บริหารแบบ ‘พิธา’ แจกงาน ครม. พัฒนา ‘อุตสาหกรรมสุรา’ หวังปลุกเศรษฐกิจใหม่
ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจหลังโควิดซ้ำด้วยวิกฤตค่าครองชีพ เศรษฐกิจไทยไม่อาจรอได้ จำเป็นต้องมี ‘อุตสาหกรรมใหม่’ ไปสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ด้านหนึ่งเพื่อฟื้นฟู และอีกด้านหนึ่งเพื่อเตรียมรับมือความท้าทายในอนาคต ซึ่งการพัฒนา ‘อุตสาหกรรมสุรา’ คือหนึ่งในทางออกนั้น
ในระหว่างการอภิปรายสนับสนุน รายงานศึกษา ‘การพัฒนาอุตสาหกรรมสุราไทย’ ที่ เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร บอกว่าเปรียบเสมือนเป็น ‘คัมภีร์พัฒนาสุราไทย’ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กล่าวว่า หากมีการปลดล็อกสุราก้าวหน้าเกิดขึ้น การฟื้นฟูประเทศและสร้างเศรษฐกิจใหม่จะถูกปลุกให้ลุกขึ้นมาพร้อมกันในคราวเดียว ซึ่งเพื่อการนี้ สิ่งสำคัญคือ ‘การบริหารจัดการ’ ที่คณะรัฐมนตรีจะต้องเห็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่หากรัฐบาลนี้ไม่สามารถคิดไม่ได้ สิ่งที่ควรทำมีดังต่อไปนี้
นายกรัฐมนตรี ต้องเข้าใจศักยภาพของสุราในประเทศ เมื่อมีแขกบ้านแขกเมืองมาต้องเลิกเอาไวน์ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย ชิลี อาเจนตินา มาเสริฟ แต่ให้เอาแผนที่ประเทศไทยที่มีเหล้าไทยระดับที่เสริฟในโรงแรม 5 ดาวขึ้นมาแล้วเลี้ยงดูปูเสื่อด้วยสิ่งเหล่านี้ นี่คือการทำการตลาดที่เร็วที่สุดหากกฎหมายเอื้อให้สามารถที่จะผลักดันได้
กระทรวงการต่างประเทศ ต้องทำเหมือนทูตกระทรวงต่างประเทศ ในการเปิดพื้นที่สถานทูตเพื่อนำเหล้าไทยไปโฆษณา
กระทรวงพาณิชย์ มีความสำคัญ เพราะการเปลี่ยนสินค้ากษตรจากโภคภัณฑ์ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์คือวิถีการแก้ปัญหาสินค้าเกษตรที่เร็วที่สุดและยั่งยืนที่สุด ซึ่งพืชผลเกษตรของไทยไม่ว่าจะเป็นข้าว อ้อย สับปะรด มะพร้าว เงาะ และผลไม้หลากชนิดทั่วประเทศไทยสามารถทำได้หมด สิ่งที่ต้องทำคือ ร้านค้าต่างๆที่กระทรวงดูแล ต้องนำสินค้าเหล่านี้ไปวาง และทำให้สุรากับคราฟต์เบียร์ในประเทศสามารถไปสู่ตลาดโลกได้
กระทรวงอุตสาหกรรม มีหน้าที่ทำให้โรงงานได้มาตรฐาน สนับสนุนให้สามารถมี GAP GMP ได้
กระทรวงสาธารณสุข มีหน้าที่ทำให้สินค้าเหล่านี้ผ่านมาตรฐาน อย.และส่งออกไปต่างประเทศได้
กระทรวงท่องเที่ยวฯ ต้องทำให้เกิดสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ไปได้ทั่วประเทศ และนักท่องเที่ยวมาคราวหนึ่งเป็นเดือนๆ สำหรับผู้ที่ชื่อชอบในเรื่องสุราและวัฒนธรรมไทย เหมือนที่เมืองวากายาม่าทำ ซึ่งที่นั่นเป็นแหล่งปลูกบ๊วย สามารถทำให้เกิดเทศกาลเหล้าบ๊วยทั้งเดือนได้ เช่นเดียวกับเมืองโอกินาว่า ที่ปลูกสับปะรดจนกลายเป็นเมืองสับปะรด
