ทุก ๆ ปี ในวันเสาร์แรกของเดือนพฤษภาคม ที่เมืองหลุยส์วิวล์ เคนตักกี้ จะมีการแข่งม้าที่น่าตื่นเต้นเร้าใจและเป็นการแข่งกีฬาชั้นยอดที่เป็นประเพณีที่ชาวเคนตักกี้ล้วนให้ความเคารพยกย่อง มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1875 ทำให้สนามม้าเชอร์ชิลล์ ดาวส์ กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของการจัดงานแข่งขันม้าที่ประสบความสำเร็จและยิ่งใหญ่ที่สุด ที่นั้นเป็นแหล่งชุมนุมของม้าสายพันธ์ดีที่สุดเท่าที่มีในโลกใบนี้ ห่างออกไปเพียง 15 ไมล์ ระหว่างวันที่ 16-19 พฤษภาคม สนามวัลฮาลา กอล์ฟคลับ ก็จะเป็นสังเวียนการแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์รายการ พีจีเอ แชมเปียนชิป 2024 และเช่นเดียวกับเชอร์ชิลล์ ดาวส์ ของ เคนตักกี้ดาร์บี้ วัลฮาลา ก็จะเป็นแหล่งชุมนุมของนักกอล์ฟที่เก่งที่สุดในโลกสำหรับพีจีเอ แชมเปียนชิป ปีนี้
วัลฮาลา กอล์ฟคลับ ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพสำหรับรายการนี้มาแล้วสามครั้ง ในปี 1996, 2000 และ 2014 ครั้งนี้จะเป็นครั้งที่สี่ของสนามที่เป็นผลงานของแจ็ก นิคลอส ซึ่งปีนี้จะเพิ่มระยะให้ยาวขึ้นจากครั้งล่าสุดมาอยู่ที่ 7,609 หลาสำหรับพาร์ 71 ซึ่งถือว่าเป็นระยะที่ค่อนข้างยาวและยากกว่าสนามแข่งขันรายการพีจีเอทั่วไป ไม่ใช่ความต้องการของสนาม ฯ ที่ต้องเพิ่มความยาวขึ้น หากแต่เป็นเพราะเทคโนโลยีอุปกรณ์กอล์ฟที่ก้าวหน้า เพราะเมื่อเทียบระยะไดรฟเฉลี่ยของนักกอล์ฟระดับทัวร์ พวกเขาตีไกลขึ้น จากระยะเฉลี่ยที่ 278 หลาเมื่อสิบปีที่แล้ว ปัจจุบันอยู่ที่ 299.90 หลา (สถิติปี 2023) ดังนั้นจึงไม่ได้มีความโหดร้ายเกินไปที่มีหลุมพาร์ 4 ถึงห้าหลุมที่นักกอล์ฟต้องเล่นเกิน 484 หลา ดังนั้นไดรฟเวอร์จึงต้องทำงานหนักแน่ในสัปดาห์นี้ และคาดว่าจะเป็นอาวุธชี้ชะตากำหนดแชมป์กันเลยทีเดียว ซึ่งสถิติบ่งบอกไว้เช่นนั้น เพราะในปี 2014 ที่รอรีคว้าแชมป์ ปรากฏว่าสัปดาห์นั้นเขาครองอันดับหนึ่งในทุกสถิติที่เกี่ยวข้องกับการตีไดรฟเวอร์ ส่งผลให้ทำเขาสกอร์ต่ำที่สุดสำหรับหลุมพาร์ 4 รวมทั้งหมด
แต่ในปี 2024 มีความเปลี่ยนแปลงจาก 2014 ไม่น้อย และอาจเป็นปัจจัยสำคัญด้วย นั่นคือ สภาพอากาศ และ กรีน
