มาอ่านเรื่องราคาเครื่องดื่ม และ ขนมเด็กๆ ในอดีตกันครับ
ลองมาดูกันว่าสมัยนั้นเงิน 5 บาทซื้ออะไรทานได้บ้าง
ผมนึกถึงวันวานครับ มีเงิน 5 บาท ตอนอายุ 5 ขวบ ตกใจไม่รู้จะเอาไปซื้ออะไรดี
ตอนนั้นเป็นปี พ.ศ. 2526 เพิ่งผ่านปีสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปีไปได้เพียงปีเดียว ขณะนั้นผมเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2
ที่โรงเรียนอนุบาลวัฒนา เซนต์หลุยส์ซอย 3 กรุงเทพ
อนุบาลนี้มีชื่อเสียงมากในช่วงนั้น เพราะเด็กที่เรียนที่นี่หลายคนสอบเข้า โรงเรียนชายล้วนชื่อดัง กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และ อัสสัมชัญ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ดังมากในสมัยนั้น(และสมัยนี้ก็ยังดังอยู่)
ผมจำได้ว่าที่อนุบาลวัฒนา จะมีเป็บซี่ขายขวดละ 4 บาทครับ ซึ่งผมไม่ค่อยได้ซื้อดื่มหรอกครับ เพราะรู้สึกว่ามันแพง แล้วก็เยอะเกินกินไม่หมด
ผมได้เงินมาโรงเรียนวันละ 2 บาท
ผมจะซื้อขนมที่เค้าเอามาทอดแล้วมันจะพองๆเป็นเหมือนล้อเกวียน ห่อเล็ก 1 บาท ถ้าเป็น ห่อใหญ่ก็ 2 บาท
จำได้ว่าขนมชนิดนี้อร่อยมากๆเลยสำหรับเด็กอนุบาลอย่างผม
มีอยู่วันนึง ผมไปร้านอาม่า(อาม่าคือย่าแท้ๆของผม) อาม่าเปิดร้านขายของมีของขายหลายอย่างและมีเครื่องเขียนด้วย เวลาไปก่อนกลับจะหยิบอะไรกลับมาบ้านบ้างก็ได้ เพียงแค่ขออาม่า
อาม่าก็ยินดีให้ และก่อนกลับบ้านในคืนวันอาทิตย์นั้น ผมก็จะไปเปิดตู้สินค้าแล้วมุดไปหยิบ ยางลบ ดินสอ กลับบ้าน ของพวกนี้มันเป็นอะไรที่น่ารักอยู่แล้วสำหรับเด็กถ้าจะขออาม่าเพื่อเอาไปใช้ที่โรงเรียน
แต่วันนี้มีพิเศษอยู่อย่างนึงคือผม หยิบ ดินสอเปลี่ยนไส้ ที่มันจะมีไส้อยู่ในดินสอหลายๆอันพอเขียน ทู่ แล้วก็ดึงด้านปลายออกแล้วเอาไปใส่ด้านท้าย เพื่อดันไส้ใหม่ที่ยังแหลมอยู่ออกมา
พอได้ดินสอเปลี่ยนไส้มาก็ดีใจ พรุ่งนี้วันจันทร์ก็จะได้เอาไปอวดเพื่อนที่โรงเรียนอนุบาลหละสิคราวนี้
ผมก็เอาไปโรงเรียนในวันรุ่งขึ้น เมื่อเพื่อนนักเรียนชั้นอนุบาล 2 ของผมเห็น เค้าก็อยากได้มาก มีคนนึงถึงขนาดขอซื้อต่อจากผม อ้อนวอนเท่าไหร่ ผมก็ไม่ยอมขาย
แต่ตอนบ่ายคุณครูเค้าให้นักเรียนเดินเอาสมุดไปให้ครูตรวจที่โต๊ะของคุณครูที่อยู่ข้างๆกระดานดำหน้าห้อง
ผมก็กังวลมาก ว่าตอนเดินไปเพื่อนก็จะต้องขโมยดินสอเปลี่ยนไส้ของผมไปแน่ๆ (ตอนนั้นผมอายุเพียง5 ขวบ ไม่รู้ว่าก็แค่หยิบดินสอไปด้วยตอนเดินไปหาครูก็หมดเรื่อง)
พอเดินเอาสมุดไปให้ครูตรวจเสร็จ ผมรีบเดินกลับมาก็พบว่าดินสอเปลี่ยนไส้ ในกระเป๋าที่ผมใช้เก็บเครื่องเขียน หายไปซะแล้ว
