คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 16
แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 17 มิถุนายน 2565 เวลา 12.30 น.
แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ประจำวันที่ 17 มิถุนายน 2565
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน 2565
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02n3baw5QfQ1NP6EZVwBzD2WDJFo4UsbUoKS3Uwnu51eFCrNfcC3e2gWnhPN5479zbl
จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 16 มิ.ย. 2565)
รวม 138,915,561 โดส ใน 77 จังหวัด
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 16 มิถุนายน 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 72,479 โดส
เข็มที่ 1 : 9,328 ราย
เข็มที่ 2 : 15,507 ราย
เข็มที่ 3 : 47,644 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 56,885,533 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 52,969,670 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 29,060,358 ราย
แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid029HpJ2Ed3ThRTyN9eqDAc5LftZXMgtth3zjb9VemALbkb3rDEyNNWkAGKB5szdu8pl
กรมควบคุมโรค ขอเชิญชวนกลุ่มเป้าหมาย 608 ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น
"เพื่อความปลอดภัยของท่านและคนที่ท่านรักเพื่อก้าวเข้าสู่โรคประจำถิ่น"
ที่มา : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid028XobKKpmVGpTH1pCuPt7PeKRytvQXa34T2EHHd5HknmhkS3iGnesiwaYLQk1QgMql
องค์การเภสัชกรรม อนุมัติสถานที่ผลิตสเปรย์พ่นจมูกยับยั้งเชื้อโควิด เพื่อผลักดันงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมไทยสู่ระดับโลก คาดผลิตออกสู่ตลาดได้ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
นายรังษี ปัดลี รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า องค์การเภสัชกรรมได้รับใบจดทะเบียนสถานประกอบการผลิตเครื่องมือแพทย์ โดยมีขอบข่ายการอนุญาตให้ผลิตเครื่องมือแพทย์ในกลุ่ม Respiratory care service สำหรับผลิตภัณฑ์ Nasal spray solution จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว โดยมีผลิตภัณฑ์ชนิดแรกคือ สเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูกยับยั้งเชื้อโควิด-19 และยังได้รับการรับรอง ISO-13485 : 2016 มาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพสำหรับเครื่องมือแพทย์ จาก บริษัท UIC certification service ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ตรวจรับรองประเมินมาตรฐานสากล ทั้งนี้สเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูกยับยั้งเชื้อโควิด-19 นี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ 5 หน่วยงาน คือ องค์การเภสัชกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และ บริษัทไฮไบโอไซ จำกัด โดยทั้ง 5 หน่วยงานได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนานวัตกรรม "สเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูกที่มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อโควิด 19" เพื่อผลักดันงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมไทยสู่ระดับโลก ไปเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา สำหรับสเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูกที่มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อโควิด-19 ที่องค์การเภสัชกรรมผลิตนั้น คาดว่าจะสามารถผลิตออกสู่ตลาดเพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้เข้าถึงนวัตกรรมสุขภาพในการป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้ใน ไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีในการรับมือกับสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 และส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงในระบบสุขภาพของประเทศต่อไป ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 และเป็นนวัตกรรมสุขภาพในการขับเคลื่อนการดูแลสุขภาพของคนไทย ให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและในอนาคตได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป
ที่มา : องค์การเภสัชกรรม
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0LsMGMfPPSW4fJxMKkRnNNZj49HiD1ira7nMvxZ9f3DJwtQcXKGDq6BGh5osGEVmHl
รายละเอียดผู้เสียชีวิตของประเทศไทย
วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน 2565 จำนวน 19 ราย
แหล่งข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02n49Fr6BY38ovojau4g8xhfgaHRwm4Enibph2igp7pSLjH4rGtAm2GCp2xpYWpkHbl
D-U-K-E Vaccination Strategy แผนฉีดวัคซีนโควิด
เตรียมพร้อมเข้าสู่ระยะหลังการระบาดโควิด
• D = Decentralization
กระจายวัคซีนจากส่วนกลางสู่ชุมชน
• U = Universal Vaccination
ฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
• K = Key Performance Indicator
จังหวัดกำหนดเป้าหมายการฉีดวัคซีนระดับอำเภอ
• E = Education
เร่งให้ความรู้ เห็นความสำคัญของการฉีดวัคซีน เมื่อเข้าสู่ระยะโรคประจำถิ่น
ที่มา : ศบค.
