โรคติดต่อกทม. เตรียมชงศบค."ถอดแมสก์"
วันพุธ ที่ 08 มิถุนายน พ.ศ. 2565, 19.31 น.
เมื่อวันพุธที่ 8 มิถุนายน 2565 " นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 7/2565 ซี่งเป็นการประชุมครั้งแรกที่เข้าร่วม ณ ห้องนพรัตน์ ชั้น 5 ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า) โดยแถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมวันนี้มีการหารือประเด็นเรื่องถอดหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ โดยคณะกรรมการฯ มีความเห็นให้ถอดหน้ากากได้ใน 2 สถานที่ คือ พื้นที่โล่งแจ้ง และ ในที่สาธารณะที่รักษาระยะห่างได้ 1 เมตร ยกเว้นในบางสถานที่ เช่น ตลาด สนามกีฬาที่มีคนดู และกลุ่มเสี่ยง 608 รวมถึงผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนตามเกณฑ์ โดยจะนำเข้า ศบค.ชุดเล็กในวันพรุ่งนี้ ตอนนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ขึ้นอยู่กับ ศบค.ที่มีอำนาจสั่งการ กทม.พร้อมดำเนินการตามขั้นตอน หากมีคำสั่งจาก ศบค. ก็จะออกประกาศกรุงเทพมหานครกำหนดข้อปฏิบัติ
"ถึงเวลาที่จะผ่อนคลายได้แล้ว เราเริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามาและก็ไม่ได้ใส่แมสก์ และหลายประเทศทั่วโลกก็ถอดแมสก์หมดแล้วในพื้นที่โล่งแจ้ง จำนวนผู้ติดเชื้อก็ลดลง ต่ำกว่าเกณฑ์ อัตราการตายก็ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่จะผ่อนปรนได้ เฉพาะพื้นที่มีความเสี่ยงน้อยในที่สาธารณะ และต้องมีการมอนิเตอร์ตลอดว่าจะมีคลัสเตอร์ใหม่เกิดขึ้น หรือไม่ ต้องติดตามเฝ้าระวังตลอด ที่ถอดแมสก์ให้มองเป็นประเด็นที่จะคืนชีวิตสู่ปกติ เรื่องเศรษฐกิจจะตามมา " ผู้ว่าฯ ชัชชาติกล่าว
ทั้งนี้ รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ผอ.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พี่ชายนายชัชชาติ ได้เข้าร่วมประชุมในฐานะหนึ่งในคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครด้วย โดยกล่าวว่า ตนได้ให้ข้อมูลด้านเทคนิคในการพิจารณาให้ผ่อนผันการใส่หน้ากากอนามัยเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงน้องชายในฐานะผู้ว่าฯกทม.ด้วยว่า คิดว่านายชัชชาติมีความตั้งใจ งานกทม.จะสำเร็จด้วยคนเดียวไม่ได้ เป็นหน้าที่ของทุกคนต้องช่วยกัน ถ้าทุกคนที่สนับสนุนให้ความร่วมมือกันก็จะเดินต่อไปได้ เดี๋ยวนี้ตามตัวยาก ก็ให้คำแนะนำในด้านที่เราเชี่ยวชาญ
ชวน "ฉันชาย" ไม่ใช้ลิฟต์ อวดห้องทำงานคนทักผิดเอาเอกสารให้เซ็น
