ความรู้ภาษาอังกฤษ "สำหรับคนไทย" (Pt. 5)

What's not down, bruv!

มาต่อกันเลยกับตอนที่ 5 จริง ๆ ต้องลงเมื่อวานแต่วุ่น ๆ หน่อยเลยเลทมาหนึ่งวันเลย ถ้าอ่านแล้วสงสัยตรงไหนก็คอมเมนต์ถามได้ตลอดนะคร้าบ ไว้ผมแวะมาตอบนะ

สำหรับวันนี้ไปลุยกันเลย! 

1) "Spoonerism" หรือการผวนคำ(โดยไม่ได้ตั้งใจ) ก็มีในภาษาอังกฤษเหมือนกัน เช่นวลีอย่าง Jelly beans ที่บางทีฝรั่งก็ลิ้นพันกันและพูดผิดเป็น "Belly Jeans" หรือ "Lirty dies" (จาก dirty lies) รวมไปถึง "Queer old dean" (จาก dear old Queen) อยากให้เราเข้าใจว่าขนาดใช้เป็นภาษาแม่ฝรั่งเขาก็ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษถูกตลอดเวลา

2) เชื่อว่าหลายคนเคยลองตั้งใจ "เริ่มต้นใหม่" กับการเรียนภาษาอังกฤษสักครั้งในชีวิต (บางคนมากกว่าหนึ่งครั้ง) แต่ก็ไม่เคยสำเร็จ นั้นเป็นเพราะการเรียนภาษาไม่ใช่สิ่งที่ต้องกำหนดวันเริ่มต้นและสิ้นสุด มันคือศาสตร์ที่ถ้าจะเริ่มก็เริ่มเลยและห้ามหยุด!

3) "Don't cut your nose to spite your face." เป็นสุภาษิตฝรั่งแปลตรงตัวว่า อย่าตัดจมูกเพื่อยั่วโมโหใบหน้า หมายความว่า อย่าแก้แค้นใครด้วยวิธีการที่จะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง

4) "See you later." แปลว่า ไว้พบกันใหม่ แต่วัยรุ่นสมัยนี้เราพูดแค่ "Laters!" (เติม s) ก็พอ ความหมายเดียวกัน! (Laters, 'gator!)

5) ดวงดาวในระบบสุริยะเราถูกตั้งชื่อตามเทพโรมัน (Mars (ดาวอังคาร) - เทพสงคราม / Jupiter (ดาวพฤหัส) - เทพแห่งท้องฟ้าและสายฟ้า / Venus (ดาวศุกร์) - เทพแห่งความงาม / Mercury (ดาวพุธ) - เทพแห่งการเดินทาง เป็นต้น) แต่มีอยู่ดวงหนึ่งที่ไม่ได้ถูกตั้งตามชื่อเทพโรมัน เดาได้ไม่ยาก มันคือ "EARTH" ที่แปลว่า พื้นดิน แค่นั้น

6) "What's wrong?" คือการถามไถ่ถึงความรู้สึก ว่ามีอะไรที่ไม่สบายใจหรือเปล่า (แปลประมาณ เป็นอะไรหรือเปล่า) แต่ถ้าเติม "What's wrong with you?" เข้ามา มันจะกลายเป็นการหาเรื่องแทน (แปลประมาณ เป็นอะไรของคุณ)

7) Writing chages you! (การเขียนจะเปลี่ยนตัวตนคุณ) เชื่อไหม? คนที่เริ่มเรียนภาษาอังกฤษพร้อมกัน เรียนในห้องเรียนเดียวกัน แต่อีกคนเริ่มจดบันทึกไดอารีไปด้วย และค่อยจดบันทึกเพิ่มเติมทุกวัน (เป็นภาษาอังกฤษ ไม่สนว่ามันจะผิดหรือถูก) ภายในเวลา 3 เดือนนักเรียนคนนี้พัฒนาแบบก้าวกระโดดจนกลายเป็นติวเตอร์ให้อีกคน (Yep, that student was me!)

8) -phile คือชอบ (someone who loves...) ส่วน -phobia คือกลัว (somone who hats...) เช่น technophile = someone who loves new technology (คนที่ชอบในเทคโนโลยี) / technophobia = the fear of new technology (ความกลัวเทคโนโลยี กลัวที่ต้องใช้คอมหรือใช้เครื่องมืออะไรใหม่ ๆ)

9) สำหรับสุภาษิต "ไม้แก่ดัดยาก" ภาษาอังกฤษใช้ "You can't teach an old dog a new trick." (คุณไม่สามารถสอนลูกเล่นใหม่ ๆ ให้กับหมาแก่) ใช้พูดถึงคนที่ไม่ยอมรับสิ่งใหม่ ๆ (เพราะเคยชินกับวิธีการเดิม ๆ ที่สบายตัวเอง/feed อีโก้ของตัวเอง)

10) VFM ย่อมาจาก Value for money (คุณภาพคุ้มกับราคา) เป็นวลีที่ดูเหมือนจะทางการ แต่เอาจริงเราก็ใช้มันในความหมาย ราคาถูก (cheap) นี่แหละ แค่ฟังดู cool ขึ้นเยอะ เช่น "This sh*t is vfm, I'm telling you!" (บอกเลยโคตรคุ้ม!)

อ่านตรงนี้เสร็จแวะไปส่องเพจหรือไอจีด้วยก็ได้นะคร้าบ ผมพยายามลองความรู้ภาษาอังกฤษให้หลากหลาย จะได้ไม่จำเจเกินไป (ในเพจจะเน้นการออกเสียง / ภาษาศาสตร์, ในไอจีจะเน้นคำศัพท์, ในทวิตเตอร์จะเน้นประวัติภาษา)

"รู้ให้มากกว่าเมื่อวาน"
Stay tuned
JGC.

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่