ช่วงโควิดระบาดคงโดนผลกระทบกันทุกคนทั้งการใช้ชีวิตแล้วก็หน้าที่การงานใช่ไหมคะ อย่างเราก็โดนเหมือนกันเพราะมีลูกเล็กเลยต้องออกจากงาน ทีแรกฝากคนในตึกเลี้ยงแต่ช่วงโควิดระบาดหนักๆ เขากลับต่างจังหวัดหมด เราเลยต้องออกจากงานมาเลี้ยงลูกเอง ตอนนั้นรายได้หลักเลยได้จากสามีคนเดียว
ช่วงกลางวันสามีจะขับรถส่งอาหาร และส่งเอกสารให้ที่ทำงานเก่าเราบ้างเป็นครั้งคราวแล้วแต่เขาจะเรียกไป ส่วนตอนเย็นจะมาขับวินมอเตอร์ไซค์ที่หน้าปากซอยจนถึงประมาณ 4-5 ทุ่ม
รายได้ต่อเดือนพอจ่ายค่าห้อง ค่ากิน ค่าจิปาถะแล้วก็แทบไม่เหลือเก็บ ลูกก็โตขึ้นทุกวันอีกไม่นานต้องเข้าโรงเรียนแล้วแต่เรายังไม่ค่อยพร้อมบางเดือนต้องโทรศัพท์ไปยืมพี่สาวบ้าง ยืมแม่บ้าง เลยปรึกษากับสามีว่าจะเอาลูกกลับไปให้ปู่กับย่าเลี้ยงที่บ้าน แล้วเราจะออกไปหางานทำเหมือนเดิม ลำพังให้เขาทำคนเดียวเราก็สงสาร หลังๆ มาสังเกตว่าเขาเหนื่อยจนซูบลง แต่สามีไม่ยอม บอกไม่อยากให้ปู่ย่าเลี้ยงเพราะอายุเยอะแล้ว ลูกก็เริ่มซน เดี๋ยวปู่กับย่าเหนื่อยอีก จะให้เราอยู่เลี้ยงลูกอย่างเดียวจนกว่าลูกจะเข้าโรงเรียน
แต่เราคิดว่าถ้ารอถึงตอนนั้นคงไม่มีเงินพอจะใช้จ่ายเรื่องเรียนลูกแน่นอน เลยคิดว่าจะหาอะไรมาขาย เน้นว่าเป็นออนไลน์เพราะว่าไม่ต้องออกไปข้างนอก ไม่ต้องเช่าพื้นที่ขายของ แล้วเรื่องส่งของก็อาจจะให้สามีวิ่งมารับของไปส่งให้
ช่วงที่คิดหาของมาขายเราคิดหนักมาก บางทีนั่งเลื่อนดูนั่นดูนี่ถึงตีสองตีสามก็มี จนไปเจอพวกสินค้าเกี่ยวกับกับเด็กในกลุ่มแม่และลูก เราสังเกตเอาเองว่าพวกของเล่นเด็ก ของเล่นเสริมพัฒนาการเด็ก แล้วก็พวกเสื้อผ้าเด็กคนขายเยอะมาก ซึ่งราคาก็มีตั้งแต่ถูกไปจนถึงแพง ถ้าอย่างแบบดี ผ้าดีหน่อยก็ประมาณ 100-250 บาท เราดูตั้งแต่ร้านที่ขายปลีก ไปถึงร้านขายส่ง เทียบกับ Shopee Lazada บางทีแบบเดียวกันเหมือนกันเด๊ะแต่ในกลุ่มกลับขายแพงกว่า แต่ก็ยังขายได้แล้วมีคนซื้อ ยิ่งบางร้านไลฟ์สดขายด้วยยิ่งขายดี
