จบลงไปแล้วสำหรับเมเจอร์ที่สามของปีนี้ 2022 U.S. Open ที่สนาม เดอะ คันทรีคลับ ย่านบรู๊คไลน์  แมสซาชูเซตส์ โดยแชมป์ตกเป็นของ 
แมท ฟิตซ์แพททริก นักกอล์ฟหนุ่มวัย 27 ปี จากเมือง เชฟฟิลด์ ประเทศ อังกฤษ ด้วยสกอร์ -6 เฉือน วิลล์ ซาลาตอรีส และ สก็อตตี เชฟเลอร์ 
ไปเพียงหนึ่งสโตรก นับเป็นชัยชนะครั้งที่สองของเขาในสนามที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ และเป็นแชมป์แรกที่ปลดล็อกทุกสิ่งทุกอย่างในอาชีพนักกอล์ฟ
ของเขา
 
ยูเอส โอเพน ปี 2022 เริ่มต้นสัปดาห์ด้วยข้อถกเถียงในประเด็นร้อนๆ ที่กำลังเกิดขึ้นระหว่าง PGA Tour 
กับ Liv Golf ที่เป็นผลพวงมาจากแมทช์ลีฟกอล์ฟที่กรุงลอนดอนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ลามมาจนถึงสัปดาห์นี้ 
เป็นการเผชิญหน้ากันครั้งแรกของนักกอล์ฟของพีจีเอทัวร์ และนักกอล์ฟพีจีเอทัวร์ที่ไปเข้าร่วมลีฟกอล์ฟ 
ที่โดนสื่อมวลชนสายกอล์ฟบางคนถึงกับเรียกว่า ผู้ทรยศ  เริ่มตั้งแต่วันแรกๆที่มีงานแถลงข่าว นักกอล์ฟ
อย่าง ฟิล มิกเคลสัน โดนนักข่าวเค้นด้วยคำถามที่รุนแรงมาก แม้ฟิลจะสอบผ่านคำถามเหล่านั้นไปได้ 
แต่ก็ทุลักทุเลพอสมควร เพราะหลายๆ คำถามหนักหนาเหลือเกิน เช่น กล่าวหาว่าเขาเป็นคนเห็นแก่เงิน 
เป็นผู้ทรยศต่อครอบครัวชาวอเมริกันผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ 9/11 (แต่คำถามเดียวกันนี้ ไมค์ วาน แห่ง 
USGA ก็ถูกผู้สื่อข่าวถามเหมือนกัน กรณีที่องค์กรของเขาไม่แซงชันนักกอล์ฟที่เข้าร่วมแข่งลีฟซีรีส์ 
เมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งที่มีกระแสกดดันอย่างมาก ทั้งจากบรรดาสื่อและโซเชียลมีเดียสายกอล์ฟ แม้แต่จาก
เจย์ โมนาฮานเอง แม้จะไม่ได้เอ๋ยตรงๆ) หรือแม้แต่ บรู๊ค เคปก้า ก็ถูกสื่อซักจนออกอาการหงุดหงิดเช่นกัน
.....
 
ต้องถือว่าเป็นข่าวดี หรือจะด้วยอะไรก็ตาม เมื่อผ่านไปครึ่งทางของการแข่งขัน เหล่านักกอล์ฟจากลีฟกอล์ฟ
พากันตกรอบเป็นส่วนใหญ่ ที่ผ่านเข้ารอบก็ทำสกอร์ไม่ดี ตั้งแต่นักกอล์ฟที่เป็นเป้าใหญ่ที่สุดอย่าง ฟิล มิกเคลสัน 
เควิน นา ลูอิส อูสเธเซน ส่วนคนที่ผ่านเข้ามาแต่ก็แทบไม่มีลุ้นอะไร อย่าง ดัสติน จอห์นสัน (จบอันดับ 24)  
บรู๊ค เคปก้า (อันดับ 55) ไบรซ์สัน ดีแชมโบ (อันดับ 56 ร่วม) ทำให้กระแสดราม่าค่อยๆลดลง เกมกอล์ฟของ 
ยูเอส โอเพน จึงกลับมาคึกคัก ความขลังของเมเจอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนแผ่นดินอเมริกากลับคืนมาอีกครั้ง
 
โคลิน มอริกาวา เป็นผู้นำเมื่อผ่านครึ่งทาง 36 หลุม และความหวังที่จะเป็นนักกอล์ฟคนแรกตั้งแต่ปี 1934 
ที่สามารถคว้าแชมป์เมเจอร์ได้สามรายการจากการลงแข่งเพียง 11 ครั้ง แต่โคลินก็มาแผ่วเมื่อวันเสาร์ด้วย
สกอร์ 77 ขณะเดียวกัน นักกอล์ฟท็อป 3 ของโลก ทั้ง สก็อตตี เชฟเลอร์ (OWGR No. 1) จอน ราห์ม (No. 2) 
และ รอรี แม็กอิลรอย (No. 3) ต่างก็ทำสกอร์ดียึดหัวลีดเดอร์บอร์ดได้อย่างมั่นคง แต่เมื่อเข้าสู่เก้าหลุมหลัง
ในบ่ายวันอาทิตย์ ความสนุกตื่นเต้นก็มาอยู่ที่การขับเคียวอย่างสนุกระหว่าง แมท ฟิตซ์แพททริก และ วิลล์ 
ซาลาตอรีส โดยมี เชฟเลอร์ ตามหลังเพียงสโตรกเดียว
.....................
 
ราห์ม และ แม็กอิลรอย พลาดอย่างแรงที่ไม่สามารถฉกฉวยโอกาสครั้งนี้ได้ รอรี ซึ่งเพิ่งจะคว้าแชมป์รายการ 
RBC Canadian Open ไม่สามารถทำลายอาถรรพ์ ที่ว่าไม่มีใครที่คว้าแชมป์สัปดาห์ก่อนแล้วจะมาคว้าแชมป์ 
ยูเอส โอเพนได้ รอรีไม่สามารถใช้ประโยชน์จากการเป็นนักกอล์ฟที่มีสโตรกเกนการพัตต์อันดับหนึ่งในเมเจอร์
ครั้งนี้ได้ ส่วนสก็อตตีก็ไล่แมทและวิลล์มาอย่างสูสี เพื่อที่จะได้ครองทั้ง เดอะมาสเตอร์และ ยูเอสโอเพนติดต่อ
กันในปีเดียว ฟิทซ์แพททริก ออกนำ ซาลาตอริส อยู่หนึ่งสโตรกเมื่อจบเก้าหลุมแรก ซึ่งทั้งคู่ต่างก็ไม่เคยได้แชมป์
ใดๆ ทั้งในพีจีเอทัวร์และเมเจอร์มาก่อน
 
ในสองชั่วโมงหลังของบ่ายวันอาทิตย์ของรายการเมเจอร์ที่สนุกและเข้มข้นมากที่สุดในรอบหลายปีครั้งนี้ มีการ
สวิงไปกลับสองสโตรกเปลี่ยนหน้าผู้นำที่หลุม 11 ทำให้ซาลาตอริสกลับขึ้นนำสองช็อต ซาลาตอริส ที่หลังจาก
วันนี้ต้องอกหัก เป็นรองแชมป์เมเจอร์สามรายการ (2021 Master / 2022 PGA และ 2022 US Open) ก้มเก็บ
ลูกจากหลุมพร้อมกับชูกำปั้นขึ้นอย่างสะใจ เปี่ยมด้วยความมั่นใจและความหวังที่จะปลดล็อกให้ตัวเองสักที่ หลัง
จากเพิ่งแพ้เพลย์ออฟแก่ จัสติน โธมัส ในเมเจอร์ที่สองไปเมื่อเดือนก่อน
...............................................
 
