เมนูสุดสยองงง (ใจไม่ถึงควรหลีกเลี่ยง) ตอนจบ

กระทู้สนทนา
สืบเนื่องจากกระทู้   http://ppantip.com/topic/30819817 และนี่คือตอนจบครับ

หลังจากเกิดเหตุการณ์ทำร้ายแมวของบ้านตรงข้ามนั้นแล้ว สินธร ก็รู้สึกว่าตัวเองทำเกินกว่าเหตุแต่ก็นั่นแหละปลาทูของเขาซื้อมาหลายครั้งแต่ก็โดนแมวตัวนี้มาขโมยทุกครั้งแต่ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีมันยังค้างอยู่ในใจของเขาอยู่เขาเลยตัดสินใจยกหูโทรศัพท์
กริ๊ง กริ๊ง
"ฮัลโหล นั่นใคร นั่นใคร ข้าถามว่าใคร" เสียงชายคนหนึ่งรับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงวิตกจริตมาก เขารู้สึกกลัวตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น
"เฮ้ย ไอ้ชัยใจเย็นๆสิวะ นี่ฉันเองสินธรเพื่อนแกไง" สินธรตกใจมากที่เห็น ชัย หรือนพชัยเพื่อนรักเก่าแก่ของเขาวิตกกังวลจนเกินเหตุ
"อ้อ ไอ้สินเองหรอตกใจหมดฉันก็นึกว่า....." นพชัยเอ่ยปากอย่างโล่งอกแต่ก็ทำให้สินธรแปลกใจเหมือนกัน
"นึกว่าอะไรวะ" สินธรแปลกใจ
"ปล่าวไม่มีอะไรหรอก อ้อแกมีอะไรหรอวะถึงโทรหาฉันนะ" นพชัยถามอย่างสงสัย
"พอดีฉันไม่ค่อยสบายใจเลยว่ะ จะชวนแกไปวัดหน่อย พอดีตอนนี้มีเรื่องวุ่นวายนะ" สินธรเอ่ยขึ้น
"เออ ได้สิฉันว่างพอดีแกจะไปตอนนี้เลยใช่มั้ย เดี่ยวฉันขับรถไปรับแกที่บ้านนะ" นพชัยเอ่ยขึ้น
"โอเค ฉันจะรอแกอยู่ที่บ้าน" แล้วสินธรก็ตัดวางสายลงไป นพชัยพอปิดโทรศัพท์แล้วก็รีบบึ่งรถออกไปรับสินธรเพื่อนเขาที่บ้านทันทีเลย

20 นาทีผ่านไป รถของนพชัยมาจอดรอที่หน้าบ้านของสินธรพร้อมกับกดแตรเรียกเพื่อนให้ออกมาขึ้นรถที่จะไปวัดพร้อมเขา
ปิ๊น ปิ๊น  เสียงแตรรถดังขึ้น
"เออ มาแล้วว่ะ" สินธรพูดจบก็ขึ้นรถของนพชัยทันที
"พร้อมแล้วนะ" พูดจบนพชัยก็ออกรถไปทันที
"แกมีปัญหาอะไรวะ ถึงต้องไปวัด" นพชัยเอ่ยถามเพื่อนรักอย่างสงสัย
"พอดีฉันไปฆ่าแมวตัวหนึ่งตายด้วยอารมณ์โมโหนะ เพราะปลาทูฉันซื้อมาทุกครั้งต้องโดนไอ้แมวตัวนี้ขโมยจนได้ฉันไปคุยกับเจ้าของแมวตัวนี้แล้วเขาไม่รับผิดชอบอะไรเลย ฉันเลยแค้นจับมันทอดราดน้ำจิ้มแล้วโยนไปที่บ้านของไอ้เจ้าของนั่นแล้ว" สินธรเล่าอย่างหมดเปลือก
"แล้วเจ้าของเขาตอนนี้เป้นยังไงบ้างวะ" นพชัยเอ่ยถาม
"ไม่รู้สิ ตั้วแต่วันนั้นฉันยังไม่เห็นหน้าไอ้เจ้าของเลยเก้บตัวอยู่แต่ในบ้าน ฉันรู้สึกผิดเลยให้แกไปวัดเป็นเพื่อนฉันนี่แหละกะว่าจะไปคุยกับพระถวายสังฆทานซะหน่อย" สินธรพูดจบ นพชัยพยักหน้ารับพร้อมกับตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อไป
"แล้วแกไปทำอะไรมาวะ ถึงกลัวอะไรขนาดนั้น" สินธรเอ่ยถามเพื่อนรักของเขาบ้าง
"เออ ไม่มีอะไรหรอก เอาเรื่องของแกไว้ก่อนเถอะนะ ฉันอาจจะคิดมากหรือฝันน่ากลัวไปเอง แล้วแกจะไปวัดไหนวะ" นพชัยตอบเสร็จพร้อมถาม
"แกขับไปเรื่อยๆแล้วกันเจอวัดไหนผ่านแกก็เข้าไปเลยก็ได้ ตามใจแก" สินธรพูดจบ นพชัยก็ขับรถต่อไปเรื่อยๆและเลี้ยวรถเข้าไปในวัดวัดหนึ่งย่านชานเมือง

