🇹🇭มาลาริน💛20มิ.ย.ไทยไม่ติดTop10โลก/ป่วย1,784คน หายป่วย2,166คน เสียชีวิต18คน/เผยคนไทย 93.3 % อยากให้สวมหน้ากากต่อ


https://www.bangkokbiznews.com/social/1010898

https://www.naewna.com/local/644122

เพี้ยนแคปเจอร์กรมอนามัย เผย คนไทย 93.3 % อยากให้สวมหน้ากากต่อ ไม่อยากสวม 6.7 %


อนามัยโพลเผย ผลสำรวจคนไทยอยากสวมหน้ากากตลอดเวลาต่อไปหรือไม่พบอยากให้สวมหน้ากากต่อไป 93.3 % และไม่อยากสวม 6.7 %
 
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แนวโน้มการติดเชื้อโควิด-19 ลดลง ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) จึงมีมติเห็นชอบให้ปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักรเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) 77 จังหวัด
 
และยังเห็นชอบผ่อนคลายให้ถอดหน้ากากได้ นอกอาคารหรือที่โล่งแจ้ง โดยเน้นความสมัครใจของแต่ละบุคคล ซึ่งเริ่มดำเนินการได้หลังประกาศราชกิจจานุเบกษา แต่สำหรับกลุ่ม 608 ที่ไม่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ ควรสวมหน้ากาก เมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่น รวมทั้งผู้ติดเชื้อ และผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ให้สวมหน้ากากตลอดเวลา เมื่อจำเป็นต้องอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นเช่นเดียวกัน สำหรับประชาชนทั่วไป หากเป็นสถานที่ภายนอกอาคาร ที่โล่งแจ้ง ถอดหน้ากากได้ แต่ให้สวมหน้ากาก เมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่น โดยไม่สามารถเว้นระยะห่าง มีความแออัด มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก หรือมีการระบายอากาศไม่ดี เช่น ขนส่งสาธารณะ ตลาด สนามกีฬา หรือสถานที่แสดงดนตรีที่มีผู้ชม เป็นต้น
 
แต่เมื่ออยู่ภายในอาคารให้สวมหน้ากาก สามารถถอดได้ในกรณีที่อยู่คนเดียว หากอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นที่ไม่ได้อาศัยอยู่ที่พำนักเดียวกัน ต้องสามารถเว้นระยะห่างได้ ไม่รวมกลุ่มแออัด ให้อยู่ในที่ระบายอากาศได้ดี และกรณีมีกิจกรรมที่จำเป็น ต้องถอดหน้ากาก เช่น รับประทานอาหาร ออกกำลังกาย บริการบริเวณใบหน้า ศิลปะการแสดง เป็นต้น โดยให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เมื่อกิจกรรมนั้นเสร็จสิ้น ควรสวมหน้ากากทันที
 
ทั้งนี้ จากข้อมูลการสำรวจอนามัยโพลของกรมอนามัย เกี่ยวกับมาตรการสวมหน้ากากตลอดเวลาในสถานที่สาธารณะ และสถานประกอบการ พบว่า ประชาชนร้อยละ 93.3 เห็นว่ายังคงต้องสวมหน้ากากต่อไป มีเพียงร้อยละ 6.7 ที่เห็นว่าให้เลิกทำ ดังนั้น เมื่อต้องสวมหน้ากากทุกครั้ง จึงต้องสวมให้ถูกวิธี และให้กระชับกับใบหน้า



https://www.amarintv.com/news/detail/138444

..ติดตามข่าวโควิดวันนี้ค่ะ

สถานการณ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แต่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่อยากถอดหน้ากากอนามัย

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน 2565
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0hvsBtyNnw1sqrNRQPJfsH25dY97MAmFFrJpkoisRcmtqsoxd7LVsQjDu9fZQBzRXl


จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 19 มิ.ย. 2565)
รวม 139,150,155 โดส ใน 77 จังหวัด

ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 19 มิถุนายน 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 40,906 โดส

