แชร์ประสบการณ์ออดิชั่นค่ายเพลงเกาหลี kpop ผ่านจนถึงรอบสุดท้าย!

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์ออดิชั่นค่ายเพลงเกาหลี เราออไปหลายค่ายมากๆๆๆๆๆๆๆ เพราะค่ายเพลงจะเปิดออทุกเดือนๆๆอยู่ที่รูปแบบการเปิดค่ะ
1. ก่อนอื่นเลย เราเปลี่ยนตัวเองหนักมากทุกคน จากเด็กผิวคล้ำ หน้าแย่ เราพยายามทุกทางจริงๆในวัยอายุ18 ออกกำลังกาย กินสลัด กินผักแทบทุกมื้อ จนแบบน้ำหนักเราลด เราเลยมาเครียดกับผิวต่อ เพราะเราผิวคล้ำแต่มาตรฐานค่ายคือสวยใสน่ารักสไตล์เกาหลีตอนนั้นเราคิดหนักมากจะทำยังไงให้ตัวเองดูโด่ดเด่นในโปรไฟล์เพราะเราไม่ใช่สไตล์น่ารัก แล้วตอนนั้นเป็นช่วงแบบ แม่เจสซี่กำลังแมส55555 เราก็แบบเห้ย เราน่ารักไปได้ละ เราส่งรูปโปรไฟล์แบบเน้นฝอๆเลยแล้วกัน ( ค่ายให้เน้นส่งแบบหน้าสดนะคะ แต่เราสามารถปรับบุคลิกได้ครับ ) พอถ่ายออกมา มันพังอระทุกคน เพราะเราใช้กล้องมือถือไอโฟนถ่าย เราเลยลงทุนไปสตูถ่ายรูป ไปให้เค้าถ่ายให้เลยแล้วกัน พอรูปออกมาเรารู้สึกเราโอเคประมาณนึงเลย 
2. เพลงที่เราส่งออดิชั่น จะบอกว่าค่ายแรกที่เราส่งออดิชั่นไปคือbighit งงไหมเพราะบิ๊กฮิตรับแต่ผู้ชาย ความอีนี่ติ่งบังทัน55555เลยแบบอยากอยู่ค่ายเดียวกับเขา โดนปัดตกครับไม่รอด เลยไปส่งค่ายygต่อ เราส่งไป3เพลง vocal เราร้อง salf and sound ของRap เราrapเพลง MTBD-CL และเราก็ส่งเต้นเพลง Don't wanna cry ของ seventeen ไป เวลาผ่านไป1เดือน ค่ายไม่ติดต่อกลับมา เราก็โอเค พลาดyg ล่ะ เราเลยแบบไปหาข้อมูลเน้นเป็นค่ายเล็กๆเริ่มมาจนค่ายใหญ่ๆ เราส่งทุกค่ายเลยก็ว่าได้ทุกคน ส่งทุกเดือน(มันจะมีออดิชั่นที่ส่งทุกอย่างผ่านอีเมลทุกเดือน) มีค่ายติดต่อเรามาว่าแบบให้ไปออดิชั่นรอบ2ที่ค่ายนะสะดวกไหม ค่ายที่ติดต่อเรามาเป็นค่ายเล็กๆไม่ใช่ค่ายใหญ่มีชื่อเสียงอะไร เราก็แบบขอลองปรึกษาผู้ปกครองก่อนนะคะ เพราะอายุเราก็ยังน้อยอ่ะ พ่อแม่จะให้ไปไหม เรื่องเรียนล่ะ จนมีครั้งนึงค่าย sm ติดต่อเรากลับมา ว่าเขาดูโปรไฟล์ของเราแล้วนะ คุณสะดวกออดิชั่นรอบ2ไหม เราจะสามารถวีดีโอคอลหาคุณได้ไหมภายในอาทิตย์หน้า เราก็แบบ เข้! sm เลยนะเว้ย เราก็รีบรับปากว่าได้ค่ะๆ ได้แบบไม่ดูเวลาเตรียมตัวเลยว่ามีเวลาแค่อาทิตย์เดียว จนอาทิตย์นั้นทางสตาฟเขาก็ส่งข้อมูลบลาๆๆมาในอีเมลเราพร้อมลิ้งค์ซูม เราเข้าวีดีโอไปในความคิดเราคือแบบต้องมีเด็กที่ผ่านคนอื่นๆอีกแน่ๆสรุปคือ มันเป็น2จออ่ะทุกคน แล้วจอของทีมงานคือมีทีมงานประมาณ5คน ดูเราอยู่ เขาก็ขอเลคคอร์ดวีดีโอไว้นะ เราก็โอเค เขา็บอกให้เราลองร้องเพลง Lay me down เราไม่เคยฟังเพลงนี้เรางงมากมันคือเพลงอะไร ทีมงานเลยแบบงั้นคุณเลือกเพลงที่มันคีย์ตรงกับเสียงของคุณได้ไหม เราเลยเลือกเพลง Take me to your heart ไปแล้วก็ร้อง แล้วคือทีมงานทุกคนใส่หูฟังฟังเสียงเราอ่ะ เราก็เขิน ทีมงานก็บอกรีแล็กซ์ๆ ทีมงานก็ถามคุณพอเต้นได้ไหม เราก็บอกได้ค่ะ เขาเปิดเพลงฟรีสไตล์มาเราก็เต้น พอทุกอย่างจบโชว์จบปุ้บ เขาก็บอกว่าเสียงร้องของคุณยังมีติดขัดนิดหน่อย  การเต้นของคุณต้องล็อคท่าให้อยู่กว่านี้แต่มันฝึกกันได้ แล้วเขาก็บอกว่าอีกประมาณ1-2อาทิตย์เราจะติดต่อมา โชคดีนะ แล้วเจอกันที่นี่ สายตัดไปปุ้บ เรากรี๊ดลั่นบ้านอ่ะทุกคน ว่าแบบเห้ยเขาพูดงี้แสดงว่าเราต้องได้ไปแล้วป่ะ สรุปคือไม่มีวี่แววติดต่อกลับมาเป็นเดือน555555 เราเลยเลือกไปออค่ายก่อนหน้านี้ที่ติดต่อเรากลับมา แต่เราต้องไปออรอบ2ที่เกาหลี ไม่ใช่แบบวีดีโอเฟซไทม์แล้ว 
3. ออดิชั่นรอบ2 เราแบบมันสิ้นหวังแล้ว ผ่านมาออรอบ2ได้ แต่ไม่ผ่านไปจนถึงสุดท้าย เราเลยไปออรอบ2ค่ายก่อนหน้านี้ แต่ว่า สถานการณ์โควิดที่เกาหลีหนักจนแลบว่าจะบินไปก็ยุ่งยาก กว่าเอกสารโควิด เอกสารบลาๆๆจะผ่าน เราเลยติดต่อทางค่ายไปเองว่า ขอออดิชั่นผ่านเฟซไทม์ได้ไหม เราก็รอทีมงานค่ายตอบกลับมา พอโอเคตกลงได้ คล้ายๆของsm เลยค่ะ แต่อันนี้ให้เราโชว ทั้งร้อง แร็ป เต้น เลย มีให้ลองเดินแบบด้วย ก็พอออจบ ทีมงานก็บอกว่า อาจจะมีให้ลองอออีกรอบนะ เขาเลือกเพลงให้ เหมือนว่าแบบจะเป้นการออดิชั่นกลุ่มรวมกับคนเกาหลี เหมือนกลุ่มเด็กออA B แต่ที่เรามารู้ทีหลังคือเขาเอาเด็กที่เป็นเทรนนี่อยู่มาแฝงอยู่กับเราด้วย เหมือนเอามาเป็นตัวจับตามอง55555เราก็แบบต้องเฟซไทม์ โทรคุยกันแทบทั้งวันทั้งคืนเลยก็ว่าได้ ทางนี้ก็แหกปากร้องเพลง