นพชัยขับรถมาจอดตรงลานต้นไม้กลางวัดแล้วก็ลงจากรถพร้อมกับสินธร สินธรกับนพชัยก็เดินตรงไปที่พระอุโบสถเห็นมีตู้ทำบุญค่ากระป๋องสังฆทานอยู่ สินธรควักแบงค์ร้อยสองใบหยอดลงไปในตู้พร้อมกับหยิบกระป๋องสังฆทานหนึ่งใบเดินเข้าพระอุโบสถพร้อมกับนพชัยเพื่อนรัก

พอคนทั้งสองเดินเข้าพระอุโบสถทั้งคู่ต่างก็กราบพระประธานในพระอุโบสถเรียบร้อยก็นั่งพับเพียบมองไปที่พระประธานเหมือนหาที่พึ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ พอครู่ใหญ่ก็มีพระภิกษุห่มดองเดินอาการสำรวมเข้ามาในพระอุโบสถมานั่งประจำที่อาสนะเพื่อที่จะมาปลดทุกข์ให้กับแขกผู้มาเยือน
"เจริญพรโยม จะมาถวายสังฆทานหรือ" พระภิกษุถามฆราวาสทั้งสอง พระภิกษุรูปนี้มีชื่อว่า นัท ซึ่งคนทั่วไปก็เรียกท่านว่า หลวงพี่นัท
"ใช่ครับหลวงพี่ แล้วผมอยากมาขอคำปรึกษากับหลวงพี่ครับ" สินธรพนมมือขึ้นเหนืออกแล้วเอ่ยบอกหลวงพี่นัท
"งั้นถวายสังฆทานก่อนแล้วกัน" หลวงพี่นัทพูดจบพร้อมกล่าวนำให้บุคคลทั้งสองกล่าวคำถวายสังฆทาน
"อิมานิ มะยังภันเต สังฆะทานานิ สะปะริวารานิ ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุโนภันเต ภิกขุสังโฆ อิมานิ สะปะริวารานิ ปฏิคันหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอน้อมถวาย ซึ่งภัตตาหารกับของที่เป็นบริวาร
ทั้งหลายเหล่านี้แด่พระสงฆ์ ขอพระสงฆ์จงรับซึ่งภัตตาหารกับของ ที่เป็นบริวารทั้งหลาย
เหล่านี้ เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย สิ้นกาลนานเทอญ " พอท่องจบหลวงพี่นัทก็กล่าวว่า สาธุ ดังขึ้นแล้วฆราวาสทั้งสองก็ได้เข้ามาประเคนสังฆทานให้กับหลวงพี่นัท หลังจากหลวงพี่นัทรับสังฆทานเรียบร้อยแล้วก็หยิบที่กรวดน้ำให้กับฆราวาสทั้งสองพร้อมกล่าวว่า
"โยมตั้งใจกรวดน้ำรับพรนะ" ฆราวาสทั้งสองเตรียมกรวดน้ำ
"ยะถา วาริวะหา ปูรา ปะริปูเรนติ สาคะรัง
เอวะเมวะ อิโต ทินนัง เปตานัง อุปะกัปปะติ
อิจฉิตัง ปัตถิตัง ตุมหัง ขิปปะเมวะ สะมิชฌะตุ
สัพเพ ปูเรนตุ สังกัปปา จันโท ปัณณะระโส ยะถา
มะณิ โชติระโส ยะถา

สัพพีติโย วิวัชชันตุ สัพพะโรโค วินัสสะตุ
มา เต ภะวัตวันตะราโย สุขี ทีฆายุโก ภะวะ
อะภิวาทะนะสีลิสสะ นิจจัง วุฑฒาปะจายิโน
จัตตาโร ธัมมา วัฑฒันติ อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง

ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง
รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะพุทธานุภาเวนะ
สัพพะธัมมานุภาเวนะ
สัพพะสังฆานุภาเวนะสะทา
โสตถี ภะวันตุ เต"  พอสวดจบแล้วหลวงพี่นัทก็ให้สินธรเอาน้ำไปออกไปเทก่อน
"โยมเอาน้ำไปเทก่อนนะแล้วค่อยมาคุยกัน" หลวงพี่นัทพูดจบสินธรก็เดินเอาน้ำออกไปเท พอสินธรเดินเข้ามาเอาที่กรวดน้ำไปเก็บแล้วก็กราบหลวงพี่นัทสามหนแบบเบญจางคประดิษฐ์
"โยมมีอะไรว่ามา" หลวงพี่นัทเอ่ยถามขึ้น สินธรจึงเล่าเรื่องทุกอย่างให้หลวงพี่นัทฟัง พอสินธรเล่าจบหลวงพี่นัทก็เอ่ยถามนพชัยบ้าง
"แล้วโยมละมีปัญหาอะไรหรือเปล่า" หลวงพี่นัทถาม
"อ๋อไม่มีครับหลวงพี่คุยกับเพื่อนผมแล้วกันครับ" นพชัยตอบแบบอึกอักซึ่งเกิดเป็นข้อสงสัยให้กับสินธรยิ่งนัก
"กฏแห่งกรรมเลี่ยงไม่ได้นะโยม เจ้ากรรมนายเวรเขาไม่ให้อภัย กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมคืนสนองไม่มีใครหนีพ้น แม้แต่ตัวอาตมาเอง" หลวงพี่นัทตอบกับสินธรแล้วก็มองมาทางนพชัยพร้อมพูดขึ้นว่า
"ส่วนโยมทำบุญบ่อยๆนะ ที่เขาตามมาเพราะแรงอาฆาต โยมหมั่นรักษาศีล หมั่นทำทาน และเจริญภาวนาโยมจะหายทุกข์กับสิ่งที่เป็นได้ อาตมาขอตัวก่อน" พอหลวงพี่นัทพูดจบท่านก็เดินออกจากโบสถ์อย่างสำรวมไป
สินธรกับนพชัยเดินออกมาจากโบสถ์เพื่อที่จะขึ้นรถเตรียมตัวกับ
"เฮ้ยแกว่า หลวงพี่ท่านกล่าวถึงแกนี่ แรงอาฆาตอะไรหรอวะ" สินธรถามอย่างสงสัย
"ไม่มีอะไรหรอก กลับเถอะ" นพชัยตัดบทพร้อมขึ้นรถพร้อมสินธรและก็เดินทางกลับกัน

