มาอีกแล้วกับค่าย MSI ที่มาพร้อมกับรุ่น MSI GF63 THIN เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าประสิทธิภาพการใช้งานของรุ่นนี้นั้นเหนือขั้นสุดๆ ตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้อย่างลงตัว โดยสเปกตัวนี้ถือว่าแรงมากๆ มาพร้อมกับชิปประมวลผลใหม่ล่าสุด Intel Core 11 รุ่นใหม่ที่เร็วแรงกว่าเดิม ทางด้านของการออกแบบดีไซน์ที่ยังคงความเท่ หรูหรามีระดับ ดูเรียบง่ายแต่แสดงถึงความเป็นเกมเมอร์อย่างเห็นได้ชัดเลยนะ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ก็แข็งแรงทนทาน อีกทั้งยังมาพร้อมกับชุดระบายความร้อน Cooler Boost ที่สามารถถ่ายเทอากาศได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะใช้งานกิจกรรมไหนๆก็หายห่วง นอกจากนี้คีย์บอร์ดในรุ่นนี้ก็ใส่ลูกเล่นไฟ LED สีแดงที่ตัดกับสีเครื่องได้ดีสุดๆ ยังสามารถปรับระดับได้ถึง 3 ระดับ ช่วยให้เพิ่มอรรถรสในการกดใช้งานได้ดีเลยทีเดียว ภาพรวมของรุ่นนี้นั้นจัดเต็มมากๆ เป็นอีกค่ายที่ผลิตรุ่นไหนออกมาก็น่าประทับใจทุกรุ่นจริงๆ
MSI GF63 นั้นมาพร้อมกับ Intel 11 Gen Core i5 Processor การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1650 พร้อมกับ Cooler Boost ทั้งนี้ยังมาพร้อมกับ RAM 64GB DDR4-3200MHz และให้ Storage 512GB PCIe NVMe M.2 SSD พร้อมใช้งาน ส่วนหน้าจอมีขนาดอยู่ที่ 15.6 นิ้ว IPS FHD หน้าจอใหญ่จุใจ แสดงสีสันได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังมาพร้อมกับคีย์บอร์ดสีแดงที่ตัดกับสีดำของตัวเครื่อง ปรับระดับได้ถึง 3 ระดับเลยทีเดียว และพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบถ้วนทั้ง USB3.2 Gen1 / USB3.2 Gen2 และ RJ45 / HDMI รวมถึง USB 3.2 Type-C / ให้มาแบบจุกๆรองรับการใช้งานที่หลากหลาย การดีไซน์ตัวเครื่องดี เรียวบาง มีน้ำหนักเพียงแค่ 1.86 กิโลกรัม ช่วยให้สามารถนำไปใช้งานนอกสถานที่ได้แบบสบายๆ
DESIGN
สำหรับการออกแบบดีไซน์ในรุ่นนี้คือต้องบอกเลยว่ายังคงเอกลักษณ์ความสวยดุดันเอาไว้เช่นเดิม น้ำหนักของตัวเครื่องนั้นมีน้ำหนักเพียงแค่ 1.86 กิโลกรัมเท่านั้น และมีความบางที่ 21.7 มิลลิเมตร ซึ่งต้องบอกว่าเบาบางกว่ารุ่นก่อนๆอย่างเห็นได้ชัด พกพาไปนอกสถานที่ได้สะดวกสบายขึ้น แต่เอกลักษณ์เด่นๆก็ยังคงเอาใจสายเกมมิ่งอยู่รวมไปถึงสเปกการใช้งานที่แน่นอนว่าต้องตอบโจทย์สายเกมมิ่งเช่นเดียวกัน โทนตัวเครื่องเป็นสีดำสนิท ดูเท่ ดูดุดัน น่าใช้งานมากๆ
ทางด้านของฝาหลังนั้นเรียบเนียนไปด้วยสีดำสนิท พื้นผิวด้านไม่เรียบลื้นมือเหมือนโน้ตบุ๊กทั่วๆไป ป้องกันลายนิ้วมือได้ดีมากๆ อีกทั้งยังมีโลโก้ MSI ลายมังกรสีแดงที่ดูโดดเด่นออกมาจากสีตัวเครื่องอีกด้วย โดยรวมวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้แข็งแรงทนทาน วัสดุเกรดพรีเมียม หมดห่วงเลยรอยขีดข่วน หรืออุปกรณ์จะพังง่ายๆไปได้เลย
