สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
อย่างแรก
1. เยียวยาจิตใจตัวเอง
ด้วยการจัดการกับความรู้สึกนึกคิด ภายในใจเรา
เขาไม่ใช่ผู้ชายที่ดี เขาไม่ใช่ลูกผู้ชาย เขาไม่ใช่คนดี ไม่ใช่พ่อที่ดีของลูกเรา
เขาไปน่ะดีแล้ว ชีวิตเราจะได้ไม่ต้องไปเกี่ยวข้องกับคนไม่ดีอีกต่อไป
ลูกเราก็จะได้ไม่ต้องอยู่กับคนไม่ดี
ยังไง วันนึง เขาก็ต้องไปจากเราอยู่ดี เมื่อเขามีโอกาส
เขาไปตั้งแต่วันที่เรายังแข็งแรง ยังสาวอยู่น่ะดีแล้ว
ลูกก็ยังไม่ดตมากนัก ความทรงจำกับพ่อก็ยังมีไม่มาก
อะไรที่เกิดกับเรา ล้วนดีที่สุดเสมอครับ
2. ต้องบอกตัวเองว่า
เรื่องราวนี้ จบลงแล้ว แก้ไขอะไรอีกไม่ได้แล้ว
และเริ่มด้วย ยอมรับความจริงนี้ และอยู่กับความจริง
อย่าหนีความจริง ปล่อยความรู้สึกเจ็บปวดนี้ออกมา
แล้วเวลาจึงจะเยียวยาได้ดีที่สุด
ไม่มีอารมณ์เศร้า อารมณ์สนุก อยู่กับเราได้ตลอด
ช่วงแรกๆ ความเศร้า จะมาเป็นพักๆ ปล่อยอารมณ์นี้ ให้มันไหลออกมาตามธรรมชาติครับ
3. Focus เป้าหมายใหม่ ที่จะเดินหน้าให้ดีที่สุดทั้ง 2 คน คือ คุณกับลูก
เมื่อเป็าหมายชัด ความเศร้าจะค่อยๆอ่อนกำลังลงไปเองในที่สุด
งานของเรา หาวิธีพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
หางาน ที่เป็นรายได้ที่ 2 รองรับไว้ด้วย เผื่อมีปัญหาอะไรกับงานแรก ในอนาคต
ดูแลเรื่องเรียนลูกให้ดี และให้เขามีสุขภาพอนามัยที่ดี ให้เขามีความสุข
ขอให้โชคดี เป็นคนดี หมดเคราะห์หมดโศรก มีความสุขครับ
1. เยียวยาจิตใจตัวเอง
ด้วยการจัดการกับความรู้สึกนึกคิด ภายในใจเรา
เขาไม่ใช่ผู้ชายที่ดี เขาไม่ใช่ลูกผู้ชาย เขาไม่ใช่คนดี ไม่ใช่พ่อที่ดีของลูกเรา
เขาไปน่ะดีแล้ว ชีวิตเราจะได้ไม่ต้องไปเกี่ยวข้องกับคนไม่ดีอีกต่อไป
ลูกเราก็จะได้ไม่ต้องอยู่กับคนไม่ดี
ยังไง วันนึง เขาก็ต้องไปจากเราอยู่ดี เมื่อเขามีโอกาส
เขาไปตั้งแต่วันที่เรายังแข็งแรง ยังสาวอยู่น่ะดีแล้ว
ลูกก็ยังไม่ดตมากนัก ความทรงจำกับพ่อก็ยังมีไม่มาก
อะไรที่เกิดกับเรา ล้วนดีที่สุดเสมอครับ
2. ต้องบอกตัวเองว่า
เรื่องราวนี้ จบลงแล้ว แก้ไขอะไรอีกไม่ได้แล้ว
และเริ่มด้วย ยอมรับความจริงนี้ และอยู่กับความจริง
อย่าหนีความจริง ปล่อยความรู้สึกเจ็บปวดนี้ออกมา
แล้วเวลาจึงจะเยียวยาได้ดีที่สุด
ไม่มีอารมณ์เศร้า อารมณ์สนุก อยู่กับเราได้ตลอด
ช่วงแรกๆ ความเศร้า จะมาเป็นพักๆ ปล่อยอารมณ์นี้ ให้มันไหลออกมาตามธรรมชาติครับ
3. Focus เป้าหมายใหม่ ที่จะเดินหน้าให้ดีที่สุดทั้ง 2 คน คือ คุณกับลูก
เมื่อเป็าหมายชัด ความเศร้าจะค่อยๆอ่อนกำลังลงไปเองในที่สุด