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02GBdj2y4rPEneVNjxusJ4GPQLnCEyuaPQPek5CNKw5FUaxxETN71aZhBPxwzRTUyNl
ศบค. ปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร
พื้นที่เฝ้าระวัง 77 จังหวัด
มีผลนับตั้งแต่ประกาศราชกิจจานุเบกษา
ทุกพื้นที่ต้องเน้นย้ำมาตรการ
• 2U : Universal Prevention , Universal Vaccination
• 3พอ : มีเตียงเพียงพอ , ยาเวชภัณฑ์และวัคซีนมีเพียงพอ และ มีหมอเพียงพอ
และมาตรการป้องกันควบคุมโรคตามราชการกำหนดอย่างเคร่งครัดและมาตรการป้องกันควบคุมโรค
ที่มา : ศบค.
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid025vDjz2FauoFF44LLqPZSftqU6cLWkTZBGd3ga7fakXxAK1UsaMrPoxhiBADkn4yfl
1 ก.ค. 65 ชาวต่างชาติ เข้าไทยง่ายขึ้น
- ไม่ต้องลงทะเบียน Thailand Pass
- ยกเลิกคัดกรองอุณหภูมิ
- ยกเลิกการกำหนดเงินประกัน
ที่มา : ศบค.
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid032KX3yW47NBWVTwUkbJoqih3Q1qMGCYNLHcF6z64DeNAV6ybRzYMPFwkoGcWdzFW6l
6 มาตรการ ผ่อนปรนถ่ายทํารายการโทรทัศน์/ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ เริ่ม 1 ก.ค. นี้
1. ทุกคนต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์
2. ปรับการเว้นระยะห่างเป็นอย่างน้อย 1 - 2 เมตร / ยกเลิกการตรวจวัดอุณหภูมิ
3. การตรวจ ATK ให้ทุกคนตรวจก่อนเข้าพื้นที่ถ่ายทําทุกครั้ง และหากถ่ายทําต่อเนื่องให้ตรวจซํ้าทุก 5-7 วัน
4. การสวมหน้ากากอนามัย
• ผู้ปฏิบัติงานในกองถ่ายทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาในพื้นที่ปฏิบัติงาน
• ผู้ปฏิบัติงานหน้าฉาก (ผู้ประกาศข่าว พิธีกรนักแสดง แขกรับเชิญ ทุกคน) ให้ถอดเฉพาะปฏิบัติหน้าที่หน้าฉากเท่านั้น
5. กรณีผู้ปฏิบัติงานเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง/ติดเชื้อทางเดินหายใจ
• ผู้ปฏิบัติงานในกองถ่าย ให้สามารถมาปฏิบัติงานได้ตามมาตรการ
• ผู้ปฏิบัติงานหน้าฉาก (ผู้ประกาศข่าว พิธีกรนักแสดง แขกรับเชิญ ทุกคน) ให้งดมาปฏิบัติหน้าที่
6. แผนการบริหารจัดการความเสี่ยง
• การขึ้นข้อความ ก่อนเข้ารายการว่าได้ปฏิบัติตามมาตรการ
• เน้นการใช้แฟ้มภาพ
• สอดแทรกเนื้อหารายการที่แสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติตามหลักการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด (Universal Prevention) ของบุคคล ทุกคนในรายการ
ที่มา : ศบค.
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02T4egKDZkLnFE2zhmT3eErDeX1pmypGWpjaWTNpXndjorXr4s9uKHUGMCSp1WWUVCl
ศบค. เตรียมปลดล็อก !! "ถอดหน้ากากอนามัย"
ในที่ไม่แออัด-สถานที่เปิด ทั่วประเทศ
มีผลนับตั้งแต่วันที่ลงราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
หน้ากากยังมีประโยชน์ทั้งการป้องกันการแพร่เชื้อและรับเชื้อโควิดและโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ
จึงควรพกหน้ากากทุกครั้งเมื่ออกจากบ้าน และสามารถนำมาสวมเมื่อมีความเสี่ยง
ที่มา : ศบค.