หลังจากนั้นนายชัชชาติเดินไปส่งนายฉันชายเดินทางกลับ โดยระหว่างเดินไปส่งนั้น นายชัชชาติได้ชวนนายฉันชายเดินลงบันไดตึกเพื่อจะได้ออกกำลังกาย และพูดคุยกันไปด้วย ช่วงหนึ่ง นายชัชชาติ บอกว่า คุณหมอ (ฉันชาย) กำลังเป็นห่วงเรื่องกัญชามาก นายฉันชายจึงเล่าถึงข้อกังวลว่า จะมีการปลูกจำนวนมากขึ้น เรากังวลเรื่องการใช้ซึ่งไม่เหมาะสม แม้จะเป็นนโยบายกระทรวงว่าจะใช้เพื่อสุขภาพ เพื่อทางการแพทย์ แต่พรุ่งนี้กัญชาค่อนข้างจะเสรีขึ้นเราสามารถปลูกกัญชาได้ กัญชาไม่ใช่ยาเสพติดอีกต่อไปแล้ว เรากังวลว่าถ้าเด็กไม่เข้าใจแล้วเอาไปใช้จะมีโอกาสใช้กัญชาในปริมาณที่สูง ดังนั้น เราต้องช่วยกันให้เกิดความรู้ และติดตามว่าเกิดปัญหาหรือไม่ ทั้งในชุมชน ในโรงเรียน ฯลฯ เราก็รอพ.ร.บ.ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่ในสภา ถ้าผ่านก็จะมีการควบคุมที่เหมาะสมขึ้น
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าอาจจะมีการนำไปใช้ผิดประเภท แล้วเป็นการมอมเมา นายชัชชาติ กล่าวว่า ต้องไปดูพข้อมูลก่อน ขณะที่นายฉันชาย กล่าวว่า เราต้องเดินหน้า
เมื่อถามว่า พรุ่งนี้ (9 มิถุนายน) จะมีการปล่อยนักโทษที่เกี่ยวกับพ.ร.บ.กัญชา นายฉันชาย กล่าวว่า ถ้ากฎหมายบอกว่าไม่ผิดแล้วก็ต้องปล่อย ถือว่าเป็นการดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ กัญชามีข้อดี แต่ถ้าเราใช้ไม่เหมาะสมก็จะเกิดผลเสีย
นายชัชชาติถามนายฉันชายว่า แล้วเรื่องฝีดาษลิงเป็นย่างไรบ้าง นายฉันชายตอบว่า ทุกโรงพยาบาลก็เตรียมตัวรับมือ มีการเตรียมตัว โดยเตรียมห้องแยกไว้เฉพาะเคส ซึ่งขณะนี้มีเคสที่ต้องสงสัย แต่ยังตรวจไม่พบ
นายชัชชาติถามต่อว่า แล้วโควิดเป็นอย่างไรบ้าง นายฉันชาย ตอบว่า โควิดก็ดูดีขึ้น ก็รอดูอีกครั้งตอนเปิดผับบาร์ คาราโอเกะ โดยนายฉันชาติย้อนถามนายชัชชาติกลับว่า แล้วท่านผู้ว่าฯได้ไปตรวจคาราโอเกะบ้างหรือไม่ นายชัชชาติ ตอบว่า เดี๋ยวให้ผู้ว่าเที่ยงคืนไปตรวจ ทั้งนี้ กังวลเรื่องไฟไหม้ ต้องไปดู เพราะผับปิดไปนาน เมื่อเปิดก็ต้องดูเรื่องสายไฟ ฯลฯ โดยได้สังการให้เขตไปดู เพราะเขตรู้อยู่แล้วว่ามีผับอยู่ตรงไหน
ทั้งนี้ ระหว่างเดินพูดคุยกันอยู่นั้น เพลงชาติดังขึ้น ทำให้นายชัชชาติ และนายฉันชาย หยุดพูดคุย พร้อมยืนตรงเคารพธงชาติ เมื่อเพลงจบจึงพูดคุยกันต่อ โดยนายชัชชาติชวนนายฉันชายหาอะไรรับประทาน แอดมินจึงถามว่า ตั้งแต่รับตำแหน่งมาได้กินข้าวด้วยกันบ้างหรือไม่ นายฉันชายกล่าวว่า แค่ 1 ครั้ง ซึ่งนายชัชชาติ กล่าวติดตลกว่า แต่ก่อนรับหน้าที่ไม่เคยกินด้วยกันเลย ทำให้ทุกคนหัวเราะ