กระทรวงวัฒนธรรม สำคัญมากในการสนับสนุน เช่น ผ่านการสร้างหนัง ละคร หาเรื่องเหล้ามาเล่าเรื่องให้เกิดความจูงใจ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีหน้าที่ผลิตคนและนวัตกรรม เช่น ทำให้นักศึกษาอาชีวะได้มาเรียนรู้เรื่องการกลั่น การหมัก การดอง ผสมไปกับการศึกษาและการคิดค้นพัฒนาครื่องมือเทคโนโลยีต่างๆในการผลิต
กระทรวงการคลัง มีหน้าที่เอื้อในช่วงแรก ต่อมาคือการเก็บภาษี เพื่อนำมาทำ ‘รัฐสวัสดิการ’ ดูแลประชาชน
“ทั้งหมดนี้คืองานของทั้ง ครม. ที่ต้องผลักดันไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อฟื้นฟูประเทศ ไม่ว่า เรื่องเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม หรือการศึกษา ทั้งประเทศจะลุกขึ้นมาได้ในครั้งเดียว ไทยจะมี Growth engine ใหม่ มีอุตสาหกรรมใหม่ มีฐานภาษีใหม่ เพื่อนำไปทำ ‘รัฐสวัสดิการ’ ดูแลพี่น้องประชาชนตามที่เราต้องการ”
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล
พรรคก้าวไกล
สำนักงานใหญ่
เลขที่ 167 อาคารอนาคตใหม่ ชั้น 6
รามคำแหง 42 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ
กรุงเทพมหานคร 10240
ติดต่อเรา
02-821-5874 (จันทร์-ศุกร์ 10:00-18:00 น.)
office@moveforwardparty.org
MoveForwardPartyThailand
@MFPThailand
พรรคก้าวไกล - Move Forward Party
Cr.
https://www.moveforwardparty.org/article/13337/
สุราก้าวหน้า พรรคก้าวไกล
ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจหลังโควิดซ้ำด้วยวิกฤตค่าครองชีพ เศรษฐกิจไทยไม่อาจรอได้ จำเป็นต้องมี ‘อุตสาหกรรมใหม่’ ไปสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ด้านหนึ่งเพื่อฟื้นฟู และอีกด้านหนึ่งเพื่อเตรียมรับมือความท้าทายในอนาคต ซึ่งการพัฒนา ‘อุตสาหกรรมสุรา’ คือหนึ่งในทางออกนั้น
ในระหว่างการอภิปรายสนับสนุน รายงานศึกษา ‘การพัฒนาอุตสาหกรรมสุราไทย’ ที่ เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร บอกว่าเปรียบเสมือนเป็น ‘คัมภีร์พัฒนาสุราไทย’ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กล่าวว่า หากมีการปลดล็อกสุราก้าวหน้าเกิดขึ้น การฟื้นฟูประเทศและสร้างเศรษฐกิจใหม่จะถูกปลุกให้ลุกขึ้นมาพร้อมกันในคราวเดียว ซึ่งเพื่อการนี้ สิ่งสำคัญคือ ‘การบริหารจัดการ’ ที่คณะรัฐมนตรีจะต้องเห็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่หากรัฐบาลนี้ไม่สามารถคิดไม่ได้ สิ่งที่ควรทำมีดังต่อไปนี้
นายกรัฐมนตรี ต้องเข้าใจศักยภาพของสุราในประเทศ เมื่อมีแขกบ้านแขกเมืองมาต้องเลิกเอาไวน์ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย ชิลี อาเจนตินา มาเสริฟ แต่ให้เอาแผนที่ประเทศไทยที่มีเหล้าไทยระดับที่เสริฟในโรงแรม 5 ดาวขึ้นมาแล้วเลี้ยงดูปูเสื่อด้วยสิ่งเหล่านี้ นี่คือการทำการตลาดที่เร็วที่สุดหากกฎหมายเอื้อให้สามารถที่จะผลักดันได้
