ยุคข้าวยากหมากแพง แถมค่าครองชีพสูงลิ่วยิ่งกว่ายอดเขาเอเวอเรสต์ แต่ค่าแรงกลับสวนทางต่ำเตี้ยเรี่ยดินเท่ายอดหญ้าแบบนี้คิดว่าทำงานประจำอย่างเดียวคงไม่พอกิน แค่เติมน้ำมันรถแต่ละเดือนเงินก็หมดแล้ว เลยคิดว่าต้องหางานทำเพิ่มแบบที่ไม่กระทบงานประจำ ทำควบคู่กันไปได้ด้วย ลองหาไอเดียเกี่ยวกับ 2nd Job ดูว่ามีอะไรทำ จนไปเจอ Youtube ช่องหนึ่งที่สอนเกี่ยวกับการเปิดร้านขายของใน Shopee และนำเข้าสินค้าจากจีน ได้ไอเดียจากตรงนั้นมาลองทำ ทีแรกจะทำเล่นๆ พอได้ค่ากาแฟ แต่ทำไปทำมากลับได้มากกว่าค่ากาแฟซะอีก คิดว่าน่าจะมาแชร์ให้คนที่กำลังประสบปัญหาเหมือนๆ กัน เผื่อได้ไอเดียไปต่อยอดค่ะ
เริ่มแรกเลยคือการหาของมาขาย เราตั้งคำถามกับตัวเองว่าจะขายอะไรดี? สิ่งแรกที่เราทำคือเปิดแอปชอปปิงออนไลน์เพื่อดูว่าสินค้าประเภทไหนบ้างที่คนชอบซื้อ อย่างตอนเราเลือกจะเลือกดูจากแอป Shopee เพราะมีบอกว่าสินค้าตัวไหนขายดี ขายได้แล้วกี่ชิ้นต่อเดือน ข้อมูลตรงนี้เราเอามาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของสินค้าได้ว่าถ้าเอามาแล้วจะขายได้แน่นอนเพราะมีกลุ่มลูกค้าที่ซื้อของพวกนี้อยู่
อันนี้ภาพตัวอย่าง ช่วงแรกๆ เราขายเป็นพวกเครื่องประดับแหวน สร้อย สร้อยคอมือ ก็จะเข้ามาดูว่าแบบไหนขายดีดูจากจำนวนขายแล้วมีตั้งแต่หลักสิบถึงหลักพันชิ้น คิดว่าน่าจะมีกลุ่มลูกค้าพอสมควร (ที่กล้าแชร์แบบหมดเปลือกว่าขายอะไรเพราะต้องการเป็นกรณีศึกษานะคะ ปัจจุบันเราก็ยังขายพวกเครื่องประดับอยู่ แต่ก็มีขายอย่างอื่นด้วย)
สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเราคือการหาสินค้าให้เจอว่าจะขายอะไรเพราะ ‘สินค้าที่ดีจะขายตัวมันเอง’ และจะทำให้เราเหนื่อยน้อยลง เราใช้เวลาในการหาสินค้าแต่ละตัวนานมากๆ จะเลือกสินค้ามาสักชิ้นเราต้องมั่นใจว่าขายได้แน่นอนถึงจะซื้อมาขาย
ต้องบอกก่อนว่าเรานำเข้าสินค้าส่วนใหญ่มาจากจีน และที่เป็นปัญหามากที่สุดสำหรับพ่อค้าแม่ค้าใน Shopee คือมีร้านจากจีนมาเปิดแข่ง ซึ่งราคาถูกมากๆ แต่จากที่เราทดลองมาแม้ว่าร้านจีนจะขายถูกก็จริง แต่ลูกค้าบางกลุ่มจะเลือกซื้อของจากร้านค้าที่อยู่ในไทย ถึงแม้ว่าราคาจะแพงกว่านิดหน่อยก็ตาม เพราะอยากได้ของเร็ว ตรงนี้เป็นจุดแข็งอย่างหนึ่งที่สินค้าแบบเดียวกัน ชนิดเดียวกันแต่ร้านไทยขายดีกว่าค่ะ
อันนี้เป็นตัวอย่างค่ะ ขอยกตัวอย่างรองเท้าแตะจะได้เห็นภาพชัดเจนค่ะ ข้างบนเป็นสินค้าที่อยู่จีนจะเห็นว่าขายถูกกว่าแต่จำนวนที่ขายได้น้อยมากเมื่อเทียบกับข้างล่างที่ราคาแพงกว่าแต่อยู่ในประเทศไทย