ในส่วนของข้อพับแข็งแรงทนทาน ปรับได้หลายระดับ มีความหนืด กางข้อพับได้กว้าง ใช้งานสะดวกสุดๆ ซึ่งในรุ่นนี้บริเวณข้อพับจะมีระบบระบายความร้อนแทรกไว้ให้ใช้งานด้วย ทำให้ในรุ่นนี้สามารถระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี ประสิทธิภาพการใช้งานดีขึ้น
ในส่วนของคีย์บอร์ดในรุ่นนี้ออกแบบมาได้สวยโดดเด่นมากๆ พร้อม TouchPad ที่มีขนาดใหญ่กำลังพอดี ใช้งานได้อย่างเหมาะมือ ปุ่มกดต่างๆว่างได้เนียนตา อีกทั้งเด่นๆเลยคือทางค่ายได้ใส่ LED สีแดงที่สามารถปรับระดับได้ถึง 3 ระดับมาให้เราใช้งานด้วย ด้วยความที่เป็นไฟสีแดงสดตัดกับสีตัวเครื่องที่เป็นสีดำสนิท ทำให้ภาพรวมแล้วลงตัวสุดๆ ดูเท่ไปอีกแบบ
ในส่วนของด้านล่างตัวเครื่องก็จะอัดแน่นไปด้วยระบบระบายความร้อนแบบจุกๆ ที่ให้มาเต็มพื้นที่ สามารถระบายความร้อนได้เร็วแรง ช่วยให้เครื่องไม่อืดไม่ค้างไม่ร้อนขณะที่เราใช้งานเป็นเวลานานๆ หรือขณะที่เรากำลังเล่นเกมอยู่นั้นเอง มียางรองบริเวณมุมเครื่องมาให้ด้วยนะ อีกทั้งในรุ่นนี้ยังมีลำโพงที่แฝงใต้เครื่องด้วย
SPEC
- INTEL 11 Gen CORE I5 Processor / HM570
- Windows 11 Home
- 15.6″ FHD (1920×1080), IPS-Level display with thin bezel design, 45% NTSC
- GRAPHICS NVIDIA® GeForce GTX™ 1650 MAX-Q (4GB GDDR6)
- MEMORY DDR4-3200 2 Slots Max 64GB
- STORAGE 1x M.2 NVMe PCle Gen3 SSD 1x 2.5” SATA HDD
- WEBCAM HD Type (30fps@720p)
- KEYBOARD Red Backlit Gaming Keyboard
- COMMUNICATION Intel Wi-Fi 6 AX201 (802.11ax) + Bluetooth 5.1
- 1x Type-C USB3.2 Gen 1/ 3x Type-A USB3.2 Gen 1 / 1x RJ45 /1x (4K@30Hz) HDMI, 1x Audio combo jack
- SPEAKER 2x 2W Speaker, Hi-Res Audio Certified, Nahimic
- BATTERY 3-cell,51 Whr / Adapter 120W
- WEIGHT 1.86 kg
- 359mm x 254mm x 21.7mm
PERFORMANCE
ในรุ่นนี้ใช้งาน INTEL 11 Gen CORE I5 Processor ส่วนการ์ดจอ GPU จะใช้งาน NVIDIA® GeForce GTX™ 1650 MAX-Q (4GB GDDR6) มาพร้อมกับ Ram ให้มา 64GB DDR4-3200 ส่วน SSD 512GB PCIe® Gen3 SSD M.2 และมากับ Windows 11 พร้อมใช้งาน ในรุ่นนี้ถือว่าสเปกครบครันทำได้ดีมากๆเลยทีเดียว ในสเปกระดับนี้สามารถเล่มเกมหรือใช้ทำงานตัดต่อเรนเดอร์ ได้อย่างสบายๆ
PC MARK
