เห็นมีคนบ่นเศรษฐกิจไม่ดีทุกยุคทุกสมัย แต่ก็เห็นมีเศรษฐีใหม่เติบโตขึ้นทุกยุคทุกสมัยเช่นกัน

เลยเกิดความสงสัยว่าที่บ่นเศรษฐกิจไม่ดี  คือดูจากอะไรครับ
ผมเห็นบ่นทุกยุค  ทุกสมัยว่าเศรษฐกิจไม่ดี   แต่ก็มีคนร่ำรวยเติบโตขึ้นได้ทุกยุคทุกสมัยเช่นกัน

ขอบคุณทุกคำตอบล่วงหน้าครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
เห็นด้วยตามพี่ คห.2 ครับ
จำนวนเศรษฐีใหม่ที่ร่ำรวยขึ้นมาด้วยความสุจริต
ผมคิดว่ามีจำนวนน้อย และส่วนใหญ่คนเหล่านี้ก็มักจะไม่ได้มาโอ่อวดความร่ำรวยให้เราเห็นครับ

.... ที่สำคัญเศรษฐีใหม่ที่เกิดขึ้น ผมคิดว่าต้องดูที่มาที่ไปด้วยนะครับ เพราะ หลายคนก็ร่ำรวยขึ้นจากธุรกิจ/พฤติกรรมสีเทา-ดำ (ผิดกฏหมาย/เอาเปรียบคนอื่น)

สำหรับผม ... เศรษฐีใหม่แนวนี้ไม่มีอะไรน่านับถือ/ชื่นชม หรือ เอาเป็นแบบอย่างแม้แต่น้อยครับ .... ในทางกลับกัน การเพิ่มจำนวนของเศรษฐีจากธุรกิจ/พฤติกรรมสีเทา-ดำ กลับยิ่งเป็นการสร้างปัญหาสังคม หรือ ทำร้ายสังคมด้วยซ้ำครับ

.... ตัวอย่างเศรษฐีใหม่เหล่านี้อย่างง่ายและชัดที่สุดก็ที่เห็นตามหน้าข่าวในช่วงนี้ครับ เช่น เจ้าของร้านอาหารบุฟเฟ่แซลมอนชื่อดัง, ไฮโซเจ้าของบ้านออมเงิน, แก็งคอลเซ็นเตอร์, บ่อนพนันออนไลน์, กลุ่ม/ก๊วนปั่นหุ้น, เจ้าพ่อค้ายาเสพติด/ของเถื่อน, หลอกลวงเทรดค่าเงิน(forex) ฯลฯ เป็นต้นนะครับ ... และผมคิดว่าในความเป็นจริงยังมีคนที่ทำแบบนี้อีกจำนวนมากที่ยังไม่ถูกจับครับ
ความคิดเห็นที่ 2
เศรษฐีที่เกิดใหม่มีกี่คน คนจนมีกี่คน
ความคิดเห็นที่ 10
ผมเทียบกับครอบครัวผมแต่ก่อนก็ได้ครับ จากเกษตรกรรุ่นปู่ย่า ไม่มีพื้นที่ทำสวนของตัวเอง ก็ อาศัยมีคนให้พื้นที่ดูแลปลูกมะพร้าวขายยังชีพ ปลูกของทุกอย่างที่ไว้กิน พอมารุ่นพ่อแม่ที่รับราชการครูก็ดีขึ้นมาหน่อย แต่ที่บ้านไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกพวก แอร์ รถยนต์ แม้แต่มอเตอร์ไซต์ยังไม่มีเลย แต่ก็ใช้ชีวิตไม่เดือดร้อนเพราะเก็บออมและลูกก็ได้เรียนมหาวิทยาลัย จนจบทำงานถึงจะมีโอกาสซื้อรถยนต์คันแรกของครอบครัว แต่จำได้ว่าที่บ้านตอนเรียนก็ต้องช่วยเก็บมะพร้าวขาย กินผักบุ้งไฟแดง ไข่เจียวบ่อยๆ จำได้ทำงานปี 40 ฟองสบู่แตก เพิ่งเริ่มทำไม่นาน เงินเก็บเกือบจะสูญเพราะไปฝากสถาบันการเงิน แต่ยังโชคดีถอนมาได้ แล้วก็พยายามไม่ประมาทในการใช้ชีวิตเคยหลงไปทีนึงเวลาไปเรียนโทแล้วต้องกินต้องใช้เงินเยอะเวลาเลิกเรียนแล้วไปสังสรรค์กันต่อ คิดว่าช่วงนั้นเงินเก็บแทบจะไม่มีเลย มารู้ตัวตอนที่ได้งานใหม่แล้วก็ต้องเริ่มคิดว่าจะมีครอบครัว หลังจากนั้นก็ลดใช้จ่ายฟุ่มเฟือยลง ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นยังไงมันขึ้นอยู่กับตัวเราส่วนนึงด้วย บางคนขายของออนไลน์ได้ช่วงแรก บอกเศรษฐกิจดี แต่พอมีคนมาขายเยอะเข้าขายไม่ได้ ก็พาลบอกว่าเศรษฐกิจไม่ได้แล้ว คือบ้านเราเห็นทำอะไรดีก็แห่กันไปทำ ทำให้วิชาที่ร่ำเรียนมาไม่ได้ใช้ตรงตามสาขาที่เรียนมองแต่งานที่หาเงินได้ไวไม่เหนื่อยมาก แต่บางทีลงทุนไปหวังจะกำไร เหมือนพวกเล่นหุ้นหรือคริปโต จะมีคนที่ได้เงินจากตรงนี้เยอะแต่ก็มีคนที่พลาดเยอะเหมือนกัน เด็กรุ่นใหม่บางคนนะครับ ย้ำว่าบางคน พอบอกว่าให้เก็บออมและอดทนระงับความอยาก ก็หาว่าทำงานมาเหนื่อยต้องให้รางวัลชีวิต ไม่ใช้ตอนนี้แก่ไปก็ไม่ได้ใช้ ไม่มีลูกหรอกภาระ แต่พอชีวิตพลาดมา ท้องต้องเลี้ยงลูก จังหวะธุรกิจไม่ดีไม่มีเงินเก็บ คราวนี้แหละ โทษมันทุกอย่างเลย อยากจะฝากไว้แหละจะดีหรือไม่ดีก็อยู่ที่ตัวเรา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่