เราเคยไปถือศีล 8 อยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง แถวบางเลน อยู่ในทุ่งนาเลยชื่ออะไรไม่รู้ 5555 ไปแบบงงๆ กลับมาเพิ่งรู้ว่าบางเลนอยู่นครปฐม เพื่อนพาไป ได้ไปเจอพราหมณ์คนหนึ่ง
พราหมณ์คนนี้มาจากกาญจนบุรี ดูเหมือนวัยรุ่นเด็กๆ แต่อายุ 30 กว่าแล้วบวชมาเกือบสิบปี มาอยู่เปลี่ยนบรรยากาศชั่วคราว ถือศีล 8 แต่ไม่โกนหัวก็ชีพราห์มแหละ บางคนเรียกชี เราเรียกพราหมณ์ปลาทูเพราะมีเหตุจะเล่าให้ฟัง
ทันทีที่หลวงพ่อเห็นแม่ชีพราหมณ์ปลาทู หลวงพ่อบอกปลาทูว่าที่นี่เทวดานางฟ้ามากพูดอะไรให้ระวังปากเพราะปลาทูมีวาจาสิทธิ์ ปลาทูพยักหน้าหงึกๆแบบรับส่งๆ หลวงพ่อผู้อ่านใจคนได้ ได้กำชับซ้ำอีก แต่ก็นั่นแหละเหมือนพูดกับตุ๊กตา 55555
วันต่อมามีคนเอาปลาทูทอดมาถวายพระ 3 ตัว ปลาทูบ่นอยู่หลังครัวว่าอยากกินปลาทูทอด หลวงพ่อท่านดุสวนมาเลยทั้งๆที่อยู่ตั้งไกลว่าอย่าอยาก! เราเข้าใจว่าตอนนี้เราบวชอยู่ไม่ควรตะกละอะไรแบบนั้น จนเช้าวันต่อมา
หลวงพ่อตะโกนเรียกปลาทูให้มาดูผลงานของตัวเอง ปรากฏมีโยมเอาปลาทูทอดมาถวาย 3 ถาดใหญ่ ถาดนึงมีราว 200 ตัวได้ งานเข้า เพราะสำนักสงฆ์ค่อนข้างเคร่ง ไม่มีตู้เย็น ไม่สะสมอาหาร ถึงจะแจกจ่าย และคลุกข้าวให้สัตว์ต่างๆแล้วก็ยังเหลืออีก ต้องแจกกันยันเย็นเลยทีเดียว เราเลยเรียกพราหมณ์คนนี้ว่าปลาทู
หลังจากทำวัตรเสร็จ หลวงพ่อได้สอนธรรมต่อ อยู่ๆปลาทูก็โพล่งว่า "หลวงพ่องูหลามมันเป็นยังไงอยากเห็น ?" หลวงพ่อพูดว่า หลวงพ่อบอกแล้วใช่ไหม พูดยังไม่ทันจบ งูหลามตัวเบ้อเร่อก็โผล่มาจากด้านหลังหลวงพ่อ เล่นเอาศาลาแตก เดือดร้อนญาติโยมต้องมาช่วยเอาออกไป ส่วนปลาทูดูตื่นเต้นกับงูมากแบบแทบกระโดดกอดงูเลย
หลวงพ่อตั้งใจจะให้พราหมณ์ปลาทูอยู่ที่นี่เพื่อสอนกรรมฐานให้ญาติโยมปลาทูเด่นในเรื่องของอสุภกรรมฐานขนาดใช้รักษาตัวเองได้ยังกะ x-men กระดูกหัก 7 วันถอดเฝือก เป็นแผลเหวอะหวะแปบเดียวหาย น่าพาไปออกทีวีมาก เสียดายที่ปลาทูปฏิเสธการสอนกรรมฐาน เพราะกิเลสยังหนาอยู่
หลวงพ่อให้ปลาทูนอนหน้าองค์พระวิสุทธิเทพเพื่อให้ปลาทูจับภาพองค์พระ เพราะปลาทูชอบคิดๆตลอด หลวงพ่ออยากให้ปลาทูสงบ แต่ปลาทูก็เถียงว่านิ่งๆลอยๆแล้วมันโง่หลวงพ่อ จิตใสแต่ไร้ปัญญา การคิดของปลาทูความจริงคือการทำวิปัสนา แต่แน่นอนว่าทุกคนคิดว่าปลาทูผิด
และก็รู้สึกว่าปลาทูไม่น่ารักที่เถียงหลวงพ่อตลอดในเรื่องของการปฏิบัติ หลวงพ่อก็จะค้านปลาทูตลอดเหมือนกัน หลวงพ่ออ่านใจคนได้จริงๆเราเจอกับตัว และยังทำอะไรได้อีกหลายอย่างทำให้เป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านแถบนั้น หลวงพ่อได้เขียนหนังสือเรื่องการปฏิบัติธรรมด้วย ท่านมอบให้ปลาทู หลังจากที่กรีดๆอ่านปลาทูก็วางและยิ้มที่มุมปาก
เมื่อพราหมณ์ปลาทูได้เดินทางกลับกาญจนบุรี มีคนที่ไปวัดท่าซุงเห็นกันว่า พราหมณ์ปลาทูมีวิมานอยู่บนนิพพานสวยงามมาก และยังได้รู้ว่า หนึ่งในครูบาร์อาจารย์ทั้งหมดของปลาทู คือหลวงพ่อฤาษีลิงดำนั่นเอง
ส่วนหลวงพ่อผู้เก่งกาจ หลังปลาทูไปไม่นาน ก็หนีตามสีกาไปซะงั้น คุณพระ!