หลังจากที่นพชัยมาส่งสินธรเรียบร้อยแล้ว แต่ระหว่างทางขากลับมาเขาได้ให้นพชัยส่งเขาที่ตลาดเพราะสินธรนั้นเขาเองจะซื้อปลาทูเพื่อที่จะทอดกินแล้วก็แยกย้ายกับนพชัยเพื่อนของเขาที่ตลาดทันที
"ขอบใจมากว่ะเพื่อน แล้วเจอกัน" สินธรเอ่ยขึ้น
"เออ ไม่เป็นอะไร มีอะไรแกโทรบอกฉันได้นะเว้ย"
"เออ ขับรถดีดี" หลังจากนั้นนพชัยก็ออกรถกลับไป สินธรเลยเดินเลือกซื้อปลาทูเพื่อที่จะไปทอดกินต่อทันที
พอถึงบ้านแล้ว ไม่ร้อนอบอ้าวยิ่งนัก เขาเดินผ่านบ้านตรงกันข้าม พร้อมนึกถึง " เอ้อ นี่ก็ไม่ได้เห็นหน้าไอ้เจ้าของแมวมาหลายวันแล้วนะเป็นยังไงบ้างเนี่ย" พอนึกกับตัวเองจบเลยเดินไปอีกบ้านหนึ่งที่ติดกับบ้านของเจ้าของแมว
กิ๊งก่อง กิ๊งก่อง เสียงออดดังพร้อมกับเจ้าของบ้านเดินออกมาเปิดประตู
"สวัสดีค่ะ มีธุระอะไรหรอคะ" ป้าวัยกลางคนเป็นเจ้าของบ้านเอ่ยถาม
"สวัสดีครับ คือผมอยากทราบว่าป้าพอจะรู้มั้ยครับว่า เจ้าของบ้านที่เลี้ยงแมวบ้านนี้หายไปไหนหรอครับ ผมไม่เห้นเขามาเป้นอาทิตย์แล้ว" พูดจบพร้อมชี้ไปที่ตัวบ้าน
"อ๋อบ้านนั้นนะหรอ เท่าที่รู้นะเขาหัวใจวายตายไปแล้ว เพราะแมวของเขานั้นถูกคนบ้าที่ไหนไม่รู้จับไปทอดซะกรอบเลยแถมเอามาเฟี้ยงใส่บ้านเขาอีกหลังจากนั้นเขาก็ช็อคตายไปเลยเห็นเขาล่ำลือกันว่ายังงั้นนะ พ่อหนุ่มไม่รู้เรื่องเลยหรอ" เจ้าของบ้านถามสินธร
"ไม่รู้เลยครับป้า พอดีผมไม่ค่อยได้อยู่บ้านนะครับ ขอบคุณครับ" พูดจบสินธรรีบเดินกลับบ้านตัวเองทันที เป็นเรื่องแล้วไงสินธรคิด เพราะหลังจากวันที่เขาเอาเจ้าเหมียวไปทอดซะกรอบแล้วไปเฟี้ยงใส่บ้านของเจ้าของแมวนั่นแล้วตัวสินธรเองไม่ค่อยได้กลับบ้านนักหรอกเหตุผลเพราะกลัว กลัวว่าเจ้าของเขาจะตามมาเอาเรื่อง กลัวว่าเพื่อนบ้านคนอื่นรู้แล้วจะรุมประณามด่าเขาทำร้ายเขา เขากลัวไปหมดเลยออกจากบ้านเป็นอาทิตย์ และเขาก็กลับมาไม่กี่วันนี้เองแต่ก็ช่างเถอะเรื่องมันเกิดไปแล้วจะคิดมากไปทำไม ไปทอดปลาทูกินให้อร่อยดีกว่าและเจ้าแมวนั่นมันก็ตายไปแล้วไม่มีใครแย่งปลาทูของเขาอีกแล้วละ
แล้วสินธรก็เดินเข้าบ้านทันที เขาเตรียมตั้งเตาติดแก๊สไฟอ่อนอ่อนพร้อมเทน้ำมันลงไปเตรียมทอดปลาทู และพอน้ำมันเดือดเริ่มได้ที่ สินธรก็เอาปลาทูนั้นหย่อนลงในกระทะ  ซู่ ซู่ ซู่
"เมี้ยว เมี้ยว" เสียงแมวร้องดังอีกแล้ว
"แมวที่ไหนร้องอีกวะ หวังว่าคงจะไม่มาขโมยปลาฉันอีกตัวหรอกนะ" สินธรบ่นเสร้จก็กวาดตามองหาแมว ซักพักไฟที่ติดแก๊สจากอ่อนอ่อน เริ่มแรงขึ้นพุ่งขึ้นเป็นขีดสุด สินธรหันกลับมาตกใจมาก เพราะสิ่งที่เขาเห้นคือ เจ้าแมวตัวนั้นตัวที่เขาทอดไปแล้วบัดนี้ตัวมันเหลืองกรอบพร้อมอมน้ำมัน มันวิ่งกระโจนใส่เขา
"เมี้ยว เมี้ยว"
"โอยยยยย กลัวแล้วววววว ไปให้พ้นนนน" สินธรสติแตกเอามือปัดป้องและก็เผลอไปโดนกระทะที่ตั้งไฟใบนั้น กระทะที่ตั้งไว้จากไฟอ่อนกลายเป้นไฟแรงสูงพุ่งเข้าใส่บนหัวและลำตัวของสินธร
"อ้ากกกกกกกกกกก" สินธรร้องอย่างความเจ็บปวดเพราะฤทธิ์น้ำมันเดือดมันส่งผลให้เขาเจ็บปวดมาก และอยู่ๆ แก๊สที่ติดไว้อย่างแรงสูงก็ระเบิดขึ้น  บึ้มมมมมมมมมมมมม  บัดนี้บ้านของสินธรทั้งหลังกลายเป็นจุนเพราะแรงระเบิดไปแล้วพร้อมกลับร่างสินธรที่แหลกเป้นชิ้นๆ นี่แหละครับ กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง

จบเรื่องที่หนึ่งแล้วครับ ถ้าเสียงตอบรับดี เรื่องที่สองและสามจะคลอดออกมาเร็วๆนี้ ขอบพระคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่