เครียด แม่ถือเงินสดเกือบ 3 ล้าน เดินร่อนไปมา

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นค่ะ ก่อนปิดกระทู้หลายท่านแสดงความห่วงใยเรื่องความปลอดภัยของการมาตั้งกระทู้ เราคิดว่าข้อมูลพฤติกรรมการซื้อทองของผู้สูงอายุ(ที่เล่าผ่านเรื่องของแม่เรา)เหมือนจะเป็น common knowledge ไปแล้ว คือใครๆก็รู้และคาดการณ์ได้ ไม่น่าแปลกใจอะไร  แต่ก็มีข้อมูลบางส่วนที่ควรลบ เช่น รายละเอียดวิธีการซื้อขาย  มาตรการรักษาความปลอดภัย และอื่นๆ

อีกประเด็นนึงที่เป็นประโยชน์มากๆ และอยากจะเขียนสรุปก่อนปิดกระทู้คือ ความรู้เรื่องการออมเงินสำหรับผู้สูงอายุ ที่สมาชิกหลายๆท่านสละเวลามาตอบ จะสรุปเท่าที่เราเข้าใจเป็นข้อๆ สำหรับผู้ที่อาจมีปัญหาคล้ายๆกัน

ทางเลือกเงินสด และได้จับทองจริง
1. พาผู้สูงอายุ ไปซื้อเอง ถ้าไม่ว่าง ให้คนรู้จักและไว้ใจได้พาไปซื้อ ซึ่งสมาชิกบางท่านแย้งว่า คนไว้ใจร้ายที่สุด (นี่คือชื่อเพลงใช่มั้ย อิอิ) คนที่พาไปนั่นแหละ จะเป็นโจรเสียเอง

ทางเลือกเงินออนไลน์ ได้จับทองจริง และ ไม่ได้จับทอง
1. ซื้อขายหัก บช ห้างทอง ฝากทอง หรือไปรับทองก็ได้
2. บัตรเครดิตสำหรับซื้อขายทองโดยเฉพาะ (ตัวอย่าง อ่านเพิ่ม คห 30)
3. ไปเปิดบัญชีออนไลน์กับห้างทองที่ไว้วางใจ (ตัวอย่าง อ่านเพิ่ม คห 35)
4. แคชเชียเชค
5. ซื้อหุ้นทอง (ไม่มีทองจริง)


————————————
แม่ถือเงินสดเกือบ 3 ล้าน เดินไปซื้อทองแท่งเพื่อเก็งกำไร  แต่ละรอบทำคนเดียว ทั้งๆที่ตัวเองแก่แล้วและเคยเส้นเลือดอุดตันใสสมองมาก่อน พอมาคุยกับเราคือพยายามจะมาอวดเราว่านี่นะ ดูสิ เก่งมั้ย เข้าใจการลงทุน หาจังหวะได้เงินมาง่ายๆกินขนมหลักหมื่น

เราเข้าใจดีว่าแม่เราว่าง และอยากภาคภูมิใจในตัวเองว่าตัวเองยังมีความสามารถ ชนะตลาด ได้เงินจากการเก็งกำไร แต่มันมีหลายประเด็นมากๆที่เราเป็นห่วงและเครียด เช่น การถูกโจรกรรม ฆ่าชิงทรัพย์ เป็นลมแล้วคนฉกประเป๋า ไฟไหม้หรืออะไรแปลกๆ คือเงินหลักล้าน ที่ได้ผลตอบแทนหลักหมื่น มันไม่ได้ถือว่ามากเลย เมื่อเทียบกับความเสี่ยง ไม่ว่าจากการขาดทุน หรืออันตรายจากการถือสินทรัพย์ที่เป็น physical จำนวนเยอะ (เงินสด 3 ล้านคือที่รู้ เพชร เครื่องประดับในบ้านอีกกี่ล้าน ก็ไม่รุ้)  แม่มาเล่าเพราะคาดหวังให้เราชื่นชมเห็นดีเห็นงามกับเขา แต่เราเห็นตรงกันข้ามมากๆ บอกความกังวลใจไปว่ามันอันตรายมาก เงินก็ได้มาหลักหมื่น แม่ก็สวนกลับมาว่า ทุกอย่างในชีวิตมันอันตราย และมีความเสี่ยงหมดแหละ ถ้ามัวแต่กลัวก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว  