กระเป๋าที่ผมใช้ใส่เครื่องเขียนเป็นกระเป๋ามีซิปรูดปิดได้ พอผมกลับมาที่โต๊ะก็รีบรูดซิปเปิดดู ภายในกระเป๋าดินสอเปลี่ยนไส้ของผมหายไปแต่กลับมีเหรียญ 1 บาทอยู่ 5 เหรียญแทน
ผมก็ตกใจมาก บอกให้เพื่อนเอามาคืนเพื่อนก็ไม่ยอมคืน เพื่อนบอกว่าขอซื้อต่อ 5 บาทไง
เงิน 5 บาทนั้นเยอะมาก เพราะสามารถซื้อเป็บซี่ ได้ 1 ขวด แล้วยังเหลือเงิน อีก 1 บาท ซื้อขนมถุงเล็กได้อีก (ผมรวยแล้ว)
แต่ตอนนั้นก็ใกล้เวลากลับบ้านแล้ว เย็นวันนั้นผมก็กลับบ้านไปยังไม่ได้ใช้เงิน ใจก็กลัวว่าแม่จะรู้มั้ยนะว่าเรามีเงินตั้ง 5 บาท
พอตอนเช้า ผมกำลังจะไปโรงเรียน แม่ได้ยินเสียง เหรียญในกระเป๋านักเรียนใบจิ๋วของผม แม่ก็เลยเปิดดู แล้วหยิบกระเป๋าซิปที่ผมใช้ใส่เครื่องเขียนออกมา
แล้วแม่ก็เจอ เหรียญ 1 บาท 5 เหรียญ แม่ดุด่าว่าตีหยิกผมใหญ่เลย บอกว่าผมเป็นเด็กขี้ขโมยไปเอาเงินมาจากไหน
ผมตอนนั้นอายุเพียง 5 ขวบก็อธิบายไม่ค่อยเป็น จำได้ว่าบอกแม่ไปว่า เพื่อนให้มาแค่นั้น แม่ก็ตีใหญ่เลย บอกว่าเอาไปคืนเพื่อนเลยนะ แล้วก็ดุด่าว่าผม ผมก็ร้องไห้ เพราะอธิบายอะไรยาวๆไม่เป็นยังเด็กอยู่
พอมาถึงโรงเรียน ผมก็ยังฉลาดพอครับ ผมหยิบเงิน 5 บาทออกมาอย่างตื่นเต้น ไม่เคยใช้เงินทีละมากๆแบบนี้เองคนเดียวเลย แล้วผมก็กำเงิน 5 บาทนั้นไปซื้อเป็บซี่ 1ขวด ราคา 4 บาท และขนมที่เป็นรูปล้อเกวียนทอดนั้นอีก 1 บาท
จำได้ว่าเป็บซี่มันเย็นมาก ดูดไปได้ครึ่งขวดก็ไม่ไหวแล้ว ก็เอาขวดไปวางคืน แล้วกินขนม 1 บาทจนหมด
พอกลับมาบ้านในเย็นวันนั้นแม่ก็ถามว่า ได้เอาเงินไปคืนเพื่อนรึยัง ผมก็บอกว่าคืนแล้ว นี่แหละครับผมจึงต้องโกหกแม่
เพราะจริงๆแล้วผมไม่ผิด แต่ผมกลับคิดว่าตัวเองทำผิด ที่เอาดินสอเปลี่ยนไส้ที่อาม่าให้มา ปล่อยให้เพื่อนขโมยไป ซึ่งที่จริงแล้วจะบอกว่าเพื่อนขโมยไปก็ไม่ได้เพราะเค้าให้เงินมาเกินราคาดินสอด้วยซ้ำ ในหัวเด็กอนุบาลอย่างผมก็สับสนไปหมด ตอนนั้นก็มีแต่ความกลัวว่าแม่จะดุด่าว่าผม ว่าเป็นเด็กไม่ดี
ผมจึงคิดว่าเด็กๆก็เหมือนผ้าขาว เค้าไม่รู้หรอกครับ ว่าอะไรถูกอะไรผิด ถ้าคุยกับเค้าดีๆใจเย็นๆเค้าก็จะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เราฟัง ถ้าเอาแต่ตี ดุด่าว่ากล่าวเด็กก็จะไม่เล่า และจะเลือกโกหกแทนด้วยความกลัวความผิด ทั้งๆที่บางทีเด็กก็ไม่ได้ทำผิดด้วยซ้ำ
เรื่องนี้ก็จบแต่เพียงเท่านี้เริ่มต้นด้วยเครื่องดื่มคือเป็บซี่ กับขนมถุงละ 1 บาท แต่มาจบที่การสอนลูกซะงั้น
หวังว่าคงเป็นประโยชน์และให้ความสนุกกับท่านผู้อ่านที่ชอบฟังเรื่องราวในอดีตบ้างนะครับ
อ่านกระทู้ใหม่ของผม ขนมปากริม ปลากริม หรือปลากริม ไข่เต่าได้ ที่
https://ppantip.com/topic/41498305