เต้นจนข้อเข่าจะเสื่อมในห้อง คนเกาหลีเขาก็ออที่ค่ายไม่ต้องเฟซไทม์ จริงๆกรณีนี้ค่ายปัดตกได้นะคะ แต่เราก็ไม่รู้ว่าเค้าเก็บเราไว้ทำไม😅 ก็ร้องเล่นเต้นแร๊พวนไปเกือบเดือน พอถึงวันออรอบ3 เหมือนทุกคนอยู่ในหอประชุมค่าย เรากลัวมากตอนนั้นกลัวแบบจะเป็นคนเดียวที่ต้องเฟซไทม์หรือป่าว สรุปไม่จ้า มีคนญี่ปุ่นอีกประมาณ4-5คน แล้วเค้าสวยมาแม่ 
4. ออดิชั่นรอบ3 รอบแห่งความเป็นความตายว่าเราจะได้เซ็นสัญญาเป็นเด็กฝึกไหม พอต้องแสดงเหมือนเราที่อยู่ในกล้องได้ขึ้นโปรเจคเตอร์ใหญ่ๆคนเห็นชัดมากๆอ่ะ แล้วเปิดมาก็เต้นเลย เด็กเทรนที่มาแฝงอยู่กับเราเค้าก็บอกเราว่าวันที่ต้องแสดงอ่ะ เราต้องใส่แรงให้เยอะกว่าคนอื่นนะ เพราะกล้องมันดีเลย์ มันจะดรอปทำให้ช้า วันนั้นอีนี่ก็ใส่ไม่ยั้งเลยค่ะ พอแสดงจบ เจองานยากอีก ทีมงาน สตาฟ พูดภาษาเกาหลี เราที่อยู่ในกล้องแทบกุมขมับ มีจังหวะเหมือนทีมงานแกล้งเด็กออเกาหลีว่าอะไรสักอย่าง เราไม่เข้าใจก็ขำๆไป เขาเลยหันมาถามเราว่า คุณฟังออกหรอ คุณรู้ภาษาเกาหลีหรอ ตอนนั้นแบบสตั้น แบบห้ะ ไม่ได้นินทาให้กูฟังไม่ออกใช่มั้ย555555 พอเสร็จสิ้นภารกิจทุกอย่างในการออรอบ3 เพื่อนเกาหลีในกลุ่มเขาก็มาแปลให้ฟังว่า เนี่ยทีมงานบอกว่าถ้าเธอได้มาเป็นฝึก(หมายถึงเด็กฝึกเกาหลีคนนั้น) เขาจะให้ตำแหน่งลีดเดอร์กลุ่มเทรน เราก็ถึงบางอ้อเลยจ้า ทุกอย่างเสร็จสิ้น รอทีมงานติดต่อกลับ 
5. เซ็นสัญญา คือเรื่องที่ไม่คิดไม่ฝันก็มาถึง อีนี่ผ่านอีกจ้าาาาา มากับดวงของจริง555555 ทีมงานก็ทั้งอีเมลมา ทั้งโทรมา ว่าแบบคุณผ่านออดิชั่นนะ แสดงความยินดีด้วย คุณสามารถมาเซ็นสัญญาได้ไหม(รอบนี้คือมันต้องไปจริงๆอ่ะทุกคนเพราะมันสำคัญ) แต่ช่วงนั้นคือโควิดหนักมากก เขาก็บอกให้เราอ่ะพาผู้ปกครองมาด้วย จะคุยเรื่องสัญญา การกินการอยู่ของเด็กต่างชาติ ตอนนั้นเราเลยบอกว่าขอคุยกับผู้ปกครองก่อนนะคะ(อีกแล้ว) 