เมื่อเดินผ่านหน้าห้องทำงานนายชัชชาติ เจ้าตัวเอ่ยช่วยนายฉันชายชมห้องทำงานของตนเองว่า "ทัวร์ -ึงมาดูห้องทำงาน -ูหน่อยมา" ทำให้นายฉันชายทักเตือนออกมาว่า "เอ้ย" นายชัชชาติก็เหมือนรู้ตัวถึงกล่าว "เฮ้ย" ออกมาเช่นกัน ก่อนนายชัชชาติจะแก้ว่า
"พี่ครับ มาดูห้องผมหน่อยครับ" ทำให้นายฉันชายกลั้นขำ จากนั้น นายชัชชาติจึงพานายฉันชายเดินชมห้องทำงาน พร้อมพาแนะนำให้รู้จักทีมงานของผู้ว่าฯ เมื่อนายฉันชาย เจอหน้านายภิมุข สิมะโรจน์ เลขานุการผู้ว่าฯ กทม. ก็ทักออกมาว่า "คนนี้ใช่ที่ตื่นตี 5 ไหมครับ" ทำให้นายภิมุขหัวเราะเขิน
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังบอกนายฉันชายว่า ตอนที่นายฉันชายเดินเข้ามาที่ศาลาว่าการฯมีคนทักผิดเป็นนายชัชชาติด้วย นายฉันชายจึงเล่าว่า มีคนให้เซ็นชื่อแทนชัชชาติด้วยด้วย เขาบอกท่านเซ็นไปก่อนเดี๋ยวให้เอาชื่อผู้ว่าฯมาให้เซ็น
ขณะที่แอดมินแจ้งนายชัชชาติว่า มีคนบอกว่าหล่อทั้งคู่เลย นายชัชชาติจึงกล่าวว่า แต่หมอเขาน่าจะดูเรียบร้อยกว่าเราเนาะ แอดมินจึงตอบว่า "ใช่ครับ เรียบร้อยกว่าเยอะเลยครับ"
https://www.banmuang.co.th/mobile/news/politic/283552
ชัชชาติโชว์พาว ปรึกษาพี่ชายตัวเองเรื่องให้คนกรุงถอดกน้ากากแทนทีมงานแระยุทธ
วันพุธ ที่ 08 มิถุนายน พ.ศ. 2565, 19.31 น.
เมื่อวันพุธที่ 8 มิถุนายน 2565 " นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 7/2565 ซี่งเป็นการประชุมครั้งแรกที่เข้าร่วม ณ ห้องนพรัตน์ ชั้น 5 ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า) โดยแถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมวันนี้มีการหารือประเด็นเรื่องถอดหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ โดยคณะกรรมการฯ มีความเห็นให้ถอดหน้ากากได้ใน 2 สถานที่ คือ พื้นที่โล่งแจ้ง และ ในที่สาธารณะที่รักษาระยะห่างได้ 1 เมตร ยกเว้นในบางสถานที่ เช่น ตลาด สนามกีฬาที่มีคนดู และกลุ่มเสี่ยง 608 รวมถึงผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนตามเกณฑ์ โดยจะนำเข้า ศบค.ชุดเล็กในวันพรุ่งนี้ ตอนนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ขึ้นอยู่กับ ศบค.ที่มีอำนาจสั่งการ กทม.พร้อมดำเนินการตามขั้นตอน หากมีคำสั่งจาก ศบค. ก็จะออกประกาศกรุงเทพมหานครกำหนดข้อปฏิบัติ