ใครเคยซื้อเป็บซี่ ขวดละ 4 บาทบ้างครับ? เป็บซี่ขวดละ 4 บาทขนมล้อเกวียนห่อละ 1 บาท กับการโกหกครั้งแรกสมัยอนุบาลของผม
ลองมาดูกันว่าสมัยนั้นเงิน 5 บาทซื้ออะไรทานได้บ้าง
ผมนึกถึงวันวานครับ มีเงิน 5 บาท ตอนอายุ 5 ขวบ ตกใจไม่รู้จะเอาไปซื้ออะไรดี
ตอนนั้นเป็นปี พ.ศ. 2526 เพิ่งผ่านปีสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปีไปได้เพียงปีเดียว ขณะนั้นผมเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2
ที่โรงเรียนอนุบาลวัฒนา เซนต์หลุยส์ซอย 3 กรุงเทพ
อนุบาลนี้มีชื่อเสียงมากในช่วงนั้น เพราะเด็กที่เรียนที่นี่หลายคนสอบเข้า โรงเรียนชายล้วนชื่อดัง กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และ อัสสัมชัญ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ดังมากในสมัยนั้น(และสมัยนี้ก็ยังดังอยู่)
ผมจำได้ว่าที่อนุบาลวัฒนา จะมีเป็บซี่ขายขวดละ 4 บาทครับ ซึ่งผมไม่ค่อยได้ซื้อดื่มหรอกครับ เพราะรู้สึกว่ามันแพง แล้วก็เยอะเกินกินไม่หมด
ผมได้เงินมาโรงเรียนวันละ 2 บาท
ผมจะซื้อขนมที่เค้าเอามาทอดแล้วมันจะพองๆเป็นเหมือนล้อเกวียน ห่อเล็ก 1 บาท ถ้าเป็น ห่อใหญ่ก็ 2 บาท
จำได้ว่าขนมชนิดนี้อร่อยมากๆเลยสำหรับเด็กอนุบาลอย่างผม
มีอยู่วันนึง ผมไปร้านอาม่า(อาม่าคือย่าแท้ๆของผม) อาม่าเปิดร้านขายของมีของขายหลายอย่างและมีเครื่องเขียนด้วย เวลาไปก่อนกลับจะหยิบอะไรกลับมาบ้านบ้างก็ได้ เพียงแค่ขออาม่า
อาม่าก็ยินดีให้ และก่อนกลับบ้านในคืนวันอาทิตย์นั้น ผมก็จะไปเปิดตู้สินค้าแล้วมุดไปหยิบ ยางลบ ดินสอ กลับบ้าน ของพวกนี้มันเป็นอะไรที่น่ารักอยู่แล้วสำหรับเด็กถ้าจะขออาม่าเพื่อเอาไปใช้ที่โรงเรียน
แต่วันนี้มีพิเศษอยู่อย่างนึงคือผม หยิบ ดินสอเปลี่ยนไส้ ที่มันจะมีไส้อยู่ในดินสอหลายๆอันพอเขียน ทู่ แล้วก็ดึงด้านปลายออกแล้วเอาไปใส่ด้านท้าย เพื่อดันไส้ใหม่ที่ยังแหลมอยู่ออกมา
พอได้ดินสอเปลี่ยนไส้มาก็ดีใจ พรุ่งนี้วันจันทร์ก็จะได้เอาไปอวดเพื่อนที่โรงเรียนอนุบาลหละสิคราวนี้
ผมก็เอาไปโรงเรียนในวันรุ่งขึ้น เมื่อเพื่อนนักเรียนชั้นอนุบาล 2 ของผมเห็น เค้าก็อยากได้มาก มีคนนึงถึงขนาดขอซื้อต่อจากผม อ้อนวอนเท่าไหร่ ผมก็ไม่ยอมขาย
แต่ตอนบ่ายคุณครูเค้าให้นักเรียนเดินเอาสมุดไปให้ครูตรวจที่โต๊ะของคุณครูที่อยู่ข้างๆกระดานดำหน้าห้อง
ผมก็กังวลมาก ว่าตอนเดินไปเพื่อนก็จะต้องขโมยดินสอเปลี่ยนไส้ของผมไปแน่ๆ (ตอนนั้นผมอายุเพียง5 ขวบ ไม่รู้ว่าก็แค่หยิบดินสอไปด้วยตอนเดินไปหาครูก็หมดเรื่อง)
พอเดินเอาสมุดไปให้ครูตรวจเสร็จ ผมรีบเดินกลับมาก็พบว่าดินสอเปลี่ยนไส้ ในกระเป๋าที่ผมใช้เก็บเครื่องเขียน หายไปซะแล้ว