ฟิทซ์แพททริก สามารถเอาคืนได้ที่หลุม 13 ทำให้ทั้งคู่กลับมานำร่วมกันอีกครั้ง จากนั้นทั้งคู่ทำพาร์ได้ที่หลุม 14 
ก่อนที่จะต้องมายืนรออย่างยาวนานเกือบสิบนาที ก่อนจะได้เล่นทีช็อตที่หลุม15 พร้อมๆกับแฟนกอล์ฟที่กรูเข้ามา
ห้อมล้อมเป็นแนวสองแถวยาวเหยียดบริเวณทีออฟอย่างหนาแน่น
 
กล้องโคลสอัพมาที่ใบหน้าฟิทซ์แพททริก เหมือนว่าเขากำลังเหม่อมองไปถึงอนาคตของตัวเอง เขากำลังคิดอะไร
ในใจขณะที่กำลังเป็นผู้นำร่วมของรายการยูเอส โอเพน โดยมีผู้นำร่วมอีกคนยืนอยู่ไม่ห่าง เขาอาจหวนคิดถึงอดีต 
เมื่อครั้งที่เขาชนะเลิศรายการ ยูเอส อะเมเจอร์ ที่สนามแห่งนี้เมื่อปี 2013 บางทีอาจคิดอนาคตและอีกสี่หลุมข้างหน้า 
ที่จะปลดล็อกให้ตัวเองได้หรือไม่ เขาได้อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในหัวหลังจบการแข่งขัน ถึงความยากลำบากที่จะหยุด
จินตนาการถึงภาพตัวเองที่กำลังชูถ้วยรางวัล
..................................................................
 
“คุณกำลังพยายามอย่างหนักเพื่อบอกกับตัวเองว่า จงหยุดคิดเดียวนี้ นายต้องหยุดให้ได้ อย่าคิดถึงมัน มันยังไม่ถึงเวลานั้น” 
ฟิทซ์แพททริเฉลยสิ่งที่เกิดขึ้นในหัวเขาเวลานั้น
 
ใช่ มันยังไม่ถึงเวลา แต่หลังผ่านหลุม 15 ชัยชนะก็อยู่ไม่ไกล ฟิทซ์แพททริกไดรฟลูกออกนอกแฟร์เวย์ไปทางขวา 
แต่ที่สุดก็สามารถทำอัพแอนด์ดาวน์เก็บเบอร์ดีได้ สกอร์เขาขึ้นมาที่ 6 อันเดอร์ ในขณะที่ซาลาตอรีสออกโบกี และ
ตามหลังสองช็อต
 
“มันเป็นหนึ่งในช็อตที่ดีที่สุดของวัน” ฟิทซ์แพททริกกล่าวถึงช็อตที่เกิดขึ้นในหลุม 15 ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ 
“การเล่นได้เช่นนั้นและใช้ข้อได้เปรียบจากช่วงที่เราทั้งคู่ต้องหยุดรอทีออฟนาน ถือว่ายอดเยี่ยมมาก”
..........
..........
 
หลังจากนั้นฟิทซ์แพททริกก็สามารถรักษาสกอร์พาร์ได้อย่างไม่ยากเย็นที่หลุม16 และ 17 แต่แล้วเขากลับมาตี
ทีช็อตไปตกบังเกอร์ในแฟร์เวย์ที่หลุม 18 ขณะที่เขากำลังเดินไปยังลูก แฟนกอล์ฟเมืองบอสตันก็หลุดจากการ
ควบคุมฝูงชนของตำรวจที่ดูแลความเรียบร้อย มายืนโอบล้อมเป็นวงล้อมตัวฟิทซ์แพททริก
 
จากนั้นฟิทซ์แพททริกก็ตีลูกจากบังเกอร์ขึ้นกรีน “มันเป็นช็อตที่ดีที่สุดที่เคยตีบอลมา” แล้วก็ทำสองพัตต์ได้พาร์ 
แม้เขาเกือบที่จะต้องไปเพลย์ออฟสองหลุมกับซาลาตอรีส ที่พลาดเบอร์ดี้ไปอย่างเฉียดฉิว ฟิทซ์แพททริกเดินมา
ที่แค็ดดี บิลลี่ ฟอสเตอร์ ซึ่งตอนนั้นดึงหมวกลงมาปิดใบหน้าและร้องให้ 
 
เกิดความโกลาหลเล็กน้อย ตามประสารายการใหญ่ๆโดยเฉพาะรายการเมเจอร์ที่การแข่งขันขับเคี่ยวกันอย่างสนุกสูสี 
รอรี แม็กอิลรอย ยังอยู่ที่บริเวณกรีน รอยินดีและสวมกอดเพื่อนร่วมทีมไรเดอร์ คัพ ขณะที่ อเล็กซ์ ผู้เป็นน้องชายและ
เป็นคนแบกถุงให้ตอนที่แมทได้แชมป์ ยูเอส อะเมเจอร์ เมื่อเก้าปีก่อน ก็สวมกอดและร้องให้ดีใจกับพี่ชาย รวมถึงคุณแม่ด้วย 
จากนั้นฟิทซ์แพททริกได้เข้าสวมกอดพ่อของเขาจนแทบลืมหายใจ ในวันที่เป็นวันพ่อแห่งชาติสหรัฐ
....................................
 