งานของเรา หาวิธีพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
หางาน ที่เป็นรายได้ที่ 2 รองรับไว้ด้วย เผื่อมีปัญหาอะไรกับงานแรก ในอนาคต
ดูแลเรื่องเรียนลูกให้ดี และให้เขามีสุขภาพอนามัยที่ดี ให้เขามีความสุข
ขอให้โชคดี เป็นคนดี หมดเคราะห์หมดโศรก มีความสุขครับ
ความคิดเห็นที่ 9
ขออนุญาตตอบในฐานะที่เป็นลูกที่พ่อทิ้งแม่ไป แบบเดียวกับเจ้าของกระทู้นะคะ พ่อกับแม่เราอยู่กันมา 14 ปี ลูกสองคน ตอนนั้นเราก็อายุ 14 ปีแล้ว พ่อก็มาขอหย่ากับแม่เพื่อไปอยู่กับผู้หญิงที่เจอที่ผับบาร์เพียงเดือนเดียวเหมือนกันค่ะ ตอนนั้นเรากับแม่รู้สึกเหมือนฟ้าผ่าลงมากลางใจ แม่เราเป็นแม่บ้าน 100% ไม่มีงานไม่มีอาชีพและไม่มีเงินติดตัวเลยแม้แต่บาทเดียว แม้แต่บัญชีเงินฝากก็ยังไม่มีเป็นของตัวเองค่ะ พ่อเราทิ้งไปโดยที่ไม่เหลียวแลแม่และลูกสองคนอีกเลย ตอนนั้นแม่เราทุกข์ใจมาก จนเกือบคิดสั้นค่ะ แต่สิ่งที่ทำให้แม่ผ่านมาได้ ก็คือ ลูก ค่ะ คำว่าลูกคำเดียว แม่บอกว่า ตอนนั้นยากมากๆเลยค่ะ ที่ต้องหางานทำในวัยใกล้สี่สิบแล้ว แม่เราไปสวดมนต์ ทำวัตรเย็นที่วัด ได้หลวงพ่อเทศนา ให้ได้รู้จักคำว่า ปล่อยวาง และ เข้าใจชีวิตมากขึ้นว่ามีพบก็ต้องมีจาก ไม่ว่าจากเป็นหรือจากตาย เรามีบุญมีกรรมต่อกันมาแค่นี้ ก็อโหสิกรรมให้กัน และอดทนทุกทางเพื่อให้ลูกมีชีวิตดีๆต่อไปได้ ให้มองอนาคตไว้ค่ะว่า เราสู้วันนี้ อดทนลุกขึ้นมา เราจะเจอทางออกที่ดีรออยู่ค่ะ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมาย่อมมีเหตุและผลในตัวมันเสมอ ต้องเชื่อว่าสักวันนึงเราจะมีวันที่ดีมากๆเป็นของเราค่ะ สำหรับแม่เรา บอกว่าผ่านมากี่ปีความเจ็บช้ำมันคงไม่จางหายไปแบบหมดจด แต่ถือว่าเป็นละครชีวิตเรื่องหนึ่งที่ได้เล่นด้วยกันมา แล้วก็จบลง เพื่อไปเจอบทที่ดีกว่า และวันนึงที่ลูกเติบโตมาอย่างดีมากๆจากมือแม่ นั่นคือของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ เชื่อว่าเจ้าของกระทู้จะผ่านมันไปแน่ๆค่ะ
ความคิดเห็นที่ 10
เข้ามากอดก่อนเลยนะคะ อายุเท่ากันเลย เราเพิ่งเลิกกับแฟนนับเป็นเดือนแล้วกัน ตอนนี้เขาก็ตั้งสถานะคบกับคนใหม่แล้วค่ะ ตอนเห็นคือไม่เจ็บ หน้าไม่ชา ไม่ร้องไห้ แต่ใจยังเต้นแรงอยู่ เพราะเราก็ยังไม่ได้มีใครเข้ามา เราเข้าใจคุณมากๆๆๆเลยนะ เราบอกเลยว่า กว่ามันจะผ่านมาได้ ทรมานมากๆ มันหยุดคิดเรื่องเขาไม่ได้เลย ร้องไห้ทุกวัน ทำอะไรเหมือนคนไม่อยู่กับร่องกับรอย ไม่มีความสุขในชีวิต เพื่อนหลายๆคนบอกว่า เวลาจะเยียวยาทุกอย่าง แต่สำหรับเราคือ ไม่ได้เลย เราเลือกที่จะปิดตัวเอง ไม่เปิดใจให้ใครเลย ไม่อยากดึงใครเข้ามาเจ็บ ตั้งกำแพงไว้สูงมาก