ช่วงแรกๆ เรารับผ้ากระสอบจากโกดังมาขาย ก็พอได้กำไรตัวละ 5-15 บาท ตอนนั้นดีใจมากแต่เราเริ่มมารู้สึกว่าตัวเองเสียโอกาสมากๆ ตรงที่บางแบบไซซ์ที่ลูกค้าต้องการไม่มี เพราะผ้ากระสอบจัดมาแบบคละเหมือนกล่องสุ่มต้องมาเปิดลุ้นว่ามีอะไรบ้าง บางทีลูกค้ามีลูกหลายคนอยากได้แบบเดียวกันคนละไซซ์แต่เราหาไม่ได้เลยรู้สึกว่าต้องหาพวกเสื้อผ้าที่เลือกแบบ สี ไซซ์ได้มาขายน่าจะตอบโจทย์ลูกค้าได้ง่าย
จนเราไปดูคลิปในยูทูปของอาจารย์ท่านหนึ่งที่สอนนำเข้าสินค้าจากจีนเองเลยลองทำตาม พอเข้าไปดูตามเว็บจีนที่เขาบอกเจอเสื้อผ้าแบบเดียวกับที่ขายในกลุ่มราคาต่างกันลิบลับ บางตัวราคาแค่ 39-40 บาท พอเอามาขายอัพราคาเป็น 169-239 บาทก็มี อันนี้เราเข้าใจว่าต้องบวกราคาจากพวกค่าชิปปิ้ง ค่าขนส่งต่างๆ แต่พอมานั่งคำนวณดูเองแล้วเราว่าถ้าสั่งมาเองบวกค่าชิปปิ้งค่าส่งแล้วก็ยังได้กำไรกว่าซื้อจากโกดังขายส่งในไทย
จริงๆ เรื่องนำเข้าจีนอะไรแบบนี้เป็นเรื่องไกลตัวเรามาก เคยได้ยินผ่านๆ แต่ไม่คิดจะทำเพราะไม่รู้ภาษาจีนเลย บวกกับคิดว่าสั่งจากร้านในไทยง่ายกกว่าเราก็เลยไม่ใส่ใจ จนมาหาอ่านเองตามกระทู้เก่า ๆ แล้วก็พวกวิดีโอสอนนำเข้าถึงรู้ว่าจริงๆ สั่งของจากจีนไม่ได้ยากอะไร เพราะเดี๋ยวนี้มีตัวกลางนำเข้าคอยดำเนินการให้เราแทบไม่ต้องทำอะไรเองเลย กดสั่งแล้วให้ทางชิปปิ้งดำเนินการให้ก็ได้
ใช้เวลาหาข้อมูลแล้วก็ตัดสินใจจริงๆ อยู่ประมาณเดือนหนึ่ง ปรึกษากับสามีว่าเราจะสั่งของจากจีนมาขายนะ ทีแรกเขาก็กังวลๆ แต่เราก็อธิบายจนเข้าใจว่าเพราะอะไรถึงต้องสั่งของจากจีน พอดีกับที่มีรุ่นน้องที่รู้จักขายพวกของนำเข้าด้วยเราก็เลยไปขอคำปรึกษาว่าอยากนำเข้าพวกเสื้อผ้าเด็กมาขาย พอจะแนะนำได้ไหม
เขาก็แนะนำให้คำปรึกษาดิบดี ตอนแรกก็กลัวๆ กล้าๆ แต่พอมีคนให้คำปรึกษาเหมือนได้ติดปีกก็ไม่กลัวแล้ว เรียกว่าถ้าไปคนเดียวก็ยังมีระแวง แต่ถ้ามีพวกก็ไม่กลัวอะไรทำนองนั้น 5555
วันนี้เลยจะมาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการเลือกของมาขายของเรา ว่าเลือกยังไง สั่งแบบไหน แล้วเอาไปขายที่ไหนบ้าง จริงๆ คิดอยู่ว่าไม่รู้จะเขียนดีไหม แต่อยากแชร์เพราะคิดว่าหลายคนน่าจะเจอสถานการณ์แบบเรา แล้วกำลังมองหาช่องทางทำกิน ซึ่งเราได้รับการช่วยเหลือจากรุ่นน้องอย่างดีมาก เลยอยากจะแบ่งปันสิ่งที่ตัวเองได้รับด้วย เกริ่นซะยาวมาเริ่มเลยค่ะ