ในรุ่นนี้ต้องบอกว่าทำคะแนนได้ดีในระดับนึงเลย สามารถทำคะแนนไปได้ 5579 คะแนน เป็นคะแนนที่เรียกว่าค่อนข้างสูงสำหรับสเปกการใช้งานนี้ รองรับการใช้งานทั่วไปได้สบายๆทั้ง Word การตัดต่อ การเรนเดอร์ไฟล์ใหญ่ๆ ทำกราฟิก 3 มิติ งานออกแบบต่างๆ ในรุ่นนี้รองรับได้สบาย และที่สำคัญเลยคือในการทดสอบนี้นั้นเป็นการทดสอบในอุณหภูมิปกติไม่ได้เปิดแอร์เช่นเดิม แล้วได้คะแนนออกมาอยู่ในระดับนี้ถือว่าโอเคเลยนะ
3D MARK
จากการทดสอบ 3D Mark ในรุ่นนี้สามารถทำคะแนนได้ดีในการทดสอบทั้ง 4 รูปแบบ โดยตัว Time Spy Extreme Score ทำคะแนนไปได้ 1540 คะแนนถือว่าสูงไม่มากนัก ส่วนทางด้านของ Time Spy ที่เน้นไปเจาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับท็อป เกมมิ่ง นั้นทำคะแนนได้ไป 3322 คะแนน ส่วนคะแนน Fire Strike Ultra ทำคะแนนไปได้ 1671 คะแนน และตัวสุดท้ายคือ Fire Strike Extreme ทำคะแนนไปได้ 3873 คะแนน ถือว่าแรงในระดับการทำงานกลางๆไม่ได้สูงมากนัก แต่ก็เพียงพอในการเล่นเกม การใช้งานทั่วไปต่างๆได้แบบไม่มีปัญหา ยังคงรองรับได้ดีอยู่
CINEBENCH / DISK MARK
R15 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าประทับใจเลยแหละ R15 นั้นทำคะแนนได้ 14296 cb/ 129.79 FPS ประมวลผลหนักๆได้แบบสบายมากๆ ค่อนข้างดีกว่าพวกรุ่นก่อนหน้านี้แบบเห็นได้อย่างชัดเจน และมองเทียบกับ R20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผลตัวโหดกว่า R15 คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าประทับใจเช่นเดียวกัน โดยในตัว R20 นั้นที่ประมวลผลหนักหน่วงกว่าเดิมสามารถทำคะแนนไปได้ 3136 คะแนนเลยทีเดียว อีกทั้งจากการทดสอบ R23 แล้วนั้นคะแนนทางด้านของ CPU (Multi Core) ทำคะแนนไปได้ 6087 pts และส่วน CPU (Single Core) ทำคะแนนไปได้ 1394 pts และแน่นอนว่าการทดสอบในสภาพอากาศปกติไม่มีแอร์เช่นเดิม คะแนนที่ออกมาก็ยังคงอยู่ในระดับที่น่าประทับใจอยู่ ถือว่าโอเคเลยแหละ
SCREEN
ทางด้านหน้าจอรุ่นนี้จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว แบบ IPS LCD ความละเอียดระดับ FHD 1920×1080 พิกเซล แสดงสีสันได้ดีอยู่ในระดับกลางๆแต่ก็ถือว่าพอใช้งานได้สำหรับค่า 45% NTSC ทางด้านของการทำงานกราฟิกในรุ่นนี้อาจจะยังไม่โดดเด่นอะไรมาก แสดงสีสันยังอยู่ในระดับกลางๆ แต่สำหรับการใช้งานปกตินั้นโอเคเลยนะ การสู้แสงต่างๆจากการที่ได้ทดลองใช้งานจริงแล้วนั้นรุ่นนี้สามารถสู้แสงได้ดี สามารถนำออกไปใช้งานนอกสถานที่ได้ ความสว่างยังคงชัดมองเห็นแม้อยู่ในพื้นที่ที่มีแสงมาก มิติของภาพเวลาเล่นเกมทำได้ดีสวยงามและไม่ได้ซีดหรือจืดมาก โดยรวมทางด้านของหน้าจอถ้าไม่เน้นในเรื่องของกราฟิกรุ่นนี้โอเคเลยนะ สีแน่นสดสวยงาม
จุดเด่นหลักๆของหน้าจอ IPS นั้นข้อดีของมันคงหนีไม่พ้นกับความสามารถที่ยังคงมองหน้าจอข้างๆได้อยู่อย่างชัดเจน สีจะไม่เพี้ยนเลย แต่ความสว่างนั้นจะดรอปลงกว่าด้านตรงๆของหน้าจอ แต่โดยรวมๆแล้วนั้นเรื่องของคุณภาพแสงสี ความสว่าง หรือความแม่นยำของสี รุ่นนี้ก็ยังทำได้ดี ลองรับการใช้งานทั่วไปได้อย่างสบายๆ
