[ ปลดล็อกกัญชาแล้ว ต้องทำให้ผลประโยชน์ตกแก่คนไทยทุกกลุ่ม สร้างการมีส่วนร่วมเพื่อเป็นหลักประกันว่าเราจะไม่ “หนีเสือปะจรเข้” ไม่ผิดกฎหมาย แต่นายทุนใหญ่กลุ่มเดียวที่จะได้ประโยชน์ ]
.
วันนี้ผมได้ต้อนรับประชาชนที่เดินทางมายื่นร่าง พ.ร.บ. กัญชา กัญชง ฉบับภาคประชาชนที่รัฐสภาครับ ในฐานะผู้แทนราษฎร ผู้ทำหน้าที่นิติบัญญัติ ผมและพรรคก้าวไกล เปิดรับร่างกฎหมายฉบับนี้ ที่มีเจตนารมณ์ในการรักษาสิทธิพื้นฐานของประชาชนในการเข้าถึง การปลูก การผลิต การใช้ ตามวิถีของชุมชน ได้อย่างมีเสรีภาพ โดยไม่ให้ถูกมาตรการใดกีดกันจากรัฐ กลุ่มทุน หรือองค์กรใดๆ
.
เราจะนำร่างกฎหมายของภาคประชาชนฉบับนี้ เข้ามาพิจารณาตามขั้นตอนตามกระบวนการนิติบัญญัติซึ่งเป็นกระบวนการที่เราจะสามารถนำเสียงทุกเสียงในสังคมมาคุยกันด้วยเหตุด้วยผล อย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ ทำให้สังคมไทยเห็นเหตุผลของแต่ละฝ่ายในการออกแบบอนาคตและวางโครงสร้างของอุตสาหกรรมกัญชาไทย ตามหลักการการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรมซึ่งบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
.
ในโอกาสนี้ผมจึงเห็นว่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งหากมีตัวแทนของภาคประชาชนเข้าร่วมในกระบวนการนิติบัญญัติด้วย โดยผมได้รับฟังความกังวลของภาคประชาชนต่อการออกกฎหมายฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ๆ เช่น “เสรีในหลักการ แต่กีดกันโดยกลไก” ที่ผูกขาด Ecosystem ของอุตสาหกรรมกัญชาไทยไว้ โดยเน้นที่ด้านข้อกฎหมายทางธุรกิจมากเกินไป จนน่ากังวลว่าจะสร้างให้เกิดระบบ contact farming ในอุตสาหกรรมกัญชา ทำให้เกิดประโยชน์กับเอกชนรายใหญ่แค่ไม่กี่รายเท่านั้น
.
และนั่นจะนำไปสู่การออกแบบกฎหมายที่กินรวบอุตสาหกรรมไว้ หลังจากที่กัญชาถูกปลดล็อกไม่ได้เป็นยาเสพติดแล้ว เรามีเจตนารมณ์ที่จะยื่นร่างกฎหมายเข้าประกบในชั้นกรรมาธิการเป็นหลักประกันไม่ให้ซ้ำรอยการยกเลิกระบบสัมปทานเหล้าและเบียร์ ที่ปีศาจอยู่ในรายละเอียดครับ เพราะมีการไปกำหนดรายละเอียดเรื่องกำลังการผลิต จนประชาชนไม่สามารถมีโอกาสทางเศรษฐกิจเหมือนเจ้าสัวรายใหญ่ได้
.
ปัญหาหลักที่ถกเถียงกันอยู่ในปัจจุบันและข้อเรียกร้องที่ผมได้รับฟังจากภาคประชาชน ทั้ง Grower วิสาหกิจชุมชน กลุ่มผู้ใช้ทางการแพทย์ แพทย์แผนไทย และกลุ่มผู้ใช้เพื่อการสันทนาการ คือ
.
1.ในระดับการผลิตของระดับครัวเรือน วิสาหกิจชุมชน Grower และชุมชน ร่างกฎหมายยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องอนุญาตการผลิตในระดับครัวเรือน แน่นอนว่าโดยหลักการแล้วครัวเรือนปลูกได้ ใช้ประโยชน์รักษาตนเองได้ แต่ยังไม่มีสิทธิ์ในการเข้าถึงการผลิตเชิงธุรกิจ ส่วนในระดับวิสาหกิจชุมชนก็ต้องใช้งินลงทุนที่สูงมาก จนเหมือนการกำหนดทุนจดทะเบียนและกำลังการผลิตขั้นต่ำในอุตสาหกรรมเบียร์และสุรา  การผูกขาดเมล็ดพันธ์ุและปัญหาเรื่องความโปร่งใสของระบบการตรวจสอบตามการขออนุญาต ที่มาของคณะกรรมการที่ยังผูกติดอยู่กับระบบราชการ และการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนที่น้อยเกินไป
.
2.ในการใช้ทางการแพทย์ ยังคงมีข้อถกเถียงกันอยู่ครับ ในเรื่องของปริมาณสาร THC ที่ผู้ป่วยแต่ละรายอาจใช้ปริมาณ Dose ที่แตกต่างกัน แต่กลับกำหนดปริมาณ THC ไว้ในประกาศกระทรวงสาธารณสุข ว่าสารสกัด CBD ต้องมีสาร THC ไม่เกิน 0.2%
.
3.ในเรื่องการใช้เพื่อการสันทนาการยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งผมอยากจะเสนอให้มี Recreational sandbox เพื่อรองรับการท่องเที่ยว การสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวด้วยอุตสาหกรรมกัญชาเพื่อสันทนาการด้วย
.
สุดท้ายนี้ ผมอยากชวนทุกท่านให้มอง กัญชาในฐานะพืชสมุนไพรท้องถิ่น มองกัญชาพันธุ์พื้นเมืองในฐานะมรดกทางธรรมชาติของประเทศไทย อย่าให้กัญชาที่ถูกปลดปล่อยจากการเป็นยาเสพติด กลับมาติดอยู่ในกรงขังการผูกขาดทางธุรกิจและไม่ได้สร้างผผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจที่แท้จริงให้กับชุมชน และเกษตรกรจริงๆ ซึ่งเราสามารถมาเริ่มต้นการวางโครงสร้างที่เสรีและเป็นธรรมให้กับอุตสาหกรรมกัญชาไทยในอนาคต ด้วยการเริ่มต้นจากสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการร่างกฎหมายได้
.
พรรคก้าวไกลและผมในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร สัญญาว่าการร่างกฎหมายครั้งประวัติศาสตร์นี้จะเป็นไปด้วยความโปร่งใส ทุกเรื่องที่คุยกันในชั้นกรรมาธิการ สังคมจะต้องรับรู้ และขอให้ประชาชนช่วยกันติดตามกระบวนการนิติบัญญัติครั้งนี้อย่างใกล้ชิดด้วยครับ
.
#ก้าวไกล #ปลดล็อกกัญชา #กัญชา #กัญชง

Cr. https://www.facebook.com/100044273537483/posts/568484531303993/?d=n