อย่าลืมว่าเพิ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงลำดับการแข่งขันรายการเมเจอร์เมื่อห้าปีมานี้ (เริ่ม 2019) ก่อนหน้านั้น พีจีเอ แชมเปียนชิป ถูกกำหนดให้เป็นลำดับสุดท้ายของสี่เมเจอร์ โดยจะแข่งขันในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูฝน มีฝนตกเกือบทุกวัน ทำให้สภาพสนามนุ่มทั้งแฟร์เวย์และกรีน ซึ่งแตกต่างจากเดือนนี้มาก การตีไดรฟเวอร์จึงยากกว่าเดิม เพราะว่าหากหลุดแฟร์เวย์ออกไปก็จะต้องเจอกับรัฟที่สูงถึงสี่นิ้ว และหากเลยเซกั้นหรือเธิร์ดคัตก็จะเจอหญ้ายาว โดยเฉพาะหญ้าเฟสคิวที่จะสร้างความลำบากให้การตีเหล็กในช็อตที่สอง นอกจากนี้ยังเปลี่ยนพันธ์หญ้าบนกรีนเพื่อเพิ่มสปีด ซึ่งในการแข่งขันครั้งนี้กำหนดไว้ที่ 13 ฟุตสติมมิเตอร์ เมื่อบวกกับความแข็งของพื้นกรีน สนามของปีนี้จึงยากกว่าปี 2014 มากทีเดียว
สำหรับการจัดอันดับตัวเต็งที่คาดว่าจะได้เป็นคนชูถ้วย วันนาเมกเคอร์ สำหรับปีนี้ ปรากฏว่า รอรี่ แม็กอิลรอย ถูกวางเป็นเต็งหนึ่ง ข้ามหน้ามือหนึ่งของโลกปัจจุบันอย่าง สก็อตตี้ เชฟฟ์เลอร์ ก็คงมีหลายเหตุผล นอกจากรอรี่จะเป็นแชมป์เก่าของรายการนี้ที่สนามแห่งนี้ครั้งที่แล้ว เขาเพิ่งจะคว้าแชมป์มาหมาด ๆ สองสัปดาห์ก่อนติดต่อกัน ที่รายการ เวลล์ฟาร์โก แชมเปียนชิป และ ซูริค คลาสสิก ด้วยฟอร์มที่ดีมาก ๆ โดยเฉพาะการเล่นบนกรีนที่เคยเป็นจุดอ่อนของเขา ในขณะที่สก๊อตตี้ไม่ได้ลงสนามในสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยความจำเป็นส่วนตัว (ตอนนี้กำลังเห่อลูกชายที่เพิ่งลืมตาดูโลกสัปดาห์ที่แล้ว) ส่วนเต็งลำดับต่อมาก็ได้แก่ บรู๊คส เคปก้า (เจ้าของแชมป์รายการนี้สองสมัย 2018 และ 2019) ต่อด้วย แซนเดอร์ ช็อฟฟ์ลี่ คอลิน มอริกาวา แม็ก โฮม่า จอน ราห์ม ลุดวิค แอเบิร์ก ไบรสัน ดีแชมโบ และ เซปป์ สตราก้า
สำหรับไทเกอร์ เมเจอร์นี้ค่อนข้างเงียบ ไม่มีข่าวคราวการเตรียมตัวออกมาเลย เพิ่งจะเห็นเขาออกรอบซ้อมเมื่อวันจันทร์นี้เอง ต่างจากที่เดอะมาสเตอร์ส ที่เขาไปซ้อมล่วงหน้า ปีนี้จึงไม่อาจคาดหวังอะไรทั้งที่เขาเคยเป็นแชมป์รายการนี้ที่สนามแห่งนี้เมื่อปี 2000 ดังนั้นหากได้เห็นไทเกอร์เล่นครบทั้งสี่วัน พร้อมกับเสื้อแดงดีไชน์ใหม่ภายใต้แบรนด์ Sun Day Red ก็ถือเป็นโบนัสสำหรับแฟนไทเกอร์
/////////////