KEYBOARD
ในรุ่นนี้มาพร้อมกับคีย์บอร์ดที่ดีไซน์ออกมาได้ดูเท่ สวย โดดเด่น ใช้ลูกเล่นไฟ LED สีแดงที่ตัดกับสีดำสนิทของตัวเครื่อง ดูโดดเด่นออกมาทำให้ดูน่ากดน่าใช้มากขึ้นกว่าเดิม สามารถปรับได้ถึง 3 ระดับ แรงกดหรือการตอบสนองของแป้นพิมพ์ยังคงทำออกมาได้ดีเยี่ยมมากๆในรุ่นนี้ ทางค่ายยังมีการเคลมมาว่าสามารถรองรับการกดถึง 20 ล้านครั้งเลยทีเดียว ซึ่งเยอะมากๆเลยนะ ส่วนระยะของตัวปุ่มกดยังทำออกมาได้ดีเช่นเดิม สำหรับใครที่เคยใช้ค่ายนี้ก็น่าจะคุ้นชินมือกันอยู่แล้ว สามารถกดพิมพ์งานได้สบายๆไม่เมื่อยนิ้ว ตัวอักษรชัดเจน ตัวใหญ่กำลังพอดีเลยนะ ในด้านของแป้นพิมพ์ค่อยข้างตอบโจทย์
TOUCHPAD
ในส่วนของ TouchPad ในรุ่นนี้นั้นยังคงออกแบบดีไซน์มาในรูปแบบของการซ่อนปุ่มคลิกซ้ายและปุ่มคลิกขวา ทำให้เมื่อเรามองนั้นจะเห็นได้ว่าเป็นพื้นแผ่นเดียว เรียบเนียนดูสะอาดตามากๆ อีกทั้ง TouchPad ยังมีขนาดที่ใหญ่กำลังพอดีเลย สามารถใช้งานได้อย่างถนัดมือ สามารถตอบสนองได้รวดเร็ว ไม่อืดไม่ค้าง การใช้งานทั่วไปอยู่ในระดับปกติ ปุ่มกดไม่ได้แข็งจนเกินไป ลงตัวมากๆ
[SR] รีวิว MSI GF63 THIN พร้อม i5 Gen 11 GTX 1650 !!
มาอีกแล้วกับค่าย MSI ที่มาพร้อมกับรุ่น MSI GF63 THIN เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าประสิทธิภาพการใช้งานของรุ่นนี้นั้นเหนือขั้นสุดๆ ตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้อย่างลงตัว โดยสเปกตัวนี้ถือว่าแรงมากๆ มาพร้อมกับชิปประมวลผลใหม่ล่าสุด Intel Core 11 รุ่นใหม่ที่เร็วแรงกว่าเดิม ทางด้านของการออกแบบดีไซน์ที่ยังคงความเท่ หรูหรามีระดับ ดูเรียบง่ายแต่แสดงถึงความเป็นเกมเมอร์อย่างเห็นได้ชัดเลยนะ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ก็แข็งแรงทนทาน อีกทั้งยังมาพร้อมกับชุดระบายความร้อน Cooler Boost ที่สามารถถ่ายเทอากาศได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะใช้งานกิจกรรมไหนๆก็หายห่วง นอกจากนี้คีย์บอร์ดในรุ่นนี้ก็ใส่ลูกเล่นไฟ LED สีแดงที่ตัดกับสีเครื่องได้ดีสุดๆ ยังสามารถปรับระดับได้ถึง 3 ระดับ ช่วยให้เพิ่มอรรถรสในการกดใช้งานได้ดีเลยทีเดียว ภาพรวมของรุ่นนี้นั้นจัดเต็มมากๆ เป็นอีกค่ายที่ผลิตรุ่นไหนออกมาก็น่าประทับใจทุกรุ่นจริงๆ