กระเป๋าที่ผมใช้ใส่เครื่องเขียนเป็นกระเป๋ามีซิปรูดปิดได้ พอผมกลับมาที่โต๊ะก็รีบรูดซิปเปิดดู ภายในกระเป๋าดินสอเปลี่ยนไส้ของผมหายไปแต่กลับมีเหรียญ 1 บาทอยู่ 5 เหรียญแทน
ผมก็ตกใจมาก บอกให้เพื่อนเอามาคืนเพื่อนก็ไม่ยอมคืน เพื่อนบอกว่าขอซื้อต่อ 5 บาทไง
เงิน 5 บาทนั้นเยอะมาก เพราะสามารถซื้อเป็บซี่ ได้ 1 ขวด แล้วยังเหลือเงิน อีก 1 บาท ซื้อขนมถุงเล็กได้อีก (ผมรวยแล้ว)
แต่ตอนนั้นก็ใกล้เวลากลับบ้านแล้ว เย็นวันนั้นผมก็กลับบ้านไปยังไม่ได้ใช้เงิน ใจก็กลัวว่าแม่จะรู้มั้ยนะว่าเรามีเงินตั้ง 5 บาท
พอตอนเช้า ผมกำลังจะไปโรงเรียน แม่ได้ยินเสียง เหรียญในกระเป๋านักเรียนใบจิ๋วของผม แม่ก็เลยเปิดดู แล้วหยิบกระเป๋าซิปที่ผมใช้ใส่เครื่องเขียนออกมา
แล้วแม่ก็เจอ เหรียญ 1 บาท 5 เหรียญ แม่ดุด่าว่าตีหยิกผมใหญ่เลย บอกว่าผมเป็นเด็กขี้ขโมยไปเอาเงินมาจากไหน
ผมตอนนั้นอายุเพียง 5 ขวบก็อธิบายไม่ค่อยเป็น จำได้ว่าบอกแม่ไปว่า เพื่อนให้มาแค่นั้น แม่ก็ตีใหญ่เลย บอกว่าเอาไปคืนเพื่อนเลยนะ แล้วก็ดุด่าว่าผม ผมก็ร้องไห้ เพราะอธิบายอะไรยาวๆไม่เป็นยังเด็กอยู่
พอมาถึงโรงเรียน ผมก็ยังฉลาดพอครับ ผมหยิบเงิน 5 บาทออกมาอย่างตื่นเต้น ไม่เคยใช้เงินทีละมากๆแบบนี้เองคนเดียวเลย แล้วผมก็กำเงิน 5 บาทนั้นไปซื้อเป็บซี่ 1ขวด ราคา 4 บาท และขนมที่เป็นรูปล้อเกวียนทอดนั้นอีก 1 บาท
จำได้ว่าเป็บซี่มันเย็นมาก ดูดไปได้ครึ่งขวดก็ไม่ไหวแล้ว ก็เอาขวดไปวางคืน แล้วกินขนม 1 บาทจนหมด
พอกลับมาบ้านในเย็นวันนั้นแม่ก็ถามว่า ได้เอาเงินไปคืนเพื่อนรึยัง ผมก็บอกว่าคืนแล้ว นี่แหละครับผมจึงต้องโกหกแม่
เพราะจริงๆแล้วผมไม่ผิด แต่ผมกลับคิดว่าตัวเองทำผิด ที่เอาดินสอเปลี่ยนไส้ที่อาม่าให้มา ปล่อยให้เพื่อนขโมยไป ซึ่งที่จริงแล้วจะบอกว่าเพื่อนขโมยไปก็ไม่ได้เพราะเค้าให้เงินมาเกินราคาดินสอด้วยซ้ำ ในหัวเด็กอนุบาลอย่างผมก็สับสนไปหมด ตอนนั้นก็มีแต่ความกลัวว่าแม่จะดุด่าว่าผม ว่าเป็นเด็กไม่ดี
ผมจึงคิดว่าเด็กๆก็เหมือนผ้าขาว เค้าไม่รู้หรอกครับ ว่าอะไรถูกอะไรผิด ถ้าคุยกับเค้าดีๆใจเย็นๆเค้าก็จะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เราฟัง ถ้าเอาแต่ตี ดุด่าว่ากล่าวเด็กก็จะไม่เล่า และจะเลือกโกหกแทนด้วยความกลัวความผิด ทั้งๆที่บางทีเด็กก็ไม่ได้ทำผิดด้วยซ้ำ
เรื่องนี้ก็จบแต่เพียงเท่านี้เริ่มต้นด้วยเครื่องดื่มคือเป็บซี่ กับขนมถุงละ 1 บาท แต่มาจบที่การสอนลูกซะงั้น
หวังว่าคงเป็นประโยชน์และให้ความสนุกกับท่านผู้อ่านที่ชอบฟังเรื่องราวในอดีตบ้างนะครับ
อ่านกระทู้ใหม่ของผม ขนมปากริม ปลากริม หรือปลากริม ไข่เต่าได้ ที่
https://ppantip.com/topic/41498305