หรือจะเป็นโอกาสของ รอรี่ แม็กอิลรอย
ทุก ๆ ปี ในวันเสาร์แรกของเดือนพฤษภาคม ที่เมืองหลุยส์วิวล์ เคนตักกี้ จะมีการแข่งม้าที่น่าตื่นเต้นเร้าใจและเป็นการแข่งกีฬาชั้นยอดที่เป็นประเพณีที่ชาวเคนตักกี้ล้วนให้ความเคารพยกย่อง มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1875 ทำให้สนามม้าเชอร์ชิลล์ ดาวส์ กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของการจัดงานแข่งขันม้าที่ประสบความสำเร็จและยิ่งใหญ่ที่สุด ที่นั้นเป็นแหล่งชุมนุมของม้าสายพันธ์ดีที่สุดเท่าที่มีในโลกใบนี้ ห่างออกไปเพียง 15 ไมล์ ระหว่างวันที่ 16-19 พฤษภาคม สนามวัลฮาลา กอล์ฟคลับ ก็จะเป็นสังเวียนการแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์รายการ พีจีเอ แชมเปียนชิป 2024 และเช่นเดียวกับเชอร์ชิลล์ ดาวส์ ของ เคนตักกี้ดาร์บี้ วัลฮาลา ก็จะเป็นแหล่งชุมนุมของนักกอล์ฟที่เก่งที่สุดในโลกสำหรับพีจีเอ แชมเปียนชิป ปีนี้
วัลฮาลา กอล์ฟคลับ ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพสำหรับรายการนี้มาแล้วสามครั้ง ในปี 1996, 2000 และ 2014 ครั้งนี้จะเป็นครั้งที่สี่ของสนามที่เป็นผลงานของแจ็ก นิคลอส ซึ่งปีนี้จะเพิ่มระยะให้ยาวขึ้นจากครั้งล่าสุดมาอยู่ที่ 7,609 หลาสำหรับพาร์ 71 ซึ่งถือว่าเป็นระยะที่ค่อนข้างยาวและยากกว่าสนามแข่งขันรายการพีจีเอทั่วไป ไม่ใช่ความต้องการของสนาม ฯ ที่ต้องเพิ่มความยาวขึ้น หากแต่เป็นเพราะเทคโนโลยีอุปกรณ์กอล์ฟที่ก้าวหน้า เพราะเมื่อเทียบระยะไดรฟเฉลี่ยของนักกอล์ฟระดับทัวร์ พวกเขาตีไกลขึ้น จากระยะเฉลี่ยที่ 278 หลาเมื่อสิบปีที่แล้ว ปัจจุบันอยู่ที่ 299.90 หลา (สถิติปี 2023) ดังนั้นจึงไม่ได้มีความโหดร้ายเกินไปที่มีหลุมพาร์ 4 ถึงห้าหลุมที่นักกอล์ฟต้องเล่นเกิน 484 หลา ดังนั้นไดรฟเวอร์จึงต้องทำงานหนักแน่ในสัปดาห์นี้ และคาดว่าจะเป็นอาวุธชี้ชะตากำหนดแชมป์กันเลยทีเดียว ซึ่งสถิติบ่งบอกไว้เช่นนั้น เพราะในปี 2014 ที่รอรีคว้าแชมป์ ปรากฏว่าสัปดาห์นั้นเขาครองอันดับหนึ่งในทุกสถิติที่เกี่ยวข้องกับการตีไดรฟเวอร์ ส่งผลให้ทำเขาสกอร์ต่ำที่สุดสำหรับหลุมพาร์ 4 รวมทั้งหมด
แต่ในปี 2024 มีความเปลี่ยนแปลงจาก 2014 ไม่น้อย และอาจเป็นปัจจัยสำคัญด้วย นั่นคือ สภาพอากาศ และ กรีน