พอได้ไอเดียว่าจะขายอะไรแล้ว สำรวจตลาดแล้วว่ามีกลุ่มลูกค้า เราก็เริ่มหาสินค้าจากเว็บจีนค่ะ ส่วนตัวจะซื้อจาก 1688 เป็นหลักเพราะสินค้าค่อนข้างถูกกว่าเว็บอื่น แนะนำให้ใช้ Google Chrome ในการค้นหานะคะเพราะแปลภาษาได้ คลิกขวาเลือกแปลเป็นไทยได้เลย
เวลาเลือกร้านใน 1688 ต้องดูร้านที่น่าเชื่อถือประมาณหนึ่งนะคะ อาจจะดูจากจำนวนปีที่เปิด 2 ปี+ ดูรีวิวว่ามีรีวิวเยอะหรือเปล่า ดูออร์เดอร์การจัดส่งว่าส่งไปแล้วกี่ออเดอร์ หลักๆ แล้วเราจะดูประมาณนี้ การเลือกสินค้าถ้าดูให้ดีๆ จะเจอสินค้าถูกและดีเยอะมากๆ ค่ะ
การสั่งของเราแนะนำสั่งผ่านชิปปิ้งนะคะเพราะเวลาเกิดปัญหาหรือทางร้านจีนส่งของผิดทางชิปปิ้งจะเป็นตัวกลางในการเจรจาให้ พวกการจ่ายเงินก็สะดวกไม่ยุ่งยากค่ะ อันนี้แชร์ประสบการณ์จากชิปปิ้งเจ้าที่เราใช้นะคะ เลือกเจ้านี้เพราะเว็บใช้ง่าย จ่ายเงินง่ายไม่ยุ่งยาก เวลามีปัญหาติดต่อหลังบ้านแล้วแก้ปัญหาให้เร็ว
เวลาจะสั่งก็ Copy Link จากเว็บ 1688 มาวางแล้วกดค้นหา เว็บของชิปปิ้งจะดึงข้อมูลจากเว็บ 1688 มาแล้วเราก็กดสั่งสินค้า เลือกแบบ เลือกจำนวนใส่ตะกร้าได้เลยค่ะ พอกดค้นห้าแล้วหน้าเว็บจะเป็นประมาณนี้
ราคาน่ารักแบบกรุบกริบ จริงๆ ถ้ามีเวลานั่งดูจากเว็บ 1688 แล้วเจอสินค้าอะไรน่าสนใจ ลองเอาไปค้นใน Shopee ดูก็ได้นะคะ บางทีเราก็ทำแบบนั้นเหมือนกันดูว่าสินค้าที่เราสนใจมีวางขายไหม ถ้ามีขายดีหรือเปล่า สินค้ามีตั้งแต่ราคาหลักหน่วยไปจนถึงหลักร้อยหลักพัน มีหลากหลายมากพวกเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าก็มีค่ะ
ข้อดีอีกอย่างของการสั่งของจากจีนคือเราจะได้ภาพสวยๆ มาใช้โพสต์ขายโดยไม่ต้องถ่ายเอง เราสามารถ Copy ภาพมาตกแต่งเพิ่มเติมก่อนเอามาโพสต์ขายได้ค่ะ ส่วนตัวเราก็จะทำประมาณนั้น ส่วนเรื่องการกดสั่งซื้อสินค้าเราขอข้ามนะคะเพราะกระทู้จะยาวไป ถ้าสั่งผ่านเจ้านี้ไม่ยากเลยค่ะ ใช้ง่ายมาก หรือจะอ่านวิธีสั่งจากในเว็บของชิปปิ้งก็ได้ค่า
มาถึงการเปิดร้านใน Shopee กันเลยยยย สิ่งที่แรกที่ต้องมีคือบัญชี Shopee ค่ะ แนะนำสมัครตามขั้นตอนของทาง Shopee เลย หรือถ้าใครมีบัญชีอยู่แล้วก็สามารถเปิดร้านได้เลยค่ะ กดเข้าไปที่ Seller Center แล้วทำการกรอกข้อมูลให้ครบค่ะ
พอเรียบร้อยแล้วก็เริ่มลงสินค้ากันเลยค่า
เวลาใส่ชื่อสินค้าแนะนำให้ใส่เป็น Keyword ที่ทำให้คนค้นหาง่ายๆ เช่น ต่างหู แหวน สร้อย เป็นต้นค่ะ เพื่อให้เวลาลูกค้าค้นหาสินค้าจะได้เจอร้านเราก่อน
ใส่รายละเอียดของสินค้าให้ครบถ้วน ภาพสามารถตกแต่งเพิ่มเติมแล้วเอามาลงได้ค่ะ หลังจากกรอกรายละเอียกเรียบร้อยแล้วก็กดบันทึกและเผยแพร่ได้เลยค่ะ
