การทำ “สมาธิ” คือ การทำบุญน้อยแต่ให้อานิสงส์มาก

การทำ “สมาธิ” คือ การทำบุญน้อยแต่ให้อานิสงส์มาก
ที่ว่าทำน้อย คือ ทำง่ายที่สุดเพียงแค่นั่งหลับตา มีสติรู้ลมหายใจเข้า-ออก หรือ รู้สึกตัวทั่วพร้อม หรือ ภาวนาพุทโธๆๆ ไปเรื่อยๆ หรือ เพ่งภาพพระ แค่นี้ก็ทำ “สมาธิ” ได้แล้ว ทำที่ไหนก็ได้ นั่งที่บ้านก็ได้ ไม่ต้องเสียแรง เสียเงิน

ให้อานิสงส์มาก คือ อานิสงส์ของการทำ “สมาธิ” จนจิตสงบรวมเป็น”อัปนาสมาธิ” เพียงช้างกระดิกหูงูแลบลิ้น มากกว่า “ถือศีล 100 ปี” มากกว่า “ทำทานทั้งชีวิต”

พระพุทธเจ้าตรัสว่า “การบูชาตถาคตอย่างยอด คือ การปฎิบัติบูชา”

พระพุทธเจ้าตรัสต่อไปว่า “อามิสบูชานั้นยังไม่มีผลมาก การบูชาที่จะมีผลมากแท้ คือ ปฏิบัติบูชา แปลว่า การบูชาด้วยการปฏิบัติ”

หลวงปู่ดู่วัดสะแก กล่าวว่า "ใส่บาตรจนขันลงหินทะลุ ยังได้บุญไม่เท่าภาวนาจนเห็นแสงเท่าก้านไม้ขีด"

พระอาจารย์สุชาติ กล่าวว่า “การทำสมาธิยังมีอานิสงส์มาก เพียงจิตสงบเริ่มเป็นสมาธิ เกิดปีติที่กาย สุขที่ใจ จะหาสุขใดในโลกเทียบเท่าสุขจากสมาธิไม่มี แม้ความสุขของสมเด็จพระจักรพรรดิ หรือสุขจากทั้งชีวิตรวมกันก็ไม่เท่าสุขจากจิตรวมเป็นสมาธิ”

การทำสมาธิแม้จะทำง่าย แต่คนส่วนใหญ่ไม่ทำกันเพราะ เป็นสิ่งที่กิเลสหรือมารในใจเราทุกคน เกลียดและกลัวมากที่สุด ถ้าจิตรวมเป็นอัปนาสมาธิ จะเป็นอาวุธสำหรับวิปัสสนาในการประหารกิเลสให้หมดสิ้นไป กิเลสมันจึงฉุดรั้งใจเจ้าของ ไม่ให้ทำ “สมาธิ” ไปทำบุญอย่างอื่น ที่ไม่สามารถทำลายกิเลสได้นั่นเอง……
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่