เข็มที่ 1 : 2,740 ราย
เข็มที่ 2 : 6,027 ราย
เข็มที่ 3 : 32,139 ราย

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 56,911,713 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 53,025,536 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 29,212,906 ราย

แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0muJM3qWMdUsNz6MxQh9ZyqxmSTmafbVGMv2pPX25G2WiRnpiT3U5ABZSsYdgsk7Jl


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สถานการณ์โควิดคลี่คลายลงแล้ว
เมื่อต้องไปทำกิจกรรมในสถานที่ต่าง ๆ
เราถอดหน้ากากอนามัยได้ไหม ?

ที่มา : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02WbkMXXsoLfRDuMjurrKEMfocpAXmqg9PtqWoeEsW6iaTh6tnbeyfvLSRqM2pDHYgl


หมอพร้อม ปิดปรับปรุงระบบ “รายงานการฉีดวัคซีนโควิด”
เพื่อพัฒนาระบบให้ดียิ่งขึ้น

ที่มา : หมอพร้อม
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02M715UiPTQsDffepEfmwyqiBLsTS9Tktzqsj6GJg3FjfP3eyqLq7MqotQREkN14bul


รายละเอียดผู้เสียชีวิตของประเทศไทย
วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน 2565 จำนวน 18 ราย
แหล่งข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid028URJkkM4E9H5T8PsgLekx6jzFTKAnm3DR8SinsFC3YUrRzN18ogmWvJxtmtghwRil


อนามัยโพลเผย !! คนไทยอยากสวมหน้ากากตลอดเวลาต่อไปหรือไม่
สวมหน้ากากต่อไป 93.3 % ไม่อยากสวม 6.7 %

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แนวโน้มการติดเชื้อโควิด-19 ลดลง ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) จึงมีมติเห็นชอบให้ปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักรเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) 77 จังหวัด และยังเห็นชอบผ่อนคลายให้ถอดหน้ากากได้ นอกอาคารหรือที่โล่งแจ้ง โดยเน้นความสมัครใจของแต่ละบุคคล ซึ่งเริ่มดำเนินการได้หลังประกาศราชกิจจานุเบกษา แต่สำหรับกลุ่ม 608 ที่ไม่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ ควรสวมหน้ากาก เมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่น รวมทั้งผู้ติดเชื้อ และผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ให้สวมหน้ากากตลอดเวลา เมื่อจำเป็นต้องอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นเช่นเดียวกัน สำหรับประชาชนทั่วไป หากเป็นสถานที่ภายนอกอาคาร ที่โล่งแจ้ง ถอดหน้ากากได้ แต่ให้สวมหน้ากาก เมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่น โดยไม่สามารถเว้นระยะห่าง มีความแออัด มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก หรือมีการระบายอากาศไม่ดี เช่น ขนส่งสาธารณะ ตลาด สนามกีฬา หรือสถานที่แสดงดนตรีที่มีผู้ชม เป็นต้น แต่เมื่ออยู่ภายในอาคารให้สวมหน้ากาก สามารถถอดได้ในกรณีที่อยู่คนเดียว หากอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นที่ไม่ได้อาศัยอยู่ที่พำนักเดียวกัน ต้องสามารถเว้นระยะห่างได้ ไม่รวมกลุ่มแออัด ให้อยู่ในที่ระบายอากาศได้ดี และกรณีมีกิจกรรมที่จำเป็น ต้องถอดหน้ากาก เช่น รับประทานอาหาร ออกกำลังกาย บริการบริเวณใบหน้า ศิลปะการแสดง เป็นต้น โดยให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เมื่อกิจกรรมนั้นเสร็จสิ้น ควรสวมหน้ากากทันที

ทั้งนี้ จากข้อมูลการสำรวจอนามัยโพลของกรมอนามัย เกี่ยวกับมาตรการสวมหน้ากากตลอดเวลาในสถานที่สาธารณะ และสถานประกอบการ พบว่า ประชาชนร้อยละ 93.3 เห็นว่ายังคงต้องสวมหน้ากากต่อไป มีเพียงร้อยละ 6.7 ที่เห็นว่าให้เลิกทำ ดังนั้น เมื่อต้องสวมหน้ากากทุกครั้ง จึงต้องสวมให้ถูกวิธี และให้กระชับกับใบหน้า