1.เว็บขายของจีน หลักๆ แล้วเราจะดูจาก 4 เว็บนี้ค่ะ เปรียบเทียบกัน
-1688
เว็บนี้เราใช้บ่อยที่สุดเพราะรู้สึกว่าใช้ง่าย เป็นอีกตัวที่เจ้าเดียวกับตะกูลอาลีบาบา หน้าตาเว็บก็เหมือน Alibaba เลยไม่ต่างกันมาก แต่เว็บนี้คนจีนขายให้คนจีน ส่วน Alibaba คนจีนขายให้คนทั่วโลกเลยดูอินเตอร์กว่า แต่ถ้าใช้ Google Chrome สามารถแปลภาษาได้ค่ะ ถ้ามีเวลาดูดีๆ อาจได้ของราคาถูกกว่า Alibaba
-Taobao
คล้าย Shopee,Lazada เน้นขายปลีกเป็นหลัก แต่มีภาพสวยเยอะ สามารถเอาภาพในเว็บมาโพสต์ขายได้นะ เว็บนี้ต้องสมัครสมาชิกก่อนถึงจะเข้าดูได้ หน้าเว็บใช้ไม่ยากเท่าไหร่สำหรับเราพอถูๆ ไถๆ ได้ เท่าที่ดูมาราคาของแพงกว่า 1688 ค่ะ
-Tmall
คล้ายกับ Taobao แต่เป็นร้านที่คัดมาแล้ว เครดิตค่อนข้างดี คนซื้อเยอะ คนให้ดาวเยอะ อารมณ์ประมาณ Lazmall ใน Lazada ค่ะ ถ้าใช้ Google Chrome แปลภาษาหน้าเว็บได้ค่ะ แต่ที่อยู่ตามแบนเนอร์แปลไม่ได้ต้องเดาเอา
-Alibaba
น่าจะคุ้นชื่อกันดีกับเว็บนี้ เจ้าของเดียวกันกับ Aliexpress แต่ต่างกันตรงที่ Aliexpress เน้นขายปลีก ส่วน Alibaba ขายส่งค่ะเราสามารถติดต่อกับโรงงานจีนได้โดยตรงเลย แต่บางอย่างมีขั้นต่ำค่อนข้างเยอะอาจจะเป็นหลักพันหรือหลักหมื่นชิ้นก็มีค่ะ แต่สั่งเป็นพวกสินค้าตัวอย่างได้ แต่ราคาอาจจะสูงนิดหนึ่ง
-JD
ตัวนี้เราก็น่าจะคุ้นเหมือนกันถ้าเมืองไทยก็ JD Central เว็บนี้เริ่มแรกขายพวกอิเล็กทรอนิกส์แล้วก็ขยับขยายมาเรื่อยมาขายสินค้าอื่นๆ คู่แข่งกับตระกูลอาลีบาบา เรายังไม่เคยสั่งจากที่นี่ แต่เข้าไปดูบ้างหน้าเว็บใช้งานไม่ยากมากค่ะ
ส่วนใหญ่เว็บที่สั่งของจากจีนมีประมาณนี้ที่เราดูค่ะ อาจจะมีมากกว่านี้แต่เราเน้นดูเว็บที่คนไทยส่วนใหญ่ใช้เป็นหลัก เพราะเราสั่งผ่านชิปปิ้ง บางเว็บสั่งผ่านชิปปิ้งไม่ได้เลยไม่ค่อยดู เดี๋ยวตอนเลือกของจะสั่งให้ดูค่ะว่าเลือกของยังไงบ้าง แล้ววิธีสั่งสั่งยังไงค่ะ