MSI GF63 นั้นมาพร้อมกับ Intel 11 Gen Core i5 Processor การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1650 พร้อมกับ Cooler Boost ทั้งนี้ยังมาพร้อมกับ RAM 64GB DDR4-3200MHz และให้ Storage 512GB PCIe NVMe M.2 SSD พร้อมใช้งาน ส่วนหน้าจอมีขนาดอยู่ที่ 15.6 นิ้ว IPS FHD หน้าจอใหญ่จุใจ แสดงสีสันได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังมาพร้อมกับคีย์บอร์ดสีแดงที่ตัดกับสีดำของตัวเครื่อง ปรับระดับได้ถึง 3 ระดับเลยทีเดียว และพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบถ้วนทั้ง USB3.2 Gen1 / USB3.2 Gen2 และ RJ45 / HDMI รวมถึง USB 3.2 Type-C / ให้มาแบบจุกๆรองรับการใช้งานที่หลากหลาย การดีไซน์ตัวเครื่องดี เรียวบาง มีน้ำหนักเพียงแค่ 1.86 กิโลกรัม ช่วยให้สามารถนำไปใช้งานนอกสถานที่ได้แบบสบายๆ
DESIGN
สำหรับการออกแบบดีไซน์ในรุ่นนี้คือต้องบอกเลยว่ายังคงเอกลักษณ์ความสวยดุดันเอาไว้เช่นเดิม น้ำหนักของตัวเครื่องนั้นมีน้ำหนักเพียงแค่ 1.86 กิโลกรัมเท่านั้น และมีความบางที่ 21.7 มิลลิเมตร ซึ่งต้องบอกว่าเบาบางกว่ารุ่นก่อนๆอย่างเห็นได้ชัด พกพาไปนอกสถานที่ได้สะดวกสบายขึ้น แต่เอกลักษณ์เด่นๆก็ยังคงเอาใจสายเกมมิ่งอยู่รวมไปถึงสเปกการใช้งานที่แน่นอนว่าต้องตอบโจทย์สายเกมมิ่งเช่นเดียวกัน โทนตัวเครื่องเป็นสีดำสนิท ดูเท่ ดูดุดัน น่าใช้งานมากๆ
ทางด้านของฝาหลังนั้นเรียบเนียนไปด้วยสีดำสนิท พื้นผิวด้านไม่เรียบลื้นมือเหมือนโน้ตบุ๊กทั่วๆไป ป้องกันลายนิ้วมือได้ดีมากๆ อีกทั้งยังมีโลโก้ MSI ลายมังกรสีแดงที่ดูโดดเด่นออกมาจากสีตัวเครื่องอีกด้วย โดยรวมวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้แข็งแรงทนทาน วัสดุเกรดพรีเมียม หมดห่วงเลยรอยขีดข่วน หรืออุปกรณ์จะพังง่ายๆไปได้เลย
ในส่วนของข้อพับแข็งแรงทนทาน ปรับได้หลายระดับ มีความหนืด กางข้อพับได้กว้าง ใช้งานสะดวกสุดๆ ซึ่งในรุ่นนี้บริเวณข้อพับจะมีระบบระบายความร้อนแทรกไว้ให้ใช้งานด้วย ทำให้ในรุ่นนี้สามารถระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี ประสิทธิภาพการใช้งานดีขึ้น
ในส่วนของคีย์บอร์ดในรุ่นนี้ออกแบบมาได้สวยโดดเด่นมากๆ พร้อม TouchPad ที่มีขนาดใหญ่กำลังพอดี ใช้งานได้อย่างเหมาะมือ ปุ่มกดต่างๆว่างได้เนียนตา อีกทั้งเด่นๆเลยคือทางค่ายได้ใส่ LED สีแดงที่สามารถปรับระดับได้ถึง 3 ระดับมาให้เราใช้งานด้วย ด้วยความที่เป็นไฟสีแดงสดตัดกับสีตัวเครื่องที่เป็นสีดำสนิท ทำให้ภาพรวมแล้วลงตัวสุดๆ ดูเท่ไปอีกแบบ
ในส่วนของด้านล่างตัวเครื่องก็จะอัดแน่นไปด้วยระบบระบายความร้อนแบบจุกๆ ที่ให้มาเต็มพื้นที่ สามารถระบายความร้อนได้เร็วแรง ช่วยให้เครื่องไม่อืดไม่ค้างไม่ร้อนขณะที่เราใช้งานเป็นเวลานานๆ หรือขณะที่เรากำลังเล่นเกมอยู่นั้นเอง มียางรองบริเวณมุมเครื่องมาให้ด้วยนะ อีกทั้งในรุ่นนี้ยังมีลำโพงที่แฝงใต้เครื่องด้วย
SPEC
- INTEL 11 Gen CORE I5 Processor / HM570
- Windows 11 Home