ที่มา : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0Czk7A1kySdcasmjJZNxCFbVgxmvD8GgZWfY5V3eQaraeueoPmLcho23ZLZz1bgafl


3 นวัตกรรมฝีมือคนไทย ป้องกันโควิด
สเปรย์พ่นจมูก : HXP-GPOVac : ChulaCov19 คาดให้บริการกลางปี 66

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชื่นชมความสำเร็จของนวัตกรรม “สเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูก” ที่มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อโควิด-19 ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของหน่วยงานไทย คือ องค์การเภสัชกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และบริษัทไฮไบโอไซ จำกัด คาดสามารถผลิตออกสู่ตลาดได้ในไตรมาส 3 ของปีนี้

นอกจากนี้ วัคซีน HXP-GPOVac ขององค์การเภสัชกรรม ได้ผ่านการทดลองในมนุษย์ทั้งเฟส 1 และเฟส 2 ผลการทดลองพบว่า สามารถป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้ และอยู่ระหว่างขอขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยมีแผนจะนำวัคซีนดังกล่าว กลับไปทำการทดลองเฟส 2 อีกครั้งในช่วงเดือน ส.ค. 65 เมื่อสำเร็จและได้ผลดี จะดำเนินการทดลองเฟส 3 ต่อไป คาดว่าจะเริ่มฉีดให้ประชาชนได้กลางปี 66

ส่วนวัคซีน ChulaCov19 ของศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผลทดสอบพบว่า มีประสิทธิภาพสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีเทียบเท่ากับวัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นา ขณะนี้อยู่ระหว่างการผลิตวัคซีนในโรงงานไทย และรอทดลองในคนระยะ 3 คาดสามารถขึ้นทะเบียนกับ อย. เพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉินได้ภายในสิ้นปี

ความคืบหน้าของการพัฒนานวัตกรรมดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของคนไทย และรัฐบาลพร้อมส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงในระบบสุขภาพของประเทศ ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 เเม้ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงเตรียมการเปลี่ยนไปสู่โรคประจำถิ่น แต่การพัฒนาวัคซีนใช้เองในประเทศยังเป็นสิ่งจำเป็น

ที่มา : ไทยคู่ฟ้า
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02jGJ6GgDwYwgHYwwDW7ksVpntHwPQXqn6P7SmXZ6Gc3D32yzffz2xxg7oKkbUB4TLl


กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดบริการตรวจโควิด 19 ด้วยวิธี RT-PCR แก่ประชาชน
เปิดบริการวันจันทร์ - ศุกร์ (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 09.00 – 12.00 น.
สอบถามเพิ่มเติม 0 2589 9850-7 ต่อ 99968

ที่มา : กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02iBPbmwVkp3kCL4D819zcxxQswayB2THHCoNP7LsxypqdTnkofnjFdCZ4zkuC9LUJl


สธ. ปรับแจ้ง เตือนภัย “โควิด” เป็นระดับ 2 ทั่วประเทศหลังสถานการณ์โควิดดีขึ้น

สถานการณ์โควิด-19 ของไทยมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างชัดเจน ที่ประชุม ศบค. จึงปรับระดับพื้นที่สถานการณ์หรือพื้นที่สีทั่วราชอาณาจักรเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) ทั้งประเทศ สอดคล้องกับกระทรวงสาธารณสุขได้ปรับคำแนะนำการเตือนภัยโควิดจากระดับ 3 เป็นระดับ 2 เช่นกัน

ข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/NBT2HDTV/posts/pfbid02jURDCQe2SgS27ovsBiyouMHiLcWtV7XVQWiXvccu91GD25dZE9c4fNUS77CPgR5Xl
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่