"ถึงเวลาที่จะผ่อนคลายได้แล้ว เราเริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามาและก็ไม่ได้ใส่แมสก์ และหลายประเทศทั่วโลกก็ถอดแมสก์หมดแล้วในพื้นที่โล่งแจ้ง จำนวนผู้ติดเชื้อก็ลดลง ต่ำกว่าเกณฑ์ อัตราการตายก็ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่จะผ่อนปรนได้ เฉพาะพื้นที่มีความเสี่ยงน้อยในที่สาธารณะ และต้องมีการมอนิเตอร์ตลอดว่าจะมีคลัสเตอร์ใหม่เกิดขึ้น หรือไม่ ต้องติดตามเฝ้าระวังตลอด ที่ถอดแมสก์ให้มองเป็นประเด็นที่จะคืนชีวิตสู่ปกติ เรื่องเศรษฐกิจจะตามมา " ผู้ว่าฯ ชัชชาติกล่าว
ทั้งนี้ รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ผอ.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พี่ชายนายชัชชาติ ได้เข้าร่วมประชุมในฐานะหนึ่งในคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครด้วย โดยกล่าวว่า ตนได้ให้ข้อมูลด้านเทคนิคในการพิจารณาให้ผ่อนผันการใส่หน้ากากอนามัยเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงน้องชายในฐานะผู้ว่าฯกทม.ด้วยว่า คิดว่านายชัชชาติมีความตั้งใจ งานกทม.จะสำเร็จด้วยคนเดียวไม่ได้ เป็นหน้าที่ของทุกคนต้องช่วยกัน ถ้าทุกคนที่สนับสนุนให้ความร่วมมือกันก็จะเดินต่อไปได้ เดี๋ยวนี้ตามตัวยาก ก็ให้คำแนะนำในด้านที่เราเชี่ยวชาญ
ชวน "ฉันชาย" ไม่ใช้ลิฟต์ อวดห้องทำงานคนทักผิดเอาเอกสารให้เซ็น
หลังจากนั้นนายชัชชาติเดินไปส่งนายฉันชายเดินทางกลับ โดยระหว่างเดินไปส่งนั้น นายชัชชาติได้ชวนนายฉันชายเดินลงบันไดตึกเพื่อจะได้ออกกำลังกาย และพูดคุยกันไปด้วย ช่วงหนึ่ง นายชัชชาติ บอกว่า คุณหมอ (ฉันชาย) กำลังเป็นห่วงเรื่องกัญชามาก นายฉันชายจึงเล่าถึงข้อกังวลว่า จะมีการปลูกจำนวนมากขึ้น เรากังวลเรื่องการใช้ซึ่งไม่เหมาะสม แม้จะเป็นนโยบายกระทรวงว่าจะใช้เพื่อสุขภาพ เพื่อทางการแพทย์ แต่พรุ่งนี้กัญชาค่อนข้างจะเสรีขึ้นเราสามารถปลูกกัญชาได้ กัญชาไม่ใช่ยาเสพติดอีกต่อไปแล้ว เรากังวลว่าถ้าเด็กไม่เข้าใจแล้วเอาไปใช้จะมีโอกาสใช้กัญชาในปริมาณที่สูง ดังนั้น เราต้องช่วยกันให้เกิดความรู้ และติดตามว่าเกิดปัญหาหรือไม่ ทั้งในชุมชน ในโรงเรียน ฯลฯ เราก็รอพ.ร.บ.ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่ในสภา ถ้าผ่านก็จะมีการควบคุมที่เหมาะสมขึ้น
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าอาจจะมีการนำไปใช้ผิดประเภท แล้วเป็นการมอมเมา นายชัชชาติ กล่าวว่า ต้องไปดูพข้อมูลก่อน ขณะที่นายฉันชาย กล่าวว่า เราต้องเดินหน้า