2.การเลือกของ
เราจะดูว่าสินค้าพวกไหนใน Shopee,Lazada ที่ขายดี เช่น ถ้าสนใจพวกเสื้อผ้าเด็กก็จะไปลองค้นดูว่าเสื้อผ้าเด็กแบบไหนขายดีบ้าง แล้วก็เปรียบเทียบราคาว่าเราสั่งมาจากจีนได้ถูกกว่าที่ขายที่ไทยไหม ถ้ายังสามารถบวกกำไรได้อีก 40% เราก็ซื้อค่ะ
ส่วนใหญ่เราจะดูจาก Shopee ก่อนค่ะ สังเกตว่าราคาส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 50-100+ บาท เป็นเสื้อผ้าเด็กประมาณอายุไม่เกิน 2-3 ขวบ จะขายดีมาก
ลองเข้าไปดูตามเพจ หรือกลุ่มว่าสินค้าที่เราอยากขายมีคนนำมาขายไหม แล้วขายราคาประมาณเท่าไหร่ ถ้าสั่งจากจีนได้เรทถูกกว่าก็เก็บเข้าลิสต์ค่ะ ส่วนตัวใช้บวกกำไรประมาณ 30-40% เราสั่งจำนวนไม่มากอาจจะได้เรทไม่เท่าเจ้าใหญ่ๆ ที่สั่งทีละเยอะๆ แต่เน้นหาสินค้าที่แตกต่างค่ะ
เราเข้าไปดูจากหลายเพจหลายกลุ่มนะคะ เพื่อจะดูว่าราคาขายประมาณเท่าไหร่ แบบไหนน่าจะขายได้ ราคาขายบวกลบแล้วเราต้องมีกำไรสัก 30-40% ตามที่บอก เราคิดแบบง่ายๆ ที่สุดนะคะ ไม่อยากคิดอะไรซับซ้อนมาก
อีกเรื่องหนึ่งค่ะ ชิปปิ้งก็สำคัญค่ะ สำหรับเราแนะนำว่าให้ดูหลายๆ เจ้า อาจจะลองสั่งของล็อตเล็กๆ ก่อนก็ได้ แล้วลองดูว่าเราชอบไหม การบริการหลังบ้านเป็นยังไง เพราะบางทีมีปัญหากับสินค้าเราต้องให้ชิปปิ้งเป็นตัวกลางในการคุยให้นะคะ อย่างของเราเคยมีปัญหาล็อตหนึ่ง ทางโรงงานจีนส่งมาผิดแบบเกือบทั้งล็อต ทีแรกนึกว่าต้องติดต่อเองแต่พอคุยกับทางชิปปิ้งแล้วเขาช่วยเคลียร์ให้ ต้องดูบริการหลังบ้านดีๆ ค่ะ เวลามีปัญหาจะได้ไม่ปวดหัวมาก
ส่วนการเลือกของจากเว็บจีนอันนี้ยกตัวอย่างเป็นเว็บที่เราสั่งบ่อยที่สุดนะคะ ส่วนมากเราสั่งจาก 1688 เพราะชอบหน้าเว็บที่สุด ใช้ง่ายแล้วก็ของในเว็บราคาค่อนข้างถูกกว่าเว็บอื่นค่ะ แนะนำให้เปิดใน Google Chrome นะคะจะมีหน้าต่างขึ้นมุมบนขวา สามารถกดแปลภาษาได้ค่ะ
พอแปลแล้วจะเป็นประมาณนี้ค่ะ ทำให้ง่ายขึ้นเวลาจะค้นหาอะไร
