สวัสดีครับ อยากสอบถามและแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการกู้สินเชื่อบ้านและคอนโดหน่อยครับ เรื่องมีอยู่ว่า เดือนที่แล้วผมมีการยื่นเรื่องกู้สินเชื่อกับทางธนาคารธนาคารนึง (จริงๆ4-5ธนาคารครับ) เพื่อเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย ความคุ้มค่าต่างๆ จนได้ข้อสรุปตกลงกับทางธนาคารสีชมพู ทางเซลตกลงเสร็จสับเรียบน้อยว่ากู้ได้100% ดอกเบี้ยfix 3ปี 2กว่าๆ เปอร์เซ็นต่อปี ประเด็นแรกก็เริ่มเกิดขึ้นครับ พออนุมัติมาได้มา97% ซึ่งทางผมเองก็โอเค(เค้าอ้างว่าเป็นเพราะราคาประเมินของโครงการคอนโด บราๆๆ ไม่ได้ติดที่ตัวเครดิตผม) ทางเซลเร่งรัดว่าดอกเบี้ยเท่านี้ต้องโอนภายในเดือนนี้เท่านั้น แต่พอใกล้ถึงวันโอน ห้องยังแก้defectไม่เสร็จ แล้วคุยกับเซลว่า ถ้าไม่โอน ดอกจะเป็นเท่าไหร่อะไรยังไง เพราะเราก็อยากได้ดอกเบี้ยนี้จริงๆ เซลก็ใจดีครับบอกว่าเดี๋ยวทำเรื่องให้ ยืดไป15วันได้บราๆๆ และอาจจะต้องมีการยื่นเอกสารเพิ่ม  คุยตกลงกันแล้ว มีการโอนค่าประเมินไปแล้วด้วย เพราะไว้ใจมากๆ ผ่านไปไม่ถึง2สัปดาห์(ขึ้นเดือนใหม่แล้ว) เซลติดต่อมาว่าจะไปเช็คเครดิตบูโรใหม่ ไม่ได้ขอเอกสารอะไรเพิ่ม เค้าอ้างว่าเคยให้ผมเซ็นไว้แล้ว2ใบ(ก่อนหน้านี้ไม่มีการบอกว่าจะต้องเช็คใหม่) วันต่อมาเซลอ้างว่าเครดิตบูโรตก (เราก็ถามตกได้ไง ไม่ได้ไปกู้ไรเพิ่มเลย ไม่ได้มีหนี้อะไรเพิ่ม แถมภารหนี้บัตรเครดิตก็น้อยลงด้วยซ้ำ) เซลอ้างว่า อาจเพราะเราไปกู้ธนาคารเพิ่ม(ซึ่งจริงๆเรายื่นกู้ธนาคารที่5 แต่บอกธนาคารนั้นว่าไม่เอาแล้ว ตั้งแต่ก่อนจะคุยตกลงเรื่องดอกเบี้ยเดือนที่แล้วด้วยซ้ำ ไม่ได้ไปกู้ธนาคารไหนเพิ่มเลย)  แบบนี้เราพอทำอะไรได้ไหมครับ หรือต้องยอมๆเค้าไป เพราะส่วนตัวก็กลัวมีปัญหาไม่มีเงินมาจ่าย สัญญาจะซื้อจะขายก็ทำกับคอนโดไปแล้ว  ห้องก็แก้defectจะเสร็จแล้ว นัดinteriorแล้ว เบื้องต้น ทางเซลบอกว่า ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 0.15 แถมเป็นfixแค่2ปี ลอยตัวปีที่3ด้วย (อยากแชร์ประสบการณ์ด้วยครับ เผื่อใครเจอจะได้รู้วิธีการรับมือ)

ถ้าเจอดอกเบี้ยดีๆเราควรรีบโอนตามเซลบอกทั้งๆที่ห้องยังแก้defectไม่เสร็จหรือไม่?
ผ่านไปแล้ว1เดือน ธนาคารจำเป็นต้องเช็คเครดิตบูโร่ใหม่หรือไม่(ทั้งๆที่ตกลง อนุมัติทุกอย่างเดือนที่แล้วแล้ว และยังผ่านมาไม่ถึง20วัน)

หากเจอเหตุการณ์แบบนี้ควรทำอย่างไร

ถ้าเรายังไม่ได้เซ็นสัญญา ธนาคารมีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ และวิธีรับมือควรทำอย่างไร