เมื่อถามว่า พรุ่งนี้ (9 มิถุนายน) จะมีการปล่อยนักโทษที่เกี่ยวกับพ.ร.บ.กัญชา นายฉันชาย กล่าวว่า ถ้ากฎหมายบอกว่าไม่ผิดแล้วก็ต้องปล่อย ถือว่าเป็นการดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ กัญชามีข้อดี แต่ถ้าเราใช้ไม่เหมาะสมก็จะเกิดผลเสีย
นายชัชชาติถามนายฉันชายว่า แล้วเรื่องฝีดาษลิงเป็นย่างไรบ้าง นายฉันชายตอบว่า ทุกโรงพยาบาลก็เตรียมตัวรับมือ มีการเตรียมตัว โดยเตรียมห้องแยกไว้เฉพาะเคส ซึ่งขณะนี้มีเคสที่ต้องสงสัย แต่ยังตรวจไม่พบ
นายชัชชาติถามต่อว่า แล้วโควิดเป็นอย่างไรบ้าง นายฉันชาย ตอบว่า โควิดก็ดูดีขึ้น ก็รอดูอีกครั้งตอนเปิดผับบาร์ คาราโอเกะ โดยนายฉันชาติย้อนถามนายชัชชาติกลับว่า แล้วท่านผู้ว่าฯได้ไปตรวจคาราโอเกะบ้างหรือไม่ นายชัชชาติ ตอบว่า เดี๋ยวให้ผู้ว่าเที่ยงคืนไปตรวจ ทั้งนี้ กังวลเรื่องไฟไหม้ ต้องไปดู เพราะผับปิดไปนาน เมื่อเปิดก็ต้องดูเรื่องสายไฟ ฯลฯ โดยได้สังการให้เขตไปดู เพราะเขตรู้อยู่แล้วว่ามีผับอยู่ตรงไหน
ทั้งนี้ ระหว่างเดินพูดคุยกันอยู่นั้น เพลงชาติดังขึ้น ทำให้นายชัชชาติ และนายฉันชาย หยุดพูดคุย พร้อมยืนตรงเคารพธงชาติ เมื่อเพลงจบจึงพูดคุยกันต่อ โดยนายชัชชาติชวนนายฉันชายหาอะไรรับประทาน แอดมินจึงถามว่า ตั้งแต่รับตำแหน่งมาได้กินข้าวด้วยกันบ้างหรือไม่ นายฉันชายกล่าวว่า แค่ 1 ครั้ง ซึ่งนายชัชชาติ กล่าวติดตลกว่า แต่ก่อนรับหน้าที่ไม่เคยกินด้วยกันเลย ทำให้ทุกคนหัวเราะ
เมื่อเดินผ่านหน้าห้องทำงานนายชัชชาติ เจ้าตัวเอ่ยช่วยนายฉันชายชมห้องทำงานของตนเองว่า "ทัวร์ -ึงมาดูห้องทำงาน -ูหน่อยมา" ทำให้นายฉันชายทักเตือนออกมาว่า "เอ้ย" นายชัชชาติก็เหมือนรู้ตัวถึงกล่าว "เฮ้ย" ออกมาเช่นกัน ก่อนนายชัชชาติจะแก้ว่า
"พี่ครับ มาดูห้องผมหน่อยครับ" ทำให้นายฉันชายกลั้นขำ จากนั้น นายชัชชาติจึงพานายฉันชายเดินชมห้องทำงาน พร้อมพาแนะนำให้รู้จักทีมงานของผู้ว่าฯ เมื่อนายฉันชาย เจอหน้านายภิมุข สิมะโรจน์ เลขานุการผู้ว่าฯ กทม. ก็ทักออกมาว่า "คนนี้ใช่ที่ตื่นตี 5 ไหมครับ" ทำให้นายภิมุขหัวเราะเขิน
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังบอกนายฉันชายว่า ตอนที่นายฉันชายเดินเข้ามาที่ศาลาว่าการฯมีคนทักผิดเป็นนายชัชชาติด้วย นายฉันชายจึงเล่าว่า มีคนให้เซ็นชื่อแทนชัชชาติด้วยด้วย เขาบอกท่านเซ็นไปก่อนเดี๋ยวให้เอาชื่อผู้ว่าฯมาให้เซ็น
ขณะที่แอดมินแจ้งนายชัชชาติว่า มีคนบอกว่าหล่อทั้งคู่เลย นายชัชชาติจึงกล่าวว่า แต่หมอเขาน่าจะดูเรียบร้อยกว่าเราเนาะ แอดมินจึงตอบว่า "ใช่ครับ เรียบร้อยกว่าเยอะเลยครับ"
https://www.banmuang.co.th/mobile/news/politic/283552