ทีแรกเข้าใจว่าเป็นเพียงความเห็นของเพื่อนสมาชิกที่ชอบมาโพสต์แสดงธรรม แต่พอได้ฟังคลิปในกระทู้ก่อน เอ้าาาาา.....นี่มาจากเจ้าของค่ายเลยนะ
ไม่รู้จะเอ่ยอะไร แต่ฝากที่ตรัสถึงอสังขตธรรมสักหน่อย...
[๔๘๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อสังขตลักษณะของอสังขตธรรม ๓
ประการนี้ ๓ ประการเป็นไฉน คือ
ไม่ปรากฏความเกิด ๑
ไม่ปรากฏความเสื่อม ๑
เมื่อตั้งอยู่ไม่ปรากฏความแปรปรวน ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อสังขตลักษณะของอสังขธรรม ๓ ประการนี้แล ฯ
https://84000.org/tipitaka/read/?20/487/192
+ พระอภิธรรมที่ท่านไม่เอา
มรรคและผลของมรรคที่เป็นโลกุตตระ และอสังขตธาตุ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าธรรมเป็นโลกุตตระ.
https://84000.org/tipitaka/read/?34/706/278
+อรถถถาจารย์ที่ท่านไม่เอา
บทว่า อสงฺขตสฺส ได้แก่ ที่ปัจจัยทั้งหลายไม่ได้ประมวลมาสร้าง (ไม่ได้ปรุงแต่ง). เครื่องหมายที่เป็นเหตุให้รู้กันได้ว่า สิ่งนี้ไม่ใช่ปัจจัยปรุงแต่ง ชื่อว่าอสังขตลักษณะ.
ด้วยบทว่า น อุปฺปาโท ปญฺญายติ เป็นต้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถึงความไม่มีแห่งความเกิดขึ้น ทั้งความแก่และความแตกดับ. ก็เพราะไม่มีลักขณะมีการเกิดขึ้นเป็นต้น จึงปรากฏเป็นอสังขตะ
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=487
เอาจริงเหรอ : สัตตานัง = อสังขตธาตุตอนที่มีความยึดมาเกาะขันธ์๕
ไม่รู้จะเอ่ยอะไร แต่ฝากที่ตรัสถึงอสังขตธรรมสักหน่อย...
[๔๘๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อสังขตลักษณะของอสังขตธรรม ๓
ประการนี้ ๓ ประการเป็นไฉน คือ
ไม่ปรากฏความเกิด ๑
ไม่ปรากฏความเสื่อม ๑
เมื่อตั้งอยู่ไม่ปรากฏความแปรปรวน ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อสังขตลักษณะของอสังขธรรม ๓ ประการนี้แล ฯ
https://84000.org/tipitaka/read/?20/487/192
+ พระอภิธรรมที่ท่านไม่เอา
มรรคและผลของมรรคที่เป็นโลกุตตระ และอสังขตธาตุ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าธรรมเป็นโลกุตตระ.
https://84000.org/tipitaka/read/?34/706/278
+อรถถถาจารย์ที่ท่านไม่เอา
บทว่า อสงฺขตสฺส ได้แก่ ที่ปัจจัยทั้งหลายไม่ได้ประมวลมาสร้าง (ไม่ได้ปรุงแต่ง). เครื่องหมายที่เป็นเหตุให้รู้กันได้ว่า สิ่งนี้ไม่ใช่ปัจจัยปรุงแต่ง ชื่อว่าอสังขตลักษณะ.
ด้วยบทว่า น อุปฺปาโท ปญฺญายติ เป็นต้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถึงความไม่มีแห่งความเกิดขึ้น ทั้งความแก่และความแตกดับ. ก็เพราะไม่มีลักขณะมีการเกิดขึ้นเป็นต้น จึงปรากฏเป็นอสังขตะ
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=487