จนวันนึงตัดสินใจไปปรึกษาหมอค่ะ หมอให้ยาคลายเครียดกับยาต้านเศร้ามากิน หมอบอกว่าหายก็หยุดเองเลย แค่เครียดชั่วคราว เรากินอยู่ 3 วัน เราก็ไม่กินต่อ สิ่งที่ทำให้เราต้องไปหาหมอคือ เราอยากหยุดคิดค่ะ มันมีแต่เรื่องเขาวนในหัวตลอด จนถึงขั้นแพนิคกลัวกลางคืนไปเลย ขับรถกลางคืนไม่ได้ มือสั่นไปหมด เพราะหัวคิดตลอดเวลา ถึงในใจจะบอกว่า ไม่ได้นะ จะมาเป็นแบบนี้ไม่ได้นะ เราต้องเดินต่อสิ เราต้องเดินหน้า ทำให้เขารู้ว่า ถึงไม่มีเขา เราก็ต้องอยู่ด้วยตัวเองได้ แถมสงสารแม่ ที่ต้องมาเรียกกินข้าวทุกมื้อเลย เราเจ็บ แต่แม่เจ็บกว่าที่ลูกตัวเองเป็นแบบนี้ค่ะ
พอเราคิดแบบนี้ มันดีขึ้นค่ะ ประกอบกับตอนนั้นกินยาด้วยมั้ง ไหนจะเวลาที่ตอนนี้ผ่านมา 4 เดือนแล้ว เราดีขึ้นมากๆแล้วค่ะ แต่ยังไม่ 100% ตอนนี้เราเอาเวลาที่เสียไปตอนนั้น มาโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าค่ะ เอาจริงๆความสะใจเหมือนที่ คห. ด้านบนบอก หรือความเจ็บใจลึกๆ มันก็แอบเป็นแรงผลักดันชั้นดี ที่จะทำให้เราทำใจได้ไว หรือมูฟออนได้ไวนะคะ เขาไม่ได้สนใจเราสักนิด เราก็ไม่ต้องไปสนใจเขาค่ะ ตอนนี้แค่ดูแลตัวเอง ทำตัวเองให้ดูมีคุณค่าขึ้นมาก็พอ
ตอนนี้ของคุณแผลอาจจะยังสดใหม่ เหมือนของเราช่วงแรกๆ ที่นึกไม่ออกเลยว่า ตัวเองจะกลับมายิ้มได้ยังไง ตอนนั้นเราทั้งแผลสด ทั้งเหมือนโดนเอามีดกรีดซ้ำไปซ้ำมา ตอนนี้เราเริ่มยิ้มได้แล้วค่ะ เราหวังว่า สักวันนึง คุณก็จะยิ้มได้เหมือนเรานะคะ เรื่องที่เราเสียใจในวันนี้ ในวันหน้า จะกลายเป็นเรื่องตลกค่ะ ตอนนี้ก็โฟกัสลูกกับตัวเองให้มากๆนะคะ เครียดก็ระบายได้ ร้องไห้ได้ อย่าไปเก็บมันไว้ค่ะ สู้ๆ
จนวันนึงตัดสินใจไปปรึกษาหมอค่ะ หมอให้ยาคลายเครียดกับยาต้านเศร้ามากิน หมอบอกว่าหายก็หยุดเองเลย แค่เครียดชั่วคราว เรากินอยู่ 3 วัน เราก็ไม่กินต่อ สิ่งที่ทำให้เราต้องไปหาหมอคือ เราอยากหยุดคิดค่ะ มันมีแต่เรื่องเขาวนในหัวตลอด จนถึงขั้นแพนิคกลัวกลางคืนไปเลย ขับรถกลางคืนไม่ได้ มือสั่นไปหมด เพราะหัวคิดตลอดเวลา ถึงในใจจะบอกว่า ไม่ได้นะ จะมาเป็นแบบนี้ไม่ได้นะ เราต้องเดินต่อสิ เราต้องเดินหน้า ทำให้เขารู้ว่า ถึงไม่มีเขา เราก็ต้องอยู่ด้วยตัวเองได้ แถมสงสารแม่ ที่ต้องมาเรียกกินข้าวทุกมื้อเลย เราเจ็บ แต่แม่เจ็บกว่าที่ลูกตัวเองเป็นแบบนี้ค่ะ
