแล้วน่าหม่ำมาก

ไข่ปลาเรียวเซียวเม็ดใหญ่มาก ซ้อต่ายบอกว่าเลือกซื้อแบบกิโลละ 1,000 บาท มาทำอาหารให้ลูกค้าเลย

ปลาหมึกก็น่าทาน

ปูนึ่ง โลละ 700 บาท ร้านไม่แกะให้นะ ต้องมาแกะเอง

เอ็นหอยจอบซาชิมิ

หลังจากบุกครัวเรียบร้อยเราก็มานั่งรออาหารกันต่อ นั่งถ่ายรูปเล่นมือถือวนไป 

ทุกคนรอคอยกันอย่างมีความหวัง

กว่าอาหารจะมาก็เกือบ 17.30 น. รอจนหิว ฮ่าๆๆ ข้าวผัดปู กุ้ง จานกลาง ราคา 150 บาท

กุ้งใหญ่อยู่นะ เนื้อหวาน สดเด้ง เราชอบข้าวผัดร้านนี้นะ ผัดข้าวไม่แฉะ ไม่ใส่หอมหัวใหญ่ ไม่ใส่มะเขือเทศ รสชาติข้าวผัด หวานๆ เค็มๆ กำลังดี

เนื้อปูก็มี

ยำสองไข่ (ไข่ปูกับไข่ปลาเรียวเซียว) ราคา 250 บาท 

ไข่ปลาเรียวเซียวเม็ดใหญ่จุกๆ สมใจเรามาก ของโปรดเลย 

รออาหารเป็นชั่วโมง ทานกันไม่ถึง 15 นาที หมด ฮ่าๆๆ

ตามด้วยแกงส้มไข่ปลาเรียวเซียว ราคา 250 บาท ผักมีทั้งไหลบัว / ผักกระเฉด/ยอดมะพร้าว



ไข่ปลาเรียวเซียวเต็มปากเต็มคำเลยจ้า

กว่ากั้งจะมา เราก็เริ่มอิ่มกันแล้ว กั้งผัดพริกเกลือ จานละ 450 บาท เจ้ากั้งนี่เนื้อหนังก็มีน้อย หนักเปลือกมากกว่า แต่ก็ชอบทาน รสชาติเค็ม หวาน เผ็ด กำลังดีเลย

หมึกไข่กระเทียมพริกไทย จานละ 180 บาท รสเค็มนำไปนิด เนื้อปลาหมึกหวาน กรอบ สด 

ไข่แน่นทุกชิ้น

สั่งมาแล้วแม้จะอิ่มก็ยังทานกันต่อ

18.30 กว่าจะทานเสร็จ อิ่มจนแทบกลิ้งกลับที่พัก

ค่าเสียหายทั้งหมด 1,355 บาท 

ความเห็นส่วนตัวและข้อแนะนำหากอยากไปทานร้านซ้อต่าย ก่อนจะไปทานเราหาข้อมูลร้านมาก่อนเลยเข้าใจ และหาอาหารทานเล่นไปด้วย เผื่อรอนานจะได้มีอะไรรองท้อง จากการที่เรานั่งรอมาเกือบ 3 ชม. เต็ม มีความเห็นว่า

- เป็นร้านที่ทำกันภายในครอบครัว ไม่ได้เป็นร้านอาหารที่ใหญ่โตแบบรองรับคนได้ 20-30 คน มีแม่ครัวคนเดียว เตาแก็สสำหรับปรุงอาหารมีแค่ 2 เตา
- ร้านนี้ไม่เหมาะกับคนใจร้อน หรือคนที่ต้องการมาทานเร็ว ได้อาหารเร็ว กินเสร็จเร็ว เพราะร้านมีแม่ครัวปรุงอาหารแค่ 1 คน 
- ร้านซ้อต่ายเป็นร้านอาหารเล็กๆ ความรู้สึกแบบเหมือนมาบ้านเพื่อนแล้วเพื่อนทำกับข้าวให้กินไรประมาณนี้ 
- ความสดของอาหารให้เต็ม 10 ไม่มีหัก เพราะร้านมีเรือประมงของตัวเองด้วย แถมวัตถุดิบที่นำมาทำอาหารก็บอกได้เลยว่าเจ้าของร้านคัดมาอย่างดี 
- เป็นอีกหนึ่งร้านที่เราและคุณสามีชอบ และหากมีโอกาสไปแถวนาเกลือและไม่ได้รีบไปไหน และมีเวลาในการที่จะรอทานอาหารก็จะไปอุดหนุนร้านนี้อีกแน่นอนค่ะ