ที่เอาเรื่องนี้มาเล่าเพราะสมัยนี้มีแครอทจำนวนมาก เราจะมองจากภายนอกไม่ได้เลยว่าไหนพระ ไหนแครอท เหมือนแม่ชีพราหมณ์ปลาทูกับหลวงพ่อ ที่ใครๆก็เชื่อหลวงพ่อมากกว่าในตอนนั้น
เพราะท่านเก่งจริงๆดูดีทุกอย่าง รูปร่างหน้าตาจริยางดงาม ส่วนพราหมณ์ปลาทูทำนายอนาคตได้แม่นมากแต่กว่าจะรู้เขาก็ไปแล้ว ตอนนั้นปลาทูทำตัวไม่ขลัง ไม่เรียบร้อย ไม่เป็นผู้หญิงเลยด้วยซ้ำ ซน ดื้อ แล้วก็ขี้สงสัยเหมือนเด็กๆ ดูบ้าวิทยาศาสตร์มาก กว่าจะรู้ว่าคนที่เป็นของจริงคือพราหมณ์ปลาทูมันก็สายไปแล้ว
เรื่องของฉันในวันที่บวช
พราหมณ์คนนี้มาจากกาญจนบุรี ดูเหมือนวัยรุ่นเด็กๆ แต่อายุ 30 กว่าแล้วบวชมาเกือบสิบปี มาอยู่เปลี่ยนบรรยากาศชั่วคราว ถือศีล 8 แต่ไม่โกนหัวก็ชีพราห์มแหละ บางคนเรียกชี เราเรียกพราหมณ์ปลาทูเพราะมีเหตุจะเล่าให้ฟัง
ทันทีที่หลวงพ่อเห็นแม่ชีพราหมณ์ปลาทู หลวงพ่อบอกปลาทูว่าที่นี่เทวดานางฟ้ามากพูดอะไรให้ระวังปากเพราะปลาทูมีวาจาสิทธิ์ ปลาทูพยักหน้าหงึกๆแบบรับส่งๆ หลวงพ่อผู้อ่านใจคนได้ ได้กำชับซ้ำอีก แต่ก็นั่นแหละเหมือนพูดกับตุ๊กตา 55555
วันต่อมามีคนเอาปลาทูทอดมาถวายพระ 3 ตัว ปลาทูบ่นอยู่หลังครัวว่าอยากกินปลาทูทอด หลวงพ่อท่านดุสวนมาเลยทั้งๆที่อยู่ตั้งไกลว่าอย่าอยาก! เราเข้าใจว่าตอนนี้เราบวชอยู่ไม่ควรตะกละอะไรแบบนั้น จนเช้าวันต่อมา
หลวงพ่อตะโกนเรียกปลาทูให้มาดูผลงานของตัวเอง ปรากฏมีโยมเอาปลาทูทอดมาถวาย 3 ถาดใหญ่ ถาดนึงมีราว 200 ตัวได้ งานเข้า เพราะสำนักสงฆ์ค่อนข้างเคร่ง ไม่มีตู้เย็น ไม่สะสมอาหาร ถึงจะแจกจ่าย และคลุกข้าวให้สัตว์ต่างๆแล้วก็ยังเหลืออีก ต้องแจกกันยันเย็นเลยทีเดียว เราเลยเรียกพราหมณ์คนนี้ว่าปลาทู
หลังจากทำวัตรเสร็จ หลวงพ่อได้สอนธรรมต่อ อยู่ๆปลาทูก็โพล่งว่า "หลวงพ่องูหลามมันเป็นยังไงอยากเห็น ?" หลวงพ่อพูดว่า หลวงพ่อบอกแล้วใช่ไหม พูดยังไม่ทันจบ งูหลามตัวเบ้อเร่อก็โผล่มาจากด้านหลังหลวงพ่อ เล่นเอาศาลาแตก เดือดร้อนญาติโยมต้องมาช่วยเอาออกไป ส่วนปลาทูดูตื่นเต้นกับงูมากแบบแทบกระโดดกอดงูเลย
