ขันธ์ห้า "สัตตานัง" สามารถสืบย้อนไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด หาต้นไม่ได้

ฉบับหลวง เล่ม 17
[๑๕๘] พระนครสาวัตถี ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่า
หนึ่ง เมื่อตามระลึก ย่อมตามระลึกถึงชาติก่อน ได้เป็นอันมาก สมณะหรือพราหมณ์ทั้งปวงนั้นก็ย่อมตามระลึกถึงอุปาทานขันธ์ ๕ หรือกองใดกองหนึ่ง.

อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นไฉน? คือ ย่อม
ตามระลึกถึงรูปดังนี้ว่า ในอดีตกาล เราเป็นผู้มีรูปอย่างนี้. ย่อมตามระลึกถึงเวทนาดังนี้ว่า ในอดีตกาล เราเป็นผู้มีเวทนาอย่างนี้. ย่อมตามระลึกถึงสัญญาดังนี้ว่า ในอดีตกาล เราเป็นผู้มีสัญญาอย่างนี้.  ย่อมตามระลึกถึงสังขารดังนี้ว่า ในอดีตกาล เราเป็นผู้มีสังขารอย่างนี้. ย่อมตามระลึกถึงวิญญาณดังนี้ว่า ในอดีตกาล เราเป็นผู้มีวิญญาณอย่างนี้.

แปลว่าไม่มี ขันธ์ชุดก่อนของชาติก่อน สลายไปพร้อมกับกายแตกทำลาย ตัดตอนกันไป เป็นธาตุธรรมชาติจนกว่าจะมีอายตนะไปรับรู้
และไม่มีพระสูตรใดกล่าวว่าขันธ์ห้าแตกไปหลังการตาย มีแต่ดับขันธปรินิพพาน

แต่ที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ 62 นั่นหมายถึงความไม่เที่ยง ของขันธ์ห้า  

สัญญาคือสิ่งที่สัตว์จำได้หมายรู้ ระลึกย้อนกลับไปได้ แต่หาต้นกำเนิดไม่ได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่