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02VeNphqffJD8XqNw6bvPz42PG7YqCv5q4j9qNN52mGv7m53sT6BCEZ9zv6SnP2ECWl
แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ประจำวันที่ 17 มิถุนายน 2565
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน 2565
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02n3baw5QfQ1NP6EZVwBzD2WDJFo4UsbUoKS3Uwnu51eFCrNfcC3e2gWnhPN5479zbl
จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 16 มิ.ย. 2565)
รวม 138,915,561 โดส ใน 77 จังหวัด
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 16 มิถุนายน 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 72,479 โดส
เข็มที่ 1 : 9,328 ราย
เข็มที่ 2 : 15,507 ราย
เข็มที่ 3 : 47,644 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 56,885,533 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 52,969,670 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 29,060,358 ราย
แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid029HpJ2Ed3ThRTyN9eqDAc5LftZXMgtth3zjb9VemALbkb3rDEyNNWkAGKB5szdu8pl
กรมควบคุมโรค ขอเชิญชวนกลุ่มเป้าหมาย 608 ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น
"เพื่อความปลอดภัยของท่านและคนที่ท่านรักเพื่อก้าวเข้าสู่โรคประจำถิ่น"
ที่มา : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid028XobKKpmVGpTH1pCuPt7PeKRytvQXa34T2EHHd5HknmhkS3iGnesiwaYLQk1QgMql
องค์การเภสัชกรรม อนุมัติสถานที่ผลิตสเปรย์พ่นจมูกยับยั้งเชื้อโควิด เพื่อผลักดันงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมไทยสู่ระดับโลก คาดผลิตออกสู่ตลาดได้ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
นายรังษี ปัดลี รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า องค์การเภสัชกรรมได้รับใบจดทะเบียนสถานประกอบการผลิตเครื่องมือแพทย์ โดยมีขอบข่ายการอนุญาตให้ผลิตเครื่องมือแพทย์ในกลุ่ม Respiratory care service สำหรับผลิตภัณฑ์ Nasal spray solution จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว โดยมีผลิตภัณฑ์ชนิดแรกคือ สเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูกยับยั้งเชื้อโควิด-19 และยังได้รับการรับรอง ISO-13485 : 2016 มาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพสำหรับเครื่องมือแพทย์ จาก บริษัท UIC certification service ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ตรวจรับรองประเมินมาตรฐานสากล ทั้งนี้สเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูกยับยั้งเชื้อโควิด-19 นี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ 5 หน่วยงาน คือ องค์การเภสัชกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และ บริษัทไฮไบโอไซ จำกัด โดยทั้ง 5 หน่วยงานได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนานวัตกรรม "สเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูกที่มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อโควิด 19" เพื่อผลักดันงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมไทยสู่ระดับโลก ไปเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา สำหรับสเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูกที่มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อโควิด-19 ที่องค์การเภสัชกรรมผลิตนั้น คาดว่าจะสามารถผลิตออกสู่ตลาดเพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้เข้าถึงนวัตกรรมสุขภาพในการป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้ใน ไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีในการรับมือกับสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 และส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงในระบบสุขภาพของประเทศต่อไป ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 และเป็นนวัตกรรมสุขภาพในการขับเคลื่อนการดูแลสุขภาพของคนไทย ให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและในอนาคตได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป
ที่มา : องค์การเภสัชกรรม
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0LsMGMfPPSW4fJxMKkRnNNZj49HiD1ira7nMvxZ9f3DJwtQcXKGDq6BGh5osGEVmHl
รายละเอียดผู้เสียชีวิตของประเทศไทย
วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน 2565 จำนวน 19 ราย
แหล่งข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02n49Fr6BY38ovojau4g8xhfgaHRwm4Enibph2igp7pSLjH4rGtAm2GCp2xpYWpkHbl
D-U-K-E Vaccination Strategy แผนฉีดวัคซีนโควิด
เตรียมพร้อมเข้าสู่ระยะหลังการระบาดโควิด
• D = Decentralization
กระจายวัคซีนจากส่วนกลางสู่ชุมชน
• U = Universal Vaccination
ฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
• K = Key Performance Indicator
จังหวัดกำหนดเป้าหมายการฉีดวัคซีนระดับอำเภอ
• E = Education
เร่งให้ความรู้ เห็นความสำคัญของการฉีดวัคซีน เมื่อเข้าสู่ระยะโรคประจำถิ่น
ที่มา : ศบค.