- 15.6″ FHD (1920×1080), IPS-Level display with thin bezel design, 45% NTSC
- GRAPHICS NVIDIA® GeForce GTX™ 1650 MAX-Q (4GB GDDR6)
- MEMORY DDR4-3200 2 Slots Max 64GB
- STORAGE 1x M.2 NVMe PCle Gen3 SSD 1x 2.5” SATA HDD
- WEBCAM HD Type (30fps@720p)
- KEYBOARD Red Backlit Gaming Keyboard
- COMMUNICATION Intel Wi-Fi 6 AX201 (802.11ax) + Bluetooth 5.1
- 1x Type-C USB3.2 Gen 1/ 3x Type-A USB3.2 Gen 1 / 1x RJ45 /1x (4K@30Hz) HDMI, 1x Audio combo jack
- SPEAKER 2x 2W Speaker, Hi-Res Audio Certified, Nahimic
- BATTERY 3-cell,51 Whr / Adapter 120W
- WEIGHT 1.86 kg
- 359mm x 254mm x 21.7mm
PERFORMANCE
ในรุ่นนี้ใช้งาน INTEL 11 Gen CORE I5 Processor ส่วนการ์ดจอ GPU จะใช้งาน NVIDIA® GeForce GTX™ 1650 MAX-Q (4GB GDDR6) มาพร้อมกับ Ram ให้มา 64GB DDR4-3200 ส่วน SSD 512GB PCIe® Gen3 SSD M.2 และมากับ Windows 11 พร้อมใช้งาน ในรุ่นนี้ถือว่าสเปกครบครันทำได้ดีมากๆเลยทีเดียว ในสเปกระดับนี้สามารถเล่มเกมหรือใช้ทำงานตัดต่อเรนเดอร์ ได้อย่างสบายๆ
PC MARK
ในรุ่นนี้ต้องบอกว่าทำคะแนนได้ดีในระดับนึงเลย สามารถทำคะแนนไปได้ 5579 คะแนน เป็นคะแนนที่เรียกว่าค่อนข้างสูงสำหรับสเปกการใช้งานนี้ รองรับการใช้งานทั่วไปได้สบายๆทั้ง Word การตัดต่อ การเรนเดอร์ไฟล์ใหญ่ๆ ทำกราฟิก 3 มิติ งานออกแบบต่างๆ ในรุ่นนี้รองรับได้สบาย และที่สำคัญเลยคือในการทดสอบนี้นั้นเป็นการทดสอบในอุณหภูมิปกติไม่ได้เปิดแอร์เช่นเดิม แล้วได้คะแนนออกมาอยู่ในระดับนี้ถือว่าโอเคเลยนะ
3D MARK
จากการทดสอบ 3D Mark ในรุ่นนี้สามารถทำคะแนนได้ดีในการทดสอบทั้ง 4 รูปแบบ โดยตัว Time Spy Extreme Score ทำคะแนนไปได้ 1540 คะแนนถือว่าสูงไม่มากนัก ส่วนทางด้านของ Time Spy ที่เน้นไปเจาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับท็อป เกมมิ่ง นั้นทำคะแนนได้ไป 3322 คะแนน ส่วนคะแนน Fire Strike Ultra ทำคะแนนไปได้ 1671 คะแนน และตัวสุดท้ายคือ Fire Strike Extreme ทำคะแนนไปได้ 3873 คะแนน ถือว่าแรงในระดับการทำงานกลางๆไม่ได้สูงมากนัก แต่ก็เพียงพอในการเล่นเกม การใช้งานทั่วไปต่างๆได้แบบไม่มีปัญหา ยังคงรองรับได้ดีอยู่
CINEBENCH / DISK MARK
R15 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าประทับใจเลยแหละ R15 นั้นทำคะแนนได้ 14296 cb/ 129.79 FPS ประมวลผลหนักๆได้แบบสบายมากๆ ค่อนข้างดีกว่าพวกรุ่นก่อนหน้านี้แบบเห็นได้อย่างชัดเจน และมองเทียบกับ R20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผลตัวโหดกว่า R15 คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าประทับใจเช่นเดียวกัน