6. เราเลยไปลองคุยกับที่บ้านเราว่าเนี่ย เราจะได้ไปเป็นเด็กฝึกค่ายนี่นะ ฝึกนานไหมไม่รู้ ฝึกแค่ไหนถึงจะได้เป็นศิลปิน ก็ไม่รู้ ที่บ้านเราก็เลยบอกว่าจะสอบแอดมิชชั่นแล้ว ไหนจะโควิดอีก เขาก็ห่วง แต่เขาก็ห่วงมากสุดคือถ้าเราไปคนเดียว เราไม่เคยไปต่างประเทศ เขากลัวว่าเราจะโดนหลอกหรือป่าว เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆไปใช้ชีวิตต่างแดน พอเราคุยได้ข้อตกลงว่า 'เราจะไม่เซ็นสัญญาเป็นเด็กฝึก' ตอนนั้นคือแบบน้ำตาไหลพราก พยายามมาตั้งนาน เหมือนช่วงนั้นคือดวงจริงๆ ที่ผ่านถึงขั้นนั้นได้ เราก็เลยปฏิเสธค่ายไปว่าขอไม่เซ็นสัญญานะคะ ทีมงานเขาก็ถามว่า คุณติดขัดตรงไหนหรือป่าว เรื่องกินที่พัก ค่าตั๋วเครื่องบิน คุณลองไปค่อยๆคิดดูก่อนได้นะ เราก็แบบยืนหนึ่งไปเลยว่าเออมันใกล้จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ทางบ้านอยากให้เราโฟกัสตรงนี้มากกว่า ค่ายก็โอเค ไม่เป็นไร ขอให้โชคดีในการสอบ 
 
*เรื่องราวออดิชั่นของเราก็เป็นแบบนี้แหละทุกคน เราจะบอกว่าเราเกิดปี2002 โอกาสตอนนี้มันแทบหาไม่ได้แล้ว ที่จะออดิชั่นอีก ตัวเลือกค่ายที่จะออดิชั่นมันจะน้อยลงไป สำหรับน้องๆที่เกิดช่วงปี2004ไป คือช่วงที่แบบกำลังดี กำลังน่าจับตามองเลย ถ้ามีโอกาสก็คว้าไว้นะ หวังว่าเรื่องราวของเรา จะเป็นแรงผลักดัน สื่อให้เห็นถึงบรรยากาสสนุกๆในการออดิชั่นไม่เครียด แต่เราจะบอกว่า ทุกค่ายเขาจะคว้าคนจากความสามารถจริงๆ ความเป็นกันเอง ไม่เป็นยืนเกร็งๆตอนออดิชั่น ทุกคลิปมีความมั่นใจ แต่ไม่ควรมั่นใจมากเกินไปเพราะเขาจะมองว่าคนนี้จะสอนยาก ไม่มีความมั่นใจเขาก็จะมองว่าคนนี้ไม่พร้อมรับอะไรที่เขาสอน 
อีกอย่างคือ ค่ายเล็กหรือค่ายใหญ่ไม่สำคัญเลยทุกคน ถ้าเป็นทางที่เราชอบ เราอาจจะไปฝึกค่ายเล็กๆเก็บประสบการณ์ก่อนไปค่ายใหญ่ๆตอนหมดสัญญาได้ 
ยังไงก็เราเป็นกำลังใจให้ทุกๆคน ที่กำลังตัดสินใจจะออดิชั่นนะ เราเชื่อว่าทุกคนทำได้ คนเกาหลีไม่ได้บูลลี่คนไทยเลย แต่จะมีคำถามบ่อยๆว่า คนไทยใช้มือกินข้าวหรอ555555แล้วนอกนั้นก็ สวัสดีค่ะ ขอบคุณค่ากันทั้งวัน พูดเป็นอยู่2คำ ภาษาเกาหลีพูดไม่ได้เลยไม่ใช่อุปสรรค เราก็พูดไม่ได้ ฟังไม่ออก แต่ก็ยังแบบพองมภาษาอังกฤษไปได้ 
*สำหรับใครที่อยากรู้อะไรเพิ่มเติม ถามเราได้น้า ถ้าตอบได้เราจะตอบครับบ เพราะบางอย่างก็เป็นความลับ ยิ่งกว่าความลับแห่งชาติอีก55555555

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่