เรามามารถเลือกดูของตามหมวดหมู่ที่เราสนใจได้เลยค่ะ ว่าอยากเอาอะไรมาขาย อย่างของเรายกตัวอย่างเป็นเสื้อผ้าก็สามารถกดเข้าไปในหมวดเสื้อผ้าได้เลย แต่อย่างของเราเน้นเป็นเสื้อผ้าเด็ก อาจจะต้องใช้พวก Google แปลภาษาช่วยแปลภาษาจีนจะได้หาได้เจาะจงขึ้น สามารถกดแปลภาษาได้เรื่อยๆ ค่ะ
เรทเงินยังเป็นหยวนอยู่เราก็เอาไปแปลงค่าเงินเองค่ะ แต่ของเราถ้าสั่งผ่านชิปปิ้งในเว็บชิปปิ้งจะแปลงเป็นเงินไทยมาให้เลย ตรงนี้สะดวกกับเรามาก
อย่างเลือกเป็นตัวนี้ก็กดเข้าไปในตัวสินค้าได้เลย สามารถเลือกแบบ สี ไซซ์ได้จากหน้านี้นะคะ ของเราจะสั่งผ่านชิปปิ้งก็ Copy ลิงก์หน้านี้ไปค้นหาในช่องค้นหาของชิปปิ้งค่ะ ก็จะขึ้นหน้าแบบเดิมในเว็บของชิปปิ้งแล้วก็กดเลือกแบบตามจำนวนที่เราต้องการได้เลยค่ะ
เวลาหาสินค้าสักชิ้นมาขายเราจะดูนานมากจากในเว็บ 1688 ยิ่งดูดีๆ จะยิ่งได้ราคาที่ถูกลงนะคะ ของแบบนี้ใจร้อนไม่ได้ พอได้สินค้าที่ถูกใจแล้วก็สั่งได้เลยค่ะ ใครสั่งผ่านทางชิปปิ้งก็จะสะดวก ส่วนของการสั่งเราว่าไม่ยากมาก ทำตามขั้นตอนในเว็บได้เลย อย่างที่เราใช้อยู่เวลาจะสั่งผ่านเว็บก็จะมีแปลงค่าเงินให้เลย สะดวกมาก
ลองพิจารณาจากหลายๆ เจ้าตามที่เราบอกนะคะ หาแบบที่เหมาะกับตัวเรา แล้วทำให้เราสะดวกกว่าเดิม การมีตัวกลางช่วยดีลจะตัดขั้นตอนหลายอย่างให้เร็วขึ้น แล้วเวลามีปัญหาก็จะมีคนคอยช่วยจัดการตรงนี้ให้ได้โดยที่เราไม่ต้องยุ่งยากใจค่ะ
อยากบอกว่าถ้าใครคิดจะลงมาเล่นในตลาดนี้อย่ากลัวเลยค่ะ เดี๋ยวนี้เรานำเข้าเองได้ง่าย เว็บจีนก็ใช้ง่าย สั่งของให้ชิปปิ้งนำเข้าก็ง่าย จ่ายเงินก็ไม่ได้ยุ่งยากเหมือนเมื่อก่อนแล้วค่ะ
แชร์ประสบการณ์สั่งของจากจีนมาขายง่ายๆ ฉบับแม่ลูกอ่อนอยากหารายได้เสริมช่วงโควิด
ช่วงกลางวันสามีจะขับรถส่งอาหาร และส่งเอกสารให้ที่ทำงานเก่าเราบ้างเป็นครั้งคราวแล้วแต่เขาจะเรียกไป ส่วนตอนเย็นจะมาขับวินมอเตอร์ไซค์ที่หน้าปากซอยจนถึงประมาณ 4-5 ทุ่ม