เราก็บอกไปว่าใช่ แต่เราควรจำกัดความเสี่ยงที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น ขับรถออกนอกบ้าน มันก็มีความเสี่ยงที่จะโดนรถชนตายได้ แต่เราควรลดวามเสี่ยงโดยการไม่ขับเร็ว ไม่ขับดึก ไม่เมา  ทำไมไม่เล่นหุ้นทอง แม่บอกไม่เอา เราเข้าใจว่าเหตุผลที่เขาอยากแบกทองแบกเงินไปมา อาจเป็นเพราะเขารู้สึกดีที่เห็นเงินเป็นฟ่อนๆ กองทอง ทันทีทันใด ไม่เหมือนหุ้นทองที่มันเป็นแค่ตัวเลข นั่นอาจเป็นเหตุผลที่เขาส่งรูปเงินกองโต (ต้น+กำไร) มาให้เราดู คงคาดหวังให้เรา react แบบ wowwww ทำไมเงินเยอะขนาดนี้ ทำได้ไงเนี่ย สุดยอดดด! พอเราตอบสนองอย่างที่เราทำไป แม่เราก็นอยและดราม่าหนักมาก บอกว่า เออ สาปแช่งชั้นเข้าไปให้โดนฆ่า โดนขโมยทอง ขโมยเงิน ไม่เคยอวยพรดีๆให้เลย ชั้นนะใส่บาตรทุกเช้า อวยพรให้ลูกได้ดีตลอด แต่ดูเทอสิ! เรานี่แบบ… ขอโทษนะ เข้าใจความชาวพันทิพย์เป็นลูกกตัญญู แต่พอมีการตอบสนองแบบนี้ออกมา เรารู้สึกเหมือนเราพูดก้บลิงที่ไม่สามารถใช้เหตุผลได้  แม่เลยบอกว่าต่อไปนี้จะไม่บอกไม่เล่าอะไรให้ฟังแล้ว เพราะขัดแบบนี้ไง เราเลยบอกว่า ใช่ๆ อย่าเล่าให้ฟัง เพราะเราฟังแล้วก็ไม่สบายใจและเตือนออกไป ซึ่งพอเตือนไปแล้ว นอกจากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็ทะเลาะกันเปล่าๆ อย่าบอกลูก ทำไปเลย ถ้าเห็นว่าดี เป็นผู้ใหญ่แล้ว ตัดสินใจเองได้

แม่บอก ไม่ได้ขอความเห็น เล่าให้ฟังเฉยๆ😂 ถ้าจะถูกจี้ถูกฆ่า มันก็ชีวิตเขา เงินของเขา ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา เราเลยตอบว่า ใช่ ถูกต้อง ก็ลองดูแล้วกัน อาจจะไม่มีอะไร ถ้าโดนสักทีก็อาจจะเข้าใจ แล้วไม่อยากทำไปเอง (คิดงี้จริงๆ ไม่ได้ประชด) แม่ตัดสายทันทีด้วยความโกรธ  คือแม่เราก็เป็นคนแบบนี้มานานแล้ว ที่ดื้อและไม่หยุดจนกว่าจะโดนเอง

Edit ตัดเนื้อหาส่วนที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องทองออกไป เนื่องจากยาวเกินไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 17
บางทีเด็กกับคนแก่ ก็คล้ายกันนะคะ

เท่าที่เราคิดได้นะ

อย่างแรก อย่าไปขัดค่ะ ชมได้ให้ชมเยอะๆ คนแก่วัยนี้ บางทีลึกๆก็ขาดความมั่นใจมากเลยล่ะ ตัวเองจะไม่ทันโลกไหมจะตามเขาทันไหม ลูกจะมองว่าล้าสมัยไหม อย่าไปทำอะไรให้ความมั่นใจที่เหลือน้อยของเขาอยู่แล้วหายไปเลย อะไรชมได้ก็ชมเถอะค่ะ ถึงมันจะขัดแย้งกับสิ่งที่คิดก็เถอะ ให้คิดว่าแม่เหมือนเด็กคนนึงน่ะ
ต่อมาเราคิดว่าไม่ควรจะปล่อยให้แม่อยู่คนเดียวด้วยประการทั้งปวง ถ้าพ่อไม่อยู่คุณไม่อยู่ ควรหาคนที่ไว้ใจได้มาอยู่เป็นเพื่อนแม่ออกไปไหนมาไหนกับแม่แล้วรายงานคุณด้วย
แล้วค่อยๆคุยหลอกล่อหาจังหวะ ให้แกคล้อยตามคุณทีละนิด โดยที่ไม่รู้สึกว่าคุณไปขัดแย้งแก เหมือนเด็กนั่นแหละ มันจะต้องมีเหตุการณ์ที่การเอาทองไปขายหรือไปซื้อกลับเกิดอุปสรรค หรืออะไรก็แล้วแต่ อย่าเพิ่งไปด่า ให้แสดงความเป็นห่วง หาวิธีช่วยเหลือและหาทางออก โอกาสนี้แหละ ที่คุณจะบิ๊วให้แม่เปลี่ยนความคิด

แต่ที่ต้องระวังมากๆคืออย่าวางตัวอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับแม่ ให้แม่รู้สึกให้ได้ว่าคุณกับแม่เป็นพวกเดียวกัน ไว้ใจกันได้ เวลาพูดอะไรแกจะฟังมากกว่า แต่ก็ทำใจไว้เลยว่าไม่ใช่ทั้งหมด ต้องหาโอกาสจังหวะจะโคนเอาเองด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่