โดยในตัว R20 นั้นที่ประมวลผลหนักหน่วงกว่าเดิมสามารถทำคะแนนไปได้ 3136 คะแนนเลยทีเดียว อีกทั้งจากการทดสอบ R23 แล้วนั้นคะแนนทางด้านของ CPU (Multi Core) ทำคะแนนไปได้ 6087 pts และส่วน CPU (Single Core) ทำคะแนนไปได้ 1394 pts และแน่นอนว่าการทดสอบในสภาพอากาศปกติไม่มีแอร์เช่นเดิม คะแนนที่ออกมาก็ยังคงอยู่ในระดับที่น่าประทับใจอยู่ ถือว่าโอเคเลยแหละ
SCREEN
ทางด้านหน้าจอรุ่นนี้จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว แบบ IPS LCD ความละเอียดระดับ FHD 1920×1080 พิกเซล แสดงสีสันได้ดีอยู่ในระดับกลางๆแต่ก็ถือว่าพอใช้งานได้สำหรับค่า 45% NTSC ทางด้านของการทำงานกราฟิกในรุ่นนี้อาจจะยังไม่โดดเด่นอะไรมาก แสดงสีสันยังอยู่ในระดับกลางๆ แต่สำหรับการใช้งานปกตินั้นโอเคเลยนะ การสู้แสงต่างๆจากการที่ได้ทดลองใช้งานจริงแล้วนั้นรุ่นนี้สามารถสู้แสงได้ดี สามารถนำออกไปใช้งานนอกสถานที่ได้ ความสว่างยังคงชัดมองเห็นแม้อยู่ในพื้นที่ที่มีแสงมาก มิติของภาพเวลาเล่นเกมทำได้ดีสวยงามและไม่ได้ซีดหรือจืดมาก โดยรวมทางด้านของหน้าจอถ้าไม่เน้นในเรื่องของกราฟิกรุ่นนี้โอเคเลยนะ สีแน่นสดสวยงาม
จุดเด่นหลักๆของหน้าจอ IPS นั้นข้อดีของมันคงหนีไม่พ้นกับความสามารถที่ยังคงมองหน้าจอข้างๆได้อยู่อย่างชัดเจน สีจะไม่เพี้ยนเลย แต่ความสว่างนั้นจะดรอปลงกว่าด้านตรงๆของหน้าจอ แต่โดยรวมๆแล้วนั้นเรื่องของคุณภาพแสงสี ความสว่าง หรือความแม่นยำของสี รุ่นนี้ก็ยังทำได้ดี ลองรับการใช้งานทั่วไปได้อย่างสบายๆ
KEYBOARD
ในรุ่นนี้มาพร้อมกับคีย์บอร์ดที่ดีไซน์ออกมาได้ดูเท่ สวย โดดเด่น ใช้ลูกเล่นไฟ LED สีแดงที่ตัดกับสีดำสนิทของตัวเครื่อง ดูโดดเด่นออกมาทำให้ดูน่ากดน่าใช้มากขึ้นกว่าเดิม สามารถปรับได้ถึง 3 ระดับ แรงกดหรือการตอบสนองของแป้นพิมพ์ยังคงทำออกมาได้ดีเยี่ยมมากๆในรุ่นนี้ ทางค่ายยังมีการเคลมมาว่าสามารถรองรับการกดถึง 20 ล้านครั้งเลยทีเดียว ซึ่งเยอะมากๆเลยนะ ส่วนระยะของตัวปุ่มกดยังทำออกมาได้ดีเช่นเดิม สำหรับใครที่เคยใช้ค่ายนี้ก็น่าจะคุ้นชินมือกันอยู่แล้ว สามารถกดพิมพ์งานได้สบายๆไม่เมื่อยนิ้ว ตัวอักษรชัดเจน ตัวใหญ่กำลังพอดีเลยนะ ในด้านของแป้นพิมพ์ค่อยข้างตอบโจทย์
TOUCHPAD
ในส่วนของ TouchPad ในรุ่นนี้นั้นยังคงออกแบบดีไซน์มาในรูปแบบของการซ่อนปุ่มคลิกซ้ายและปุ่มคลิกขวา ทำให้เมื่อเรามองนั้นจะเห็นได้ว่าเป็นพื้นแผ่นเดียว เรียบเนียนดูสะอาดตามากๆ อีกทั้ง TouchPad ยังมีขนาดที่ใหญ่กำลังพอดีเลย สามารถใช้งานได้อย่างถนัดมือ สามารถตอบสนองได้รวดเร็ว ไม่อืดไม่ค้าง การใช้งานทั่วไปอยู่ในระดับปกติ ปุ่มกดไม่ได้แข็งจนเกินไป ลงตัวมากๆ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้