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02GBdj2y4rPEneVNjxusJ4GPQLnCEyuaPQPek5CNKw5FUaxxETN71aZhBPxwzRTUyNl
ศบค. ปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร
พื้นที่เฝ้าระวัง 77 จังหวัด
มีผลนับตั้งแต่ประกาศราชกิจจานุเบกษา
ทุกพื้นที่ต้องเน้นย้ำมาตรการ
• 2U : Universal Prevention , Universal Vaccination
• 3พอ : มีเตียงเพียงพอ , ยาเวชภัณฑ์และวัคซีนมีเพียงพอ และ มีหมอเพียงพอ
และมาตรการป้องกันควบคุมโรคตามราชการกำหนดอย่างเคร่งครัดและมาตรการป้องกันควบคุมโรค
ที่มา : ศบค.
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid025vDjz2FauoFF44LLqPZSftqU6cLWkTZBGd3ga7fakXxAK1UsaMrPoxhiBADkn4yfl
1 ก.ค. 65 ชาวต่างชาติ เข้าไทยง่ายขึ้น
- ไม่ต้องลงทะเบียน Thailand Pass
- ยกเลิกคัดกรองอุณหภูมิ
- ยกเลิกการกำหนดเงินประกัน
ที่มา : ศบค.
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid032KX3yW47NBWVTwUkbJoqih3Q1qMGCYNLHcF6z64DeNAV6ybRzYMPFwkoGcWdzFW6l
6 มาตรการ ผ่อนปรนถ่ายทํารายการโทรทัศน์/ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ เริ่ม 1 ก.ค. นี้
1. ทุกคนต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์
2. ปรับการเว้นระยะห่างเป็นอย่างน้อย 1 - 2 เมตร / ยกเลิกการตรวจวัดอุณหภูมิ
3. การตรวจ ATK ให้ทุกคนตรวจก่อนเข้าพื้นที่ถ่ายทําทุกครั้ง และหากถ่ายทําต่อเนื่องให้ตรวจซํ้าทุก 5-7 วัน
4. การสวมหน้ากากอนามัย
• ผู้ปฏิบัติงานในกองถ่ายทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาในพื้นที่ปฏิบัติงาน
• ผู้ปฏิบัติงานหน้าฉาก (ผู้ประกาศข่าว พิธีกรนักแสดง แขกรับเชิญ ทุกคน) ให้ถอดเฉพาะปฏิบัติหน้าที่หน้าฉากเท่านั้น
5. กรณีผู้ปฏิบัติงานเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง/ติดเชื้อทางเดินหายใจ
• ผู้ปฏิบัติงานในกองถ่าย ให้สามารถมาปฏิบัติงานได้ตามมาตรการ
• ผู้ปฏิบัติงานหน้าฉาก (ผู้ประกาศข่าว พิธีกรนักแสดง แขกรับเชิญ ทุกคน) ให้งดมาปฏิบัติหน้าที่
6. แผนการบริหารจัดการความเสี่ยง
• การขึ้นข้อความ ก่อนเข้ารายการว่าได้ปฏิบัติตามมาตรการ
• เน้นการใช้แฟ้มภาพ
• สอดแทรกเนื้อหารายการที่แสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติตามหลักการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด (Universal Prevention) ของบุคคล ทุกคนในรายการ
ที่มา : ศบค.