รายได้ต่อเดือนพอจ่ายค่าห้อง ค่ากิน ค่าจิปาถะแล้วก็แทบไม่เหลือเก็บ ลูกก็โตขึ้นทุกวันอีกไม่นานต้องเข้าโรงเรียนแล้วแต่เรายังไม่ค่อยพร้อมบางเดือนต้องโทรศัพท์ไปยืมพี่สาวบ้าง ยืมแม่บ้าง เลยปรึกษากับสามีว่าจะเอาลูกกลับไปให้ปู่กับย่าเลี้ยงที่บ้าน แล้วเราจะออกไปหางานทำเหมือนเดิม ลำพังให้เขาทำคนเดียวเราก็สงสาร หลังๆ มาสังเกตว่าเขาเหนื่อยจนซูบลง แต่สามีไม่ยอม บอกไม่อยากให้ปู่ย่าเลี้ยงเพราะอายุเยอะแล้ว ลูกก็เริ่มซน เดี๋ยวปู่กับย่าเหนื่อยอีก จะให้เราอยู่เลี้ยงลูกอย่างเดียวจนกว่าลูกจะเข้าโรงเรียน
แต่เราคิดว่าถ้ารอถึงตอนนั้นคงไม่มีเงินพอจะใช้จ่ายเรื่องเรียนลูกแน่นอน เลยคิดว่าจะหาอะไรมาขาย เน้นว่าเป็นออนไลน์เพราะว่าไม่ต้องออกไปข้างนอก ไม่ต้องเช่าพื้นที่ขายของ แล้วเรื่องส่งของก็อาจจะให้สามีวิ่งมารับของไปส่งให้
ช่วงที่คิดหาของมาขายเราคิดหนักมาก บางทีนั่งเลื่อนดูนั่นดูนี่ถึงตีสองตีสามก็มี จนไปเจอพวกสินค้าเกี่ยวกับกับเด็กในกลุ่มแม่และลูก เราสังเกตเอาเองว่าพวกของเล่นเด็ก ของเล่นเสริมพัฒนาการเด็ก แล้วก็พวกเสื้อผ้าเด็กคนขายเยอะมาก ซึ่งราคาก็มีตั้งแต่ถูกไปจนถึงแพง ถ้าอย่างแบบดี ผ้าดีหน่อยก็ประมาณ 100-250 บาท เราดูตั้งแต่ร้านที่ขายปลีก ไปถึงร้านขายส่ง เทียบกับ Shopee Lazada บางทีแบบเดียวกันเหมือนกันเด๊ะแต่ในกลุ่มกลับขายแพงกว่า แต่ก็ยังขายได้แล้วมีคนซื้อ ยิ่งบางร้านไลฟ์สดขายด้วยยิ่งขายดี
ช่วงแรกๆ เรารับผ้ากระสอบจากโกดังมาขาย ก็พอได้กำไรตัวละ 5-15 บาท ตอนนั้นดีใจมากแต่เราเริ่มมารู้สึกว่าตัวเองเสียโอกาสมากๆ ตรงที่บางแบบไซซ์ที่ลูกค้าต้องการไม่มี เพราะผ้ากระสอบจัดมาแบบคละเหมือนกล่องสุ่มต้องมาเปิดลุ้นว่ามีอะไรบ้าง บางทีลูกค้ามีลูกหลายคนอยากได้แบบเดียวกันคนละไซซ์แต่เราหาไม่ได้เลยรู้สึกว่าต้องหาพวกเสื้อผ้าที่เลือกแบบ สี ไซซ์ได้มาขายน่าจะตอบโจทย์ลูกค้าได้ง่าย
1.เว็บขายของจีน หลักๆ แล้วเราจะดูจาก 4 เว็บนี้ค่ะ เปรียบเทียบกัน
-1688
เว็บนี้เราใช้บ่อยที่สุดเพราะรู้สึกว่าใช้ง่าย เป็นอีกตัวที่เจ้าเดียวกับตะกูลอาลีบาบา หน้าตาเว็บก็เหมือน Alibaba เลยไม่ต่างกันมาก แต่เว็บนี้คนจีนขายให้คนจีน ส่วน Alibaba คนจีนขายให้คนทั่วโลกเลยดูอินเตอร์กว่า แต่ถ้าใช้ Google Chrome สามารถแปลภาษาได้ค่ะ ถ้ามีเวลาดูดีๆ อาจได้ของราคาถูกกว่า Alibaba