กระทรวงการต่างประเทศ ต้องทำเหมือนทูตกระทรวงต่างประเทศ ในการเปิดพื้นที่สถานทูตเพื่อนำเหล้าไทยไปโฆษณา
กระทรวงพาณิชย์ มีความสำคัญ เพราะการเปลี่ยนสินค้ากษตรจากโภคภัณฑ์ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์คือวิถีการแก้ปัญหาสินค้าเกษตรที่เร็วที่สุดและยั่งยืนที่สุด ซึ่งพืชผลเกษตรของไทยไม่ว่าจะเป็นข้าว อ้อย สับปะรด มะพร้าว เงาะ และผลไม้หลากชนิดทั่วประเทศไทยสามารถทำได้หมด สิ่งที่ต้องทำคือ ร้านค้าต่างๆที่กระทรวงดูแล ต้องนำสินค้าเหล่านี้ไปวาง และทำให้สุรากับคราฟต์เบียร์ในประเทศสามารถไปสู่ตลาดโลกได้
กระทรวงอุตสาหกรรม มีหน้าที่ทำให้โรงงานได้มาตรฐาน สนับสนุนให้สามารถมี GAP GMP ได้
กระทรวงสาธารณสุข มีหน้าที่ทำให้สินค้าเหล่านี้ผ่านมาตรฐาน อย.และส่งออกไปต่างประเทศได้
กระทรวงท่องเที่ยวฯ ต้องทำให้เกิดสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ไปได้ทั่วประเทศ และนักท่องเที่ยวมาคราวหนึ่งเป็นเดือนๆ สำหรับผู้ที่ชื่อชอบในเรื่องสุราและวัฒนธรรมไทย เหมือนที่เมืองวากายาม่าทำ ซึ่งที่นั่นเป็นแหล่งปลูกบ๊วย สามารถทำให้เกิดเทศกาลเหล้าบ๊วยทั้งเดือนได้ เช่นเดียวกับเมืองโอกินาว่า ที่ปลูกสับปะรดจนกลายเป็นเมืองสับปะรด
กระทรวงวัฒนธรรม สำคัญมากในการสนับสนุน เช่น ผ่านการสร้างหนัง ละคร หาเรื่องเหล้ามาเล่าเรื่องให้เกิดความจูงใจ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีหน้าที่ผลิตคนและนวัตกรรม เช่น ทำให้นักศึกษาอาชีวะได้มาเรียนรู้เรื่องการกลั่น การหมัก การดอง ผสมไปกับการศึกษาและการคิดค้นพัฒนาครื่องมือเทคโนโลยีต่างๆในการผลิต
กระทรวงการคลัง มีหน้าที่เอื้อในช่วงแรก ต่อมาคือการเก็บภาษี เพื่อนำมาทำ ‘รัฐสวัสดิการ’ ดูแลประชาชน
“ทั้งหมดนี้คืองานของทั้ง ครม. ที่ต้องผลักดันไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อฟื้นฟูประเทศ ไม่ว่า เรื่องเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม หรือการศึกษา ทั้งประเทศจะลุกขึ้นมาได้ในครั้งเดียว ไทยจะมี Growth engine ใหม่ มีอุตสาหกรรมใหม่ มีฐานภาษีใหม่ เพื่อนำไปทำ ‘รัฐสวัสดิการ’ ดูแลพี่น้องประชาชนตามที่เราต้องการ”
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล
พรรคก้าวไกล
สำนักงานใหญ่
เลขที่ 167 อาคารอนาคตใหม่ ชั้น 6
รามคำแหง 42 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ
กรุงเทพมหานคร 10240
ติดต่อเรา
02-821-5874 (จันทร์-ศุกร์ 10:00-18:00 น.)
office@moveforwardparty.org
MoveForwardPartyThailand
@MFPThailand
พรรคก้าวไกล - Move Forward Party
Cr. https://www.moveforwardparty.org/article/13337/