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02T4egKDZkLnFE2zhmT3eErDeX1pmypGWpjaWTNpXndjorXr4s9uKHUGMCSp1WWUVCl
ศบค. เตรียมปลดล็อก !! "ถอดหน้ากากอนามัย"
ในที่ไม่แออัด-สถานที่เปิด ทั่วประเทศ
มีผลนับตั้งแต่วันที่ลงราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
หน้ากากยังมีประโยชน์ทั้งการป้องกันการแพร่เชื้อและรับเชื้อโควิดและโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ
จึงควรพกหน้ากากทุกครั้งเมื่ออกจากบ้าน และสามารถนำมาสวมเมื่อมีความเสี่ยง
ที่มา : ศบค.
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02VeNphqffJD8XqNw6bvPz42PG7YqCv5q4j9qNN52mGv7m53sT6BCEZ9zv6SnP2ECWl
แสดงความคิดเห็น
🇹🇭มาลาริน💙17มิ.ย.โควิดไทยอันดับ26โลก/ป่วย1,967คน หายป่วย2,123คน เสียชีวิต19คน/เคาะ สีเขียว ทั่วประเทศ ถอดแมสที่โล่ง
https://www.sanook.com/news/8578346/
https://www.bangkokbiznews.com/social/1010489
https://www.bangkokbiznews.com/social/1010489
ศบค.เคาะ สีเขียว ทั่วประเทศ เปิดผับ-บาร์ได้ ถึงตี 2 ถอดมาสก์ที่โล่งได้ตามสมัครใจ
ศบค.ชุดใหญ่ เคาะปรับพื้นที่สีเขียวทั่วประเทศ ถอดแมสก์ที่โล่งตามสมัครใจ ขยายเวลาปิดสถานบันเทิง ผับ-บาร์ ถึงตี 2
วันนี้ (17 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังการประชุม ศบค.ว่า ที่ประชุม ศบค.เห็นชอบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอขอยกเลิกหนังสือ ตม.6 ยกเลิกไทยแลนด์พาส ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ต้องกรอกไทยแลนด์พาสก่อนเข้าประเทศ และถอดหน้ากากอนามัยได้ในบางพื้นที่ โดยเน้นอยู่ที่ความสมัครใจของแต่ละบุคคล โดยเฉพาะในที่โล่ง และนักกีฬาที่ออกกำลังกายสามารถถอดหน้ากากอนามัยได้ ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม เป็นต้นไป
ส่วนเรื่องวัคซีนจะให้ทางสายการบินเป็นผู้ตรวจแทน อย่างไรก็ตาม สำหรับพนักงานให้บริการสมควรที่จะให้ใส่หน้ากากอนามัยต่อไป รวมถึงการจัดงาน เช่น คอนเสิร์ต ที่มีผู้ร่วมงานเกินกว่า 2,000 คน ให้ขออนุญาตก่อน และยังต้องสวมหน้ากากอนามัย
"นอกจากนี้ที่ประชุม ยังมีมติให้ขยายระยะเวลาเปิดสถานบันเทิงไปถึงเวลา 02.00 น. ส่วนโรงแรมที่มีนักท่องเที่ยวพักอาศัย จากเดิมที่ไม่อนุญาตให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ตั้งแต่เวลา 14.00 - 17.00 น.นั้น ได้มีการปลดล็อกแล้ว โดยจะมีผลในวันที่ 1 กรกฎาคม เช่นกัน ขณะเดียวกันได้มีการประกาศให้พื้นที่ 77 จังหวัดเป็นพื้นที่สีเขียวด้วย" นายพิพัฒน์ กล่าว
นายพิพัฒน์ กล่าวด้วยว่า ภายหลังจากการผ่อนคลายมาตรการครั้งนี้แล้ว คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยวันละ 2.5 หมื่นคน ถึง 3 หมื่นคนต่อวัน และยังมั่นใจต่อไปว่าถึงสิ้นปีเราจะมีนักท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 7.5 ล้านคน แต่จะพยายามเร่งให้ได้ 10 ล้าน
https://mgronline.com/politics/detail/9650000057704
ติดตามข่าวโควิดวันนี้ค่ะ
สถานการณ์โควิดดีขึ้นต่อเนื่อง แต่ยังต้องดูแลตัวเองอยู่ต่อไปค่ะ