พอเราคิดแบบนี้ มันดีขึ้นค่ะ ประกอบกับตอนนั้นกินยาด้วยมั้ง ไหนจะเวลาที่ตอนนี้ผ่านมา 4 เดือนแล้ว เราดีขึ้นมากๆแล้วค่ะ แต่ยังไม่ 100% ตอนนี้เราเอาเวลาที่เสียไปตอนนั้น มาโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าค่ะ เอาจริงๆความสะใจเหมือนที่ คห. ด้านบนบอก หรือความเจ็บใจลึกๆ มันก็แอบเป็นแรงผลักดันชั้นดี ที่จะทำให้เราทำใจได้ไว หรือมูฟออนได้ไวนะคะ เขาไม่ได้สนใจเราสักนิด เราก็ไม่ต้องไปสนใจเขาค่ะ ตอนนี้แค่ดูแลตัวเอง ทำตัวเองให้ดูมีคุณค่าขึ้นมาก็พอ
ตอนนี้ของคุณแผลอาจจะยังสดใหม่ เหมือนของเราช่วงแรกๆ ที่นึกไม่ออกเลยว่า ตัวเองจะกลับมายิ้มได้ยังไง ตอนนั้นเราทั้งแผลสด ทั้งเหมือนโดนเอามีดกรีดซ้ำไปซ้ำมา ตอนนี้เราเริ่มยิ้มได้แล้วค่ะ เราหวังว่า สักวันนึง คุณก็จะยิ้มได้เหมือนเรานะคะ เรื่องที่เราเสียใจในวันนี้ ในวันหน้า จะกลายเป็นเรื่องตลกค่ะ ตอนนี้ก็โฟกัสลูกกับตัวเองให้มากๆนะคะ เครียดก็ระบายได้ ร้องไห้ได้ อย่าไปเก็บมันไว้ค่ะ สู้ๆ
ความคิดเห็นที่ 5
ให้คิดว่า ก็แค่ ช เชี่ยๆที่ผ่านทางมา
ส่วนเรื่องลูก ขอตอบในมุมที่ผมเป็นพ่อเลี้ยง และ ลูกเลี้ยงก็เจออะไรคล้ายกัน
แม่เขาเป็น single mom ที่อดทนเลี้ยงลูกมาครับ คุณก็สู้ๆนะครับ
ปัจจุบัน ลูกเลี้ยง สถาปนาผมเป็นพ่อแท้ๆไปแล้วครับ คงเพราะเลี้ยงมาด้วยความรัก .. ถึงกับขอทางโรงเรียนใช้ชื่อผมเป็นบิดา .. แถมโมเม้นท์ ขนมพ่อ จิ้กได้ , เสื้อพ่อ หนูใส่พอดีเลย งั้นหนูยึดนะ
สักวัน คุณต้องเจอคนที่พร้อมเป็นพ่อที่ดีของลูกเช่นกันครับ
ส่วนเรื่องลูก ขอตอบในมุมที่ผมเป็นพ่อเลี้ยง และ ลูกเลี้ยงก็เจออะไรคล้ายกัน
แม่เขาเป็น single mom ที่อดทนเลี้ยงลูกมาครับ คุณก็สู้ๆนะครับ
ปัจจุบัน ลูกเลี้ยง สถาปนาผมเป็นพ่อแท้ๆไปแล้วครับ คงเพราะเลี้ยงมาด้วยความรัก .. ถึงกับขอทางโรงเรียนใช้ชื่อผมเป็นบิดา .. แถมโมเม้นท์ ขนมพ่อ จิ้กได้ , เสื้อพ่อ หนูใส่พอดีเลย งั้นหนูยึดนะ
สักวัน คุณต้องเจอคนที่พร้อมเป็นพ่อที่ดีของลูกเช่นกันครับ
แสดงความคิดเห็น
สามีเลือกทิ้งหนูและลูกไปอยู่กับคนที่เพิ่งเจอ1เดือน เยียวยาตัวเองยังไงให้ผ่านไปได้คะ
***หนูมีงานทำปกติค่ะ แค่อยากหาวิธีจัดการกับความทุกข์และพาตัวเองกับลูกก้าวผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้ตอนนี้หาทางไม่ออกเหมือนวนอยู่ในความคิดของตัวเองสับสนมากค่ะ
ปล.รายละเอียดความเจ็บปวดต่างๆก่อนมาถึงวันนี้มีเรื่องราวมากมายแต่ขอไม่ลงเพราะคงไม่ใช่ประเด็นสำคัญตอนนี้แล้ว ใครที่มีวิธีคิดหรือเยียวยาตัวเองยังไง แนะนำให้หนูได้นะคะ ถ้าเยียวยาตัวเองขึ้นมาได้ ปัญหาทุกอย่างหนูจะรับมือและแก้ไขให้ผ่านไปได้ แต่ตอนนี้ดึงตัวเองขึ้นมาไม่ขึ้นจริงๆค่ะ แผลมันยังสดมาก