หลวงพ่อตั้งใจจะให้พราหมณ์ปลาทูอยู่ที่นี่เพื่อสอนกรรมฐานให้ญาติโยมปลาทูเด่นในเรื่องของอสุภกรรมฐานขนาดใช้รักษาตัวเองได้ยังกะ x-men กระดูกหัก 7 วันถอดเฝือก เป็นแผลเหวอะหวะแปบเดียวหาย น่าพาไปออกทีวีมาก เสียดายที่ปลาทูปฏิเสธการสอนกรรมฐาน เพราะกิเลสยังหนาอยู่
หลวงพ่อให้ปลาทูนอนหน้าองค์พระวิสุทธิเทพเพื่อให้ปลาทูจับภาพองค์พระ เพราะปลาทูชอบคิดๆตลอด หลวงพ่ออยากให้ปลาทูสงบ แต่ปลาทูก็เถียงว่านิ่งๆลอยๆแล้วมันโง่หลวงพ่อ จิตใสแต่ไร้ปัญญา การคิดของปลาทูความจริงคือการทำวิปัสนา แต่แน่นอนว่าทุกคนคิดว่าปลาทูผิด
และก็รู้สึกว่าปลาทูไม่น่ารักที่เถียงหลวงพ่อตลอดในเรื่องของการปฏิบัติ หลวงพ่อก็จะค้านปลาทูตลอดเหมือนกัน หลวงพ่ออ่านใจคนได้จริงๆเราเจอกับตัว และยังทำอะไรได้อีกหลายอย่างทำให้เป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านแถบนั้น หลวงพ่อได้เขียนหนังสือเรื่องการปฏิบัติธรรมด้วย ท่านมอบให้ปลาทู หลังจากที่กรีดๆอ่านปลาทูก็วางและยิ้มที่มุมปาก
เมื่อพราหมณ์ปลาทูได้เดินทางกลับกาญจนบุรี มีคนที่ไปวัดท่าซุงเห็นกันว่า พราหมณ์ปลาทูมีวิมานอยู่บนนิพพานสวยงามมาก และยังได้รู้ว่า หนึ่งในครูบาร์อาจารย์ทั้งหมดของปลาทู คือหลวงพ่อฤาษีลิงดำนั่นเอง
ส่วนหลวงพ่อผู้เก่งกาจ หลังปลาทูไปไม่นาน ก็หนีตามสีกาไปซะงั้น คุณพระ!
ที่เอาเรื่องนี้มาเล่าเพราะสมัยนี้มีแครอทจำนวนมาก เราจะมองจากภายนอกไม่ได้เลยว่าไหนพระ ไหนแครอท เหมือนแม่ชีพราหมณ์ปลาทูกับหลวงพ่อ ที่ใครๆก็เชื่อหลวงพ่อมากกว่าในตอนนั้น
เพราะท่านเก่งจริงๆดูดีทุกอย่าง รูปร่างหน้าตาจริยางดงาม ส่วนพราหมณ์ปลาทูทำนายอนาคตได้แม่นมากแต่กว่าจะรู้เขาก็ไปแล้ว ตอนนั้นปลาทูทำตัวไม่ขลัง ไม่เรียบร้อย ไม่เป็นผู้หญิงเลยด้วยซ้ำ ซน ดื้อ แล้วก็ขี้สงสัยเหมือนเด็กๆ ดูบ้าวิทยาศาสตร์มาก กว่าจะรู้ว่าคนที่เป็นของจริงคือพราหมณ์ปลาทูมันก็สายไปแล้ว