อย่าลืมว่าเพิ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงลำดับการแข่งขันรายการเมเจอร์เมื่อห้าปีมานี้ (เริ่ม 2019) ก่อนหน้านั้น พีจีเอ แชมเปียนชิป ถูกกำหนดให้เป็นลำดับสุดท้ายของสี่เมเจอร์ โดยจะแข่งขันในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูฝน มีฝนตกเกือบทุกวัน ทำให้สภาพสนามนุ่มทั้งแฟร์เวย์และกรีน ซึ่งแตกต่างจากเดือนนี้มาก การตีไดรฟเวอร์จึงยากกว่าเดิม เพราะว่าหากหลุดแฟร์เวย์ออกไปก็จะต้องเจอกับรัฟที่สูงถึงสี่นิ้ว และหากเลยเซกั้นหรือเธิร์ดคัตก็จะเจอหญ้ายาว โดยเฉพาะหญ้าเฟสคิวที่จะสร้างความลำบากให้การตีเหล็กในช็อตที่สอง นอกจากนี้ยังเปลี่ยนพันธ์หญ้าบนกรีนเพื่อเพิ่มสปีด ซึ่งในการแข่งขันครั้งนี้กำหนดไว้ที่ 13 ฟุตสติมมิเตอร์ เมื่อบวกกับความแข็งของพื้นกรีน สนามของปีนี้จึงยากกว่าปี 2014 มากทีเดียว
สำหรับการจัดอันดับตัวเต็งที่คาดว่าจะได้เป็นคนชูถ้วย วันนาเมกเคอร์ สำหรับปีนี้ ปรากฏว่า รอรี่ แม็กอิลรอย ถูกวางเป็นเต็งหนึ่ง ข้ามหน้ามือหนึ่งของโลกปัจจุบันอย่าง สก็อตตี้ เชฟฟ์เลอร์ ก็คงมีหลายเหตุผล นอกจากรอรี่จะเป็นแชมป์เก่าของรายการนี้ที่สนามแห่งนี้ครั้งที่แล้ว เขาเพิ่งจะคว้าแชมป์มาหมาด ๆ สองสัปดาห์ก่อนติดต่อกัน ที่รายการ เวลล์ฟาร์โก แชมเปียนชิป และ ซูริค คลาสสิก ด้วยฟอร์มที่ดีมาก ๆ โดยเฉพาะการเล่นบนกรีนที่เคยเป็นจุดอ่อนของเขา ในขณะที่สก๊อตตี้ไม่ได้ลงสนามในสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยความจำเป็นส่วนตัว (ตอนนี้กำลังเห่อลูกชายที่เพิ่งลืมตาดูโลกสัปดาห์ที่แล้ว) ส่วนเต็งลำดับต่อมาก็ได้แก่ บรู๊คส เคปก้า (เจ้าของแชมป์รายการนี้สองสมัย 2018 และ 2019) ต่อด้วย แซนเดอร์ ช็อฟฟ์ลี่ คอลิน มอริกาวา แม็ก โฮม่า จอน ราห์ม ลุดวิค แอเบิร์ก ไบรสัน ดีแชมโบ และ เซปป์ สตราก้า
สำหรับไทเกอร์ เมเจอร์นี้ค่อนข้างเงียบ ไม่มีข่าวคราวการเตรียมตัวออกมาเลย เพิ่งจะเห็นเขาออกรอบซ้อมเมื่อวันจันทร์นี้เอง ต่างจากที่เดอะมาสเตอร์ส ที่เขาไปซ้อมล่วงหน้า ปีนี้จึงไม่อาจคาดหวังอะไรทั้งที่เขาเคยเป็นแชมป์รายการนี้ที่สนามแห่งนี้เมื่อปี 2000 ดังนั้นหากได้เห็นไทเกอร์เล่นครบทั้งสี่วัน พร้อมกับเสื้อแดงดีไชน์ใหม่ภายใต้แบรนด์ Sun Day Red ก็ถือเป็นโบนัสสำหรับแฟนไทเกอร์
/////////////