พอเอาภาพมาจัดรวมกันแล้วจะได้ประมาณนี้ค่ะ เรามาสามารถตกแต่งภาพโดยการใส่โลโก้ของเรา หรือเพิ่มข้อมูลลงไปในภาพได้นะคะ อันนี้อยู่ที่ไอเดียของแต่ละคนเลยค่า
พอลงขายใน Shopee แล้วจะเป็นประมาณนี้ค่ะ ช่วงแรกๆ ที่เราขายเครื่องประดับจะมียอดเข้ามาเรื่อยๆ แต่ถ้าช่วงไหนที่จัดโปรร่วมทาง Shopee ก็จะมียอดเข้ามาเยอะมากๆ โดยเฉพาะช่วงที่เป็น 11.11, 12.12 ฯลฯ ยอดขายจะเยอะเป็นพิเศษสิ่งที่ต้องระวังคือการบริหาร Stock สินค้าให้ดี ส่วนช่วงปกติเราจะซื้อโฆษณาของทาง Shopee บ้าง ช่วงไหนยอดน้อยก็ซื้อหรือจัดโปรฯ เพื่อให้ลูกค้าเห็นสินค้าเรามากขึ้นค่ะ
ความจริงเราเองก็ยังใหม่กับวงการนี้มากๆ แต่พอลองแล้วก็เห็นว่ามีช่องทางที่พอจะสร้างรายได้เพิ่มเติมได้เลยอยากแชร์ อย่างที่บอกไปตอนแรกค่ะว่าค่าครองชีพทุกวันนี้สูงมาก ทำงานประจำอย่างเดียวไม่พอจริงๆ ช่วงกลางวันเราก็ทำงานหลักตามปกติ พอตอนเย็นก็กลับมาแพ็คของ ตอนเช้าก็จะเอาของออกไปส่ง (ตรงนี้พอมีเวลาเพราะบริษัทเราเข้างาน 10.00) บางวันพกของมาออฟฟิศพอพักเที่ยงก็แวะไปส่งขนส่งแถวนั้นก็มีค่ะ
ช่วงแรกๆ ที่เริ่มศึกษาเองคือเหนื่อยมาก ลองผิดลองถูกอยู่คนเดียว แต่พอเห็นยอดขายที่ทำได้แต่ละเดือนก็มีแรงทำต่อมาเรื่อยๆ เราตั้งเป้าเอาไว้ว่าอยากมีรายได้ทั้งจากงานประจำและจากงานเสริมเดือนละ 6 หมื่นบาท ช่วงปี 64 ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่พอมาปี 65 เราเริ่มหาสินค้าจริงจังมากขึ้น รายได้ตอนนี้ต่อเดือนเกินเป้าที่ตั้งไว้แล้ว เหมือนที่เราบอกค่ะว่าสินค้าที่ดีจะขายตัวเอง และทำให้เราเหนื่อยน้อยลง สินค้าที่เราแชร์ในกระทู้เป็นแค่กรณีศึกษานะคะ
เราเชื่อว่ายังมีสินค้าอีกเยอะมากที่รอให้เราค้นหา สุดท้ายนี้หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่า
++แชร์ประสบการณ์เปิดร้านขายเครื่องประดับใน Shopee แบบง่ายๆ สไตล์พนักงานออฟฟิศอยากมี 2nd Job++
เริ่มแรกเลยคือการหาของมาขาย เราตั้งคำถามกับตัวเองว่าจะขายอะไรดี? สิ่งแรกที่เราทำคือเปิดแอปชอปปิงออนไลน์เพื่อดูว่าสินค้าประเภทไหนบ้างที่คนชอบซื้อ อย่างตอนเราเลือกจะเลือกดูจากแอป Shopee เพราะมีบอกว่าสินค้าตัวไหนขายดี ขายได้แล้วกี่ชิ้นต่อเดือน ข้อมูลตรงนี้เราเอามาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของสินค้าได้ว่าถ้าเอามาแล้วจะขายได้แน่นอนเพราะมีกลุ่มลูกค้าที่ซื้อของพวกนี้อยู่
พอได้ไอเดียว่าจะขายอะไรแล้ว สำรวจตลาดแล้วว่ามีกลุ่มลูกค้า เราก็เริ่มหาสินค้าจากเว็บจีนค่ะ ส่วนตัวจะซื้อจาก 1688 เป็นหลักเพราะสินค้าค่อนข้างถูกกว่าเว็บอื่น แนะนำให้ใช้ Google Chrome ในการค้นหานะคะเพราะแปลภาษาได้ คลิกขวาเลือกแปลเป็นไทยได้เลย