กอล์ฟยุคหลังโควิด หลังการถือกำเนิดขึ้นของ Liv golf และหลังยุคการผูกขาดความยิ่งใหญ่ของ PGA Tour เป็นสิ่งที่น่า
จับตาอย่างมาก เพราะว่ายากที่จะคาดเดาว่ามันจะมุ่งหน้าไปสู่อะไร แต่สิ่งหนึ่งที่แฟนกอล์ฟพอจะเห็นแนวทางได้ค่อนข้าง
ชัดเจน นั่นคือการเปลี่ยนถ่ายจากนักกอล์ฟรุ่นเก่า ที่ค่อยๆหายไปจากหน้าหนึ่งของลีดเดอร์บอร์ด พร้อมกับการก้าวขึ้นมา
ของนักกอล์ฟรุ่นใหม่ ซึ่งบางรายเพิ่งเข้าพีจีเอทัวร์มาในช่วงสองสามปีหลังนี่ เราจะได้เห็นชื่อใหม่ๆ อย่างเช่น แมท ฟิทซ์แพททริก 
สก็อตตี เชฟเลอร์ วิลล์ ซาลาตอริส แซม เบิร์น แม็กซ์ โฮมา หรือ โจเอล เดห์มอน ขึ้นมาลุ้นแชมป์กับนักกอล์ฟระดับแนวหน้า 
อย่าง รอรี แม็กอิลรอย จัสติน โธมัส โคลิน มอริกาวา จอน ราห์ม ฮิเดกิ มัทสึยามา หรือ จอร์แดน สปีธ
 
อนาคตของพีจีเอทัวร์จะเป็นอย่างไร ไม่มีใครรู้ เราต้องติดตามกันต่อไป แต่ 2022 U.S. Open ที่สนาม เดอะ คันทรีคลับ 
ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า กอล์ฟรายการเมเจอร์ยังคงยิ่งใหญ่ การตัดสินใจไม่แบนนักกอล์ฟจาก Liv Golf ของ USGA ถือว่า
เป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญและถูกต้องอย่างยิ่งในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ ซึ่งคาดว่าอีกสามเมเจอร์จะดูเป็นเยี่ยงอย่าง
ไม่แน่ว่า การต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายระหว่าง PGA Tour และ Liv Golf อาจกลายเป็นความร่วมมือกัน หรือจะมีทางออกร่วมกันที่
ดีกว่า และเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายก็ได้ 
......................
......................
 
เดอะ คันทรีคลับ แม้จะไม่ใช่ "โฮมออฟกอล์ฟ" อย่าง เชนต์ แอนดรูส์ ที่สก็อตแลนด์ แต่บนแผ่นดินอเมริกา ยากที่จะเสาะหาสนามไหน 
ที่จะมีมนต์ขลังและความเก่าแก่ได้เท่าที่นี่  มันเป็นหนึ่งในสนามที่ใช้จัดกอล์ฟรายการสำคัญๆ และยังถือเป็น “บ้าน” ของ USGA ซึ่ง
เป็นเจ้าภาพทัวร์นาเมนต์ในสัปดาห์นี้ด้วย แต่ที่สำคัญและถือว่าเป็นการประสบความสำเร็จมากที่สุดของ เดอะ คันทรีคลับ และ 
USGA ในการจัดการแข่งขัน ยูเอส โอเพน ครั้งนี้ คือ การดำรงองค์กรอยู่เหนือความขัดแย้ง และรักษามนต์ขลังและความยิ่งใหญ่ของ
รายการเมเจอร์ได้อย่างงดงาม

                                                       ๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