..กิน “ลูกชิ้น” เป็นประจำ เสี่ยงตับ-ไตพังจาก “บอแรกซ์-โซเดียม-สารกันบูด”

https://www.sanook.com/health/15781/

อาหารยามว่างของชาวออฟฟิศหลายๆ คน (รวมถึงออฟฟิศของ Sanook! เองด้วย) หนีไม่พ้น “ลูกชิ้นทอด” ที่ทั้งอร่อย ทั้งอิ่ม กินกันเพลินจนหยุดไม่อยู่ แต่นอกจากแป้ง และน้ำจิ้มที่เป็นอาหารให้พลังงานสูง เสี่ยงต่อน้ำหนักที่อาจพุ่งขึ้นอย่างไม่รู้ตัวแล้ว ลูกชิ้นที่ไม่ได้มาตรฐานอาจส่งผลอันตรายต่อผู้บริโภคอย่างเราๆ ได้เช่นกัน

อันตรายจากลูกชิ้น
ดร.วนะพร ทองโฉม นักวิชาการโภชนาการ ฝ่ายโภชนาการ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า ลูกชิ้นเป็นผลิตภัณฑ์แปลรูปจากเนื้อสัตว์ แม้ว่าลูกชิ้นจะมีหลายแบบ หลายขนาด และมีส่วนผสมหลักที่แตกต่างกันไป เช่น ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นเนื้อ เป็นต้น แต่สิ่งหนึ่งที่มักพบเจอในลูกชิ้นทุกแบบ คือ

สารบอแรกซ์ หรือน้ำประสานทอง แม้ว่าจะมีกฎหมายไม่ให้ใส่ในอาหาร แต่ก็ยังมีผู้ผลิตที่มักแอบใส่เพื่อให้ลูกชิ้นมีความเหนียวนุ่ม เด้งหนึบหนับ และไม่เน่าเสียง่าย

สารกันบูด เช่น กรดเบนโซอิก ผู้ผลิตอาจใส่เพิ่มลงไปในลูกชิ้น เพื่อไม่ให้ลูกชิ้นเสียง่าย เก็บได้นาน เนื่องจากเวลาทำขายมักทำเป็นปริมาณมากต่อครั้ง อาจไม่ได้ทำสดใหม่วันต่อวัน หากใส่ในปริมาณมากอาจส่งผลต่อการทำงานของระบบทางเดินอาหาร รวมทั้งเสี่ยงต่ออาการแพ้ได้

โซเดียม ในลูกชิ้น 5 ลูก (ลูกขนาดกลาง 1 ไม้) มีโปรตีนราว 7 กรัม ไขมันราว 5 กรัม แต่เมื่อลูกชิ้นเป็นเนื้อสัตว์แปรรูป จึงมีโซเดียมมากกว่าเนื้อสัตว์ปกติถึง 10 เท่า หรือ ราว 350 มิลลิกรัม

สีผสมอาหาร หากเป็นลูกชิ้นสีเข้มๆ ที่มีการใส่สีผสมอาหารมากเกินไป ส่งผลต่อการทำงานของตับ และไต ที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อพยายามขับสารเคมีที่เกินความต้องการของร่างกายออก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่