-Taobao
คล้าย Shopee,Lazada เน้นขายปลีกเป็นหลัก แต่มีภาพสวยเยอะ สามารถเอาภาพในเว็บมาโพสต์ขายได้นะ เว็บนี้ต้องสมัครสมาชิกก่อนถึงจะเข้าดูได้ หน้าเว็บใช้ไม่ยากเท่าไหร่สำหรับเราพอถูๆ ไถๆ ได้ เท่าที่ดูมาราคาของแพงกว่า 1688 ค่ะ
-Tmall
คล้ายกับ Taobao แต่เป็นร้านที่คัดมาแล้ว เครดิตค่อนข้างดี คนซื้อเยอะ คนให้ดาวเยอะ อารมณ์ประมาณ Lazmall ใน Lazada ค่ะ ถ้าใช้ Google Chrome แปลภาษาหน้าเว็บได้ค่ะ แต่ที่อยู่ตามแบนเนอร์แปลไม่ได้ต้องเดาเอา
-Alibaba
น่าจะคุ้นชื่อกันดีกับเว็บนี้ เจ้าของเดียวกันกับ Aliexpress แต่ต่างกันตรงที่ Aliexpress เน้นขายปลีก ส่วน Alibaba ขายส่งค่ะเราสามารถติดต่อกับโรงงานจีนได้โดยตรงเลย แต่บางอย่างมีขั้นต่ำค่อนข้างเยอะอาจจะเป็นหลักพันหรือหลักหมื่นชิ้นก็มีค่ะ แต่สั่งเป็นพวกสินค้าตัวอย่างได้ แต่ราคาอาจจะสูงนิดหนึ่ง
-JD
ตัวนี้เราก็น่าจะคุ้นเหมือนกันถ้าเมืองไทยก็ JD Central เว็บนี้เริ่มแรกขายพวกอิเล็กทรอนิกส์แล้วก็ขยับขยายมาเรื่อยมาขายสินค้าอื่นๆ คู่แข่งกับตระกูลอาลีบาบา เรายังไม่เคยสั่งจากที่นี่ แต่เข้าไปดูบ้างหน้าเว็บใช้งานไม่ยากมากค่ะ
ส่วนใหญ่เว็บที่สั่งของจากจีนมีประมาณนี้ที่เราดูค่ะ อาจจะมีมากกว่านี้แต่เราเน้นดูเว็บที่คนไทยส่วนใหญ่ใช้เป็นหลัก เพราะเราสั่งผ่านชิปปิ้ง บางเว็บสั่งผ่านชิปปิ้งไม่ได้เลยไม่ค่อยดู เดี๋ยวตอนเลือกของจะสั่งให้ดูค่ะว่าเลือกของยังไงบ้าง แล้ววิธีสั่งสั่งยังไงค่ะ
2.การเลือกของ
เราจะดูว่าสินค้าพวกไหนใน Shopee,Lazada ที่ขายดี เช่น ถ้าสนใจพวกเสื้อผ้าเด็กก็จะไปลองค้นดูว่าเสื้อผ้าเด็กแบบไหนขายดีบ้าง แล้วก็เปรียบเทียบราคาว่าเราสั่งมาจากจีนได้ถูกกว่าที่ขายที่ไทยไหม ถ้ายังสามารถบวกกำไรได้อีก 40% เราก็ซื้อค่ะ
ส่วนการเลือกของจากเว็บจีนอันนี้ยกตัวอย่างเป็นเว็บที่เราสั่งบ่อยที่สุดนะคะ ส่วนมากเราสั่งจาก 1688 เพราะชอบหน้าเว็บที่สุด ใช้ง่ายแล้วก็ของในเว็บราคาค่อนข้างถูกกว่าเว็บอื่นค่ะ แนะนำให้เปิดใน Google Chrome นะคะจะมีหน้าต่างขึ้นมุมบนขวา สามารถกดแปลภาษาได้ค่ะ